เรื่องราวโดย กุ้ยฮวา
author-avatar

กุ้ยฮวา

bc
เมียเงินล้าน
อัปเดตเมื่อ Sep 3, 2024, 03:45
“อีตาบ้า! ฉันยังไม่ได้อาบน้ำแปรงฟันเลย เงินนั่นเก็บไว้ใช้เวลาอื่นก็แล้วกันนะ” “ไม่เป็นไรนี่ ผมไม่ถือ” ชายหนุ่มบอกพร้อมขยิบตาใส่ “แต่ฉันถือนี่คะ ผู้หญิงที่ไหนอยากให้ผู้ชายจูบเล่า หากไม่มีความมั่นใจในกลิ่นปากของตัวเอง” กัดฟันกรอดๆ โต้เขา “งั้นก็ได้ แต่ตอนนี้เรามาตกลงกันก่อน” กล่าวแล้วก็โน้มหน้ามาชิดเสียจนปลายจมูกโด่งๆ แทบไถลเข้าที่ข้างแก้มนุ่ม “ผมไม่ชอบให้คุณแทนตัวว่าฉันอย่างนั้น ฉันอย่างนี้เลย ฟังแล้วมันขัดหูพิกล คุณมีชื่อน่ารักๆ ให้ผมเรียกหรือเปล่า” ดวงตาสีดำด้านฉายแววลึกซึ้ง “ผมอยากเรียกคุณอย่างสนิทสนมตามประสาคนจะนอนเตียงเดียวกัน” “เรียกฉันว่าหยีก็แล้วกันค่ะ” เธอตอบเขาแล้วลอบทำหน้าเบื่อหน่าย ไม่ลืมขยับปลายเท้าถอยห่างนักฉวยโอกาสตัวเป้ง “อ้อ! ชื่อคุณในสัญญานั่น อนามิกา ชื่อเล่นหยี ผมขอเรียกคุณว่ายาหยีก็แล้วกันนะ” ‘ฉันก็ชื่อยาหยีอยู่แล้วย่ะ’ค่อนขอดเขาในใจแล้วถามกลับบ้าง “แล้วจะให้ฉันเรียกคุณว่าอะไร” “ก็เรียกผมว่าเฟียซ หรือคุณจะเรียกป๋าเฟียซ ผมก็ไม่ถือ อ้อ! ไม่ต้องเติมพี่ข้างหน้านะ เพราะผมจะเป็นมากกว่าพี่”
like
bc
เมียรักจอมมาร
อัปเดตเมื่อ Sep 3, 2024, 03:32
“ก็รีบๆ จูบแล้วก็กอดซะสิ และถ้าพอใจแล้วละก็ ช่วยไปนอนอยู่ข้างๆ อย่ามายุ่งย่ามกับเนื้อตัวฉันอีก” แว้ดออกมาเสียงขุ่นเขียว พลางหลับตาปี๋ ไม่ขอรับรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้น เห็นอาการของคนตัวเล็กแล้ว เจ้าพ่อโรงแรมถึงกับคลี่ยิ้มร้ายกาจ รีบเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ ปล่อยลมหายใจร้อนๆ รวยรินชิดปลายจมูกเชิดรั้น ก่อนจะทาบทับปากหยักบดเคล้ากลีบปากอิ่ม ค่อยๆ คลุกเคล้าบดเบียดละเลียดความหอมหวานปานน้ำผึ้งกลืนกินสู่อุ้งปากอย่างช้าๆ ละเมียดละไม ใช้เวลาดื่มด่ำกับปากนุ่มอยู่นานนับห้านาที จึงผละออกปล่อยให้หญิงสาวได้หายใจหายคอ จากนั้นก็เคลื่อนจูบลงมาที่ข้างแก้ม ขณะกำลังไต่ระดับลงซอกคอ คนตัวเล็กก็ยกมือผลักดันให้ออกห่างเสียก่อน “เดี๋ยวๆ นายจะทำอะไรน่ะ” พัณณิตาพยายามบังคับจังหวะลมหายใจตัวเองให้เป็นปกติ เพราะเมื่อครู่ฤทธิ์จูบของเขาทำเอาเธออ่อนระโหยโรยแรง แทบขาดใจตายอยู่รอมร่อ “ถอยไปห่างๆ เลยนะ” สั่งเขาแล้วถลึงตาใส่ “ถอยได้ไง ยังจูบไม่เสร็จเลย” ชายหนุ่มตอบด้วยดวงตาใสซื่อ “ยังเหลืออีกเยอะเชียว” “ก็นายจูบไปแล้วนี่ รู้ไหมว่าปากฉันเจ็บหมดแล้วเนี่ย” “ผมบอกคุณหรือไงว่าจะจูบแค่ปาก”
like
bc
คุณหนูสิบเอ็ดตระกูลเจียง
อัปเดตเมื่อ Jul 16, 2024, 21:49
บุตรสาวห้าคนของใต้เท้าเจ้ากรมพิธีการเจียงโหย่งเล่อล้วนขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว คุณหนูสิบเอ็ด เจียงซูเยว่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ............................................ “มานั่งนี่” เขาไม่ได้ตบลงบนพื้นที่ว่าง แต่กลับเป็นหน้าขาแข็งแรง “จำได้ว่า นับตั้งแต่เจ้าเข้าจวนมา เราไม่เคยใกล้ชิดกันสักครั้ง” “ข้าภรรยา...ข้าภรรยา...ร่างกายยังไม่แข็งแรง” เจียงซูเยว่เอาแต่ส่ายหน้า หวาดกลัวจนถึงขั้นโพล่งเรื่องเจ็บป่วยออกมา คำพูดนี้ชวนให้คนฟังปวดใจนัก เพียงแต่ต่อให้นางไม่ยินยอม เขาก็ไม่อาจปล่อยมือจากนางได้ “ท่านหมอหยุนบอกว่า ร่างกายของเจ้าดีขึ้นมาก สามารถทำหน้าที่ที่ควรทำได้แล้ว” คนนั่งฐานะภรรยาเอกมองเขาอย่างไม่พอใจ ถึงแม้ไม่สมควรพูดเรื่องนี้ ทว่านางไม่อาจยินยอมพร้อมใจจึงกัดฟันพูดออกมา “ข้าภรรยาไม่อยากปรนนิบัติท่าน...ท่านพี่ไปหาอี๋เหนียงใหญ่เถิด” คุณชายสามโค้งมุมปาก แววตาคล้ายดุดันกว่าก่อนหน้านี้มาก “เจียงซูเยว่ เจ้าคือภรรยาเอกของข้า เหตุใดถึงกล้าไล่ข้าไปหาหญิงอื่นเล่า” “สตรีทั่วทั้งเหยียนโจวอาจต้องการหลับนอนกับท่าน แต่ข้า...ข้าไม่ต้องการ” นางมองเขาอย่างดื้อรั้น เสียงดังขึ้นแปดส่วน ไม่รู้เลยว่าสาวใช้ ผู้คุ้มกันที่ยืนเวรยามอยู่ด้านนอกต่างพากันสูดหายใจแล้วขยับห่างไปอีกหลายก้าว “ทั้งๆ ที่ข้าไม่ต้องการ เหตุใดท่านถึงไม่ยอมปล่อยข้าไป” เพียงคว้าตัวนางก็บังคับให้นั่งอยู่บนตักไม่ยอมให้หลุดรอดไปได้ง่ายๆ “เยว่เอ๋อ ข้าปล่อยเจ้าไปไม่ได้” ลมหายใจที่แนบชิดกับขมับอิ่มชื้นนั้นหนักหน่วงมากขึ้นทุกที “ต่อให้เจ้าไม่ยินยอม...ค่ำคืนนี้และคืนต่อๆ ไป ข้าต้องอยู่ที่นี่ อยู่กับเจ้า”
like
bc
ไฮโซร้อนรัก
อัปเดตเมื่อ Jul 14, 2024, 20:27
แต่ถึงแม้โอเปร่าจะน่าสนใจเพียงใดก็คงไม่สู้ผู้ชายที่กุมมือเธอไว้ในตอนนี้ นั่งมานานๆ เข้าเขาก็เริ่มพาดท่อนแขนล่ำสันเข้ากับบ่าเล็ก แล้วรั้งกายบางของเธอเข้ามาหา พร้อมกระซิบเสียงแผ่วพร่า “อีกไม่กี่นาทีการแสดงก็จบแล้ว อยากไปที่ไหนต่อหรือเปล่า” “ไม่แล้วค่ะ แค่นี้ก็ถือว่าวิเศษมากแล้ว” “หือ...” รอสส์ครางเบาๆ ในลำคอ ก่อนจะใช้นิ้วหนึ่งช้อนปลายคางเล็กให้แหงนเงยขึ้น ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยกลีบปากนุ่มชื้นแผ่วเบา ใบหน้าคมคายเคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นจนลมหายใจอุ่นจัดรินรดผิวแก้มเรื่อ “หยาดฟ้า...” “คะ!” หญิงสาวได้แต่ตอบรับด้วยสองแก้มแดงๆ “จูบหน่อยดีไหม?” คำถามของรอสส์ทำเอาร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า กลีบปากนุ่มนิ่มถูกเม้มแน่นเป็นแถบตรง ทว่าเพียงอึดใจรอสส์ก็เปิดปากของเธอด้วยปลายลิ้นอุ่นซ่านซึ่งพาดวนดื่มด่ำกับความหอมหวาน ปากหยักค่อยๆ ขบเม้มดึงดูดจากผะแผ่วในคราแรก และหนักหน่วงมากขึ้น
like
bc
เฉินหว่านอิง บุปผาบรรณาการ
อัปเดตเมื่อ Jun 25, 2024, 21:41
อู่ซีเจิ้งขยับมือข้างหนึ่งลูบไล้เสื้อตัวในสีขาวที่ยังติดอยู่บนเรือนร่างคนงาม เห็นความหวาดหวั่นที่นางพยายามเก็บซ่อนเอาไว้ก็พลันเปิดปากออกมา “หากไม่อยากทำ ข้าจะไม่ฝืนใจเจ้า” เฉินหว่านอิงรั้งมือข้างนั้นมาแนบแก้มข้างหนึ่ง นัยน์ตากลมโตจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมเข้มเนิ่นนาน “สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหาใช่การฝืนใจไม่ เป็นหม่อมฉันเต็มใจเอง” “หว่านอิง” “เริ่มเถิดเพคะ” ในความมืดสลัวที่มีเพียงแสงเทียนตรงมุมห้องส่องสว่างให้เห็นเพียงรางๆ มือข้างหนึ่งของอู่ซีเจิ้งไล้สาบเสื้อคนงามเบาๆ “ข้าถอดเสื้อของเจ้าได้หรือไม่” “เพคะ” “มองเจ้ายามเปลือยกายได้หรือไม่” “ได้เพคะ” “สัมผัสเจ้าทั้งตัวได้ ใช่หรือไม่” “จนกว่าจะให้กำเนิดบุตรธิดาครบสองพระองค์ ร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของหม่อมฉันเป็นขององค์ชาย ฉะนั้น...ไม่ว่าจะมอง สัมผัส หรือรุกล้ำ องค์ชายล้วนทำได้ทั้งสิ้น” ฝากผลงานของกู่เล่ยด้วยนะคะ ขอบพระคุณทุกการสนับสนุนค่ะ
like
bc
คุณหนูสิบห้าตระกูลเจียง
อัปเดตเมื่อ Nov 14, 2023, 23:36
ประตูห้องชั้นในปิดสนิท แสงสว่างด้านนอกแม้จะเจิดจ้าอยู่บ้างทว่าก็ไม่อาจทำลายความตั้งใจของหานไป่จิ้งไปได้ หลังผ่อนร่างกายบอบบางดุจกิ่งหลิวของเจียงซูหลันลงบนเตียงเรียบร้อย ดวงตาดำเข้มคล้ายจะอ้อยอิ่งอยู่กับริมฝีปากสีหวานของนางอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งอดใจไม่ไหวจึงค่อยๆ โน้มใบหน้าคมคายลง ลมหายใจอุ่นๆ ของนายท่านสกุลหานเพิ่งจะรินรดโดนข้างแก้ม เจ้าของใบหน้างามกลับเบือนหนีเสียแล้ว เมื่อริมฝีปากแตะต้องได้เพียงแก้มเนียนใส ลมหายใจของหานไป่จิ้งถึงกับหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม แน่นอนว่านอกเหนือจากความปรารถนาแล้วย่อมเป็นความโกรธเคือง ดวงตาล้ำลึกดุจบ่อน้ำไร้ก้นคู่นั้นแดงก่ำราวกับกำลังหลั่งโลหิตออกมา มือที่ทาบทับอยู่ข้างกายนางนั้นกำแน่นยิ่ง “เจ้าไม่ยินยอมเป็นของข้าอย่างนั้นหรือ!” แม้เสียงคาดคั้นจะแผ่วเบานักแต่กลับเย็นชาเสียจนคนฟังเหน็บหนาว ************** บุตรสาวห้าคนของใต้เท้าเจ้ากรมพิธีการเจียงโหย่งเล่อล้วนขึ้นเกี้ยวแต่งออกไป ในเมื่อเจียงซูหลันเป็นบุตรธิดาคนที่สิบห้าของใต้เท้าเจ้ากรมพิธีการย่อมต้องอยู่ในขบวนเจ้าสาวขบวนหนึ่งเช่นกัน พี่สาวน้องสาวที่แต่งออกไปพร้อมกันในครั้งนี้มีทั้งหมดห้าคน ไม่รู้ว่าแต่ละคนนั้นต้องพบเจอกับสามีเช่นไร แต่สำหรับนางต่อให้ต้องใช้ชีวิตกับบุรุษที่แต่งด้วยนานแค่ไหน นางก็ไม่มีวันมอบใจให้เขา เจียงซูหลันตั้งใจเอาไว้แล้วว่า ชีวิตนับจากนี้ล้วนไร้รักไร้ใจ แม้ร่างกายจะถูกผู้เป็นสามีครอบครองก็ตาม
like
bc
คุณหนูสิบสี่ตระกูลเจียง
อัปเดตเมื่อ Nov 12, 2023, 18:35
‘ปีใดที่ข้าหวนคืนเมืองหลวง ข้าจะแต่งกับเจ้า...เจินเจิน” บุรุษหนุ่มผู้ห้าวหาญในวัยสิบเจ็ดสิบแปดกล่าวถ้อยคำนี้กับเด็กสาวตัวเล็กผู้มีอายุเพียงสิบกว่าปี แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานแต่เจียงซูเจินยังจำได้ดีว่าเมื่อครั้งนั้นตนปลาบปลื้มยินดีเพียงใด มาวันนี้ ในที่สุดก็ได้แต่งเป็นภรรยาของเขา ……………………………………………………………………………………….. “ท่าน...ท่านพี่...” เอ่ยเรียกเสียงตะกุกตะกัก มือเล็กเรียวทั้งสองข้างกำชุดแต่งงานสีแดงไว้แน่น ก้นบึ้งของดวงตาฉายแววรอคอยและคาดหวัง ทว่าคนตรงหน้ากลับทำให้รู้สึกผิดหวังคล้ายกับเหวี่ยงนางขึ้นที่สูงแล้วโยนลงเหวร้างอย่างไรอย่างนั้น ทันทีที่คำเรียกขานนี้หลุดออกมา ดวงตาสงบนิ่งเมื่อครู่ถึงกับสาดประกายไม่พอใจ แต่เพียงชั่วอึดใจก็เลือนหายเหลือเพียงความเคร่งขรึมที่เผยให้เห็นก่อนหน้า “คุณหนูสิบสี่เรียกข้าว่าคุณชายรองเถิด” “แต่ข้า...” เป็นภรรยาของท่าน ยังไม่ทันเอ่ยจบคนที่นางเฝ้ารอมาหลายปีกลับทำให้หัวใจเหน็บหนาวเป็นเท่าตัว “คุณหนูสิบสี่ควรรู้ไว้...ข้าหาอยากรับเจ้าเป็นภรรยาเอกไม่ แต่ในเมื่อเจ้าเข้าสกุลลู่มาแล้ว เกียรติยศ ศักดิ์ฐานะของภรรยาเอกนั้นข้ายังคงเต็มใจมอบให้ นับจากนี้เราสองต่างคนต่างอยู่ อย่าได้ข้องเกี่ยวกันอย่างสามีภรรยาคู่อื่นเลย” “ต่างคนต่างอยู่หรือ” เจียงซูเจินได้แต่ทวนคำพูดของเขาซ้ำไปซ้ำมา ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มอาบย้อมด้วยวาวน้ำจางๆ แต่สุดท้ายน้ำตาที่ใกล้ไหลอาบแก้มดั่งไข่มุกขาดร่วงจากสายกลับกลิ้งไปกลิ้งมา ชั่วอึดใจหนึ่งถึงสามารถซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ได้ “เรือนหลังนี้ข้ายกให้ ขอให้คุณหนูสิบสี่อยู่อย่างสบายใจ คิดเสียว่าที่นี่เป็นบ้านอีกหลังหนึ่ง” เขาบอกให้คิดว่าที่นี่เป็นบ้าน...บ้านของนางที่ตลอดชาตินี้เขาผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีจะไม่มีทางก้าวย่างเข้ามา จบคำพูดนั้นแม้กระทั่งแผ่นหลังที่อยากจะมองให้มากหน่อยกลับไม่ยอมหยุดนิ่งเพื่อนางแม้สักครึ่งก้าว คุณชายรองสกุลลู่ทิ้งไว้เพียงสายลมวูบหนึ่งที่พัดเทียนมงคลมอดดับ กลิ่นเผาไหม้ของไส้เทียนโชยพัดไปทั่วเรือนนอน
like
bc
ทะเบียนรักมาเฟีย
อัปเดตเมื่อ May 28, 2023, 21:35
“ปล่อย!” บุปผาสวรรค์บอกด้วยตาแดงๆ “เลิกแตะต้องฉันสักที” “จะปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพนี้ใช่ไหม” “แล้วคุณจะสนใจทำไม ไม่ต้องยุ่ง ไม่ต้องใส่ใจ ปล่อยให้ฉันมีชีวิตผ่านพ้นไปวันๆ ก็พอ ต่อให้ตายคุณก็ไม่ต้องมายุ่งกับศพของฉัน แค่ส่งร่างไร้วิญญาณของฉันโยนไว้ที่ไหนสักแห่งก็ได้” “อย่าพูดเหมือนชีวิตเธอไร้ค่าขนาดนั้น” “ชีวิตฉันมันไม่มีค่าตั้งแต่วินาทีที่แต่งงานกับคุณแล้ว” หญิงสาวเชิดหน้าตอบโต้ “ถ้ามันจะตกต่ำยิ่งกว่านี้ก็ปล่อยมันเถอะ” “บุปผาสวรรค์” ไม่ห้ามเขาเรียกชื่ออีก แต่ทำเพียงตวัดดวงตาดำขลับมองอย่างไม่พอใจ ปฏิกิริยานั้นทำให้ไคล์ต้องกัดฟันแน่น โดยไม่ฟังคำคัดค้านหรือคำปฏิเสธ ชายหนุ่มก็ดึงแกมลากเจ้าของร่างบอบบางตรงไปยังอ่างอาบน้ำด้วยกัน ครั้นเธอขัดขืนมากๆ เข้าก็จัดการอุ้มแล้วโยนลงอ่างโดยไม่ปรานี หลังจากนั้นก็เปิดน้ำเย็นจัดพร้อมกดเธอลงไปไม่ให้ก้าวออกจากอ่างได้ “ปล่อยฉันนะ!” หญิงสาวโวยวายและดิ้นรนหนีจากเงื้อมมือของเขา “อย่าทำแบบนี้กับฉัน เพราะคุณไม่มีสิทธิ์” “ฉันไม่สนใจสิทธิ์ที่เธอพูดถึงหรอก ฉันก็แค่ทนความเน่าเหม็นของเธอไม่ได้” เขาคว้าฝักบัวมารดหน้ารดหัวจนเปียกปอนไปหมด ถึงแม้เธอจะสำลักน้ำจนตาแดงก่ำแต่ก็ไม่ช่วยให้ไคล์หยุดการกระทำเลยสักนิด เขาเอาแต่อาบน้ำขัดถูให้จนอดคิดไม่ได้ว่า เนื้อหนังบางส่วนของเธอคงติดมือเขาไปบ้างแล้ว ใช่! ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เธอก็ไม่สามารถเอาตัวรอดได้ ดังนั้นจึงอยู่นิ่งๆ แล้วปล่อยให้เขาทำอย่างที่ใจต้องการ
like
bc
คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง
อัปเดตเมื่อ May 28, 2023, 21:00
ร่างกายสูงใหญ่ขยับต่ำลง พร้อมปากและจมูกที่ฝังไปตามเรือนร่าง บางครั้งจูบ บางครั้งขบกัด ค่อยๆ แผดเผาด้วยปลายลิ้นและสัมผัสของเขา เจียงซูเหยาจึงได้แต่เกร็งสะท้าน นางพยายามผลักไสใบหน้าคมคายของคุณชายรองที่เพิ่งฝังลงกลางหน้าท้อง กระทั่งสำเร็จจึงคิดหลีกหนีลงจากเตียง แต่สตรีอ่อนแอบอบบางอย่างนางจะหนีเงื้อมมือคนผู้นี้ไปได้อย่างไร ปลายเท้ายังไม่ทันแตะพื้น เอวเล็กบางที่รวบกำได้เพียง ฝ่ามือเดียวพลันถูกลำแขนของจิ้งเฉินเหนี่ยวรั้งกลับมา แผ่นหลังของนางคล้ายจะแนบกับร่างกายส่วนหน้าที่ยังมีเสื้อผ้าปกปิดของเขา ปากอุ่นร้อนคู่นั้นซุกซอกคอพลางเอ่ยด้วยเสียงสั่นพร่า “น้องหญิง เจ้าจะไม่ยินยอมหรือ” นางเม้มปากแน่น ภายในใจตะโกนออกมาว่าไม่ยินยอม แต่ในยามที่มือข้างหนึ่งของคุณชายรองลูบไล้ปัดผ่านหน้าท้องแบนราบเพื่อสัมผัสกับความอ่อนนุ่มกลางกายนั้นกลับสั่นระริกจนต้องส่งเสียงครางประท้วงออกมา “คุณชายรอง ปล่อยข้า” เจียงซูเหยาวอนขอด้วยเสียงสั่นสะท้าน แต่คำเรียกนี้กลับเป็นดังดาบที่ฟาดฟันเชือกเส้นสุดท้ายเพราะสิ้นเสียงวอนขอ นิ้วหนึ่งของเขากลับแนบลงกลางความบอบบางแถมยังกดคลึงเข้าไปในซอกลึกนั้นอีก
like
bc
เพลิงอสูรใจทมิฬ
อัปเดตเมื่อ Feb 6, 2023, 19:55
“ผมชอบรสจูบของคุณ” เขาเอ่ยออกมาแผ่วๆ พร้อมวางอุ้งมือร้อนผ่าวลงบนสะโพก จนร่างระหงถึงกับเกิดอาการสะดุ้ง หนำซ้ำยังลากไล้ฝ่ามือร้อนๆ นั้นไปตามช่วงสะโพกอย่างคนฉวยโอกาส “ยะ...อย่า...อย่าแตะฉันนะ” นิศากรร้องห้ามเสียงสั่น มือน้อยๆ นั้นไล่ตะครุบอุ้งมือร้อนผ่าวของอีกฝ่ายไว้แทบไม่ทัน เธอจับได้เขาก็ยังดิ้นรนหนี อ้อมแขนทรงพลังนั้นตวัดเพียงครั้งเธอก็ถูกเขาตระกองกอดทั้งตัว “ผมอยากจูบคุณอีกครั้ง” เขากระซิบคำหวานน่าฟัง ร่างเล็กสั่นศีรษะน้อยๆ เป็นการปฏิเสธ หากเขาขยับเอีกหนใบหน้าหล่อเหลาภายใต้หนวดเครายาวนับหนึ่งเซนติเมตรก็อยู่ตรงหน้า ปล่อยหัวใจอุ่นร้อนรวยรินชิดปลายจมูกโด่งเล็กของเธอ จนแก้มนุ่มทั้งสองข้างถึงกับแดงก่ำด้วยความเขินอาย “แต่ฉัน...อื้อ...” คำปฏิเสธของนิศากรเลือนหาย เมื่อเรียวปากอุ่นชื้นทาบทับลงมาราวกับจับวาง เขาจูบหนักๆ กดลึกจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บแปลบบริเวณกลีบปากที่กระทบกับฟันซี่สวยที่เรียงกันอยู่ด้านใน “เจ็บ!” หญิงสาวโอดครวญออกมาเบาหวิว เพราะเธอรู้ดีว่ายังมีอารมณ์อีกอย่างแล่นพล่านอยู่ในเวลาเดียวกัน “ผมใจร้อนไปหน่อย ก็เลยจูบคุณซะแรง” เขาหยุดหายใจทิ้งเฮือกใหญ่ราวกับลงทัณฑ์ตัวเองที่ทำอะไรตะกละตะกลามไม่ยั้งคิด จนทำให้เรียวปากอุ่นนุ่มเมื่อครู่บอบช้ำ “ผมอยากแก้ตัว...ให้ผมจูบคุณอีกครั้งได้ไหม...”
like
bc
ตราบาปเพลิงอสูร
อัปเดตเมื่อ Feb 2, 2023, 19:12
“น้ำพั้นซ์ คุณไม่เคยเหรอ” ชายหนุ่มเรียกชื่อที่จำได้แม่นก่อนจะเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ คำตอบของน้ำพั้นซ์ก็คือการส่ายหน้าไปมา “ให้ตาย...ผมหยุดไม่ได้” เสียงสบถอย่างหนักใจ “ผมต้องไปต่อ” น้ำเสียงมั่นคงดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะบดจูบลงไปอย่างหนักหน่วงอีกครา เฝ้าจูบครั้งแล้วครั้งเล่า “อื้อ...กรี๊ดดด...” เสียงกรีดร้องดังขึ้นเบาๆ ก่อนจะเงียบสนิทเมื่อเรียวปากอุ่นๆ ทาบทับปิดลงมา ชายหนุ่มเคลื่อนท่อนเนื้อที่แข็งแกร่งพาดผ่านเส้นบางๆ ที่ขวางกันเพียงครั้งเดียวจนสุดทาง ก่อนจะแช่นิ่งอยู่อย่างนั้น น้ำตาของเกศน์สลิลรินไหล แต่ก็เหือดหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อความอบอุ่นจูบซับปลอบโยนอย่างแผ่วเบา ชั่ววินาทีกายแกร่งที่แทรกผ่านเนื้อนวลเข้าไปก็เริ่มเหยียดขยายใหญ่โต สะโพกแกร่งเริ่มขยับอย่างผะแผ่วเบา “เจ็บมากไหม?” เพลิงอัคคีอดที่จะถามไม่ได้ แต่คนถูกถามนอนนิ่งเธอหลบสายตาเขาอย่างเอียงอาย ชายหนุ่มเปิดยิ้มกว้างก่อนจะเริ่มขยับร่างกายของตัวเองอย่างเชื่องช้า เห็นคนใต้ร่างดิ้นขยุกขยิกไปมา ก่อนจะผวาเข้ากอดร่างกายของเขาเต็มตัวเมื่อเคลื่อนท่อนเนื้อกลางลำตัวออกก่อนจะบดเบียดรุกล้ำเข้าไปใหม่
like
bc
ดอกเบี้ยเพลิงอสูร
อัปเดตเมื่อ Feb 1, 2023, 17:44
“คุณ... ฟะ... ไฟ” เธอกัดฟันไว้แน่น ความเป็นชายที่ร้อนฉ่า ผงาดล้ำจดจ่อกับกุหลาบสาว ค่อยๆ นำพาความแข็งขึงกดเข้าไปช้าๆ แต่ครั้งนี้ช่างวาบหวามสุดจะต้านทาน แรงกดลึกล้ำหนักหน่วง มาพร้อมกับการโยกเอวสอบที่เริ่มต้นด้วยความเชื่องช้า ดึงสาวออกเกือบหมดแล้วกดเข้าไปใหม่อย่างร้อนแรง หญิงสาวยังคงจับแขนชายหนุ่มไว้แน่น หล่อนสะอื้นทุกครั้งที่เขาทำเหมือนจะถอดถอนความเป็นชายให้ออกห่างก่อนจะกดเข้าไปใหม่อย่างหนักหน่วงเร่าร้อนและรุนแรงในคราเดียวกัน เพลิงอินทรีดึงรั้งร่างระหงเข้าหา หญิงสาวตวัดแขนโอบรอบคอชายหนุ่มไว้แน่น ใบหน้านวลซบกับไหล่บึกบึนส่งเสียงครางเบาๆ กระทบกับโสตประสาทการได้ยินอย่างแผ่วเบา เธอซบไหล่หนาของเขา เรียวขานุ่มยังตวัดเอวสอบไว้แน่น เพลิงอินทรีจับสะโพกบางยกขึ้นก่อนจะจัดท่าทางให้หญิงสาวนั่งลงบนสะโพก อกนุ่มชนอกแกร่ง หน้าท้องเต็มไปด้วยมัดกล้ามแบบซิกแพคน่าลูบไล้ชนกับหน้าท้องที่แบนราบ เธอห่อไหล่เข้าหาตัว กัดฟันไว้แน่น มือบางกอดชายหนุ่มไว้ราวกับเป็นที่พึ่งพิง แผ่นหลังที่เต็มไปด้วยเนื้อแน่นหนึบถูกเล็บเล็กกดจิกเบาๆ และรุนแรงขึ้นบางครา
like
bc
รักแค่เพียงคนเดียว
อัปเดตเมื่อ Dec 26, 2022, 04:01
“แต่งตัวแล้วไปจากที่นี่ค่ะ ส่วนใบหย่าเดี๋ยวเพียงขอให้คุณป้าจัดการให้ ต้องเซ็นเอกสารเมื่อไรเพียงจะเข้าไปหาคุณป้าเอง” เชษฐ์ยิ้มมุมปาก รอยยิ้มของเขาทำเอามือของ พิมาลาสั่นเทาจนต้องกำไว้แน่น เธอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ก่อนจะค่อยๆเดินไปหยิบเสื้อผ้ามากอดไว้แน่น แต่ยังไม่ทันได้ปิดประตูห้องน้ำร่างกายบอบบางก็ถูกเหวี่ยงกลับขึ้นเตียง “ว้าย!” กรีดร้องได้เพียงเท่านั้น ดวงตากลมโตก็พลันเบิกกว้าง เพราะตอนนี้ร่างกายทุกส่วนสัดถูกเขาขยับขึ้นมาทาบทับ ปลายนิ้วแข็งแรงที่กำลังลูบไล้ผิวแก้มอยู่ในขณะนี้ทำเอาต้องกลั้นหายใจ เชษฐ์มองใบหน้าซีดเผือดของคนใต้ร่างตาไม่วาง “เธอคิดว่าเราทำเรื่องนั้นกันจบจริงๆ น่ะหรือ คิดว่าคนเป็นผัวเมียกันเขาทำเรื่องนั้นแค่เข้าไปแล้วก็สลบไสลไม่ได้สติ ถ้าเธอคิดว่ามันจบแค่นั้นก็ปัญญาอ่อนแล้ว” “คุณเชษฐ์” พิมาลาเม้มปากมองเขา “ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลย แล้วอย่างนี้ยังคิดอยากได้ใบหย่าจากฉัน ไม่หน้าด้านไปหน่อยหรือ”
like
bc
สมบัติคนเลว
อัปเดตเมื่อ Dec 26, 2022, 00:09
ภายในห้องที่มีเพียงแสงตะเกียงสาดส่องให้เห็นพอรางเลือน ไฟฉายที่ปราณนต์หยิบติดมือมาเพื่อส่องนำทางมายังบ้านพักซอมซ่อบนยอดเขานั้นถูกปิดลงตั้งแต่เขาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้แล้ว เวลานี้เขาได้เห็นร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่แลกมากับเงินต้นและดอกเบี้ยจำนวนห้าแสนบาท สี่ปีก่อนเขาเคยคิดว่ามันไม่คุ้มค่า ทว่าพอได้เห็นเรือนร่างเต็มวัยของคนตรงหน้าก็ทำให้ความคิดคล้ายขาดทุนเหล่านั้นหายไป ตอนนี้เหลือแค่เพียงการตักตวงความสุขจากเจ้าของร่างบอบบางนี้เท่านั้น ทอดสายตามองร่างที่ไร้เสื้อผ้าปกปิดอยู่นาน โดยเฉพาะหน้าอกกลมขาวเขาอดจ้องมันนานกว่าจุดอื่นไม่ได้จริงๆ จากการสัมผัสเมื่อครู่ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นเต็มมือไม่น้อย ตอนนี้จึงถึงฉากสำคัญที่เขาต้องไปต่อสักที “ถอดเสื้อผ้าให้ฉัน” คำสั่งของเขาแม้จะทำให้มนรดาสะดุ้งไม่น้อย แต่พริบตาเดียวก็ข่มความหวาดหวั่นทั้งหมดเอาไว้ เหยียบมันฝังลงไปใต้ฝ่าเท้า เพราะตั้งแต่วินาทีที่ผู้ชายคนนี้ก้าวเข้ามาในบ้าน ร่างกายก็ไม่มีวันเป็นของเธออีกแล้ว หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกแล้ววางมือที่บังคับไม่ให้สั่นแตะลงบนเสื้อของเขา ดึงชายเสื้อยืดขึ้นเผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องที่แข็งแน่นอัดกันราวกับเกลียวคลื่นในท้องทะเลก็ไม่ปาน แต่ไม่ว่ารูปร่างของเขาจะดีแค่ไหน ผู้ชายตรงหน้าก็เป็นเพียงคนสารเลวคนหนึ่งที่กำลังย่ำยีศักดิ์ศรีของเธอจนไม่เหลือดีก็เท่านั้น เมื่อถอดเสื้อของเขาออกแล้วก็ขว้างมันฟาดกับผนังห้องโดยไม่แยแสเลยสักนิดว่ามันจะสกปรกหรือเปื้อนฝุ่นแค่ไหน จากนั้นก็หันมาดึงเข็มขัด รูดกางเกงยีนของเขาลง เหลือเพียงกางเกงชั้นในสีน้ำเงินเข้มที่ปกปิดความเป็นชายชาตรีของเขาอยู่ เธอจ้องมองอย่างตัดสินใจเล็กน้อย สุดท้ายก็รูดปราการชิ้นสุดท้ายลง ทันทีที่ความเย็นปะทะกับร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มุมปากของปราณนต์พลันกระตุกเล็กน้อย เขานึกอยากจะปรบมือให้กับความใจกล้าบ้าบิ่นของผู้หญิงตรงหน้า เขาคิดว่าเธอจะขี้ขลาดตาขาวหลีกหนีเสียอีก แต่ที่ไหนได้เธอกลับเข้มแข็งไม่เบา ไม่หวาดกลัวการเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ไร้สิ่งใดปกปิดร่างกายแม้แต่น้อย ในยามที่เห็นดวงตากลมโตของคนตรงหน้าหลบวูบ ชายหนุ่มก็คว้าเอาคางเล็กให้หันกลับมาเผชิญหน้า จ้องมองอย่างดุดัน “มองร่างกายของฉัน มองทุกส่วนของฉัน แล้วก็ใช้สมองกลวงๆ ของเธอคิดให้ดี ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะคุ้มกับค่าตัวของเธอ” มนรดาเงยหน้าจ้องมองเจ้าของน้ำเสียงดุดันอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ ก่อนหน้านี้เธออาจจะหวั่นกลัว ทว่าตอนนี้ความกลัวเหล่านั้นได้ถูกหลอมละลายให้กลายเป็นความเกลียดชังแล้ว เธอกำลังบอกกับตัวเองว่า ผู้ชายคนนี้มีความสุขจากร่างกายของเธอมากแค่ไหน ก็จะทำให้เขาทุกข์ทนทรมานมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าพันเท่า ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อที่เคยเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง ตอนนี้ค่อยๆ แย้มยิ้มบางๆ แล้วมือไม้ที่เคยกำแน่นอยู่ข้างตัวก็แปรเปลี่ยนมาสัมผัสแผ่นอกตึงเรียบของเขา ดูคล้ายอยากรู้อยากเห็นว่าภายใต้ผิวเนื้อไม่ขาวมากนี้ซุกซ่อนความแข็งแรงไว้มากแค่ไหน ปราณนต์เองก็ได้แต่มองมือนุ่มนิ่มที่วางอยู่กับแผ่นอก วินาทีแรกที่ผู้หญิงตรงหน้าสัมผัสเขานั้นคล้ายกับมีคลื่นความร้อนบางอย่างแล่นผ่าน แต่อึดใจเดียวความร้อนเหล่านั้นก็กลายเป็นความหนาวเหน็บสร้างความทรมานที่เขาไม่เคยรู้จักมักคุ้นมาก่อนได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ “สาวน้อย...” เขาเรียกได้เพียงเท่านั้นดวงตาก็พลันหรี่แคบลง เมื่อสาวน้อยตรงหน้าริอ่านอาจหาญทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว ตอนนี้ร่างระหงบอบบางราวกับจะปลิวไปตามลมของเธอค่อยๆ คุกเข่าลง นั่งอยู่เบื้องหน้าเขา ดวงตาและสีหน้าของเธอสงบนิ่งอย่างน่าประหลาด พริบตาเดียวความร้อนรุ่มบางอย่างก็พาดผ่านเนื้อกายของเขา พร้อมๆ กับฝ่ามือบางนุ่มนั่นรวบจับในสิ่งที่เธอยังไม่ควรแตะต้อง “เธอ...” เสียงทุ้มห้าวที่กำลังจะเอ่ยปากพลันขาดหายไป เหลือแค่เพียงใบหน้าคมคายเงยขึ้น กับลมหายใจที่หอบกระชั้นอย่างไม่สามารถหักห้ามได้ ปลายลิ้นอุ่นชื้นที่กำลังลูบไล้ในส่วนนั้นกำลังทำให้ปราณนต์ได้แต่คว้าศีรษะเล็กๆ ของเธอไว้แน่น เส้นผมนุ่มลื่นเพราะได้รับการบำรุงมาอย่างดีตลอดสามเดือนให้ความรู้สึกอยากสัมผัสมากอย่างที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน สุดท้ายเมื่อปลายลิ้นของเธอเริงระบำอย่างร่าเริงอยู่กลางร่าง เขาก็ทำได้เพียงกดศีรษะของเธอไว้แน่น ให้เธอปรนเปรอตัวเองยาวนานขึ้น เพียงได้ยินเสียงห้าวทุ้มครางออกมา มุมปากของมนรดาก็กระตุกเล็กน้อย ยิ่งเห็นเขาแหงนเงยใบหน้ามีความสุขมากเท่าไร ดวงตากลมโตของเธอก็ยิ่งฉายแววเกลียดชังมากขึ้นเป็นเท่าตัว สุดท้ายในจังหวะที่เขาดันศีรษะของเธอให้ดื่มด่ำกับส่วนนั้นของเขาลึกซึ้งขึ้น ฟันที่เก็บงำเป็นอย่างดีก็ฝังลงไป กัดลงไปเต็มแรงจนได้ยินเสียงเขาคำรามลั่น ซึ่งน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวมาพร้อมกับฝ่ามือหนาหนักที่ตวัดเข้ากับซีกแก้มของเธอจนเรียกเลือดให้ไหลกบปาก ทันทีที่กลางลำตัวหลุดพ้นจากฟันซี่เล็กๆ ของผู้หญิงตรงหน้า ปราณนต์ก็ก้มมองรอยเขี้ยวและรอยเลือดที่หยดซึมออกมาจนแดงฉาน เขาจ้องมองแล้วกระตุกมุมปากเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าชิ้นส่วนร่างกายยังไม่ขาด แค่บาดเจ็บไม่มากไม่น้อยเขาก็ยิ้มเหี้ยมเดินเข้าใกล้ คว้าเอาคนปากดีที่กล้าหาญชาญชัยฝังเขี้ยวลงในส่วนต้องห้าม “อยากตายนักใช่ไหม?”
like
bc
เทียนพิศวาส
อัปเดตเมื่อ Dec 18, 2022, 23:14
ฝ่ามือเย็นชืดของพ่อเลี้ยงเมธที่สอดเข้าใต้บราลายลูกไม้แตะต้องฐานของผิวเนื้อก้อนกลมๆ ทำเอาวันวิสารู้สึกตัวจนสะดุ้งด้วยความตกใจ หญิงสาวรีบเบี่ยงใบหูหนีปากร้อนๆ ของเขา พร้อมกับเหนี่ยวรั้งแขนกำยำเอาไว้แน่นอย่างไม่คิดจะให้เขาสัมผัสกับความงดงามของหน้าอกหน้าใจได้ “พะ...พ่อเลี้ยง ปะปล่อยเทียนเถอะค่ะ อย่าทำแบบนี้กับเทียนเลย” เมธัสไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรอยู่ เขาสัมผัสได้เพียงเรือนร่างเย้ายวนที่ชวนให้อารมณ์ดิบเถื่อนคลุ้มคลั่งจนกู่ไม่กลับ ยิ่งได้ดอมดมกลิ่นหอมๆ ของผิวกายคนตรงหน้า ยิ่งทำให้สติของเขาที่มีอยู่น้อยนิดพลันหายไปจนหมดสิ้น เขาครางอื้ออึงประท้วงคนพยายามหลบหนีเล็กน้อยแล้วเคลื่อนมือแรงๆ เพื่อรวบเอาสองก้อนกลมๆ ให้ยอมสงบนิ่งอยู่ใต้ฝ่ามือ แล้วใช้ใต้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ลูบวนเม็ดทับทิมที่เริ่มแข็งตั้ง เขาบีบเคล้นเคลียคลอมันเบาๆ “พะ...พ่อเลี้ยง” วันวิสาได้แต่ครางเรียกเขาเสียงกระเส่าขึ้นเรื่อยๆ เธออ่อนต่อโลก อ่อนแอ และไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะหักห้าม และเพียงเขาหมุนร่างกายของเธอกลับมา ขณะที่มือยังกอบกุมอกสล้างของเธอไว้แนบแน่น ปากของพ่อเลี้ยงเมธแห่งปางไม้อติวัณณ์ที่กำลังป่ายสะเปะสะปะอยู่ทั่วใบหน้าของเธอ ทำให้เธอได้แต่ร้องประท้วงซ้ำไปซ้ำมา “พ่อเลี้ยง...ยะ...อย่า อย่าทำแบบนี้กับเทียน...เทียนกลัวแล้ว เทียนจะกลับบ้านแล้ว” เสียงขอร้องปนอ้อนวอนของวันวิสา ไม่ต่างจากแรงกระตุ้นที่เหนี่ยวนำเมธัสจนขาดสติ ชายหนุ่มรีบละมือข้างหนึ่งจากอกกลมสวยหันมาบีบปลายคางเล็กของคนบ่ายเบี่ยงหนีเอาไว้แน่น จนได้ยินเสียงร้องอ๊ะด้วยความเจ็บปวดของหญิงสาวนั่นแหละ ถึงได้จู่โจมปากอิ่มหวานด้วยลิ้นอุ่นจัดที่ขยับซอกซอนเข้าสู่ด้านในโพรงปากนุ่มนิ่มอยู่ไม่หยุด ลิ้นของเขากวาดกลืนความหอมละมุนละไมที่หญิงสาวซุกซ่อนเอาไว้ ขยี้ริมฝีปากแนบชิดอย่างดุดันเสียจนวันวิสาครางประท้วงออกมาไม่หยุด “อื้อ...พะ...พ่อเลี้ยง...อย่า” เมธัสบดขยี้ริมฝีปากบางนุ่มของหญิงสาวด้วยความร้อนแรง ดุดัน และดิบเถื่อน ทำเอาปากอิ่มสวยของวันวิสาค่อยๆ เห่อแดงขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงแม้หญิงสาวจะเจ็บจนร้าวระบมแค่ไหน ก็ไม่สามารถหยุดแรงปรารถนาที่คุกรุ่นอยู่ในเรือนกายของเมธัสเอาไว้ได้ ชายหนุ่มเอาแต่ตะบี้ตะบันจูบ แถมมืออีกข้างก็ยังคงเคล้นหน้าอกขาวนุ่มของหญิงสาวอยู่ไม่หยุด จนกระทั่งตัวเองเจียนจะขาดใจนั่นแหละถึงได้ถอนริมฝีปากออกอย่างช้าๆ “ฉันต้องการเธอ...ต้องการเหลือเกิน”
like
bc
ตราบาปเถื่อน
อัปเดตเมื่อ Dec 18, 2022, 23:00
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ตาลหวานจับจ้องเจ้าของคำพูดที่ฟังแล้วใจเต้นโครมคราม เธอมองใบหน้าคมคายที่รกครึ้มไปด้วยหนวดเครา ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไล้แก้มสากของเขา เธอยอมรับว่าสิ่งที่ได้ยินมีอิทธิพลต่ออารมณ์ที่เธอไม่คุ้นเคยเหลือเกิน หัวใจเธอเต้นแรง แก้มร้อนวูบวาบขณะที่หน้าท้องแบนราบก็ป่วนปั่นอย่างหนัก “นอนกับฉันไหม” คนตัวโตย้ำถามอีกรอบ ตาลหวานไม่รู้จริงๆ ว่าควรตอบเช่นไรดี แต่ตอนนี้ดวงตาของเธอเบิกโพลงอยู่ในความมืด มองเห็นเพียงโครงหน้าหล่อเหลาของคนตัวโตที่ขยับขึ้นมานอนคร่อม พอเขาทำแบบนั้นเธอจึงดันแผ่นอกแกร่งทันที “เธอจะปฏิเสธฉันไหม ขอแค่เธอเอ่ยปากฉันก็จะ...” “นอนค่ะ” เสียงหวานสั่นเอ่ยแทรกขึ้น มือบางนุ่มเปลี่ยนเป็นกำเสื้อบริเวณแผ่นอกกระด้างไว้แน่น ดวงตาที่เคยหวาดหวั่นของเธอเปลี่ยนแปลงเป็นเชิญชวนทันที “นอนกับฉันสิคะ” “เธอจะไม่เสียใจ” “ค่ะ” “เธอจะไม่ร้องไห้หรือว่าเกลียดฉัน” “ค่ะ” “แน่ใจนะ” “ถ้าจะต้องสูญเสียสิ่งมีค่าบนเรือนร่างให้กับใครสักคน ฉันก็อยากจะเลือกคนคนนั้นด้วยตัวเองค่ะ” “ฉันเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ และเราก็เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก” “มันจะเป็นอะไรไปละคะ ในเมื่อการรู้จักคนคนหนึ่งมานาน มันก็ไม่ได้การันตีว่าเขาจะเป็นคนดี บางทีคนที่เพิ่งพบกันอาจจะดีมากกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่าก็ได้” “ถ้าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เธอจะไม่ได้ยินคำขอโทษจากฉัน” “ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวเป็นฝ่ายเลื่อนมือขึ้นคล้องลำคอแกร่ง สอดปลายนิ้วเข้าไปใต้ตีนผมหนานุ่ม พร้อมกับโน้มใบหน้าขึ้นจูบซอกคอแกร่งทั้งซ้ายทั้งขวา และเพียงริมฝีปากของเธอแตะต้องผิวของเขา เธอก็ได้ยินเจ้าของเสียงทุ้มห้าวเผลอครางออกมาอย่างพอใจ “ฉันยับยั้งชั่งใจตัวเองไว้ไม่ได้อีกแล้ว” ดินกระซิบเพียงเท่านั้นก็ค่อยๆ ดึงรั้งชายเสื้อที่คนร่างบางสวมใส่ขึ้นช้าๆ จนผ่านสะโพกกลมกลึงนั่นแหละถึงได้ค่อยๆ แยกเรียวขาของเธอออกจากกัน พริบตาเดียวเขาก็ทำให้เธอครวญครางไม่เป็นภาษา เมื่อตอนนี้ฝ่ามือแข็งแกร่งไล้ลูบไปตามโคนขาอ่อนขาว แถมยังส่งปลายนิ้วทักทายกับจุดบอบบาง แม้เป็นสัมผัสเบาๆ แต่ก็ทำให้เธอถึงกับแอ่นหยัดตัวขึ้น เหยียดปลายเท้าในยามที่ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทุกอณูเนื้อ “อื้อ...” “ฉันแตะต้องได้ใช่ไหม” ตาลหวานนึกอยากจะทุบเขาสักทียิ่งนัก ทำถึงขนาดนี้แล้วจะถามให้ได้อะไรขึ้นมา เมื่อตอนนี้เขาทำยิ่งกว่าแตะต้องเธอเสียอีก เขาส่งปลายนิ้วแข็งแรงเข้ามาในตัวของเธอ แถมยังทำให้มันเริงระบำอยู่ในเรือนร่างของเธอจนเธอต้องร้องครางออกมาอย่างลืมอาย มือของเธอเริ่มหยิกลงไปบนเนื้อหนัง ยิ่งความเสียวซ่านมีมากเท่าไรเธอก็ยิ่งทำร้ายร่างกายของเขามากขึ้น มากเสียจนได้ยินเสียงครางของเขาชัดเจน ทว่าพอได้ยินเสียงมีเสน่ห์ของเขาแล้ว มือไม้ที่ควรสัมผัสเพียงลำคอแข็งแรงก็เริ่มป่ายปัดไปทั่วลำกาย แถมยังดึงเสื้อของเขาขึ้นเพื่อให้สามารถลูบไล้กล้ามหน้าอกแน่นๆ ได้ถนัดถนี่ เธอขยี้อกสีเข้มของเขา พอเขาร้องปากเล็กๆ ก็อ้างับพร้อมปาดลิ้นไล้เลียจนเจ้าของกายแกร่งแข็งทื่อไปหมด “เธอกำลังแก้แค้นฉันใช่ไหม” “เปล่าค่ะ” เสียงปฏิเสธของเธอดูสั่นเทาเหลือเกิน “แต่ดูเหมือนเธอทำให้ฉันรู้สึกเช่นนั้นนะ” “จริงหรือคะ” เธอช้อนตากลมโตมอง แววตานั้นดูขี้เล่นและเย้ายวนเสียจนเจ้าของไร่ภูพนาต้องหาทางกำราบ ด้วยการปลดกางเกงออกอย่างรีบร้อน พอท่อนล่างเปลือยเปล่าก็ค่อยๆ แยกเรียวขาของเธอให้ห่างจากกัน กล้ามเนื้ออุ่นจัดที่กำลังเบียดชิดเธออยู่ในตอนนี้ทำเอาดวงตาเธอเบิกกว้างขึ้น ความหวาดหวั่นกำลังกลืนกินตัวเธอ ทว่าความตื่นเต้นกับอารมณ์ปรารถนาที่ก่อขึ้นทำให้เธอไม่ได้รู้สึกกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยสักนิด เพราะตอนนี้มือทั้งสองข้างกำลังดึงรั้งชายเสื้อของเขาขึ้นสูง จนในที่สุดเขาก็ช่วยให้เธอกำจัดมันได้ แผ่นอกเรียบตึงไล่ลงมาจนถึงหน้าท้องที่แน่นขนัดด้วยกล้ามเป็นมัดๆ ทำให้ตาลหวานอดใจไม่ไหวจนต้องลูบไล้สัมผัสความแข็งแรงของเขาเบาๆ ปากที่แนบแน่นอยู่กับยอดอกสีเข้มเมื่อครู่เริ่มปาดป้ายไปตามลำคอ พร้อมกับทิ้งรอยแดงไว้ เช่นเดียวกับเขาที่กำลังบดขยี้จุดอ่อนไหวของเธอด้วยปลายนิ้ว สิ่งที่เขาทำกับสิ่งที่เธอกำลังทำให้เขาในเวลานี้ กำลังส่งผลให้เพลงรักทั้งคู่เร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ อะไรที่กีดขวางอยู่ในตอนนี้ถูกดึงทึ้งไปกองอยู่ข้างฝาผนัง เพียงเนื้อกายของคนใต้ร่างเปลือยเปล่า ดินก็เป็นฝ่ายพลิกเรือนร่างแน่งน้อยขึ้น พร้อมๆ กับสอดส่งตัวตนให้ผสมผสานเป็นเนื้อเดียวกับของเธอ ฝ่ามือทั้งสองข้างหันมารองก้นงอนงามเพื่อบังคับไม่ให้คนเจ็บจนหน้าเหยเกบ่ายเบี่ยงหนี เพียงเห็นน้ำตาของเธอรินไหล ชายหนุ่มก็ถึงกับหยุดชะงักสะโพกที่กำลังขยับอย่างกระแทกกระทั้น พอเห็นเขาหยุดตาลหวานก็ช้อนแพขนตาชื่นฉ่ำขึ้นสบตา “ฉันยังบริสุทธิ์จนกระทั่งตอนนี้” “ฉันรู้” ชายหนุ่มขยับปลายนิ้วปาดน้ำตาบนแก้มมนให้ “ฉันรู้แล้ว” “ฉันดีใจที่ได้เป็นของคุณนะคะ”
like
bc
ราคีเทพบุตร
อัปเดตเมื่อ Dec 13, 2022, 20:55
“วันนี้ฉันไม่ขายนะคะ” ย้ำอีกครั้ง “ผมแค่อยากคุยด้วย” เขากระซิบเบาๆ อย่างพยายามทำใจให้เย็นประหนึ่งน้ำแข็ง “เรื่องอะไร?” “นอนคุยก็แล้วกัน ง่วงจะได้หลับกันไปเลย” “ถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ” “ถึงจะบอกแบบนั้น ผมก็จะนอนอยู่บนเตียงหลังเดียวกับคุณอยู่ดี คุณมานอนตรงนี้เถอะ” ฝ่ามือหนักๆ ตบลงกับที่นอนด้านข้างตัว แถมยังอุทิศท่อนแขนล่ำๆ ให้อีกฝ่ายได้ใช้หนุนต่างหมอน แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ต้องการความหวังดีจากเขา ถึงได้เมินหนี และกระเถิบตัวไปนอนอีกฝั่งของเตียง ถ้าหากขยับเพียงนิดคงได้ตกลงไปให้เจ็บก้นและหลังแน่ๆ เมื่ออีกฝ่ายถอยร่นไปแบบนั้นจึงได้แต่นอนตะแคงมือเท้าศีรษะมอง “ผมว่าคุณขยับมาเถอะ เดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก” ปากอิ่มแบะใส่อย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้ “ความสูงแค่นี้ คงไม่ทำให้ฉันตกลงไปตายหรอก” “เราจะพูดคุยกันดีๆ สักคืนไม่ได้หรืออย่างไร” สีหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความท้อแท้อยู่ในที “ฉันนึกว่าทุกๆ คืน เราจะมีแค่เซ็กส์กันซะอีก” “คุลิกา” ครั้นเห็นเขาทำหน้าจริงจังแบบนั้นก็ได้แต่กลอกตาใส่ “ก็ว่ามาสิ” “เมื่อเช้านี้คุณทำกิริยาไม่น่ารักเลยนะ ผมไม่ชอบให้คุณทำตัวแข็งกระด้างประหนึ่งมีเรื่องกับผมมาตั้งแต่ชาติปางก่อนแบบนั้น และอีกอย่างไม่ต้องฝากคำพูดถึงผมผ่านไอ้เรเปลมันก็ได้ คุณแค่พูดและบอกตรงๆ ในสิ่งที่ต้องการ ถ้าผมทำได้ผมก็จะทำให้ อีกอย่างถ้าคนในบริษัททำอะไรให้คุณลำบากใจก็บอกผมได้ ผมจะจัดการให้” “อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวเขาจะหาว่า คนอย่างฉันใช้อำนาจบาตรใหญ่” “อีกอย่างก็เลิกตีค่าตัวเองให้ตกต่ำเสียที คุณไม่ได้เป็นแบบนั้น” คราวนี้คุลิกาหัวเราะ เธอเป็นยิ่งกว่าต่ำเสียอีก ในเมื่อหลังเสร็จภารกิจเขาก็จ่ายด้วยเงินสดหรือไม่ก็เช็ก มีหลายฉบับเชียวที่ยังไม่ได้ไปขึ้นเงิน อ้อ! นี่ยังไม่ได้แถมโปรโมชั่นให้พักในเพนท์เฮาส์สุดหรู มีอาหารดีๆ ให้กิน มีเสื้อผ้าสวยๆ ให้ใส่ ถึงแม้จะไม่ใส่มันสักตัวก็เถอะ ไหนจะของแถมอีกมากมายก่ายกอง อย่างเช่นตกเป็นขี้ปากคนอื่นได้ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที แต่เอาเถอะ ไม่ว่าจะเจออะไรมากไปกว่านี้ ก็ไม่กลัวหรอก ใบหน้าและความรู้สึกมันถูกโบกทับด้วยปูนซีเมนต์หนาร่วมสิบเมตรแล้วล่ะ มันพร้อมจะตั้งรับทุกอย่างที่สาดใส่ “อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะต่อให้คุณจะเรียกฉันว่าเป็นคู่นอนหรืออะไรก็แล้วแต่ มันก็ไม่ต่างกันอยู่ดี” “คุลิกา” “พอค่ะ ถ้าจะคุยกันเรื่องนี้ละก็ ฉันไม่อยากฟังอะไรอีก” เธอบอกเขาอย่างเบื่อๆ “เมื่อไรคุณจะเข้าใจอะไรได้ง่ายๆ สักที” “จะให้เข้าใจอะไรละคะ ในเมื่อหลังจากมีเซ็กส์กัน คุณก็จ่ายเงินให้กับฉัน หนำซ้ำยังให้ของแถมเป็นอะไรตั้งหลายอย่าง ถ้าคุณจะให้ฉันเลิกคิดว่าตัวเองเป็นโสเภณี หรือผู้หญิงขายเรือนร่างให้กับคุณละก็ มีทางเดียวเท่านั้นแหละค่ะ และฉันก็เชื่อด้วยนะว่าคุณไม่มีวันให้ฉันได้หรอก ในเมื่อฉันมันก็แค่ผู้หญิงกระจอกๆ คนหนึ่ง ที่มหาเศรษฐีอย่างคุณไม่เคยให้คุณค่าเลยด้วยซ้ำ” “คุณต้องการอะไรจากผมล่ะ” เคลล์ถามขึ้น นัยน์ตาของเขาจับจ้องอยู่กับกลีบปากนุ่มสีเรื่อนิ่งนาน ดวงตาดำขลับมองลึกเข้าไปในดวงตาสีเทามีเสน่ห์คู่นั้น ใช้ความเงียบค้นหาบางอย่าง แต่ไม่ว่าจะจ้องอีกนานแค่ไหนก็มองเห็นแต่ความว่างเปล่าจึงเลือกจะนอนหันหลังให้ “อย่ารู้เลยค่ะ เพราะถึงรู้ คุณก็ให้ฉันไม่ได้อยู่ดี” “อะไรล่ะ บอกผมมาสิ” ชายหนุ่มรบเร้าอยู่ข้างๆ หู กายแกร่งนั้นขยับมาใกล้ จนแผ่นท้องทรงพลังแนบกับแผ่นหลังลาดเนียนของร่างบาง ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งคู่แนบชิดกันจนไร้ช่องว่าง กระแสความร้อนแล่นผ่านหน้าท้องและฝ่ามือซึ่งขยับลูบวนอยู่กับหน้าท้องแบนราบ ทำให้คุลิกาต้องหลับตาแน่นไม่อยากจะตอบอะไรให้ความรู้สึกปั่นป่วนไปมากกว่านี้ แต่เพราะเสียงทุ้มน่าฟังดังคลออยู่ข้างๆ จึงพึมพำบอก “รักไงคะ ความรักจะฉุดรั้งฉันให้หลุดพ้นจากนรกทั้งเป็นที่คุณสร้างขึ้น” ยังพูดไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ มือไม้ของเขาก็หยุดชะงัก กายแกร่งขยับออกห่าง ทำราวกับเธอเป็นตัวอะไรที่น่ารังเกียจ เมื่อรับรู้ว่าบนเตียงหลังกว้างไร้ร่างแข็งแรง จึงได้แต่ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้อยู่เงียบๆ ในที่สุดเขาก็เปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมา แน่ล่ะ ผู้ชายเพียบพร้อมอย่างเคลล์ ลัมเบอร์ ควีนแมคก์จะมารักมาชอบพนักงานบัญชีจนกรอบและก็ไร้คุณค่ายิ่งกว่าสัตว์สกปรกซึ่งถูกเหยียบย่ำอยู่บนดินซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อย่างไร หัวใจของเขาไม่มีวันหล่นมาถึงมือแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว และคงเป็นตลอดไป
like
bc
เศษรักอสูร
อัปเดตเมื่อ Dec 13, 2022, 20:22
“ลูกหว้า...เธอรู้ไหม ไม่ว่าฉันจะอยู่กับใคร นอนกับใคร มันก็ไม่เหมือนอยู่กับเธอเลยสักนิด ฉัน...” ปลายนิ้วเรียวหนาเริ่มไต่ยุ่มยั่บลงมาบริเวณลำคอผ่องขาว และอ้อยอิ่งอยู่บริเวณเนินอกขาวผ่อง “ฉัน...ยังต้องการเธอเสมอ...ไม่ว่าจะตอนนี้ หรือตอนไหนๆ” ร่างระหงเริ่มตัวสั่นขึ้นเรื่อยๆ กลีบปากบางเฉียบเม้มติดกันเป็นแถบตรง เธออยากจะฟาดกำปั้นลงบนเสี้ยวหน้าหล่อๆ นี้ยิ่งนัก แต่ก็ทำได้เพียงตะครุบปลายนิ้วซึ่งเตรียมลากไล้ลงใต้เนื้อผ้า “อย่าแตะต้องลูกหว้าเลยค่ะ เดี๋ยวมือของคุณภพจะติดกลิ่นเน่าๆ” “ลูกหว้า!” สุ้มเสียงกระด้างสาดลงใกล้ๆ หู “เธอคิดจะลองดีกับฉันหรือไงฮ้า!” “เปล่านะคะ ลูกหว้าแค่ไม่อยากให้คุณภพต้องเนื้อตัวสกปรก เพราะร่างกายของลูกหว้ามันเน่าเละ ไม่แน่ ข้างในอาจจะถูกหนอนเจาะจนเป็นรูพรุน อีกไม่นานก็คงย่อยสลาย” สลิลลากลั้นใจเอ่ยยาวเหยียด ถือว่าเป็นครั้งแรก ที่เธอกล้าต่อปากต่อคำกับเขา นั่นคงเป็นเพราะเสียงครางอื้ออึง ระหว่างเขากับผู้หญิงคนอื่น ซึ่งมันยังดังก้องอยู่ในหู ไม่เคยสร่างซา หลังจากนั้นดวงตากลมๆ ก็ปิดลง รอคอยโทษทัณฑ์จากคนตัวโต ทว่าเงยหน้ามองอีกครั้ง ก็เจอกับเจ้าของร่างกำยำ ขยับตัวถอยห่าง และเหยียดปากมองเธอด้วยท่าทีเย้ยหยัน “ดี! เก่งกล้าขึ้นมาก สงสัยสามคืนที่ผ่านมา คงร่านไม่ใช่ย่อย ถึงได้เน่าเฟะทันตาเห็นแบบนี้” “ค่ะ ลูกหว้าไปค้างกับคนอื่นมา”
like
bc
ข้าคือหญิงบ้าผู้โง่งม
อัปเดตเมื่อ Dec 8, 2022, 02:32
เดิมทีนางทาแก้มด้วยแป้งหนาเตอะ ริมฝีปากสีแดงกลีบท้อแต้มชาดแดงฉานเป็นวงดุจพระจันทร์ลิ้มรสเลือด จัดทรงผมยุ่งเหยิงเฉกเช่นสตรีบ้าแต่งเข้าจวนตระกูลเยว่ เพราะได้ยินคำเล่าลือหนาหูว่า สตรีใดที่แต่งเข้าตระกูลนี้จะทำให้บ้านเดิมของตนฉิบหายวายวอด เพื่อแก้แค้นบิดาที่ทอดทิ้งนางกับมารดาไว้ จึงแบกฐานะคุณหนูใหญ่จวนเจิ้นหยางโหว สวมมงกุฎสีแดงขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวตามคำหมั้นหมายของบรรพบุรุษ เพราะหวังว่าแต่งเข้าไปแล้วชะตาของตระกูลเจิ้นจะจบสิ้นเฉกเช่นกับชีวิตมารดา ทว่าเพียงเจ้าบ่าวปรากฏตัวเบื้องหน้า ก็รู้ว่าตนเองกระทำผิดพลาดเสียแล้ว เยว่หมิงเซียนที่ใครๆ เล่าลือกันหนาหู บางคนว่าตัวซีดผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก บางคนว่าเขาป่วยเป็นโรคร้ายมากถึงสิบสี่โรคภัยไม่อาจรักษาได้ ทว่าพอพานพบกัน เหตุใดบุรุษที่ควรป่วยใกล้ตายถึงได้หล่อเหลาเหนือสามัญเช่นนี้ คิดๆ ดูแล้วบุรุษหมื่นพันในใต้หล้าหาเทียบเท่าความงามของคนผู้นี้สักเศษเสี้ยวไม่ เขามิใช่คนป่วยใกล้ตาย ไม่ได้อ่อนเปลี้ยเสียขา แม้แต่ลมหายใจที่นางสัมผัสได้ก็ไม่มีจุดใดที่บ่งบอกว่าป่วยไข้ภายใน แต่กลับองอาจแข็งแรงผึ่งผายยิ่ง และนางที่คิดแผนทำลายตระกูลเดิมให้สูญสิ้นจะสามารถทำอันใดได้ ในเมื่อการที่คุณชายใหญ่จวนตระกูลเยว่ปรากฏตัวด้วยรูปลักษณ์เช่นนี้มิใช่เป็นการยืนยันแล้วหรอกหรือว่าคำเล่าลือหามีสักส่วนที่เป็นเรื่องจริงไม่ ถ้าเช่นนั้นเรื่องที่ว่าสตรีใดแต่งเข้ามาจะทำให้บ้านเดิมฉิบหายนั้นก็... เวรล่ะ! วราลี
like
bc
กว่าจะเป็นสนมรัก
อัปเดตเมื่อ Dec 6, 2022, 01:48
“เจินเจิน” ปากร้อนจัดของหลิ่งเซียวฉินผละห่างพร้อมเรียกเสียงแหบพร่า “เป็นสตรีของข้าได้หรือไม่” นางนิ่งงันคล้ายไม่รู้แล้วว่าควรทำสิ่งใด ระหว่างผลักไสหรือดึงรั้งเขาเข้ามา “ข้าอยากแต่งกับเจ้า” ปลายนิ้วเรียวสวยและขาวสะอาดของเขากำลังไล้แก้มอิ่มเรื่อสีชมพูของนางไปมา “เจ้าแต่งให้ข้าเป็นอย่างไร” “คุณชายล้อเล่นแล้ว” นางขึงตาใส่ ความพลั้งเผลอจากจุมพิตเมื่อครู่กำลังเลือนหายไป ถึงได้จงใจคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา “เรื่องแต่งงานล้วนขึ้นอยู่กับบิดามารดาและแม่สื่อทั้งสิ้น ข้าหาตัดสินใจเองได้ไม่” เวลานี้หลิ่งเซียวฉินนิ่งสงบนัก แววตาดำทมิฬราวกับราตรีกาลมืดมิดเอาแต่จับจ้องใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ เขาคิดว่านางจะเอ่ยเรื่องตนเองเป็นว่าที่พระชายาองค์รัชทายาทเสียอีก นี่นางจำไม่ได้หรือว่าลืมสิ้นไปแล้ว จึงจงใจถามขึ้น “ที่คุณหนูปฏิเสธข้าเช่นนี้หรือว่าคุณหนูสามมีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว” คู่หมั้นคู่หมายหรือ...มู่ซูเจินนิ่วหน้าพยายามครุ่นคิดว่าเจ้าของร่างนี้มีคู่หมายหรือไม่ ความรู้สึกคล้ายจดจำได้คล้ายลืมเลือนเช่นนี้คืออะไร หรือว่าคุณหนูสามตระกูลมู่มีคู่หมั้นหมายจริง
like
bc
เพ่ยเอ๋อชายาแสนร้าย
อัปเดตเมื่อ Dec 4, 2022, 21:24
“หม่อมฉันไม่อยากเข้าวังเพคะ หม่อมฉันอยากเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งของบุรุษคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ต้องการอำนาจวาสนาใดๆ ต้องการแค่ใช้ชีวิตดังสามีภรรยากับบุรุษที่รักหม่อมฉันเท่านั้น หม่อนฉันปรารถนาเพียงสิ่งง่ายๆ แค่นี้ องค์ชายได้โปรดทำให้ความปรารถนาของหม่อมฉันเป็นจริงด้วยนะเพคะ” หนึ่งบุรุษผู้ต้องเอาชีวิตรอดด้วยการแกล้งป่วยกระเสาะกระแสะ หนึ่งสตรีที่ก้าวข้ามเวลาเข้ามาในยุคโบราณ ด้วยอำนาจวาสนาและชะตาลิขิต ทำให้ทั้งคู่ต้องพานพบกัน เขา องค์ชายหกเฟยหลิงจะรักษาความปรารถนาของลู่เพ่ยได้หรือไม่ ในเมื่ออนาคตของเขานั้นถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องเป็น ฮ่องเต้องค์ต่อไป จะมีทางใดเปลี่ยนใจนางได้บ้าง หรือสุดท้ายแล้ว ตำหนักในของเขาต้องไร้เงาของนาง หรือไม่ก็แผ่นดินนี้อาจไม่มีชื่อเขาเป็นผู้ขึ้นครองราชย์กันแน่ ตอนนี้ในหัวของนางไม่ได้มีฉากถอนพิษแต่กลับเป็นฉากที่ทำให้นางกลิ้งตกเตียงจนหัวฟาดพื้นต่างหาก ตัวอักษรที่บรรยายอยู่ในหน้ากระดาษนั้น เป็นฉากที่ องค์ชายหกทรงเชยชมพระชายา ร่างกายของทั้งคู่สอดประสานแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียว ยิ่งคิดนางก็อดลอบกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ กระทั่งเห็นองค์ชายหกกดปลายมีดสั้นลงไปบนอกแกร่งด้านซ้าย ปล่อยให้เลือดสีแดงฉานไหลออกมานั่นแหละถึงได้สะบัดหัวไล่ความคิดชั่วร้ายออกไป “ดื่มเถิด” แม้จะขัดเขินกับการต้องดื่มเลือดบุรุษอย่างใกล้ชิดถึงเนื้อหนัง แต่ลู่เพ่ยก็กลัวว่าเขาจะเสียเลือดมากจนเกินความจำเป็น นางจึงรีบหยิบเอาถ้วยชามมารองรับเลือดจากเขา ทว่าก็ถูกองค์ชายหกรั้งมือห้ามเอาไว้ “ห้ามใช้ภาชนะเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นตัวยาในเลือดข้าจะสลายไป” “แล้วหม่อมฉันจะดื่มเลือดองค์ชายได้อย่างไรเพคะ” “ใช้ลิ้นกับปากของเจ้า”
like
bc
พระชายาวังปีศาจ
อัปเดตเมื่อ Nov 22, 2022, 03:31
ร่างนี้ชื่อนี้ยุคนี้ไม่ใช่สิ่งที่อรัญญิกาในร่างของเซี่ยอิงลั่วคุ้นเคย แต่นั่นก็ไม่ร้ายเท่ากับต้องแต่งเข้าวังปีศาจ เป็นพระชายาของอ๋องปีศาจ พบนางครั้งแรก นางนั่งหลับอยู่บนเกี้ยวเจ้าสาว สัปหงกจนเครื่องประดับศีรษะกระแทกเกี้ยวไม่หยุด ดูท่าทางแล้วช่างผิดแผกแตกต่างจากคำเล่าลือยิ่งนัก ว่ากันว่าคุณหนูสามแห่งจวนตระกูลเซี่ยนั้นเพียบพร้อมด้วยกิริยามารยา จรรยาคัมภีร์สตรีล้วนไม่มีบกพร่อง เชี่ยวชาญพิณ หมาก อักษร ภาพวาด ร่ายรำอ่อนช้อยไม่เป็นสองรองใคร เรียกได้ว่าเป็นคุณหนูอันดับหนึ่งของเมืองหลวงที่องค์ชายทุกพระองค์ในแคว้นรวมถึงเหล่าบุรุษมีชื่อล้วนอยากแต่งให้นาง แต่ดูเหมือนคำเล่าลือเหล่านั้นคงเป็นเพียงคำโกหกพกลมกระมัง เพราะการพานพบนางครั้งที่สองแทนที่จะนั่งรอเขาเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวเฉกเช่นเหล่าสตรีของเมืองหลวง แต่นางกลับนอนหงายเหยียดตัวยาวอยู่บนเตียง ส่วนผ้าคลุมหน้านั้นถูกโยนทิ้งไปไหนแล้วก็ไม่รู้ บัดนี้เหลือเพียงใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยสีสันกับเครื่องประดับหนักอึ้งเอียงกะเท่เร่ ดวงตาดำเข้มดุจบ่อน้ำลึกของจิ่นอ๋องฉายแววกราดเกรี้ยวเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นก็บันดาลโทสะกับคนหลับใหลไม่ลง เขาทำได้เพียงทอดสายตามองเครื่องหน้าของสตรีที่นั่งตำแหน่งพระชายาของตนเท่านั้น คิ้วโก่งราวคันศร จมูกเชิดขึ้นรับกับริมฝีปากบางเฉียบสีชมพู ดวงตานั้นถูกเปลือกตาบอบบางปิดสนิทเผยให้เห็นเพียงขนตาโก่งโค้ง สองแก้มก็ดูเนียนนุ่มประดุจผิวของดอกเหมยในยามหิมะโปรยปราย ผิวพรรณตั้งแต่ลำคอลงมาดูเรียบรื่นราวกับหิมะแรกฤดู คราแรกเว่ยจิ่นอิ่งกำลังจะยื่นมือสัมผัสความเนียนละเอียด ทว่าสุดท้ายกลับทำเพียงดึงเครื่องประดับบนศีรษะของนางออกอย่างเชื่องช้า และในยามที่นางครางคล้ายรำคาญเขาก็ได้แต่กลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย มาถึงยามนี้ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสตรีผู้นี้จะเป็นสตรีที่เสด็จพ่อกับฮองเฮาเลือกให้แต่งเข้าวังอู่เทียนของเขา เพียงถอดเครื่องประดับบนศีรษะออกหมด เส้นผมดำขลับของนางก็พลันทิ้งตัวลงสยายเต็มหมอน แม้จะสัมผัสถูกเส้นผมนุ่มลื่นประดุจม่านไหมแผ่วเบา ทว่าความนุ่มนิ่มกับกลิ่นหอมราวกับดอกไม้ในยามเช้ากลับทำให้จิ่นอ๋องไม่อาจละสายตาจากเจ้าสาวในชุดแดงเพลิงได้เลยแม้แต่น้อย เขาแทบจะไล้ปลายนิ้วไปกับแก้วเนียนนุ่มทว่าสุดท้ายก็รั้งมือกลับแล้วเอ่ยเพียงประโยคหนึ่งออกมา “เซี่ยอิงลั่ว เจ้าเป็นคนเช่นไรกันแน่”
like