bc

กว่าจะเป็นสนมรัก

book_age16+
417
ติดตาม
1.2K
อ่าน
จบสุข
หวาน
ลึกลับ
like
intro-logo
คำนิยม

“เจินเจิน”

ปากร้อนจัดของหลิ่งเซียวฉินผละห่างพร้อมเรียกเสียงแหบพร่า “เป็นสตรีของข้าได้หรือไม่”

นางนิ่งงันคล้ายไม่รู้แล้วว่าควรทำสิ่งใด ระหว่างผลักไสหรือดึงรั้งเขาเข้ามา

“ข้าอยากแต่งกับเจ้า” ปลายนิ้วเรียวสวยและขาวสะอาดของเขากำลังไล้แก้มอิ่มเรื่อสีชมพูของนางไปมา “เจ้าแต่งให้ข้าเป็นอย่างไร”

“คุณชายล้อเล่นแล้ว”

นางขึงตาใส่ ความพลั้งเผลอจากจุมพิตเมื่อครู่กำลังเลือนหายไป ถึงได้จงใจคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา

“เรื่องแต่งงานล้วนขึ้นอยู่กับบิดามารดาและแม่สื่อทั้งสิ้น ข้าหาตัดสินใจเองได้ไม่”

เวลานี้หลิ่งเซียวฉินนิ่งสงบนัก แววตาดำทมิฬราวกับราตรีกาลมืดมิดเอาแต่จับจ้องใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ เขาคิดว่านางจะเอ่ยเรื่องตนเองเป็นว่าที่พระชายาองค์รัชทายาทเสียอีก นี่นางจำไม่ได้หรือว่าลืมสิ้นไปแล้ว จึงจงใจถามขึ้น “ที่คุณหนูปฏิเสธข้าเช่นนี้หรือว่าคุณหนูสามมีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว”

คู่หมั้นคู่หมายหรือ...มู่ซูเจินนิ่วหน้าพยายามครุ่นคิดว่าเจ้าของร่างนี้มีคู่หมายหรือไม่ ความรู้สึกคล้ายจดจำได้คล้ายลืมเลือนเช่นนี้คืออะไร หรือว่าคุณหนูสามตระกูลมู่มีคู่หมั้นหมายจริง

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทที่ ๑ สตรีในภาพวาด(๑)
     แคว้นหลิ่งซาน รัชสมัยเซียวเอ้าเทียนตี้ปีที่สามสิบสี่ สายลมอ่อนจางของปลายฤดูร้อนที่พัดวนในแผ่นดินนี้ไม่ได้สร้างความร้อนอบอ้าวมากเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะแคว้นหลิ่งซานล้อมรอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ แมกไม้เขียวขจี ทิวเขาทอดยาวนับพันลี้ แถมภายในแคว้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุและทองคำ ว่ากันว่า ขุดลึกไปสิบจั้ง จะพบแร่ธาตุหนึ่งหีบ ขุดไปร้อยจั้งจะได้ทองคำสิบหาบเลยทีเดียว รูปลักษณ์ของแคว้นคล้ายจะเป็นวงกลมเหมือนพระจันทร์ และในพระจันทร์นั้นมีวงแหวนจากสี่หัวเมืองหลักล้อมรอบ นั่นคือ จิ้งโจว กวางโจว เผิงโจว และซูโจว โดยแต่ละเมืองจะตั้งโดดเด่นอยู่บนภูเขาสูง เป็นด่านปราการเข้าเมืองหลวงอย่างเซียนโจวที่อันตรายและยากลำบากสำหรับกองทัพจากแคว้นอื่นยิ่งนัก เพราะเส้นทางที่จะเข้าสู่เมืองหลวงนั้นต้องผ่านหุบเขาสูงคดเคี้ยว เดินทัพกันได้ยากลำบากยิ่ง และถ้าหากข่าวเดินทัพถึงเมืองหลวงละก็ กองทัพของศัตรูจะถูกทำลายในชั่วพริบตา ดังนั้นนับร้อยปีมานี้จึงไม่มีแม่ทัพจากดินแดนใดกล้านำทัพเหยียบแคว้นหลิ่งซานเลยแม้แต่คนเดียว แต่ถึงกองทัพภายนอกจะไม่กล้าเหยียบย่ำแผ่นดิน ทว่าภายในวังหลวงของแคว้นคล้ายตกอยู่ในคำสาป นับตั้งแต่มีการสถาปนาแคว้นขึ้นมา มีกฎเหล็กอยู่ข้อหนึ่งที่เจ้าผู้ครองแคว้น ฮองเฮา และเหล่าสนมของฮ่องเต้ทุกพระองค์ต้องลงตราประทับ นั่นคือ จะมีองค์ชายเพียงองค์เดียว และองค์ชายองค์นั้นจะเป็นว่าที่ผู้ครองแคว้นคนต่อไป นั่นก็หมายความว่า ต่อให้ฮองเฮาหรือเหล่าสนมคลอดบุตรชายออกมาอีก เด็กคนนั้นก็ไม่อาจมีชีวิตรอด แม้ว่าเจ้าผู้ครองแคว้นจะทุ่มเทปกป้องด้วยชีวิตแค่ไหนก็ไม่อาจรักษาชีวิตขององค์ชายพระองค์อื่นเอาไว้ ดังนั้นนับตั้งแต่     หลิ่งเซียวเอ้าขึ้นครองราชย์ พระองค์จึงมีโอรสเพียงพระองค์เดียว และพระสนมนางในทั้งหมดก็จะได้รับพระราชทานโอสถป้องกันการตั้งครรภ์ ปีนี้ องค์ชายเพียงหนึ่งเดียวผู้นั้น อายุยี่สิบสี่ย่างยี่สิบห้าแล้ว ย่างเข้ายามโฉ่ว ลมร้อนแผ่วเบาพัดผ่านตำหนักย่ำรุ่งในทิศบูรพาของวังหลวง โคมไฟแปดเหลี่ยมปักลายเซียนเหยียบเมฆซึ่งแขวนอยู่รอบๆ ตำหนักนั้นเอนไหวไปตามกระแสลม ถึงแม้จะได้ยินเสียงหวีดหวิวอยู่บ้าง แต่ภายในตำหนักกลับดูอ้างว้างและโดดเดี่ยวเหลือเกิน อาจเป็นเพราะเจ้าของตำหนักหลังนี้ไร้พี่น้องทั้งชายและหญิง น้อยครั้งนักที่จะมีใครแวะเวียนมาเยี่ยมเยือน รอบๆ บริเวณตำหนักย่ำรุ่งที่เหล่าองครักษ์หลวงเห็นจนชินตานั่นคือความเงียบงันแฝงความน่าสะพรึงกลัว เหล่าขันทีนางกำนัลรับใช้ยังคงยืนประจำตำแหน่งอย่างแข็งขัน แต่พวกเขาจะอยู่หรือไม่ก็หาได้แตกต่างเลยสักนิด คงมีแค่เพียงขันทีเฒ่าอย่างหานกงกงเท่านั้นที่ยังคอยเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวภายในห้องบรรทม สายตาของกงกงชราคอยปรายมองไปยังพระจันทร์สีขาวนวลที่อวดแสงเรืองรองอยู่บนท้องฟ้าดำมืดเสมอ นี่ก็จวนถึงเวลาแล้ว เพียงครึ่งถ้วยชา เสียงครางแผ่วๆ กับแรงดิ้นกระสับกระส่ายพลันดังแว่วออกมาจากตำหนักบรรทม กงกงลอบมองไปยังฉากบังลมเล็กน้อย ก่อนจะมีคนผู้หนึ่งปรากฏตัวให้เห็น สีหน้าขององครักษ์ข้างกายองค์รัชทายาทอย่าง มู่หยาง บุตรชายคนโตแห่งสกุลมู่ในวัยยี่สิบเจ็ดปีดูไม่ดีเท่าไรนัก เพียงสบสายตากับกงกงใหญ่ประจำตำหนักก็รีบสาวเท้าเข้าไปด้านในทันที ดวงตาของทั้งคู่หยุดนิ่งอยู่กับม่านไหมซึ่งบดบังร่างสูงใหญ่ที่นอนดิ้นกระสับกระส่ายคล้ายทุกข์ทรมาน คล้ายเจ็บหนักจนเจียนขาดใจ เม็ดเหงื่อนับไม่ถ้วนไหลอาบพระพักตร์ขององค์รัชทายาท พระโอษฐ์แห้งผากขยับพูดอะไรบางอย่างที่ได้ยินไม่ค่อยชัดนัก ในห้วงแห่งความฝันนั้น หลิ่งเซียวฉินพบสตรีผู้หนึ่ง นางบอบบางคล้ายเป็นเพียงกระแสลมแผ่วเบาที่ไม่อาจจับต้องได้ เขาพยายามเอื้อมมือไขว่คว้าตัวนางเอาไว้ แต่ไม่ว่าจะยื่นมือไปสัมผัสกี่ครั้งกี่หน ก็ไม่อาจแตะต้องได้แม้เพียงหนึ่งเส้นผมของนาง “ซวีจู...” เสียงเรียวแผ่วๆ เล็ดลอดออกมา ทำให้สองคนสนิทต้องมองสบตากัน ชื่อนี้อีกแล้ว นับตั้งแต่องค์รัชทายาทได้ทอดพระเนตรชื่อนี้ผ่านตัวอักษรที่แม่นางลู่เพ่ยมอบให้ ชื่อนี้ก็ดูคล้ายจะสลักอยู่ในพระทัยของพระองค์ คล้ายน่าลืมเลือนแต่กลับเป็นดั่งปีศาจร้ายที่ไม่อาจปัดเป่าให้พ้นไปได้ หกปีแล้ว...หกปีที่ชื่อนี้หลุดผ่านริมฝีปากซีดสั่น แต่ภาพฝันและความทุรนทุรายเช่นนี้เกิดขึ้นกับ       องค์รัชทายาทมานับสิบแปดปี แม้จะเป็นเรื่องปกติที่เห็นจนชินตา ทว่าในยามที่เห็นพระวรกายสูงค่าดิ้นรนราวกับจะขาดใจ   กงกงเฒ่าก็ไม่อาจห้ามตนเองเอาไว้ได้ จึงรีบเดินเข้าไปใกล้เตียงบรรทม มือสากย่นแหวกม่านมุกเบาๆ พลางกระซิบเรียก “องค์รัชทายาท ตื่นบรรทมเถิดพ่ะย่ะค่ะ ทรงตื่นขึ้นมาทอดพระเนตรบ่าวเฒ่าเถิด” อาจเป็นเพราะคุ้นเคยกับน้ำเสียงนี้ ไม่นานนักเปลือกตาหนักอึ้งจึงค่อยๆ ขยับเปิดปรือขึ้น เผยให้เห็นนัยน์ตาสีดำเข้มที่ดูลึกล้ำราวกับท้องฟ้าย้อมด้วยสีหมึก สีพระพักตร์เรียบเฉยแต่กลับแผ่กลิ่นอายแห่งความน่ากลัวออกมาชัดเจน ถ้าหากไม่ถูกปลุกเรียก เขาเกือบได้เห็นหน้านางชัดเจน แต่สุดท้ายนางกลับกลายเป็นเพียงภาพเก่าที่แสนเลือนราง “ทรงเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ” มู่หยางประสานมือคำนับพลางถามด้วยความห่วงใย หลิ่งเซียวฉินขยับกายลุกขึ้นนั่ง แต่เพียงปลายเท้าเหยียบพื้นเย็นเฉียบ พระองค์กลับเลือกปิดตาลงครู่หนึ่ง เปิดตาขึ้นอีกครั้งก็ไม่หลงเหลือความรู้สึกอื่นอีก “ไม่เป็นไร นี่ยามใดแล้ว” “เกือบจะพ้นยามไฮ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” “ไปห้องอักษรกันเถิด” ตรัสเพียงเท่านั้น กงกงคนสนิทก็หยิบเสื้อคลุมสีดำมาสวมพระวรกายสูงค่าอย่างรีบร้อน ก่อนจะปล่อยให้องค์รัชทายาทเสด็จออกจากห้องบรรทมไป ด้านหลังขององค์รัชทายาทนั้นยังคงมีองครักษ์ข้างกายอย่างมู่หยางคอยตามติด เพียงทั้งคู่ก้าวเข้าสู่ห้องทรงอักษรที่เต็มไปด้วยตำรับตำรามากมาย ภาพเขียนม้วนหนึ่งก็พลันถูกกางบนโต๊ะ สายพระเนตรเฉียบคมทอดพระเนตรสตรีในภาพอย่างพินิจพิเคราะห์ “ในฝันข้าเห็นหน้านาง แต่ช่างเลือนรางนัก” องครักษ์หนุ่มก้มหน้าลง “พระองค์ตามหาสตรีผู้นี้มาหกปีแล้ว ทรงปล่อยวางเถิดพ่ะย่ะค่ะ” มุมปากของหลิ่งเซียวฉินยกสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย “เจ้าว่าข้าควรปล่อยวางเช่นนั้นหรือ เจ้าก็รู้ดี นับตั้งแต่ข้าอายุเจ็ดขวบ ก็ฝันถึงนางมาโดยตลอด ตั้งแต่นางเป็นเพียงเด็กน้อยแบเบาะ จนตอนนี้เติบโตแล้ว ถ้าหากมีชีวิตจริงๆ ปีนี้อายุของนางคงสิบเจ็ดย่างสิบแปดปี”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.5K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.0K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook