“หม่อมฉันไม่อยากเข้าวังเพคะ หม่อมฉันอยากเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งของบุรุษคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ต้องการอำนาจวาสนาใดๆ ต้องการแค่ใช้ชีวิตดังสามีภรรยากับบุรุษที่รักหม่อมฉันเท่านั้น หม่อนฉันปรารถนาเพียงสิ่งง่ายๆ แค่นี้ องค์ชายได้โปรดทำให้ความปรารถนาของหม่อมฉันเป็นจริงด้วยนะเพคะ”
หนึ่งบุรุษผู้ต้องเอาชีวิตรอดด้วยการแกล้งป่วยกระเสาะกระแสะ
หนึ่งสตรีที่ก้าวข้ามเวลาเข้ามาในยุคโบราณ
ด้วยอำนาจวาสนาและชะตาลิขิต ทำให้ทั้งคู่ต้องพานพบกัน
เขา องค์ชายหกเฟยหลิงจะรักษาความปรารถนาของลู่เพ่ยได้หรือไม่ ในเมื่ออนาคตของเขานั้นถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องเป็น ฮ่องเต้องค์ต่อไป
จะมีทางใดเปลี่ยนใจนางได้บ้าง หรือสุดท้ายแล้ว ตำหนักในของเขาต้องไร้เงาของนาง
หรือไม่ก็แผ่นดินนี้อาจไม่มีชื่อเขาเป็นผู้ขึ้นครองราชย์กันแน่
ตอนนี้ในหัวของนางไม่ได้มีฉากถอนพิษแต่กลับเป็นฉากที่ทำให้นางกลิ้งตกเตียงจนหัวฟาดพื้นต่างหาก ตัวอักษรที่บรรยายอยู่ในหน้ากระดาษนั้น เป็นฉากที่ องค์ชายหกทรงเชยชมพระชายา ร่างกายของทั้งคู่สอดประสานแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียว ยิ่งคิดนางก็อดลอบกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ กระทั่งเห็นองค์ชายหกกดปลายมีดสั้นลงไปบนอกแกร่งด้านซ้าย ปล่อยให้เลือดสีแดงฉานไหลออกมานั่นแหละถึงได้สะบัดหัวไล่ความคิดชั่วร้ายออกไป
“ดื่มเถิด”
แม้จะขัดเขินกับการต้องดื่มเลือดบุรุษอย่างใกล้ชิดถึงเนื้อหนัง แต่ลู่เพ่ยก็กลัวว่าเขาจะเสียเลือดมากจนเกินความจำเป็น นางจึงรีบหยิบเอาถ้วยชามมารองรับเลือดจากเขา ทว่าก็ถูกองค์ชายหกรั้งมือห้ามเอาไว้
“ห้ามใช้ภาชนะเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นตัวยาในเลือดข้าจะสลายไป”
“แล้วหม่อมฉันจะดื่มเลือดองค์ชายได้อย่างไรเพคะ”
“ใช้ลิ้นกับปากของเจ้า”