bc

ตราบาปเถื่อน

book_age18+
209
ติดตาม
1K
อ่าน
ครอบครัว
จบสุข
หวาน
ลึกลับ
like
intro-logo
คำนิยม

ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ตาลหวานจับจ้องเจ้าของคำพูดที่ฟังแล้วใจเต้นโครมคราม เธอมองใบหน้าคมคายที่รกครึ้มไปด้วยหนวดเครา ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไล้แก้มสากของเขา เธอยอมรับว่าสิ่งที่ได้ยินมีอิทธิพลต่ออารมณ์ที่เธอไม่คุ้นเคยเหลือเกิน หัวใจเธอเต้นแรง แก้มร้อนวูบวาบขณะที่หน้าท้องแบนราบก็ป่วนปั่นอย่างหนัก

“นอนกับฉันไหม” คนตัวโตย้ำถามอีกรอบ

ตาลหวานไม่รู้จริงๆ ว่าควรตอบเช่นไรดี แต่ตอนนี้ดวงตาของเธอเบิกโพลงอยู่ในความมืด มองเห็นเพียงโครงหน้าหล่อเหลาของคนตัวโตที่ขยับขึ้นมานอนคร่อม พอเขาทำแบบนั้นเธอจึงดันแผ่นอกแกร่งทันที

“เธอจะปฏิเสธฉันไหม ขอแค่เธอเอ่ยปากฉันก็จะ...”

“นอนค่ะ” เสียงหวานสั่นเอ่ยแทรกขึ้น มือบางนุ่มเปลี่ยนเป็นกำเสื้อบริเวณแผ่นอกกระด้างไว้แน่น ดวงตาที่เคยหวาดหวั่นของเธอเปลี่ยนแปลงเป็นเชิญชวนทันที “นอนกับฉันสิคะ”

“เธอจะไม่เสียใจ”

“ค่ะ”

“เธอจะไม่ร้องไห้หรือว่าเกลียดฉัน”

“ค่ะ”

“แน่ใจนะ”

“ถ้าจะต้องสูญเสียสิ่งมีค่าบนเรือนร่างให้กับใครสักคน ฉันก็อยากจะเลือกคนคนนั้นด้วยตัวเองค่ะ”

“ฉันเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ และเราก็เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก”

“มันจะเป็นอะไรไปละคะ ในเมื่อการรู้จักคนคนหนึ่งมานาน มันก็ไม่ได้การันตีว่าเขาจะเป็นคนดี บางทีคนที่เพิ่งพบกันอาจจะดีมากกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่าก็ได้”

“ถ้าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เธอจะไม่ได้ยินคำขอโทษจากฉัน”

“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวเป็นฝ่ายเลื่อนมือขึ้นคล้องลำคอแกร่ง สอดปลายนิ้วเข้าไปใต้ตีนผมหนานุ่ม พร้อมกับโน้มใบหน้าขึ้นจูบซอกคอแกร่งทั้งซ้ายทั้งขวา และเพียงริมฝีปากของเธอแตะต้องผิวของเขา เธอก็ได้ยินเจ้าของเสียงทุ้มห้าวเผลอครางออกมาอย่างพอใจ

“ฉันยับยั้งชั่งใจตัวเองไว้ไม่ได้อีกแล้ว”

ดินกระซิบเพียงเท่านั้นก็ค่อยๆ ดึงรั้งชายเสื้อที่คนร่างบางสวมใส่ขึ้นช้าๆ จนผ่านสะโพกกลมกลึงนั่นแหละถึงได้ค่อยๆ แยกเรียวขาของเธอออกจากกัน พริบตาเดียวเขาก็ทำให้เธอครวญครางไม่เป็นภาษา เมื่อตอนนี้ฝ่ามือแข็งแกร่งไล้ลูบไปตามโคนขาอ่อนขาว แถมยังส่งปลายนิ้วทักทายกับจุดบอบบาง แม้เป็นสัมผัสเบาๆ แต่ก็ทำให้เธอถึงกับแอ่นหยัดตัวขึ้น เหยียดปลายเท้าในยามที่ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทุกอณูเนื้อ

“อื้อ...”

“ฉันแตะต้องได้ใช่ไหม”

ตาลหวานนึกอยากจะทุบเขาสักทียิ่งนัก ทำถึงขนาดนี้แล้วจะถามให้ได้อะไรขึ้นมา เมื่อตอนนี้เขาทำยิ่งกว่าแตะต้องเธอเสียอีก เขาส่งปลายนิ้วแข็งแรงเข้ามาในตัวของเธอ แถมยังทำให้มันเริงระบำอยู่ในเรือนร่างของเธอจนเธอต้องร้องครางออกมาอย่างลืมอาย

มือของเธอเริ่มหยิกลงไปบนเนื้อหนัง ยิ่งความเสียวซ่านมีมากเท่าไรเธอก็ยิ่งทำร้ายร่างกายของเขามากขึ้น มากเสียจนได้ยินเสียงครางของเขาชัดเจน ทว่าพอได้ยินเสียงมีเสน่ห์ของเขาแล้ว มือไม้ที่ควรสัมผัสเพียงลำคอแข็งแรงก็เริ่มป่ายปัดไปทั่วลำกาย แถมยังดึงเสื้อของเขาขึ้นเพื่อให้สามารถลูบไล้กล้ามหน้าอกแน่นๆ ได้ถนัดถนี่

เธอขยี้อกสีเข้มของเขา พอเขาร้องปากเล็กๆ ก็อ้างับพร้อมปาดลิ้นไล้เลียจนเจ้าของกายแกร่งแข็งทื่อไปหมด

“เธอกำลังแก้แค้นฉันใช่ไหม”

“เปล่าค่ะ” เสียงปฏิเสธของเธอดูสั่นเทาเหลือเกิน

“แต่ดูเหมือนเธอทำให้ฉันรู้สึกเช่นนั้นนะ”

“จริงหรือคะ” เธอช้อนตากลมโตมอง แววตานั้นดูขี้เล่นและเย้ายวนเสียจนเจ้าของไร่ภูพนาต้องหาทางกำราบ ด้วยการปลดกางเกงออกอย่างรีบร้อน พอท่อนล่างเปลือยเปล่าก็ค่อยๆ แยกเรียวขาของเธอให้ห่างจากกัน

กล้ามเนื้ออุ่นจัดที่กำลังเบียดชิดเธออยู่ในตอนนี้ทำเอาดวงตาเธอเบิกกว้างขึ้น ความหวาดหวั่นกำลังกลืนกินตัวเธอ ทว่าความตื่นเต้นกับอารมณ์ปรารถนาที่ก่อขึ้นทำให้เธอไม่ได้รู้สึกกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยสักนิด เพราะตอนนี้มือทั้งสองข้างกำลังดึงรั้งชายเสื้อของเขาขึ้นสูง จนในที่สุดเขาก็ช่วยให้เธอกำจัดมันได้

แผ่นอกเรียบตึงไล่ลงมาจนถึงหน้าท้องที่แน่นขนัดด้วยกล้ามเป็นมัดๆ ทำให้ตาลหวานอดใจไม่ไหวจนต้องลูบไล้สัมผัสความแข็งแรงของเขาเบาๆ ปากที่แนบแน่นอยู่กับยอดอกสีเข้มเมื่อครู่เริ่มปาดป้ายไปตามลำคอ พร้อมกับทิ้งรอยแดงไว้ เช่นเดียวกับเขาที่กำลังบดขยี้จุดอ่อนไหวของเธอด้วยปลายนิ้ว สิ่งที่เขาทำกับสิ่งที่เธอกำลังทำให้เขาในเวลานี้ กำลังส่งผลให้เพลงรักทั้งคู่เร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ

อะไรที่กีดขวางอยู่ในตอนนี้ถูกดึงทึ้งไปกองอยู่ข้างฝาผนัง เพียงเนื้อกายของคนใต้ร่างเปลือยเปล่า ดินก็เป็นฝ่ายพลิกเรือนร่างแน่งน้อยขึ้น พร้อมๆ กับสอดส่งตัวตนให้ผสมผสานเป็นเนื้อเดียวกับของเธอ ฝ่ามือทั้งสองข้างหันมารองก้นงอนงามเพื่อบังคับไม่ให้คนเจ็บจนหน้าเหยเกบ่ายเบี่ยงหนี

เพียงเห็นน้ำตาของเธอรินไหล ชายหนุ่มก็ถึงกับหยุดชะงักสะโพกที่กำลังขยับอย่างกระแทกกระทั้น

พอเห็นเขาหยุดตาลหวานก็ช้อนแพขนตาชื่นฉ่ำขึ้นสบตา “ฉันยังบริสุทธิ์จนกระทั่งตอนนี้”

“ฉันรู้” ชายหนุ่มขยับปลายนิ้วปาดน้ำตาบนแก้มมนให้ “ฉันรู้แล้ว”

“ฉันดีใจที่ได้เป็นของคุณนะคะ”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทที่ ๑ คืนฝนพรำ(๑)
เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นในยามตีหนึ่งของคืนฝนตกแรง ไม่ได้ทำให้ผู้คนที่อยู่อาศัยในละแวกนั้นรู้สึกตัวตื่นเลยสักนิด ทุกๆ ชีวิตยังคงหลับใหลต่อไป ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของไร่ที่ยังคงก่ายกอดหมอนข้างและซุกหน้าเข้ากับหมอน ชายหนุ่มนอนอุ่นอยู่ภายในกระท่อมท้ายไร่ แถมยังดึงผ้าห่มมาคลุมจนมิดลำคออีก         ขณะที่ใครบางคนหลับสนิท อีกหนึ่งคนกำลังวิ่งลนลานไปตามทางมืดมิดอย่างไม่คิดชีวิต ปลายเท้าเปลือยเปล่าไร้รองเท้าห่อหุ้มวิ่งฝ่าเข้าไปในพงป่า มือเรียวบางแหวกต้นหญ้าที่ขวางกั้นเพื่อส่งตัวเองไปให้ไกลมากที่สุด ตาลหวาน ใจเสมอรัก ไม่คิดมาก่อนเลยว่าชีวิตวัยยี่สิบต้นๆ ของเธอจะซวนเซขนาดนี้ เธอไม่น่าเชื่อใจแฟนหนุ่มอย่างภาษิตเลยสักนิด เพราะการที่ไว้ใจเขาทำให้เธอต้องดิ้นรนหนีแทบเอาชีวิตไม่รอด         เสียงแฟนหนุ่มแว่วตามหลังมา ทำให้คนที่เจ็บจากการโดนกิ่งไม้ขีดข่วนได้แต่กัดฟันแน่น เธอจะไม่มีวันหันหลังกลับไปให้ผู้ชายคนนั้นย่ำยีเด็ดขาด ต่อให้ต้องตายก็จะดิ้นรนหนีจนสุดกำลัง         เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาทำให้ตาลหวานเผลอตัวกรีดร้อง และดูเหมือนเสียงของเธอจะทำให้คนไล่ล่ารู้ทิศทาง ตอนนี้จึงเอาแต่ดิ้นรนหนีเสียจนเสื้อผ้าถูกขีดข่วนจนขาดวิ่น เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลเคลียข้างแก้มลงมาอยู่ไม่หยุด แต่พอฝนเทกระหน่ำลงมากลับทำให้เจ้าของใบหน้าซีดเผือดดูมีความหวังขึ้น อย่างน้อยๆ เธอก็หวังว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่งจะสามารถลบร่องรอยของเธอจากผู้ชายระยำคนนั้นได้บ้าง และดูเหมือนมันจะได้ผลเพราะเสียงตะโกนชื่อของเธอค่อยๆ หายไปจนไม่ได้ยินอีกเลย         พอวิ่งจนเหนื่อยล้า หญิงสาวก็ยืนขาสั่นอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ดวงตาแดงก่ำเหลียวมองไปรอบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองยืนอยู่ตรงหน้าผา หันหลังกลับก็คงจะเจออันตรายจากผู้ชายคนนั้น เดินไปข้างหน้าก็คงจะตายเพราะตกลงไปในเหวลึก แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังคงออกแรงเดินต่อไป จนกระทั่งมองเห็นพืชพันธุ์ของชาวบ้านที่ปลูกไว้เรียงราย กับการถางหญ้าจนโล่งเตียนนั่นแหละถึงได้ใจชื้นขึ้น         ท่ามกลางความมืด ตาลหวานกำลังฉีกยิ้มทั้งน้ำตา เธอรู้สึกถึงการมีชีวิตรอด         ดังนั้นดวงตากลมโตจึงมองหาแสงไฟ เธอหวังเหลือเกินว่าจะพบกับแสงสว่างจากบ้านเรือนบ้างสักหลัง และดูเหมือนไกลสุดสายตานั้นจะมีแสงวิบวับจากตะเกียงสีเหลือง แม้มันจะเลือนรางและดูห่างไกลแต่เธอก็กัดฟันจนในที่สุดก็มาถึง         เสียงฟ้าสลับกับเสียงฝนยังคงดังต่อเนื่อง ถึงมันจะชวนให้หนาวเหน็บและตกใจกับฟ้าผ่าเปรี้ยงทว่ามันกลับทำให้ใบหน้าของตาลหวานแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม เธอมองทางรอดข้างหน้าอย่างมีความหวัง ก่อนจะตัดสินใจตะโกนเรียก         “ช่วยด้วยค่ะ มีใครอยู่ไหมคะ” ถึงแม้จะไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ทว่าเธอก็ยังคงร้องเรียกต่อไป “มีใครอยู่บ้างไหมคะ”         พอไร้เสียงตอบรับจริงๆ ใบหน้าของเธอจึงกลับมาเผือดสียิ่งกว่าเดิม ดูเหมือนความหวังของเธอจะริบหรี่ลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงแม้จะถูกไล่เธอก็จะพยายามขอเข้าไปหลบฝนด้านในให้ได้ ดังนั้นจึงเดินเท้าเปล่าขึ้นบันไดไปช้าๆ ทว่าเพียงขึ้นไปถึงขั้นที่สามเธอก็ต้องกรีดร้องดังลั่น เพราะจู่ๆ ประตูไม้ไผ่ที่ปิดตายเมื่อครู่มันก็เปิดผลัวะเผยให้เห็นใบหน้าของใครบางคน         เขาเหมือนคนที่เพิ่งหลุดออกมาจากถ้ำ หนวดเครายาวเฟื้อย ใบหน้ามีสีดำแต้มแต่ง เสื้อไม่ใส่แถมยังสวมกางเกงยีนขาดๆ พอเห็นเจ้าของกระท่อมเธอจึงรีบร้อนถอยลงบันไดจนตกลงมาก้นกระแทก         “โอ๊ย!”         เสียงร้องเหมือนหมาโดนเตะก้นแรงๆ นั้นทำให้เจ้าของกระท่อมได้แต่เพ่งมอง เธอเหมือนลูกเป็ดขี้เหร่เปียกปอนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แถมเนื้อตัวยังมอมแมมคล้ายเพิ่งไปฟัดกับหมาที่ไหนมา ท่าทางของเธอดูน่าสงสารก็จริงแต่เห็นแล้ว ดิน ภูพนาไพร ก็ถึงกับเหยียดปากใส่         “กลับไปซะ! ตอนนี้ฉันยังไม่ต้องการผู้หญิง ฉันเหนื่อย อยากนอน”         คนล้มเจ็บจนต้องส่งเสียงครางได้แต่จ้องมองคนอยู่บนกระท่อมตาปริบๆ         “ไปๆ เชิญไปขายให้คนอื่น ทำหน้าทำตาเวทนาแบบนั้นฉันว่าเธอขายได้ไม่ยากหรอก”         ตาลหวานกำลังคิดว่าคนตัวยักษ์ผู้พกใบหน้าเถื่อนๆ นั่น พูดอะไรกันแน่ ทว่าเขาก็ทำให้เธออ้าปากค้างขึ้นจนได้         “บอกว่ายังไม่อยากไง ไปขายตัวไกลๆ เลยไป๊”         จากที่หน้าซีดตัวสั่นด้วยความเจ็บปนหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเกรี้ยว เธอค่อยๆ ตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนทั้งๆ ที่เจ็บจนร้าวระบม พอยืนหยัดได้ก็ตวัดนัยน์ตาดำขลับมองเขาชนิดกินเลือดกินเนื้อ         “หยุดความคิดต่ำๆ ของคุณเดี๋ยวนี้นะ!”         เสียงแหวแว้ดที่ดังขึ้นทำให้เจ้าของกระท่อมถึงกับหรี่ตาแคบลง ดวงตาเข้มจัดนั้นกำลังเพ่งมองผู้หญิงตัวเปียกที่หาญกล้าลุกมาเอาเรื่องตัวเองด้วยความขบขัน เธอช่างหาญกล้าพูดเช่นนั้นในเมื่อสภาพไม่ได้ต่างจากโสเภณีที่เขาเคยเห็นเลย เสื้อผ้าขาดวิ่นแนบเนื้อเพราะเปียกฝนกับส่วนสัดอัดแน่นที่เห็นนั้น มันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเธอพยายามตะเกียกตะกายมาถึงที่นี่เพราะอะไร         “สงสัยเห็นหน้าฉันแล้วไม่อยากขายขึ้นมาสินะ แต่เสียใจด้วยเพราะว่าในพื้นที่ร้อยไร่นี้มีฉันเพียงคนเดียว”         “ต่อให้โลกทั้งใบมีแค่คุณเพียงคนเดียว ฉันก็จะไม่มีวันขายให้คุณ”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.0K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.5K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook