bc

ข้าขอหย่าแต่สามีกลับคลั่งรัก

book_age16+
1.1K
ติดตาม
5.3K
อ่าน
จบสุข
มีชู้
รักเพื่อน
หวาน
like
intro-logo
คำนิยม

ข้าขอหย่าสามีเพราะหวังหลีกเลี่ยงชะตากรรมที่ต้องตาย! ทว่าสามีกลับคิดว่าข้าต้องการความรัก จึงพยายามยัดเยียดร่างกายและหัวใจให้ข้าตลอดเวลา... (สะ...สามีท่านใกล้ชิดข้าเกินไปแล้ว!)

หัวใจเจ้ากรรมราวกับร่วงหล่นจากอกซ้ายลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้า ก่อนจะกระเด้งกระดอนเตลิดไปไกลเมื่อถูกริมฝีปากอุ่นร้อนแนบชิด

“อื้อ...”

เหลียงหลินฮวาพยายามจะร้องประท้วงทว่าการทำเช่นนั้นกลับเป็นการเปิดโอกาสให้สามีดันปลายลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากรสหวาน และนั่นทำให้หญิงสาวถึงกับระทวยอ่อนไปทั้งร่าง

หัวสมองขาวโพลนราวกับถูกเมฆหมอกสีขาวกดทับ ภายในท้องดั่งมีผีเสื้อนับร้อยพันกระพือปีกหมุนวนจนหน่วงหนึบ เรือนกายสั่นเทิ้มอ่อนแรง ลมหายใจขาดห้วงเมื่อเขาปล้นปลิดมันไปอย่างฉกฉวย

แต่ทันทีที่หญิงสาวได้สตินางก็ดิ้นรนขัดขืน พยายามใช้ฟันหมายจะกัดลิ้นสามีแต่คนตัวโตรู้ทันจึงได้ปล่อยริมฝีปากให้เป็นอิสระ รักษาลิ้นของตนไม่ให้ถูกกัดได้อย่างเฉียดฉิว

“ท่านโหว!”

ความโกรธทำให้หลินฮวาเงื้อมือหมายจะทำร้ายเขา ทว่าจางเซียวหยางกลับคว้ามือเล็กบอบบางแล้วตรึงมันไว้เหนือศีรษะก่อนจะกดเบียดริมฝีปากลงไปอีกครา แน่นอนว่าครานี้เขาไม่ได้สอดลิ้นเข้าไป แต่จงใจเบียดชิดขบเม้มริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเหย้าแย่

หูอื้อ ตาลาย หัวใจสั่น

เหลียงหลินฮวารู้สึกราวกับพื้นห้องโคลงเคลงจนแทบหยัดกายยืนไม่ไหว มึนเมาไปกับรสจูบช่ำชองของสามีจนอ่อนระทวยไปทั้งสรรพางค์กาย

ดังนั้นทันทีที่เขาถอนริมฝีปากและปล่อยนางออกจากอ้อมแขน ร่างเล็กบอบบางก็ถึงกับทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นราวกับไร้เรี่ยวแรงที่จะหยัดยืน

“เป็นจริงดังเจ้าว่า ภรรยาข้าหาใช่สตรีตายด้าน...”

หญิงสาวอ้าปากค้าง ด้วยไม่คิดว่าที่สามีจูบนางเป็นเพราะคำพูดของตนเอง ตะ...แต่ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์เลยสักนิด นั่นมันจูบแรกของข้านะ

จูบแรกของข้า!

“ข้าจะหย่ากับท่าน!”

ความโกรธทำให้นางตะคอกออกไปเสียงดัง และนั่นทำให้โหวหนุ่มยอบกายลงมาแล้วจับปลายคางของภรรยาสาวเอาไว้ ก่อนจะเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตากร้าวจริงจังจนคนตัวเล็กรู้สึกหวาดหวั่น

“ข้าไม่หย่า...”

“...”

เหลียงหลินฮวาอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก นิ้วมือสากที่จับปลายคางของนางค่อยๆ ถูไล้จากปลายคางไปยังนวลแก้มแผ่วเบา และนั่นทำให้หัวใจของคนตัวเล็กเต้นผิดจังหวะไปกับสัมผัสของผู้เป็นสามี

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ ท่านโหวได้โปรดหย่ากับข้า
บทนำ ท่านโหวได้โปรดหย่ากับข้า เราไม่ได้รักกัน เหลียงหลินฮวายืนอยู่เบื้องหน้าผู้เป็นสามีด้วยใบหน้าสงบเยือกเย็น ดวงตากลมโตหลุบลงต่ำเล็กน้อยอย่างรักษามารยาทหาใช่อาการขลาดเขินหวาดกลัวเฉกเช่นที่ผ่านมา มือทั้งสองข้างผสานกันไว้บริเวณหน้าท้องด้วยท่าทางสบายๆ หาใช่มือที่บีบแน่นสั่นชื้นไปด้วยเหงื่อแห่งความหวาดหวั่น โหวจางเซียวหยางเงยหน้าขึ้น คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบมองหนังสือหย่าบนโต๊ะที่ภรรยานำมาวางไว้ก่อนที่นางจะก้าวถอยหลังไปสามก้าว แล้วหยุดอยู่เบื้องหน้าเขาอย่างรอคอยคำตอบ โหวหนุ่มไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใด มีเพียงปลายนิ้วเรียวยาวที่เคาะลงบนโต๊ะอย่างไม่เป็นจังหวะฉายชัดว่าเขากำลังคิดคำนวณอะไรบางอย่างอยู่ภายในใจ มีอะไรบางอย่างแปลกไป ความสงสัยกระจ่างชัดเมื่อเขามองสำรวจภรรยาสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า ท่าทางที่เปลี่ยนไป แววตาที่เปลี่ยนไป ท่าทางกิริยาที่เปลี่ยนไป ภรรยาที่ทำให้เขาหงุดหงิดอยู่เสมอๆ เมื่อต้องเข้าใกล้ แค่พูดคุยด้วยไม่กี่คำนางก็สะดุ้งจนตัวสั่น ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นสบตาสามี หากเขายื่นมือไปใกล้ๆ นางก็จะงองุ้มไหล่ก้มหน้าแทบจะเป็นลมล้มพับลงไปต่อหน้าต่อตา แต่แล้วหญิงผู้นี้ใช่ภรรยาของเขาแน่หรือ... ดวงตากลมโตมีประกายดื้อรั้น เรียวปากอวบอิ่มคล้ายหยักยิ้มน้อยๆ ฉายชัดถึงความมั่นใจและความทะนงตน ปลายคางได้รูปเชิดขึ้นดูน่าค้นหา สตรีผู้นี้ใช่ ‘เหลียงหลินฮวา’ ภรรยาที่มารดาจัดหามาให้เขาตบแต่งใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันใต้ชายคาฉันสามีภรรยามากว่าหนึ่งปีแน่หรือ นางคือภรรยาคนที่สองที่มารดาจัดหาให้ คนแรกคือ ‘กงรั่วหลาน’ สุภาพสตรีเรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือนไม่เคยขาดตกบกพร่อง แม้จะแต่งงานโดยปราศจากความรัก แต่นางก็เป็นภรรยาที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี แต่งงานเพียงเดือนเดียวก็ตั้งครรภ์ทายาทชายให้แก่สกุลจาง แต่โชคร้ายหยินหยางในร่างกายแปรปรวน นางเสียเลือดมากจนสิ้นใจตายโดยไม่ทันได้กอดบุตรที่เพิ่งคลอดเลยสักครา สิริรวมเวลาที่ครองคู่เป็นสามีภรรยากันเพียงแค่สิบเดือนเท่านั้น นับว่าเป็นช่วงเวลาแสนสั้นจนน่าใจหาย ฮูหยินผู้เฒ่าจางที่เพิ่งกลายเป็นท่านย่าเห็นว่าหลานชายเติบโตขึ้นมาอย่างว้าเหว่ขาดมารดาคอยเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน จึงได้จัดหาภรรยาคนใหม่ให้แก่บุตรชาย เพราะตัวเขานั้นปราศจากความสนใจสตรีโดยสิ้นเชิง ไม่มีความรักให้สตรีใด และไม่เคยพึงใจสตรีใดเช่นกัน เขาเพียงแต่ทำหน้าที่ของสามี เลี้ยงดูภรรยา ให้เกียรติภรรยา และยกย่องภรรยาตามกาลสมควร ทว่าเหลียงหลินฮวากลับทำให้เขาหงุดหงิดอยู่เสมอ เพราะท่าทางหวาดกลัวราวกับเขาเป็นปีศาจชั่วช้า จึงทำให้เขาไม่เคยย่างกรายไปค้างที่เรือนนอนของนางเลยสักครา ฮูหยินผู้เฒ่าจางแอบลอบถอนหายใจอยู่เนืองๆ ที่ลูกสะใภ้ไม่เป็นไปดั่งใจทั้งที่เป็นบุตรสาวของสหายสนิท เคยเห็นมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ว่าเป็นเด็กร่าเริงสดใส ช่างพูดช่างจำนรรจา ฮูหยินผู้เฒ่าจึงหวังอยากให้ความสดใสของหญิงสาวช่วยเยียวยาหัวใจของบุตรชายและหลานตัวน้อย แต่ไม่คิดเลยว่าเมื่อโตเป็นสาวจะเปลี่ยนไปกลายเป็นสตรีมืดมนเช่นนี้ อีกทั้งลูกสะใภ้ยังไม่เคยเข้าหาเด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบเลยสักครา สายตาของนางยามที่มองเด็กชายนั้นว่างเปล่าปราศจากความเมตตาเอ็นดู จนฮูหยินผู้เฒ่าจางร่ำๆ จะรับอนุภรรยาเพิ่มให้บุตรชาย แต่ครานี้โหวเซียวหยางไม่ได้ตามใจมารดาเช่นทุกครั้ง เพราะเขาอยากทุ่มเทความสนใจให้กับงานราชการและการเลี้ยงดูบุตรชายเพียงคนเดียว แทนที่จะต้องมายุ่งวุ่นวายกับเหล่าสตรีที่ยิ่งมีมากก็ยิ่งน่าปวดหัวมากขึ้น ซึ่งเขาเคยเห็นตัวอย่างจากบิดาผู้ล่วงลับมาแล้ว บิดามีอนุภรรยาถึงเจ็ดคนทำให้จวนร้อนดั่งไฟ การเมืองภายในจวนนั้นห้ำหั่นไม่ต่างจากสมรภูมิรบ ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าหวาดหวั่น “ท่านโหวได้โปรดหย่ากับข้าเถอะเจ้าค่ะ” น้ำเสียงหวานใสกังวานทำให้คนตัวโตที่จมจ่อมสู่ห้วงภวังค์ความคิดกะพริบตาช้าๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองภรรยาอีกครั้ง นี่อาจเป็นครั้งแรกที่เขาได้มองใบหน้าของนางชัดๆ โดยที่นางไม่ก้มหน้าหลบตาเขาด้วยเนื้อตัวสั่นเทาราวกับกระต่ายกลัวเสือร้าย “เหตุใดเจ้าจึงจะหย่ากับข้า” “เพราะข้าไม่ได้รักท่าน และท่านไม่ได้รักข้า ดังนั้นไม่จำเป็นที่เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยาอีกต่อไป ได้โปรดประทับตราลงบนหนังสือหย่า และปล่อยข้าเป็นอิสระด้วยเถอะเจ้าค่ะ” อา...สตรีผู้นี้พูดจาฉะฉานถึงเพียงนี้เชียวหรือ ความมั่นใจในน้ำเสียง แววตาที่เด็ดเดี่ยว เป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ทำให้โหวเซียวหยางถึงกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ “กับภรรยาคนก่อนข้าก็ไม่ได้รัก แต่ก็ครองเรือนดั่งสามีภรรยาจนมีบุตรด้วยกันได้ การไร้รักไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในสังคมเสียหน่อย สิ่งสำคัญในการครองคู่คือการทำหน้าที่ของตนเองอย่างไม่ขาดตกบกพร่องต่างหาก” โหวหนุ่มพูดอย่างไม่อนาทรร้อนใจ ทว่าดวงตาของเขานั้นยังคงจับจ้องไปยังใบหน้าหวานงามล้ำของภรรยา หัวใจดวงโตแอบกระตุกเล็กน้อย เมื่อเห็นว่านางหยักยิ้มอย่างเหยียดหยันที่มุมปากราวกับชิงชังคำพูดของเขา ช่างเป็นรอยยิ้มที่แสนยโสโอหังยิ่งนัก แต่ว่ารอยยิ้มนี้กลับดึงดูดใจเขาอย่างน่าประหลาดเสียเหลือเกิน นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่มีสตรีใดทำให้หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะได้เลยสักคน ราวกับว่ามันด้านชาไร้ความรู้สึกเสียกระนั้น “บุรุษรูปงามผู้มีฐานะมั่นคงเช่นท่านโหวย่อมต้องหาสตรีที่ดีพร้อมและพึงใจในตัวท่านได้อีกมากมาย ได้โปรดคืนอิสระให้แก่ข้าที่ไม่พึงใจในตัวท่านด้วยเถอะเจ้าค่ะ” หลิวฮวายังคงประกาศเจตนารมณ์ว่าหัวเด็ดตีนขาดนางก็ต้องหย่ากับท่านโหวจางให้จงได้ อีกทั้งยังย้ำชัดว่านางไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาผู้เป็นสามีเลย “นั่นสินะ เป็นดังที่เจ้าเอ่ย...” โหวหนุ่มพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดวงตาคมมีประกายวิบวับ เรือนผมสีดำขลับที่ปล่อยสยายเต็มแผ่นหลังเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลตามจังหวะการเยื้องย่างของบุรุษที่ขึ้นชื่อว่ารูปงามดุจเทพเซียน “เจ้าอยากหย่ากับข้าจริงๆ หรือเพียงน้อยใจที่ข้าไม่เคยไปหาเจ้าที่เรือนกันแน่เล่า” คำพูดยียวนทั้งที่ใบหน้าคมคร้ามสงบนิ่ง สองเท้ายังคงก้าวย่างเข้าหาภรรยาสาวจนนางต้องก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว “อ๊ะ!” เหลียงหลินฮวาเผลออุทานออกมาเมื่อนางถอยจนแผ่นหลังชนเข้ากับตู้ตำรา และนั่นทำให้ตำราเล่มหนึ่งบนชั้นสูงร่วงลงมา ทว่าคนตัวโตกลับยกมือขึ้นรับมันเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่ตำราเล่มนั้นจะร่วงกระแทกลงบนศีรษะของคนตัวเล็ก ตึก! ตึก! ตึก! หญิงสาวใจเต้นแรง ตกใจที่ตำราจะร่วงหล่นงั้นหรือ เปล่าเลย...หัวใจกำลังเต้นระส่ำเพราะความใกล้ชิดเกินไปของสามีต่างหาก นางหลุบเปลือกตาลงด้วยไม่อยากสบตาเขา แต่สายตากลับปะทะเข้ากับแผงอกเปลือยเปล่า เครื่องนุ่งห่มลำลองในฤดูร้อนของโหวหนุ่มนั้นช่างบางเบาและเปิดกว้างอย่างเอื้ออาทรแก่สายตาของสตรีน้อยใหญ่เสียเหลือเกิน อาภรณ์สีดำขับกับผิวขาวที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนันแน่นทำให้หลิวฮวารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องจนเผลอกัดริมฝีปากแน่น หะ...หัวนมสีชมพู! เหลียงหลินฮวาถึงกับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ หมดกันท่าทางสุขุมที่นางซุ่มซ้อมมาเป็นอย่างดี พอถูกหัวนมชมพูล่อหลอกกระแทกตากิริยาอาการก็พลันเก้อกระดากเขินอายไปเสียสิ้น ‘นางกำลังเขินอายงั้นหรือ ช่างเป็นมุมมองแปลกใหม่เสียจริง’ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของภรรยาสาว โหวหนุ่มที่เหนื่อยล้ากับเอกสารที่กองท่วมศีรษะจึงตั้งใจจะหยอกเย้านางเพื่อคลายเบื่อ ยิ่งใบหน้าของนางแดงระเรื่อสลับซีดขาวยิ่งทำให้เขาเผลอหยักยิ้มที่มุมปากโดยไม่รู้ตัว “ทะ....ท่านโหว ดะ...ได้โปรดถอยไป” “ถอยหรือ” เขาย้อนถามอย่างยียวนอีกทั้งยังเบียดกายแนบชิดมากยิ่งขึ้น และนั่นทำให้หลินฮวาอยากจะกรีดร้องออกมาเสียให้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นนางก็รวบรวมสติที่แตกกระเจิงแล้วเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ อย่างถือดี “เจ้าค่ะได้โปรดถอย” “ภรรยาผู้ไม่พึงใจสามี เหตุใดจึงหน้าแดงเช่นนี้เล่า” “ข้าไม่พึงใจท่าน แต่ข้าก็หาใช่สตรีตายด้านไร้ความรู้สึกนี่เจ้าคะ บุรุษรูปงามกล้ามแน่นเบียดเข้าหาขนาดนี้ ข้าก็แค่เขินอายตามประสาสตรีที่ยังมีเลือดเนื้อ ซึ่งนั่นหมายความว่าข้าสามารถหน้าแดงกับบุรุษใดก็ได้ที่หล่อเหลาเจ้าค่ะ” ตอบสะบัดพลางเบือนหน้ามองไปทางขวา ควบคุมสายตาไม่ให้จดจ่อไปยังหัวนมสีชมพู กล้ามเนื้อที่แน่นเปรี๊ยะเป็นลอนงดงาม และปลายคางตัดได้รูปที่มีหนวดเคราเป็นตอเขียวๆ ที่แสนเย้ายวนหัวใจสตรี “ช่างปากคอเราะรายเสียจริง ไม่ยักรู้ว่าภรรยาข้ามีวาจาเชือดเฉือนดุจคมกระบี่เช่นนี้” “ข้าหาได้อยากต่อความยาวกับท่าน ข้ามาเพื่อต้องการให้ท่านประทับตราลงบนหนังสือหย่าเท่านั้น ขอท่านโหวโปรดพิจารณาด้วย” เหลียงหลินฮวาเพิ่งรู้ตัวว่านางตัดรอนสามีเกินไป บางทีการใช้ไม้แข็งอาจไม่เหมาะกับบุรุษใจกระด้างผู้ชื่นชอบการร่ายรำกระบี่สังหารสรรพชีวิต ไม้อ่อนอาจเป็นทางออกที่ทำให้นางได้รับอิสระหลุดพ้นจากชะตาชีวิตที่ถูกกำหนดให้ต้องตายก็เป็นได้ ทว่าจังหวะที่นางเงยหน้าขึ้นเพื่อหมายจะเจรจากับสามี เขากลับโน้มใบหน้าลงมาแล้วปล้นปลิดเรียวปากของนางโดยไม่ทันตั้งตัว

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook