บทที่ 1
ข้าไม่หย่ากับเจ้า
ไม่ตายด้าน
หัวใจเจ้ากรรมราวกับร่วงหล่นจากอกซ้ายลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้า ก่อนจะกระเด้งกระดอนเตลิดไปไกลเมื่อถูกริมฝีปากอุ่นร้อนแนบชิด
“อื้อ...”
เหลียงหลินฮวาพยายามจะร้องประท้วงทว่าการทำเช่นนั้นกลับเป็นการเปิดโอกาสให้สามีดันปลายลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากรสหวาน และนั่นทำให้หญิงสาวถึงกับระทวยอ่อนไปทั้งร่าง
หัวสมองขาวโพลนราวกับถูกเมฆหมอกสีขาวกดทับ ภายในท้องดั่งมีผีเสื้อนับร้อยพันกระพือปีกหมุนวนจนหน่วงหนึบ เรือนกายสั่นเทิ้มอ่อนแรง ลมหายใจขาดห้วงเมื่อเขาปล้นปลิดมันไปอย่างฉกฉวย
แต่ทันทีที่หญิงสาวได้สตินางก็ดิ้นรนขัดขืน พยายามใช้ฟันหมายจะกัดลิ้นสามีแต่คนตัวโตรู้ทันจึงได้ปล่อยริมฝีปากให้เป็นอิสระ รักษาลิ้นของตนไม่ให้ถูกกัดได้อย่างเฉียดฉิว
“ท่านโหว!”
ความโกรธทำให้หลินฮวาเงื้อมือหมายจะทำร้ายเขา ทว่าจางเซียวหยางกลับคว้ามือเล็กบอบบางแล้วตรึงมันไว้เหนือศีรษะก่อนจะกดเบียดริมฝีปากลงไปอีกครา แน่นอนว่าครานี้เขาไม่ได้สอดลิ้นเข้าไป แต่จงใจเบียดชิดขบเม้มริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเหย้าแย่
หูอื้อ ตาลาย หัวใจสั่น
เหลียงหลินฮวารู้สึกราวกับพื้นห้องโคลงเคลงจนแทบหยัดกายยืนไม่ไหว มึนเมาไปกับรสจูบช่ำชองของสามีจนอ่อนระทวยไปทั้งสรรพางค์กาย
ดังนั้นทันทีที่เขาถอนริมฝีปากและปล่อยนางออกจากอ้อมแขน ร่างเล็กบอบบางก็ถึงกับทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นราวกับไร้เรี่ยวแรงที่จะหยัดยืน
“เป็นจริงดังเจ้าว่า ภรรยาข้าหาใช่สตรีตายด้าน...”
หญิงสาวอ้าปากค้าง ด้วยไม่คิดว่าที่สามีจูบนางเป็นเพราะคำพูดของตนเอง ตะ...แต่ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์เลยสักนิด นั่นมันจูบแรกของข้านะ
จูบแรกของข้า!
“ข้าจะหย่ากับท่าน!”
ความโกรธทำให้นางตะคอกออกไปเสียงดัง และนั่นทำให้โหวหนุ่มยอบกายลงมาแล้วจับปลายคางของภรรยาสาวเอาไว้ ก่อนจะเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตากร้าวจริงจังจนคนตัวเล็กรู้สึกหวาดหวั่น
“ข้าไม่หย่า...”
“...”
เหลียงหลินฮวาอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก นิ้วมือสากที่จับปลายคางของนางค่อยๆ ถูไล้จากปลายคางไปยังนวลแก้มแผ่วเบา และนั่นทำให้หัวใจของคนตัวเล็กเต้นผิดจังหวะไปกับสัมผัสของผู้เป็นสามี
“ที่ผ่านมาข้าบกพร่องในการทำหน้าที่สามีไม่น้อย ดังนั้นอีกสามวันข้าจะไปหาเจ้าที่เรือน ขอเวลาข้าจัดการเอกสารเหล่านี้ให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน”
“หา!”
หญิงสาวส่งเสียงออกมาราวกับได้ยินสิ่งที่ไม่อยากได้ยินที่สุด
“ไม่ต้องเตรียมตัวให้มากมายเพื่อรอต้อนรับข้า ไม่ต้องมากพิธีการขัดสีฉวีวรรณพรำน้ำอบหรอกนะ เพราะกลิ่นสาบสาวจากตัวเจ้าถูกใจข้ายิ่งกว่าน้ำอบกลิ่นใดๆ”
“หา!”
หญิงสาวอ้าปากค้างเอ่ยออกมาด้วยคำเดิมราวกับถูกสาปให้บ้าใบ้ไปเสียแล้ว นางไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนี้ นางต้องการหย่า มาพูดคุยกับสามีเพื่อหย่า ไม่ได้มาพบสามีเพื่อเรียกร้องให้เขาไปนอนด้วย
มะ...มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ!
“ขะ...ข้าแค่ต้องการหย่า ข้าต้องการอิสระ ข้าไม่อยากเป็นภรรยาของท่าน”
เหลียงหลินฮวาพยายามหยัดกายลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก บ้าจริง! แค่ถูกจูบร่างกายต้องอ่อนแรงถึงขนาดนี้เชียวเหรอ!
“ข้าไม่มีวันหย่ากับเจ้าหรอกนะหลินฮวา แต่ข้าจะพยายามทำหน้าที่สามีไม่ให้ขาดตกบกพร่องเพื่อเป็นการชดเชยที่ละเลยเจ้ามาตลอด”
ใบหน้าของหญิงสาวซีดขาวกว่าเดิมเมื่อได้ยินสิ่งที่โหวหนุ่มเอื้อนเอ่ยออกมา
“ข้าไม่ได้ต้องการให้ท่านทำหน้าที่สามี”
“แต่ข้าต้องการทำหน้าที่สามี”
“...”
เรียวปากอ้ากว้าง ดวงตากลมโตเบิกกว้างกว่าเดิม คะ...คำตอบของโหวหนุ่มตีความหมายได้ว่า เขาอยากหลับนอนกับนางงั้นหรือ!
“เมื่อครู่เราทั้งสองก็เข้ากันได้ดีมิใช่หรือ ไม่แน่ว่าหากข้าตั้งใจทำหน้าที่สามีเจ้าอาจตั้งครรภ์โดยเร็ว เสี่ยวจ้าวจะได้มีน้องเสียที”
“...”
ปากที่อ้าค้างหุบฉับ ใบหน้าแดงก่ำราวกับจับไข้ นางหมุนตัวก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องทำงานของสามีโดยไม่ลา แล้วทันทีที่ประตูทั้งสองบานปิดเข้าหากันสนิท หญิงสาวก็ส่งเสียงออกมาราวกับอัดอั้นตันใจ
“อ๊าก! ไอ้บ้า!”
เสียงนั่นทำให้คนตัวโตถึงกับกระตุกยิ้มที่มุมปากด้วยความสนเท่ห์
“ไม่ยักรู้ว่าภรรยาข้ามีพลังชีวิตที่โชติช่วงดั่งเปลวเพลิงเช่นนี้ ดูเหมือนว่าข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าเลยสินะหลินฮวา...”
พูดพลางยอบกายลงนั่งบนเก้าอี้ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากของตนเองที่ยังคงกรุ่นกลิ่นหอมหวานจากเรียวปากนุ่มนิ่มของภรรยาไม่สร่างซา
แรกทีเดียวเขาก็แค่อยากแกล้ง อยากเอาชนะ ยิ่งเห็นท่าทางจองหองมั่นอกมั่นใจเขาก็ยิ่งอยากเย้าแหย่ แต่พอได้ ‘จูบ’ เหตุใดเขาจึงรู้สึกต้องการมากขึ้นเล่า เนื้อตัวนุ่มนิ่มในอ้อมกอดทำให้สัตว์ร้ายในกายตื่นขึ้นอย่างหื่นกระหาย และมันทำท่าจะตระกรุมตระกรามเสียด้วย
“หรือเพราะข้าร้างราสตรีมานานเกินไป...”
โหวจางเซียวหยางหาเหตุผลให้กับการกระทำของตนเอง ก่อนจะหวนคิดถึงใบหน้าหวานๆ ที่แดงระเรื่อของภรรยาด้วยความรู้สึกหลากหลาย
“แปลก...ราวกับไม่ใช่ภรรยาที่ข้าเคยรู้จัก เกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่ เหตุใดนางจึงเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้”
คิดพลางสั่นกระดิ่งเรียกหาสาวใช้ให้ไปตามพ่อบ้านมาพบเพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง จะได้รู้ว่าสิ่งใดทำให้ภรรยาเปลี่ยนไป
“ราวๆ สิบห้าวันก่อน ช่วงที่ท่านโหวเดินทางไปต่างแดน ฮูหยินได้พยายามฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอกับขื่อขอรับ ตอนที่สาวใช้ไปพบผ้าบางส่วนขาดออกจากกันจึงทำให้ร่างของฮูหยินร่วงตกลงมา นอนสลบไปถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนจึงฟื้นคืนขอรับ”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อได้ฟังรายงานจากพ่อบ้านกง มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในจวนแต่เขากลับไม่รู้เลย มิน่าเล่าเขาสังเกตเห็นว่าที่ลำคอของนางมีรอยช้ำ ที่แท้ก็เป็นรอยช้ำจากการพยายามผูกคอตายนี่เอง
“เหตุใดจึงไม่มีใครรายงานเรื่องนี้แก่ข้า”
“ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ให้รายงานเรื่องนี้แก่ท่านโหวขอรับ เพราะเกรงว่าจะทำให้ท่านโหวไม่สบายใจ อีกทั้งยัง...”
พ่อบ้านกงอึกอักคล้ายลำบากใจที่จะพูด
“มีอะไรที่ข้าควรจะรู้อีก!”
“เพราะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกขอรับ หนึ่งปีมานี้ฮูหยินพยายามฆ่าตัวตายกว่าสี่ครั้งแล้วขอรับ ไม่ว่าจะเป็นกระโดดน้ำในสระ กรีดข้อมือ กินยาพิษ และครั้งล่าสุดผูกคอตายขอรับ”
“อะไรนะ!”
ชายหนุ่มถึงกับทวนถามราวกับไม่เชื่อหู เรื่องราวต่างๆ ภายในจวนมารดาของเขาเป็นคนจัดการทั้งหมด มิได้ส่งมอบหน้าที่ให้กับฮูหยินคนใหม่ นั่นเพราะเหลียงหลินฮวาเป็นสตรีพูดน้อย เก็บตัว และมีลักษณะท่าทางที่น่าหดหู่จนไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรือพูดคุยด้วย จึงไม่เหมาะแก่การปกครองจวน ดูแลบ่าวไพร่นับร้อย
นางเหมือนสตรีที่ยืนอยู่ท่ามกลางเมฆฝนมืดครึ้ม เรือนกายเปียกปอนด้วยหยาดฝนชุ่มโชก ก้มหน้าต่ำอย่างคนอมทุกข์เศร้าหมอง หลบสายตาผู้คนดั่งไม่ต้องการเสวนากับมนุษย์หน้าไหน
แต่...
จากที่เขาได้พบนางในวันนี้ นางไม่มีลักษณะเช่นนั้นเลย นางดูแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ราวกับสตรีที่ยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี ดวงตาของนางเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งชีวิต เสมือนดวงอาทิตย์ที่แผดจ้ายามเที่ยงวัน ร้อนแรงพร้อมจะแผดเผาทุกสรรพสิ่งให้กลายเป็นจุน ทว่าแสงจากดวงอาทิตย์นั้นก็พร้อมจะให้ไออุ่นกับทุกสรรพชีวิตเช่นกัน
“ให้สาวใช้คอยดูแลนางอย่างใกล้ชิดด้วย อย่าให้นางคิดสั้นทำร้ายตนเองอีก”
“ขอรับท่านโหว”
พ่อบ้านกงค้อมรับคำสั่งอย่างนอบน้อม อดแปลกใจไม่น้อยที่เจ้านายหนุ่มสนใจภรรยาสาวที่แต่งงานกันมาหนึ่งปีแต่ไม่เคยร่วมเตียงกันสักครั้ง
โหวหนุ่มเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ยกนิ้วขึ้นบีบสันจมูกแรงๆ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของมารดาซึ่งเป็นภรรยาเอกท่ามกลางอนุภรรยาถึงเจ็ดคน ทุกคนล้วนมีบุตรสามถึงสี่คนเป็นอย่างน้อย ทว่ามารดาของเขากลับมีเขาเพียงคนเดียวอีกทั้งยังเป็นบุตรที่เกิดตอนที่มารดาเริ่มอายุมากและสิ้นหวังที่จะให้กำเนิดบุตรสืบสกุลไปเสียแล้ว
ท่านจึงรักและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเขา และนี่คงเป็นสาเหตุที่มารดาปิดบังเรื่องราวของเหลียงหลินฮวาไม่ให้เขารับรู้
ชายหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้น หวนคิดถึงใบหน้าหวานของเหลียงหลินฮวา
‘เจ้ารู้สึกคับข้องใจสิ่งใดกัน ถึงขั้นต้องพยายามปลิดชีวิตของตนเองเช่นนี้เล่า...’