เพราะความโกรธชั่ววูบทำให้ "พุฒิเมธ" บังคับยัดเยียดความเป็น "ผัว" ให้ "ศรีญา" และเพราะความโกรธนี้ทำให้เกิดหนึ่งชีวิตขึ้นมา แต่ทุกอย่างมันไม่ง่าย เมื่อดอกกุหลาบดอกนี้ไม่ต้องการความรับผิดชอบจากพ่อของลูก.....
++++
“พี่พุฒบ้าไปแล้ว”
“นั่นสิ ฉันบ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน และคนที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ก็คือนาง พี่สาวของเธอไงน้อง และฉันบอกแล้วไงว่าเธอต้องรับผิดชอบที่ช่วยพี่สาวเธอกับผู้ชายหนีฉันไป มันก็ถูกต้องแล้วนี่ที่เธอต้องรองรับความต้องการของฉันแบบนี้ เธอต้องรับผิดชอบ”
คำว่า ‘รับผิดชอบ’ อีกแล้วที่เขาพูดใส่หน้าของเธอ ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ผิดอะไร แต่ทำไมต้องเป็นเธอกันที่ต้องมารับผิดชอบเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น จริงอยู่ที่เป็นคนช่วยพี่สาวในการหนีครั้งนี้ แต่แล้วทำไมพุฒิเมธถึงยัดเยียดความผิดทุกอย่างให้เธอรับผิดชอบ
“น้องผิดที่ช่วยพี่นางหนีงานแต่งงาน แต่ก็แค่ข้อหาเดียวเท่านั้น แล้วทำไมพี่พุฒถึงต้องข่มเหงรังแกน้องแบบนี้ด้วย ทำไมพี่พุฒถึงทำให้ร่างกายของน้องเปื้อนราคี”
“แล้วยังไง ยุคสมัยนี้ใครเขาแคร์เขาสนสาวพรหมจรรย์กันล่ะ เนี่ยมันยุคไหนแล้ว มันก็แค่พรหมจรรย์ สมัยนี้ผู้หญิงที่ไหนเขาเก็บพรหมจรรย์ไว้ตอนแต่งงานกัน ไม่มี! อะ...อื้อ” จบคำพูดของเขาปากหนาก็ทาบทับปิดปากน้อยของคนใต้ร่างที่กำลังจะตอบกลับคำพูดของตนเอง เรียวลิ้นอุ่นร้อนซอกซอนเข้าไปในโพรงปากแสนหวาน มือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างเปราะบางของสาวเจ้าเล้าโลมสวาท....
++++
“ไม่นะน้อง ที่ผ่านมาพี่ทำร้ายน้อง พี่รู้ แต่น้องให้โอกาสพี่นะ” เขาคว้าจับมือเล็ก แต่ถูกมือน้อยสะบัดทิ้งอย่างรังเกียจ
“รู้ไหมคะ สิ่งที่พี่พุฒทำ ไม่ได้ทำให้แค่ใจน้องเจ็บ แต่มันเจ็บไปทั้งตัว เพราะความเห็นแก่ตัวของพี่!” เธอยกมือขึ้นทุบอกตัวเองแล้วก็ยกขึ้นปาดป้ายเช็ดน้ำตาทิ้ง ก่อนจะเม้มปากแน่นหมุนหันหลังจะเดินจากไป แต่ก็ถูกคนใจร้ายสวมกอดรั้งไว้จากด้านหลัง
“ขอโทษ พี่ขอโทษน้อง” คนปากหนักเอ่ยขอโทษข้างแก้มนวลชื้นน้ำตาแล้วซบหน้ากับไหล่เล็กที่ไหวสะอื้น กลัวเหลือเกินว่าถ้าปล่อยศรีญาไปตอนนี้ ตัวเองจะไม่ได้ใกล้ชิดอีก “ตลอดเวลาที่ผ่านมา น้องยอมพี่ตลอด แล้วทำไมวันนี้น้องถึงทิ้งพี่ไปง่ายๆ แบบนี้ น้องไม่คิดถึงวันเวลาที่เรามีร่วมกันเหรอ”
“ปล่อยน้องค่ะ และที่พี่พุฒบอกว่าน้องยอมตลอด เพราะน้องมันง่ายและโง่ยังไงคะ และน้องก็คิดมาตลอดว่าจะจบความสัมพันธ์นี้ของเราและวันนี้ก็มาถึง ส่วนวันเวลาที่มีร่วมกัน น้องไม่คิดถึงมันค่ะ เพราะมันเต็มไปด้วยความทุกข์ความเจ็บปวด” เธออยากได้ยินคำ ‘ขอโทษ’ ของพุฒิเมธมาตลอด แต่วันนี้มันไม่สำคัญอะไรแล้วสำหรับศรีญา ใจของเธอมันเจ็บและพังไปแล้ว และคนที่ทำให้มันเจ็บปวดและพังจนไม่สามารถต่อติดได้อีกก็คือเขาเอง
“ไม่เอาน้อง ไม่ไปนะคนดีของพี่” พุฒิเมธกอดรัดเธอแน่นขึ้นเมื่อเธอดิ้นขัดขืนและพยายามแกะมือที่ประสานกอดแน่นที่หน้าท้องของศรีญาออก
“ปล่อยน้องพี่พุฒ ยังไงน้องกับพี่พุฒก็ไม่ได้แต่งงานจดทะเบียนกันอยู่แล้ว ส่วนความรู้สึกของน้องที่ผ่านมาถือว่ามันไม่เคยมีก็แล้วกันพี่พุฒ ส่วนลูก น้องจะบอกเขาว่าใครเป็นพ่อและพี่ไปหาเขาได้ค่ะ ส่วนเรื่องผู้ใหญ่ น้องจะพูดกับพวกท่านเองค่ะ ส่วนเราสองคนก็ให้มันจบเท่านี้พอค่ะ ลาก่อนพี่พุฒคนใจร้าย ส่วนเรื่องของพี่กับพี่นาง น้องจะไม่ขอยุ่งเกี่ยว”
แล้วเธอก็รวบรวมแรงทั้งหมดดึงมือของพุฒิเมธออกแล้วเดินจากไปด้วยใบหน้านองน้ำตา ศรีญาไม่คิดแม้แต่จะหันกลับไปมองพุฒิเมธด้วยกลัวว่าตนเองจะใจอ่อนวิ่งกลับไปหาเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เธอขอทำเพื่อตัวเอง เมื่อก่อนเธอทำเพื่อคนอื่นมาเยอะแล้ว
พุฒิเมธได้แต่ยืนมองดูแผ่นหลังเล็กที่ห่างออกไปเรื่อยๆ แล้วก็แหงนเงยหน้าขึ้นมองบนด้วยน้ำตาที่คลอดวงตาสีสนิมเข้มกำลังจะไหลล้นทะลักออกมา มันต่างจากตอนที่ศิตาพรหนีงานแต่งงาน ตอนนั้นในใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นต่างจากตอนนี้ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมานจนแทบทรงตัวไม่ไหว
“ทำไมน้องไม่ให้โอกาสพี่อีกครั้ง น้องหมดรักพี่แล้วจริงๆ เหรอ”
เขาพึมพำกับตัวเองแล้วนึกย้อนถึงอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยคิดว่าตนเองจะมีสภาพแบบวันนี้ เคยคิดมาตลอดว่าศรีญาเป็นของตายที่ตนควบคุมได้ แต่วันนี้เธอทำให้เขาเหมือนโดนค้อนทุบแสกหน้าก็มิปาน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วจนตั้งรับไม่ทัน หรือศรีญาตั้งใจไว้นานแล้วที่จะทิ้งเขาไปแบบนี้ และยิ่งเจ็บปวดเมื่อรู้ว่าเธอกำลังอุ้มท้องลูกของตนอยู่