เรื่องราวโดย yochita-uri
author-avatar

yochita-uri

เกี่ยวกับquote
นามปากกา yochita-uri ค่ะ สัญญาชาติไทย เพศหญิง อายุ 35 ปี มีผลงาน 9 เรื่องค่ะ 1 ภาคิน 2 อีเดน 3 คาเรนเทีย 4 อ้อมกอดซาตานเฝ้ารัก 5 อ้อมกอดอสูรไร้ใจ 6 อ้อมกอดเล่ห์จอมมาร 7 อ้อมกอดเจ้าชายลวง 8 รอยราคีมาร 9 อุ้มรักอสูรเถื่อน
bc
อุ้มรักจอมบงการ
อัปเดตเมื่อ Sep 3, 2024, 18:52
"กลับเข้าไปในบ้าน" ขุนพันบอกด้วยสีหน้าตึงๆ เขมมิกาสะบัดแขนของอีกฝ่ายออก ขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้มนวลเป็นทาง "ฮึก...ไม่! หนูจะขายไร่ และจะไม่กลับมาเจอคุณอีก" ขุนพันที่ได้ฟังคำตอบก็กัดกรามแน่นอย่างโมโห รีบเอื้อมมือไปคว้าแขนบางอีกครั้ง แล้วลากเข้าไปในบ้านพักทันที "อ๊ะ! ปล่อยนะ หนูเจ็บ!" เขมมิกการ้องขึ้นอย่างตกใจกับการกระทำอันป่าเถื่อนของอีกฝ่าย ที่บีบแขนเธอแรงจนเจ็บปวดรวดราวไปหมด "เธอเป็นของฉัน! อย่ามาพูดเพ้อเจ้อเรื่องจะไปจากฉันอีก ไม่งั้นเจอดีแน่" ขุนพันตอกกลับด้วยน้ำเสียงเดือดดาล "หนูจะไป! คุณไม่มีสิทธิ์ห้าม เพราะเราไม่ได้เป็นไรกัน" "ฉันเป็นผัวเธอ! มีสิทธิ์ทุกอย่างนั่นแหละ" #นิยายเรื่องสุดท้ายของซีรีส์ หลอกเด็ก ประกอบด้วย... 1 อุ้มรักอสูรเถื่อน (เรื่องแรกจากลำดับเหตุการณ์) พ่อเลี้ยงเมืองเหนือ+สาวไฮโซ 2 อุ้มรักซาตานลวง (เรื่องที่สองจากลำดับเหตุการณ์) เสี่ยเจ้าของค่ายมวย+นักศึกษา 3 อุ้มรักจอมบงการ (เรื่องที่สามจากลำดับเหตุการณ์ เรื่องจบของซีรีส์) หนุ่มเจ้าสำราญ+สาวบ้านล้มละลาย
like
bc
หนี้แค้นอสูรเถื่อน
อัปเดตเมื่อ Sep 3, 2024, 01:56
***ความแค้นที่เขามี...ถูกซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้ความทรงจำที่เลือนลางของม่านรดา เด็กสาวแสนซื่อ ที่ตกหลุมพรางของพ่อเทพบุตรสุดหล่อเข้าอย่างจัง หากรู้ไม่ว่า...การแก้แค้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้น...เร็วๆ นี้ *** . +++++++++++++++++ คนที่ไปแอบอ่านข่าวในห้องน้ำมาบางส่วนแต่พอได้ยินเสียงฝีเท้าของภรรยาเดินตรงไปที่ประตูห้องนอน ก็รีบวางมือถือลง แล้วเดินผ่านน้ำที่ฝักบัว จากนั้นก็คว้าเสื้อคลุมมาสวมใส่ลวกๆ แล้วเปิดประตูออกไปเอ่ยถามด้วยสีหน้าตึงๆ "จะไปไหน?" "จะย้ายไปนอนที่บ้านใหญ่ค่ะ" ม่านรดาบอกด้วยสีหน้านิ่งๆ "โกรธเรื่องข่าวหรือเปล่า?" มักซิมีเลียนจ้องมองกระเป๋าเดินทางในมือของภรรยาอย่างไม่พอใจ ม่านรดาจ้องมองสามีที่สวมใส่เสื้อคลุมเอาไว้หลวมๆ ทำให้เห็นรอยช้ำหลายจุดที่อยู่บนตัวของอีกฝ่าย พลัน! น้ำตาก็ไหลอาบแก้มเป็นทางอีกครั้ง "นั่นรอยอะไรคะ" "รอย..." มักซิมีเลียนก้มลงมองรอยช้ำที่อยู่บนหน้าอกอย่างตกใจ ก่อนจะรีบดึงรั้งแขนของภรรยาที่กำลังเปิดประตูห้องออกไปเอาไว้มั่น "เดี๋ยวก่อนม่าน" "ปล่อยค่ะ" ม่านรดาสะบัดแขนของสามีออกอย่างทนไม่ไหว ตอนนี้หัวใจของเธอ มันแหลกละเอียดจนไม่เหลือชิ้นดีอีกต่อไปแล้ว "ไม่ปล่อย เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง" มักซิมีเลียนรีบดึงภรรยาเข้ามากอดอย่างใจหาย จับต้นชนปลายไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าข่าวที่หลุดออกมาเมื่อเช้ามีอะไรบ้าง และตนควรจะแก้ต่างให้ตัวเองยังไง ถึงจะดูน่าเชื่อถือ "ฮึก...ถ้ายังรักเขาอยู่ แล้วมาแต่งงานกับม่านทำไมคะ?" เธอถามก่อนจะผลักร่างสูงออกอย่างรู้สึกปวดหนึบไปทั้งหัวใจ -
like
bc
อ้อมกอดเทพบุตรมาร
อัปเดตเมื่อ Sep 3, 2024, 01:14
“เตียงนี่เล็กจังเลย” คนที่นอนเตียงคิงไซซ์มาทั้งชีวิต บอกอย่างรู้สึกหงุดหงิดในหัวใจ ‘แบบนี้จะทำอะไรๆ สะดวกไหมวะ?’ “เอ่อ...ให้ฉันไปนอนที่โซฟาก็ได้นะคะ” มารีอาที่กำลังจะขยับขึ้นเตียงตามอีกฝ่าย ก็ถึงกับชะงักไปทันใด “ไม่ได้ คุณต้องมานอนบนเตียงกับผม” เจคอปรีบบอกเสียงเข้ม “ค่ะ” มารีอาขยับขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างรวดเร็ว เพราะแอร์ที่นี่เย็นอย่างกับห้องแช่แข็ง แม้ว่าเธอจะปรับแล้วก็ตาม “หนาวไหม” เจคอปถามหลังสังเกตเห็นอาการสั่นเทาของสาวเจ้า “นิดหน่อยค่ะ” มารีอายิ้มก่อนจะค่อยๆ ดึงผ้าห่มที่โดนอีกฝ่ายยึดไปครองมาห่มตัว “ขยับมานอนใกล้ๆ ผมสิ เดี๋ยวคุณก็ตกเตียงหรอก” เจคอปรีบรั้งเอวบางเข้ามากอดแนบตัว ‘พระเจ้า! เอวเล็กเป็นบ้าเลย’ “อุ้ย!” มารีอาตกใจกับการกระทำของอีกฝ่าย “ผมกอดคุณนะ ผมหนาว” คนหน้าด้านบอกพร้อมกับกอดกระชับร่างบางให้แน่นขึ้น “เอ่อ...” มารีอากำลังจะร้องห้าม แต่ลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดต้นคอก็ทำให้เธอขนลุกซู่ไปทั้งตัว “คุณหอมจัง” เจคอปสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกายสาวเข้าปอดลึกๆ “คุณเจคปล่อยรีอาก่อนค่ะ” มารีอาบอกพลางแกะมือหนาออกอย่างรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมานิดๆ แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าเป็นเกย์ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะมีสิทธิ์ทำแบบนี้กับเธอ “อื้อ! อย่าดิ้นสิรีอา ผมจะหลับแล้ว” คนที่รับรู้อาการต่อต้าน รีบตีเนียนทันใด มารีอาที่ยังอยู่ในอาการมึนๆ งงๆ กับการกระทำของเก้งหนุ่มสุดหล่อ ก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่ออยู่ๆ มือหนาของได้ล้วงลงไปลูบไล้ยังพื้นที่ต้องห้าม “คุณเจค!” คนหื่น เอ๊ย! คนที่รอคอยเวลานี้มานาน เอ่ยกระซิบเสียงแหบพร่า “คุณทำให้ผมคลั่งนะรีอา” “ปะ...ปล่อยค่ะ” มารีอาบอกอย่างรู้สึกสั่นไปทั้งตัว “คุณรู้ว่าผมชอบคุณ” เจคอปกระซิบอ้อนพร้อมกับซุกไซ้ที่ต้นคอระหงอย่างเต็มไปด้วยไฟปรารถนา “มะ...ไม่รู้ค่ะ ฉันรู้แค่ว่าคุณเป็นเกย์เท่านั้น” มารีอารีบตอบกลับ เพราะต้องการจะเตือนสติของอีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะทำเรื่องบ้าๆ กับเธอ “ผมเป็นชายทั้งแท่ง” เจคอปบอกพร้อมกับข้อมือบางของสาวเจ้าให้มาจับทีความเป็น...
like
bc
หิรัญ ซานเตียนโน่
อัปเดตเมื่อ Oct 26, 2023, 03:46
“อ๊ะ!” อาซามิอุทานอย่างตกใจ “จะไปไหน” หิรัญถามด้วยสีหน้าแดงก่ำ “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นหนูจะร้องให้คนช่วยจริงๆ ด้วย” อาซามิน้ำตาไหลอาบแก้มเป็นทาง อีกแค่ไม่ถึงยี่สิบเมตร ก็จะถึงบริษัทของพี่ชาย แต่เธอ...ก็ไปไม่ถึง “พี่นึกว่าเราคุยกันเข้าใจแล้วซะอีก” หิรัญถามอย่างพยายามข่มใจให้เย็น หลงคิดว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาจะช่วยให้เธอมองหรือรู้สึกดีกับตนขึ้นมาบ้าง แต่ก็เปล่า ที่แท้เธอก็แค่รอเวลา รอโอกาสเหมาะๆ ที่จะหนีไปจากเขา ก็เท่านั้นเอง “ฮึก...ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ หนูขอร้อง” อาซามิอ้อนวอนทั้งน้ำตา “จะเอาแบบนี้จริงๆ เหรอ ก็ได้ ไปสิ! ไปเลย!” หิรัญบอกพร้อมกับผลักร่างบางออกห่างจากตัวอย่างโมโห อาซามิมองคนที่โกรธจนหน้าแดงก่ำอย่างมึนงง ก่อนจะค่อยๆ หันหลัง เตรียมจะออกเดินไปข้างหน้า “พรุ่งนี้พี่จะเข้าไปทวงหุ้นคืนจากชิโร่ และจะพังบริษัทของมันให้ย่อยยับคามือ ไม่เชื่อก็คอยดู” หิรัญเอ่ยตามเสียงดังลั่น ทำเอาคนที่กำลังจะก้าวขาถึงกับหยุดชะงักไปทันใด “ไปสิ อยากไปนักไม่ใช่เหรอ” หิรัญเอ่ยเยาะแม่สาวใจกล้า ด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ “ฮึก...ฮึก...” คนที่ทำอะไรไม่ถูกซบหน้าลงกับฝ่ามือแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างเจ็บใจ ที่สุดท้ายก็ต้องหันหลังแล้วเดินกลับไปหาอีกฝ่ายอย่างไม่มีทางเลือก . ***(ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)*** หิรัญ (พี่ชายคนโต) เขียนจบแล้ว ภาคิน (ฝาแฝดของภัคคินัย) เขียนจบแล้ว ภัคคินัย (คู่แฝดของภาคิน) กำลังเร่งเขียนฝากติดตามด้วยนะคะ
like
bc
จะแรดร้ายให้ได้ครอง
อัปเดตเมื่อ Oct 24, 2023, 05:29
?คู่ที่ 1 ซื่อบื้อตัวพ่อ❤️มั่นตัวแม่ (มั่นหน้ามั่นโหนก) ? ครึ่งชั่วโมงต่อมา... หลังจากที่รับประทานอาหารไปได้สักพัก โจเซฟก็รีบเดินออกไปรับสายสำคัญที่ด้านนอกอย่างเร่งรีบ แต่พอคุยเสร็จและกำลังจะเดินกลับเข้ามาในร้านอาหาร ก็บังเอิญชนเข้ากับสาวคนหนึ่งอย่างจัง “อ๊ะ! ว้าย!” ดารินกรีดร้องขึ้นอย่างตกใจ ใช่! มันไม่เหมือนที่เธอคิดเอาไว้สักนิด เขาน่าจะรับเธอเหมือนอย่างกับในหนังรักโรแมนติก แต่เปล่าเลย! เธอหงายหลังล้มก้นจำเบ้าและหัวก็เกือบจะฟาดลงกับพื้น ฟุบ! “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” โจเซฟรีบถามอย่างเป็นห่วง อยากจะคิดว่านี่คือการแสดง แต่สาวตรงหน้าคงจะเจ็บจริงอยู่ไม่น้อย “เจ็บบั้นท้ายค่ะ คุณช่วยดึงฉันลุกขึ้นทีได้ไหมคะ” ดารินเงยหน้าขึ้นมองและขอความช่วยเหลือ พร้อมกับส่งมือไปให้อีกฝ่าย “ครับ ให้ผมพาไปหาหมอไหม? ” โจเซฟดึงมือของสาวเจ้าให้ลุกขึ้น พร้อมกับประคองนิดๆ “ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่คืนนี้เลี้ยงข้าวฉันสักมื้อก็พอ” ดารินเปิดฉากอ่อยทันทีที่ตั้งตัวได้ “...” โจเซฟจ้องมองหญิงสาวแสนสวยตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาเกือบจะคิดว่าเธอแตกต่าง แต่สุดท้ายก็เป็นเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่พยายามจะเข้าหาด้วยมุกเดินชน “นี่นามบัตรของฉันค่ะ ขอของคุณด้วยนะคะ” ดารินฉีกยิ้มหวานโปรยเสน่ห์เหมือนที่เคยทำและได้ผลในทุกๆ ครั้ง “สรุปคือไม่ได้เจ็บอะไรใช่ไหม” โจเซฟถามด้วยน้ำเสียงที่ต่างไปจากเดิม “เจ็บสิคะ ล้มลงไปกระแทกพื้นแบบนั้น ไม่เจ็บได้ไง” ดารินรีบทำท่าทางเจ็บปวดให้อีกฝ่ายเห็น “งั้นก็ไปหาหมอครับ” โจเซฟบอกพร้อมกับดึงแขนของสาวเจ้าให้ออกเดิน “แต่ฉันอยากจะไปทานข้าวกับคุณมากกว่าค่ะ” ดารินรีบขืนตัวเอาไว้ไม่ยอมขยับไปไหน “หน้าตาก็สวยนะ ไม่น่าทำแบบนี้เลย” โจเซฟต่อว่าด้วยสีหน้าตึงๆ “ทะ...ทำอะไรคะ” ดารินถามกลับอย่างมึนงง “ก็อ่อยผู้ชายด้วยวิธีโง่ๆ แบบนี้ไง” คนที่เกลียดผู้หญิงเข้าหาด้วยวิธีที่กระแดะและดัดจริต บอกอย่างโมโห “นี่คุณ!” ดารินรู้สึกอับอายจนแทบจะเอาหน้าแทรกพื้นหนี แต่พอหันไปเห็นเพื่อนๆ ที่กำลังมองมาก็ทำให้เธอถอยไม่ได้ ? คู่ที่2 ? “ฉันจะไม่ขอโทษอะไรทั้งนั้น” คันเลนมองแผ่นหลังบางที่เปลือยเปล่าของคนที่นั่งสะอื้นไห้อยู่บนเตียง ซึ่งกำลังหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมด้วยมือไม้ที่สั่นเทานิดๆ “ฮึก...เอาเลขบัญชีมาค่ะ จะได้จบๆ ไปซะที” เปรมมิกาบอกพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเป็นทาง “ฉันส่งแชตไปลาออกจากที่ทำงานให้แล้ว” คัลเลนบอกเสียงเข้มก่อนจะหยิบเสื้อคลุมที่หล่นอยู่ขึ้นมาสวม “อะ...อะไรนะ” เปรมมิกาหันไปถามอย่างตกใจ “ฉันพิมพ์บอกไปว่าเธอได้งานทำแล้ว และเขาก็เรียกตัวเข้าไปทดลองทำงานกะทันหัน” “นี่คุณย่ำยีหนูยังไม่พอ ยังจะ...” “ฉันจะรับผิดชอบชีวิตของเธอต่อจากนี้เอง” คนที่ไม่เคยคิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน บอกเสียงหนักแน่น “ไม่ต้องค่ะ ให้มันจบกันที่ตรงนี้เถอะ” เปรมมิกาบอกอย่างไม่แคร์ คัลเลนไม่สนคำตอบของสาวเจ้า รีบขยับเข้าไปหาพร้อมกับใช้มือแตะที่ผากมนเบาๆ “ไปกินข้าว เดี๋ยวต้องกินยาต่อ เธอมีไข้นะรู้ไหม” “ฮึก...คุณไม่ต้องมาทำเหมือนเป็นห่วงหรอกค่ะ กลัวหนูจะแจ้งความใช่ไหม” เปรมมิกาตอกกลับอย่างรู้ทันความคิดของอีกฝ่าย “จะแจ้งไหมล่ะ เดี๋ยวจะโทร. เรียกตำรวจมาให้ ตอนนี้หลักฐานยังอยู่นะ คราบต่างๆ ของเรา ยังคงอยู่บนผ้าปูที่นอน แล้วก็ในตัวของเธอ” “ฮึก...ฮือๆๆ จิตใจของคุณทำด้วยอะไรฮะ” เปรมมิกาปล่อยโฮออกมาอย่างเจ็บช้ำน้ำใจที่อีกฝ่ายเอ่ยประชดความรู้สึกของเธอ “จิตใจของเธอต่างหากเปรม มันทำด้วยอะไร? ฉันจะรับผิดชอบ ก็ไม่เอา จะเรียกตำรวจมาให้ก็ไม่เอา สรุปจะเอายังไงกันแน่” คัลเลนถามกลับอย่างเริ่มจะโมโหขึ้นมานิดๆ
like
bc
อุ้มรักซาตานลวง
อัปเดตเมื่อ Aug 29, 2022, 21:55
เวลา 17:09 น. ช่อเอื้องลืมตาตื่นขึ้นมองไปรอบๆ ก็รีบขยับลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างตกใจ ที่รู้ว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนของผู้ชายที่เธอถูกว่าจ้างให้มาแกล้ง แต่แล้วอยู่ๆ ภาพของบิดาที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็แล่นผ่านเข้ามาในม่านตาราวกับฝันร้าย “ตื่นแล้วเหรอเอื้อง?” แม่ทัพที่นอนอยู่ข้างๆ ขยับลุกขึ้นนั่งพร้อมกับดึงสาวเจ้าเข้ามากอด หลังจากที่เธอเป็นลมหมดสติไป เขาก็รีบโทร. เรียกคนสนิทของมารดาให้มาช่วยนิลยากับคงศักดิ์ดูแลเรื่องงานศพบิดาของช่อเอื้อง จากนั้นก็ขอพาสาวเจ้ากลับมาที่คอนโด โดยบอกกับผู้ใหญ่ทั้งสองว่าหากช่อเอื้องฟื้นเมื่อไหร่ เขาจะรีบพาเธอไปร่วมงานทันที พร้อมกันนั้นก็ไม่ลืมโอนเงินจำนวนสามแสนบาทไปยังบัญชีธนาคารของนิลยา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในงานศพ “ฮึก...หนูจะไปหาพ่อ” ช่อเอื้องน้ำตาคลอพยายามดันอีกฝ่ายออก แต่ก็ไม่เป็นผล แถมยังถูกกอดรัดแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม “เดี๋ยวฉันจะพาไป แต่ต้องหลังจากที่เอื้องอาบน้ำและทานข้าวเสร็จก่อน” แม่ทัพบอกเสียงอ่อน “พะ...พ่อหนูเสียแล้วใช่ไหมคะ” คนที่ยังมึนๆ งงๆ ถามย้ำทั้งน้ำตานองหน้า ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากราวกับความฝัน ทั้งเรื่องของผู้ชายตรงหน้าและเรื่องที่บิดาได้จากไป “ใช่! ตอนนี้ศพของท่านตั้งอยู่ที่ศาลาวัด ฉันให้คนไปช่วยจัดงานและดูแลให้แล้ว” แม่ทัพบอกพลางลูบแผ่นหลังบางเบาๆ “ฮือๆๆ เป็นเพราะคุณ ถ้าคุณให้หนูนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปตั้งแต่แรก หนูคงจะทันได้ดูใจพ่อ” ช่อเอื้องต่อว่าอย่างรู้สึกโกรธและเสียใจที่ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้ “ฉะ...ฉันขอโทษ” แม่ทัพบอกอย่างรู้สึกผิด “ไม่ต้องพูดหรอกค่ะ ไม่ว่าคุณจะแก้ตัวยังไง พ่อของหนูก็ไม่ฟื้นขึ้นมา และมันก็ไม่ได้ลบสิ่งที่ติดอยู่ตรงนี้ออกไปได้” ช่อเอื้องดันตัวออกห่าง พร้อมกับชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง “เอื้อง!” แม่ทัพใจหายวูบกับสายตาที่แสนจะเย็นชาของสาวเจ้า “ปล่อย! คุณไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวหนู” เธอปัดมือที่เอื้อมมาออกทันใด “เอื้อง! คุยกันดีๆ สิ” แม่ทัพบอกเสียงอ่อน “ฮึก...กระเป๋าเงินของหนูอยู่ไหน?” ช่อเอื้องถามพร้อมกับมองหากระเป๋าเงินของตัวเอง “อยู่นี่” แม่ทัพหยิบออกมาจากข้างเตียง แล้วส่งให้ทันที ช่อเอื้องรับมาแล้วเปิดกระเป๋าออก พร้อมกับหยิบเงินจำนวนหนึ่งหมื่นบาท ยัดใส่มือของอีกฝ่าย “นี่คือเงินค่าจ้างที่เพื่อนของคุณจ้างหนูให้มาเล่นละครแกล้งคุณ” “เอื้อง” แม่ทัพมองการกระทำของสาวเจ้าอย่างมึนงง “หนูเคยคิดว่าจะเอาเงินนี้ไปซื้อรถเข็นให้พ่อ แต่ตอนนี้หนูไม่มีพ่อแล้วและหนูก็รังเกียจเงินนี่ไม่ต่างจากที่รังเกียจคุณ ฮึก...ฮือๆๆ” เธอระบายความในใจ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วร้องไห้ออกมาอย่างรู้สึกโกรธตัวเอง ที่ไม่น่าทิ้งพ่อเอาไว้คนเดียว ทำให้ท่านต้องมาด่วนจากไป แม่ทัพได้ฟังก็ถึงกับสตั๊นไปชั่วขณะ “ธะ...เธอจะโกรธจะเกลียดฉันยังไงก็ได้ แต่ช่วยตั้งสติหน่อย ตอนนี้เราต้องไปวัด โอเค้!” “ฮึก...ฮึก...” คนที่ร้องไห้อยู่ถึงกับหยุดชะงักไปทันใด “ไปอาบน้ำ แล้วเตรียมตัวไปส่งพ่อของเธอครั้งสุดท้ายด้วยกัน เรื่องอื่นเอาไว้เคลียร์กันทีหลัง” แม่ทัพรีบกล่อมหลังเห็นสาวเจ้ามีท่าทีอ่อนลง “ฮึก...” ช่อเอื้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องน้ำตามที่อีกฝ่ายบอก ขณะที่หยดน้ำใสๆ ยังคงไหลอาบแก้มอยู่ไม่ขาดสาย แม้ตอนนี้เธอจะเกลียดเขามากแค่ไหน แต่ก็ต้องตั้งสติเหมือนที่เขาบอก เพราะยังมีสิ่งที่สำคัญกว่ารออยู่ ครึ่งชั่วโมงต่อมา...หลังจากที่ช่อเอื้องอาบน้ำเสร็จ ก็พันผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกมาที่ด้านนอกด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย “ตามมาทางนี้เอื้อง” แม่ทัพจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ดวงตาบวมเป่งอย่างรู้สึกสงสาร อยากจะดึงเธอเข้ามากอด แต่ตัวเองก็ยังมีชนักติดหลังหลายเรื่อง จึงคิดว่าควรรอจังหวะดีๆ ก่อน แล้วค่อยง้อ “...” เธอไม่ตอบแต่เดินตามหลังเขาไปเงียบๆ “นี่ชุดของเธอ ส่วนไดร์เป่าผมอยู่ตรงนั้น ถ้าแต่งตัวเสร็จแล้วก็ตามออกไปนะ ฉันจะเตรียมอาหารรอ” แม่ทัพชี้ไปยังสิ่งของต่างๆ แล้วปล่อยให้สาวเจ้าอยู่ในห้องตามลำพัง ช่อเอื้องมองตามร่างสูงที่เดินออกไป ทันทีที่เขาก้าวพ้นประตู เธอก็รีบเดินไปกดล็อก แล้วเดินกลับมาจ้องมองชุดเดรสสีดำเรียบหรูของแบรนด์ดังอย่างรู้สึกอึ้ง และอึ้งหนักกว่าเดิมที่พอหยิบออกมาดู ก็เห็นชุดชั้นในแขวนซ้อนอยู่ด้านหลัง เธอวางชุดเดรสลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ แล้วหยิบบรากับแพนตี้สีขาวนวลขึ้นมาดูอย่างมึนงง เพราะขนาดของไซซ์มันพอดีกับตัวเธอ ยี่สิบนาทีต่อมา...ช่อเอื้องเดินออกจากห้องมาด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ รู้สึกแปลกๆ กับชุดและรองเท้าคัทชูสีขาวมีส้นนิดๆ อย่างบอกไม่ถูก “ฉันเตรียมแฮมเบอร์เกอร์เอาไว้แล้ว คิดว่าจะทานในรถ จะได้ประหยัดเวลา” แม่ทัพอมยิ้ม เมื่อเห็นสาวเจ้าใส่ชุดที่เตรียมไว้ให้แล้วดูสวยสง่า แม้ว่าใบหน้างามนั้นจะดูเศร้าหมองไปนิดก็ตาม “ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องหลบสายตาของหนุ่มตรงหน้าที่ใส่สูทสีดำเนี้ยบแลดูภูมิฐาน ทรงผมถูกมัดรวบเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่นเดียวกับหนวดเคราที่อยู่บนใบหน้า มันทำให้เธอรู้สึกเกร็งขึ้นมานิดๆ “เราไปกันเลยนะ” แม่ทัพหันไปหยิบถุงกระดาษที่มีทั้งแฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์และน้ำส้มคั้นมาถือ จากนั้นออกเดินตรงไปที่ประตูห้อง “ค่ะ” ช่อเอื้องเดินตามอีกฝ่ายไปด้วยหัวใจที่ว้าวุ่น ทั้งโกรธ ทั้งอาย ทั้งเสียใจ ทั้งขุ่นเคือง ทั้งนอยด์ สารพัดความรู้สึกที่ประเดประดังเข้ามาให้ครุ่นคิดอยู่ไม่ขาดสาย สิบนาทีต่อมา...หลังจากที่รถตู้คันใหญ่แล่นออกมาได้สักพัก ช่อเอื้องก็ถูกแม่ทัพขู่ให้กินแฮมเบอร์เกอร์ให้หมดชิ้น ไม่อย่างนั้นจะไม่พาไปงานศพของพ่อ ทำเอาคนที่กลืนอะไรไม่ลง จำต้องฝืนใจก้มหน้ากินทั้งน้ำตาคลอหน่วย “น้ำส้ม” แม่ทัพรีบส่งไปให้ หลังจากที่สาวเจ้าทานเสร็จ “ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องรับมาดื่ม พร้อมกับเบือนหน้าหนีคนชอบบงการชีวิตคนอื่น “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิเอื้อง เธอไม่ได้ทานอะไรมาทั้งวัน แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปช่วยป้านิลรับแขก” แม่ทัพกลอกตากับท่าทีของสาวเจ้า “ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องหันไปยกมือไหว้ราวกับซาบซึ้งในความหวังดีของอีกฝ่าย จากนั้นหันไปมองข้างทางต่ออย่างไม่สนใจสีหน้าบึ้งตึงของเขา ทันทีที่ไปถึ
like
bc
อุ้มรักอสูรเถื่อน
อัปเดตเมื่อ Jul 8, 2022, 15:12
สิบนาทีต่อมา...หลังจากที่เธอถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนเหลือแต่กางเกงชั้นในสีขาว ก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า รีบหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามเนื้อตัวที่แสนจะเพอร์เฟกต์ไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ “อืม...จะทำอะไรพี่” คนเมาครางเบาๆ พร้อมกับลืมตาขึ้นมอง “ชะ...เช็ดตัวค่ะ” จีอาน่าบอกเสียงสั่นอย่างรู้สึกอาย “ไม่รักพี่ ก็ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงพี่หรอก” จอมพลบอกด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ก่อนจะเบือนหน้าหนี ‘ชิ! ก็ถ้าไม่ห่วงพี่แล้วจะให้ห่วงหมาที่ไหนล่ะ คนบ้า!’ จีอาน่าต่อว่าในใจ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเช็ดตัวให้อีกฝ่ายต่อ จอมพลกลอกตาที่สาวเจ้าไม่ยอมหยุดจึงพลิกตัวนอนคว่ำหน้า เพราะไม่อยากให้เธอรู้ว่าบางของเขามันกำลังดีดตัวลุกขึ้นมาประกาศศักดาพร้อมรบ จีอาน่าถอนหายใจกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่ก็ยังคงเอาผ้าขนหนูเช็ดตามแผ่นหลังกว้างให้ พอเช็ดเสร็จก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป คลิก! ทันทีที่จอมพลได้ยินเสียงประตูห้องนอนปิดลง ก็รีบลุกขึ้นมองอย่างมึนๆ งงๆ “อะไรกันวะ! ง้อเราแค่นี้เนี่ยนะ?” ด้านจีอาน่ากลับเข้ามาในห้องนอนของตัวเองเสร็จ ก็รีบตรงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที เพราะกลัวว่าหากอาบนานๆ แล้วเกิดไฟดับเหมือนเมื่อคืน คราวนี้เธอคงจะสติแตกจนเป็นบ้าไปเลยแน่ๆ
like
bc
ภาคิน (ซีรีส์ สามพี่น้องซานเตียนโน่)
อัปเดตเมื่อ Jul 4, 2022, 01:01
วรันยา สิรางภัคษร เด็กสาววัย 17 ปี สูง 158 ซม. หนัก 47 กิโลกรัม ใบหน้าจิ้มลิ้มเรียวงาม ดวงตาสีดำกลมโตรายล้อมไปด้วยขนตาที่ยาวงอน จมูกที่โด่งนิดๆ รับกับริมฝีปากอวบอิ่มรูปกระจับสีส้มอมชมพูระเรื่อ กำลังยืนลุ้นผลการสอบที่หน้าจอมือถือ ทันทีที่เห็นชื่อของตัวเองติดหนึ่งใน Top 5 ก็กรีดร้องขึ้นอย่างดีใจ รีบวิ่งเอาผลการเรียนไปอวดบิดาที่ห้องทำงาน “คุณพ่อขา เกรดของน้องไวน์ออกแล้วค่ะ” วรันยารีบส่งมือถือให้กับบิดาดู มือไม้สั่น “เก่งจริงๆ ลูกพ่อ” สินชัยน้ำตาคลอ ดึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเข้ามากอดแน่น อย่างเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เพราะตั้งแต่เด็กจนโต วรันยาไม่เคยสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจใดๆ ให้กับตนมาก่อน นอกจากขยันเรียนแล้ว ก็ยังมาช่วยทำงานใน รีสอร์ตอยู่เป็นประจำ คนเป็นพ่อยกมือขึ้นปาดน้ำที่หางตาทิ้ง ก่อนจะล้วงมือถือขึ้นมาต่อสายหาผู้ช่วยคนสนิท [นา! เดี๋ยวเข้าเมืองไปซื้อของมาจัดเลี้ยงปาร์ตี้ให้น้องไวน์หน่อยนะ] [ได้ค่ะพ่อเลี้ยง ผลสอบคุณไวน์ออกแล้วใช่ไหมคะ?] ปลายสายถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อครู่ตอนที่เธอกำลังจะขับรถออกไปตรวจงาน [ใช่! ได้ 3.98 ที่ 2 ของชั้น] [ว้าว! นาดีใจด้วยนะคะ] [อืม! ขอบใจมาก ช่วยเข้าเมืองไปซื้อของทะเลสดมาให้หน่อย อ้อ! ซื้อมาเยอะๆ นะ เผื่อคุณมาร์กับคนอื่นๆด้วย] [ได้ค่ะพ่อเลี้ยง] “กรี๊ดดดด ไวน์รักคุณพ่อที่สุดเลยค่ะ” วรันยากระโดดหอมแก้มของบิดาทั้งสองข้างอย่างดีใจเมื่อได้ยินคำว่าของทะเลสด “น้องไวน์! พ่อคุยสายอยู่นะลูก” สินชัยเอ่ยปรามเบาๆ เพราะเสียงหอมแก้มที่ดังฟอดๆ น่าจะเข้าไปในสายสนทนาด้วย “ขอโทษค่ะ งั้นไวน์ไปบอกคุณมาร์ก่อนนะคะ” วรันยาอยากจะเอา 3.98 ไปอวดผู้ใหญ่อีกท่านที่เธอรักและเคารพไม่ต่างไปจากบิดา “จ้ะ อ๊ะ! ให้คนขับรถไปส่งไหมลูก” สินชัยพยักหน้ารับก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าบุตรสาวของตนนั้นไม่ใช่เด็กดังเช่นเมื่อก่อนแล้ว แถมเวลาไปไหนมาไหนก็มีแต่คนจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้ม ที่สวยหวานมีเสน่ห์ดึงดูดตาดึงดูดใจ ถอดแบบภรรยาของเขาตอนเป็นสาวมาอย่างไม่มีผิดเพี้ยน และนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกหวงมากจนต้องสั่งคนตามไปเฝ้าอยู่เสมอ “ไม่ต้องค่ะ ใกล้ๆ แค่นี้เองเดี๋ยวไวน์ปั่นจักรยานไปค่ะคุณพ่อ” คนที่ปั่นจักรยานไปมาระหว่างสวนส้มกับรีสอร์ตเป็นประจำรีบบอก “งั้นอย่าลืมชวนคุณมาร์มาทานมื้อเย็นที่บ้านเราด้วยนะ” สินชัยยกยิ้มมุมปากนิดๆ รู้ดีว่าบุตรสาวจะต้องไปอ้อนขอรางวัลจากกังศมาเหมือนเช่นทุกๆ ครั้ง “รับทราบค่ะ ไปก่อนนะคะ” วรันยาบอกก่อนจะวิ่งตรงไปยังจักรยาน คันโปรดสีชมพูหวานมุ้งมิ้ง แล้วปั่นตรงไปตามทางด้วยสีหน้ามุ่งมั่น พลางนึกไปถึงคำพูดหนึ่งของกังศมาที่บอกเธอเมื่อสามเดือนก่อน...‘ถ้าเทอมนี้น้องไวน์สอบได้ที่ 1-3 ของชั้น ยายจะพาไปเที่ยวอังกฤษ’ คนที่ยังไม่เคยไปเที่ยวทางฝั่งยุโรปมาก่อน ปั่นจักยานไปยิ้มไป คิดถึงสถานที่อันงดงามทางประวัติศาสตร์ของอังกฤษอย่าง York Minster (มหาวิหารยอร์ก), Big Ben (หอนาฬิกาพระราชวังเวสต์มินสเตอร์), Tower of London (หอคอยแห่งลอนดอน) และสถานที่อื่นๆ ที่ทยอยผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เสียงปั่นจักรยานกับเสียงฮัมเพลงเบาๆ ของเด็กสาวที่สวยดุจดอกไม้งามกลางขุนเขา เรียกสายตาของเหล่าคนงานชาย-หญิง ที่กำลังเก็บส้ม ให้หันไปมองตามๆ กันอย่างสนใจ พอเห็นว่าเป็นบุตรสาวสุดรักสุดหวงของพ่อเลี้ยงสินชัยก็พากันชะเง้อมองตามเป็นแถว วรันยาจอดจักรยานเอาไว้ใกล้ๆ กับต้นหูกระจง ก่อนจะจ้องมองรถสปอร์ตสุดหรูสีดำเงากับสีแดงสดป้ายแดงเปิดประทุนด้วยหัวใจสั่นๆ ซึ่งเธอเดาว่าคงจะเป็นของกำนัลที่ลุงลูคัสมอบให้กับลูกชายฝาแฝด ภาคิน กับ ภัคคินัย ที่เพิ่งจะเรียนจบปริญญาโท แถมยังคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาได้ทั้งสองคน “น้องไวน์! มาพอดีเลยลูก ยายกำลังจะเอาช็อกโกแลตไปให้” กังศมาในวัย 65 ปี เจ้าของสวนส้มไปรยาเวศ ส่งยิ้มหวานไปให้เด็กสาวที่รักและเอ็นดูประหนึ่งลูกหลานแท้ๆ “ว้าว! ไวน์รักคุณมาร์ที่สุดเลยค่ะ” วรันยายิ้มอย่างดีใจเตรียมจะเดินเข้าไปหา แต่ร่างสูงที่เดินตามออกมาก็ทำให้เธอรีบหยุดชะงักฝีเท้าแทบไม่ทัน “เอ่อ...เอาไว้ไวน์ค่อยมาใหม่นะคะคุณมาร์ สวัสดีค่ะ” สาวเจ้ายกมือไหว้ แล้วหันหลังกลับทันทีอย่างไม่สบอารมณ์ “อะไรกันน้องไวน์? พอเห็นหน้าพี่ก็จะกลับแล้วงั้นเหรอ” ภาคินวัย 25 ปี ที่หน้าตาหล่อเหลาคมคาย สูง 183 ซม. ฉีกยิ้มกว้าง เมื่อเห็นใบหน้างามที่ไม่ได้เจอมาเกือบปี ดูบูดบึ้งขึ้นมานิดๆ “ใช่ค่ะ!” วรันยาตอบโดยไม่หันไปมอง ถึงแม้ว่าภาคินกับภัคคินัยจะหน้าตาเหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออก แต่เธอก็จำได้! เพราะภาคินมีรอยสักที่แขน และมี ขี้แมลงวันเม็ดเล็กๆ ที่ต้นคอ แต่ภัคคินัยไม่มี ส่วนนิสัยก็ต่างกันสุดขั้วราวฟ้ากับดิน เพราะภัคคินัยเป็นคนสุภาพ ใจดีและอบอุ่น แต่ภาคินนิสัย บ้าๆ บอๆ ชอบแกล้งเธอสารพัด ทั้งเปิดกระโปรงดูกางเกงใน แอบหอมแก้มตอนเผลอ แกล้งเป็นผีมาหลอก และอีกเยอะแยะมากมายกับวีรกรรมสุดเพี้ยนที่ทำให้เธอรู้สึกเกลียดจนเข้าไส้ “น้องไวน์” หิรัญ วัย 30 ปี รีบเอ่ยเรียกคนที่มาไม่ถึงสามวิก็จะกลับ “สวัสดีค่ะพี่รัญ พี่นัย” วรันยายกมือไหว้สองหนุ่มที่เดินตามกันมาอย่างดีใจ เตรียมจะวิ่งเข้าไปกอดเหมือนเช่นทุกๆ ครั้ง แต่กลับถูกมือหนาของใครบางคนรั้งแขนไว้ซะก่อน “จะไปไหน?” ภาคินถามด้วยน้ำเสียงตึงๆ พร้อมกับส่งสายตาดุๆ ไปให้คนที่ทำท่าระริกระรี้อย่างไม่พอใจ ‘หึ! ทีเห็นหน้าเราจะกลับบ้าน แต่พอเห็นหน้าพี่รัญกับไอ้นัย ยิ้มซะปากเกือบฉีกแน่ะ’ “ปล่อย!” วรันยาสะบัดแขนออกจากมือหนา แต่อีกฝ่ายกลับบีบแรงขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว “เห็นผู้ชายเข้าหน่อยไม่ได้ ผีแรดเข้าสิงร่างเลยนะ” ภาคินต่อว่าอย่างลืมตัว แต่พอเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นสายตาของทุกคน ก็ทำให้ต้องรีบปล่อยมือออกจากแขนของสาวเจ้า “คนบ้า!” วรันยาถลึงตาใส่ แล้วเดินเข้าไปกอดกังศมาแทนการเข้าไปกอดสองหนุ่ม “ก็เพราะปากแบบนี้ไงน้องถึงได้เกลียด” หิรัญส่ายหน้าอย่างรู้สึกเหนื่อยใจ ‘ทีกับสาวๆ คนอื่นทำเป็นปากหวาน ทีกับน้องไวน์ทำไมชอบปากเสียใส่จังวะ?’ “ใช่ครับ” คนที่อ้าแขนรอเก้อ เอ่ยสมทบตามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ขอโทษน้องเดี๋ยว
like
bc
อ้อมกอดอสูรไร้ใจ
อัปเดตเมื่อ Nov 26, 2021, 06:00
Alan Orlando Rocasander R8888 อลัน ออร์แลนโด้ โรคาซานเดอร์ อายุ 33 ปี สูง 192 เซนติเมตร ชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์เหลือร้าย เขาเป็นบุตรชายคนรองของเลโอนาดท์และมาดามแจสมิน หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามคุณมะลิฉัตร เจ้าของโรงแรมหรูระดับห้าดาวที่ประเทศไทย และในอีกหลายๆ ประเทศ ออร์แลนโด้เป็นชายหนุ่มผู้หล่อเหลาที่ขึ้นชื่อเรื่องเย็นชา และเข้าถึงตัวได้ยากมากที่สุดในบรรดาห้าหนุ่ม R&R เขาติดอันดับ Top 10 ของผู้ชายหล่อรวย ที่สาวๆ อยากจะลากขึ้นเตียงมากที่สุด เขาชอบแข่งรถ เขาหลงใหลในรอยสัก เขาโลกส่วนตัวสูง เขาเป็นเจ้าของไนต์คลับ เรือสำราญ The Lion Sea บริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์ และบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ คู่นอนชั่วคราวของเขามีแต่ดารา นางแบบ ไฮโซ คนดัง ที่ได้แค่ร่วมเตียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถูกเฉดหัวส่งแบบไม่ไยดี นั่นจึงเป็นที่มาของฉายาเจ้าชายน้ำแข็ง ผู้ชายที่รักและหวงแหนในอิสรภาพ เขาใช้ชีวิตแบดบอยแบบนี้มาตลอด และเขาทำมันได้ดี จนกระทั่งได้เจอเธอ ยัยแม่มด! “ชีวิตที่มีเธอเข้ามา...มันไม่คุ้น และไม่ชินกับการที่ถูกขัดใจ เธอทำให้เขาหงุดหงิด โมโห และอารมณ์ร้ายกว่าทุกๆ ครั้ง ทุกอย่างมันผิดเพี้ยนไปหมด เธอทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำ เธอท้าทายด้านมืดในตัวเขา! และเธอก็ทำให้เขาแทบบ้า...ในวันที่ไม่มีเธอ” Miki Praenara Sirirunthanakron มิกิ แพรณารา สิริรันทนากรณ์ อายุ 22 ปี สูง 161 เซนติเมตร สาวน้อยแสนสวยนัยน์ตาชวนหลงใหล กับรอยยิ้มที่สามารถสะกดใครต่อใคร เพียงแค่แรกพบสบตา รูปร่างบอบบางชวนทะนุถนอม กับหน้าอก 36 คัพซี เอวที่เล็กคอดรับกับบั้นท้ายที่งอนงาม ใบหน้าจิ้มลิ้ม ดวงตากลมโต รายล้อมไปด้วยขนตาที่งอนยาวและริมฝีปากบางที่อวบอิ่ม ทำให้ใบหน้างามดูโดดเด่นและชวนหลงใหล บิดาและมารดาของเธอเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ จึงทำให้เธอตกอยู่ในความดูแลของป้า (แขไข นาวารอส) พี่สาวของบิดาที่อยู่อังกฤษ คืนหนึ่ง...สามีของป้า (คาทอร์ นาวารอส) ได้ลอบเข้าหาหวังจะข่มขืน เธอต่อสู้และคว้าแจกันที่อยู่ข้างเตียง ฟาดลงที่ศีรษะของอีกฝ่ายอย่างเต็มแรง จนกระทั่งเขาสลบไป เธอจึงหนีออกจากบ้าน และย้ายที่พักอยู่บ่อยๆ เพราะคาทอร์นั้น สั่งให้คนออกตามหาตัวเธอไปทั่ว ในขณะที่ป้าของเธอ ไม่ได้สนใจอะไร นอกจากการพนัน! จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตาได้เล่นตลก! ทำให้เธอได้มาเจอกับเขา ผู้ชายที่หยิบยื่น ไม่สิ! เขายัดเยียดคำว่า สามี อย่างหน้ามึนให้กับเธอตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เขามันเลว! ดิบเถื่อน! เย็นชา! หน้ามึน! เดี๋ยวดี! เดี๋ยวร้าย! และขี้หึงจนได้โล่ แต่บางครั้ง...เขาก็ดูอ่อนโยน และทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจ...ที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของอสูรร้ายตนนี้ ****** หลังจากที่จอดรถสนิทแล้ว ออร์แลนโด้ก็เปิดและปิดประตูรถเสียงดังใส่คนที่นั่งอยู่ด้านใน จากนั้นก็เดินอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งที่สาวเจ้านั่งอยู่ แล้วก้มตัวลงไปปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยออก ก่อนจะดึงกึ่งลากหญิงสาวออกมา “ถ้าเธอโวยวาย หรือส่งเสียงร้องให้ใครช่วยแม้แต่คนเดียว การ์ดของฉันจะยิงทั้งเธอและคนที่เธอขอความช่วยเหลือทิ้งทันที เข้าใจไหม!” ออร์แลนโด้เอ่ยด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยมดุจดั่งอสูรร้ายที่ไร้ความเมตตา “...” หญิงสาวพูดไม่ออก น้ำตาไหลทะลักออกมาอีกครั้ง ก่อนจะมองไปรอบๆ ก็เห็นการ์ดดึงเสื้อสูทที่ปิดบังปืน ที่ซ่อนเอาไว้ออก ให้เห็น “ฉันถามว่าเข้าใจไหม!” ออร์แลนโด้ตะโกนเสียงดังใส่ ทำเอาคนที่กำลังขวัญเสียถึงกับสะดุ้งสุดตัว “ขะ...เข้าใจแล้ว!” แพรณารารับคำเสียงสั่นๆ “เข้าใจแล้วก็เช็ดน้ำตาซะ!” ออร์แลนโด้กัดฟันเอ่ยเสียงเย็น จนคนที่ฟังขนลุกซู่ไปทั้งตัว “ฮึก!...ฮือ!...ฮึก!” แพรณารากลั้นเสียงสะอื้น ก่อนจะรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งอย่างเร็ว ตามคำสั่งของอสูรร้ายตรงหน้า หญิงสาวตาแดงก่ำขณะที่เดินตามคนเถื่อน ก็เกือบสะดุดเท้าตัวเองอยู่หลายครั้ง พนักงานที่ล็อบบีต่างทำความเคารพออร์แลนโด้กันอย่างมึนงง ที่เห็นเจ้าของวิลลาเดินมากับสาวสวยร่างเล็กหน้าตาจิ้มลิ้ม ออร์แลนโด้จับแขนของสาวเจ้าเอาไว้มั่น ก่อนจะส่งสายตาดุๆ ไปให้คนที่ทำท่าจะร้องไห้ ให้หยุดนิ่ง ขณะเดินมาหยุดตรงหน้าลิฟต์ แพรณาราหันไปมองการ์ดที่เดินตามเกือบสิบคน อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ พอหันกลับมามองด้านหลัง ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินแกมวิ่งมากดลิฟต์ให้ด้วยท่าทางเร่งรีบ “สวัสดีครับท่าน! เดี๋ยวผมกดให้ครับ” หญิงสาวมองอีกฝ่ายนิ่งก่อนสะดุดตา และอึ้งกับป้ายที่หน้าอกของผู้ชายที่วิ่งมากดลิฟต์ให้ ว่าเป็นถึงผู้จัดการ แต่เธอก็ไม่สามารถเอ่ยขอความช่วยเหลืออะไรได้ เพราะการ์ดที่เดินตามมา เล็งบางอย่างมาทางเธอภายใต้เสื้อสูทสีดำ ที่มองเห็นกลายๆ ว่าคือปลายกระบอกปืนที่นูนขึ้นมา! จนกระทั่งลิฟต์ขึ้นมาหยุดตรงชั้นบนสุด แพรณาราก็ต้องอึ้งหนักกว่าเดิม เพราะคนป่าเถื่อนตรงหน้า พักอยู่ชั้นบนสุดของที่นี่...คนเดียวทั้งชั้น ‘พระเจ้า! ไอ้บ้านี่คงจะรวยมาก ถึงได้ซื้อทั้งชั้นเอาไว้คนเดียวแบบนี้ได้ มิน่า! ผู้จัดการถึงรีบวิ่งมากดลิฟต์ให้ ตอนแรกก็คิดว่าคงจะเป็นมาเฟียทั่วๆไป แต่ถ้าซื้อวิลลาใจกลางกรุงลอนดอนได้ทั้งชั้น ไม่ธรรมดาแล้วสิ!’ หญิงสาวคิดในใจอย่างหวาดกลัว “ยืนทำซากอะไรล่ะ เข้าไปข้างในสิ!” ออร์แลนโด้เอ่ยเสียงดัง ทำเอาคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวน้ำตาคลอหน่อยขึ้นมาทันใด
like
bc
อีเดน / Eden
อัปเดตเมื่อ Nov 26, 2021, 01:47
ขณะที่เลขาใหญ่วัยสี่สิบเจ็ดปีกำลังพาผู้ช่วยเลขาใหม่ทัวร์ห้องของท่านประธานอยู่นั้น อยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา ทำเอาทั้งสามถึงกับสะดุ้งและหันไปมองพร้อมๆ กัน “สวัสดีท่านประธาน” เอมอรทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “...” อีเดนยืนนิ่งไปราวกับถูกสาป เมื่อเห็นสาวเจ้าคนที่ทำให้ตนตามหาจนแทบจะเป็นบ้า...อยู่ตรงหน้า! “คนที่เราเจอที่คลับคืนนั้นนี่รียา” อลิชาหันไปกระซิบเพื่อนสาว มารียาสบตากับคนที่เป็นวันไนท์สแตนด์ ก่อนจะชาวาบไปทั้งตัว ‘บ้าจริง! ทำไมโลกมันถึงได้กลมแบบนี้นะ’ “เอมพาผู้ช่วยคนใหม่มาแนะนำสถานที่ค่ะ” เอมอรรีบบอกเมื่อเห็นผู้เป็นนายเงียบไป “รบกวน...ทุกคนออกไปข้างนอกก่อนได้ไหมครับ” อีเดนเอ่ยพร้อมกับจ้องมองใบหน้างดงามที่ตราตรึงในหัวใจอย่างไม่วางตา “ดะ...ได้ค่ะ” เอมอรหันไปพยักหน้าให้สองสาวออกจากห้อง ไปด้วยกัน “ยกเว้นคุณ...รียา อยู่ก่อน” อีเดนรีบดึงแขนบางของคนที่กำลังจะเดินผ่านหน้าตนเอาไว้ “เอ่อ...ฉะ...ฉัน...” มารียาสั่นขึ้นมาทันใด เมื่อเห็นสายตาดุดันของอีกฝ่าย “ผมขอเวลาคุยเรื่องส่วนตัวกับคุณรียา ห้ามใครเข้ามารบกวนครับ” อีเดนบอกเสียงเข้ม “ค่ะท่าน” เอมอรเอ่ยรับเบาๆ “ระ... รียา ฉันอยู่ข้างนอกนะ” อลิชาบอกก่อนจะเดินตามเลขาใหญ่ออกไป มารียามองตามเพื่อนสาวจนกระทั่งประตูห้องปิดลง
like
bc
อ้อมกอดเจ้าชายลวง
อัปเดตเมื่อ Nov 25, 2021, 22:35
ระหว่างทางเข้าเมืองเชียงใหม่... “เสียดายนะครับที่คุณฟ้ารีบกลับเสียก่อน ลุงว่าพรุ่งนี้จะพาไปเล่นน้ำตกที่ท้ายไร่” ชื่นบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พลางนึกไปถึงครั้งล่าสุดที่พา ฟ้ารดา แพรณารา และแพรลานนา ไปแจกของที่โรงเรียนบนดอย แล้วทั้งสามร้องไห้ตอนขากลับ ก็อดยิ้มไม่ได้ “เอาไว้ครั้งหน้านะคะลุงชื่น” ฟ้ารดาบอกขณะที่ภายในใจเอาแต่คิดถึงใครอีกคน ก่อนจะตกใจเมื่ออยู่ๆ ก็รถสปอร์ตขับตีคู่มาแล้วบีบแตรใส่เสียงดัง ปริ้นๆ ปริ้นๆ “คะ...ใครเหรอคะ?” สาวเจ้าถามเสียงสั่น รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “นั่นสิครับ! รถคุ้นๆ เหมือนกับ...” ชื่นที่กำลังจะนึกออก ต้องรีบเหยียบเบรกกะทันหัน เพราะรถสปอร์ตราคาแพง หักพวงมาลัยมาจอดดักหน้า เอี๊ยดดดด คนที่กำลังข่มใจให้เย็น เปิดประตูก้าวออกจากรถมาด้วยสีหน้าตึงๆ เดินตรงมายังรถตู้ แล้วกระชากประตูออก ผลัก! “พะ...พี่เพชร” ฟ้ารดาร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายเอื้อมมือมาจับที่แขนของเธอ “ไปคุยกับพี่” เพชรดนัยบอก พร้อมกับดึงสาวเจ้าให้ลงจากรถ ท่ามกลางสีหน้ามึนงงของชื่น ที่ไม่รู้ว่าหนุ่มสาวมีเรื่องอะไรกัน “ไม่ค่ะ ฟ้าจะเข้าเมือง” ฟ้ารดาพยายามแกะมือหนาออก แต่ทว่า...มันกับบีบรัดแน่นขึ้นอีกเท่าตัว “ไม่ต้องไปไหนสักที่ ถ้าวันนี้ยังคุยกับพี่ไม่รู้เรื่อง” เพชรดนัยบอกด้วยสีหน้าดุดัน ทำเอาคนที่กำลังจะอ้าปากห้ามทัพ ถึงกับพูดไม่ออก “เรามีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีกงั้นเหรอคะ?” ฟ้ารดาน้ำตาคลอหน่อยขึ้นมาทันใด “หึ! จำไม่ได้อย่างงั้นเหรอว่าติดค้างอะไรพี่” เพชรดนัยยิ้มเยาะคนที่กำลังดราม่าบีบน้ำตา “ฟ้าจำได้อย่างเดียวคือพี่เพชรกำลังจะคบกับ...” “อย่ามานอกเรื่อง! ต่อให้พี่จะคบกับสาวสักกี่คน มันก็ไม่ได้หมายความว่าสัญญาระหว่างเราจะเป็นโมฆะ” เพชรดนัยบอกอย่างทนไม่ไหว เพราะไม่ว่าจะเอ่ยคำแก้ตัวใดๆ ออกไปสาวตรงหน้าก็คงไม่เชื่อ จึงหยิบเอาเรื่องสัญญาขึ้นมาอ้างแทน “พี่เพชรเมาแล้ว เอาไว้ค่อยคุยกันวันหลังเถอะค่ะ” ฟ้ารดารีบตัดบท เพราะไม่อยากทะเลาะกับอีกฝ่ายในสถานการณ์แบบนี้
like
bc
อ้อมกอดเล่ห์จอมมาร
อัปเดตเมื่อ Nov 25, 2021, 20:13
“ไปขึ้นรถ ! พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” เสกสรรเอ่ยเสียงเข้มพร้อมกับชี้ไปที่รถ “ไม่ ! แพรยังคุยกับพี่นาวาไม่จบ” หญิงสาวตอกกลับอย่างไม่ยอมแพ้ “ไปขึ้นรถเดี๋ยวนี้แพร” เสกสรรเริ่มเดือดที่สาวเจ้าไม่ทำตาม “ปล่อยนะ ! อย่ามาทำนิสัยป่าเถื่อนกับแพรแบบนี้” แพรลานนาสะบัดแขนออกทันทีที่ถูกอีกฝ่ายจับและดึงไปที่รถ “ผมว่าใจเย็นๆ กันก่อนนะครับ” น่านนาวาปรามเมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาวไหลอาบแก้ม “หึ รู้อะไรไหม ? ผมว่าคุณควรกลับไปตอนที่ยังมีโอกาสดีกว่านะ” เสกสรรหันมาชี้หน้าเตือนอีกฝ่าย “คุณจะทำอะไรผมเหรอครับ คุณแดเนียล” น่านนาวาเลิกคิ้วถามกลับอย่างไม่พอใจเช่นกัน “ก็ทำแบบนี้ไง !” เสกสรรปล่อยมือของสาวเจ้า ก่อนจะตรงเข้าไปเหวี่ยงหมัดใส่คนปากดีทันใด “กรี๊ดดดด พี่นาวา” แพรลานนากรีดร้องอย่างตกใจเมื่อหันกลับมาแล้วเห็นว่าน่านนาวาล้มลงบนพื้น “ฉันสั่งให้ไปขึ้นรถไง !” เสกสรรหันมาตะคอกคนที่จะเข้าไปหาอีกฝ่าย “หึ รู้อะไรไหม คุณเป็นคนที่ไร้เหตุผลจริงๆ” น่านนาวาลุกขึ้นยืนพร้อมกับเช็ดเลือดที่ติดมุมปากออก “แล้วไงวะ !” เสกสรรเอ่ยพร้อมกับปล่อยหมัดใส่ฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง น่านนาวาเซไปนิดหนึ่ง แต่ยังตั้งหลักได้ จึงหันกลับมาปล่อยหมัดใส่อีกฝ่ายคืน “พะ...พี่ต้อม” แพรลานนาร้องอย่างตกใจ เมื่อเห็นนักเลงใหญ่ล้มลง “แก ! ไอ้นาวา !” เสกสรรลุกขึ้นพร้อมกับตรงเข้าไปจะต่อยอีกฝ่าย “หยุดเดี๋ยวนี้นะตาต้อม !” เพียงดาวเอ่ยห้ามหลานชายตัวดีเสียงดัง “คุณเพียง” แพรลานนาดีใจที่เห็นคุณเพียงออกมาจากรถที่ลุงชื่นขับเข้ามาจอดใกล้ๆ “แก !” เสกสรรไม่สนใจเดินตรงเข้าหาน่านนาวาอีกครั้ง “หยุดนะต้อม ! นี่มันอะไรกันฮะ อายุตั้งเท่าไหร่แล้วทำไมถึงทำตัวป่าเถื่อนแบบนี้” เพียงดาวใช้เสียงดังอย่างเดือดดาล “ผมขอโทษด้วยครับคุณเพียง” น่านนาวายกมือไหว้ขอโทษผู้ใหญ่ “ไม่ต้องขอโทษจ้ะพ่อนาวา ยายเห็นมาตั้งแต่แรกแล้วละ ว่าหลานของยายน่ะเถื่อนขนาดไหน” เพียงดาวเอ่ยพร้อมกับจิกตามองนักเลงหัวไม้ “มานี่ !” เสกสรรเดินไปคว้าแขนของแพรลานนาให้มาอยู่ข้างๆ ตน “ปล่อยแพรนะ ปล่อย ! คุณเพียงคะ” แพรลานนาสะบัดแขนออกแต่ก็ไม่เป็นผลจึงหันไปพึ่งผู้ใหญ่
like
bc
อ้อมกอดซาตานเฝ้ารัก
อัปเดตเมื่อ Nov 25, 2021, 19:04
R1111 (แพท) แพททริกสัน โรคาซานเดอร์ อายุ 35 ปี เจ้าของฉายาหล่อลืมชื่อ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานใหญ่ผู้กุมบังเหียนของ Rocasander Corporation Group London ทั้งโรงแรมห้างสรรพสินค้าชั้นนำและไวน์ภายใต้แบรนด์ โรคาซานเดอร์ เขาหล่อเหลาเป็นที่ต้องตาต้องใจของสาวๆ ไปทั่ว เขาไม่เคยควงผู้หญิงซ้ำ และไม่เคยจำชื่อของพวกเธอที่ขึ้นเตียงได้แม้แต่คนเดียว!
like
bc
ฟีนิกซ์ 5 คาเรนเทีย
อัปเดตเมื่อ Nov 25, 2021, 15:09
“ฮึก...คุณพาหนูมาที่นี่ทำไม” เมลิสสาถามอย่างไม่เข้าใจ เธอคิดว่าทุกอย่างมันน่าจะจบแล้ว แต่เปล่าเลย เขากลับพาเธอมายังประเทศที่เธอไม่รู้แม้กระทั่งภาษา “เธอลืมไปแล้วเหรอว่าต้องรับผิดชอบอะไรฉัน” “ฮึก...เมื่อคืนหนูก็ชดใช้ให้ท่านไปแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง มันยัง...” “ยังไม่พอ! เพราะฉัน...เอ่อ...เพิ่งจะไปพบแพทย์มา และเขาบอกว่ามันอาจจะใช้งานไม่ได้ถาวร หรือใช้ได้เป็นบางครั้ง ไม่รู้สิ! ต้องรอดูอาการไปจนกว่าจะครบหนึ่งเดือน!” คนที่ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยโกหกเป็นครั้งแรก พยายามหยิบยกเหตุผลขึ้นมาอ้าง “หมายความว่า...” เมลิสสาหยุดร้องไห้แล้วรอฟังชะตากรรมของตัวเองอย่างตั้งใจ เพราะต่อให้เธอหนียังไง เชื่อว่าเขาก็ต้องตามหาจนเจอ สู้ชดใช้ให้มันจบๆ ไปคงจะดีกว่า เธอต้องอยู่กับฉันที่นี่ เพื่อชดเชยต่อความสุ่มเสี่ยงที่ฉันอาจจะสูญเสียของรักของหวง หากว่ามันจะใช้งานไม่ได้” “ถ้าครบหนึ่งเดือนแล้ว ทุกๆ อย่างเป็นปกติ คุณจะ...” “เธอกลับอังกฤษได้เลย” “แล้วงานที่...” “ไม่ต้องห่วง เธอจะได้ทำงานที่ PD กาสิโนเหมือนเดิม ฉันรับรอง” คาเรนเทียให้คำมั่น
like
bc
รอยราคีมาร
อัปเดตเมื่อ Nov 25, 2021, 05:07
“ไอ้คนบ้า!” คนที่เพิ่งได้สติรีบลืมตาขึ้นมอง ก็เห็นอีกฝ่ายกำลังจ้องเธอด้วยสายตาหื่นๆ จึงคว้าหมอนที่วางอยู่ข้างๆ มาปิดบังตัว ก่อนจะตะโกนด่าอย่างโมโหและอับอายที่เห็นขีปนาวุธขนาดเขื่องกำลังชี้มาที่หน้าของเธอ ‘ให้ตายสิ! มีงี้ด้วยเหรอวะ?’ เลโอนาดท์ถามตัวเองอย่างมึนงง “คะ... คุณลวนลามฉันทำไม!” เมดสาวกล่าวหาพร้อมกับกอดหมอนเอาไว้แน่น “ธะ... เธอยั่วฉันเองนะ!” สิงโตกลัดมันบอกพร้อมกับกลอกตาอย่างเซ็งๆ ที่ต้องหยุดชะงักอารมณ์เป็นครั้งที่สอง แล้วเปลี่ยนมานั่งโต้วาทีคนละฝั่งของเตียงกับสาวเจ้าแทน ‘พระเจ้า! อีกนิดเดียวเท่านั้นก็จะ...’ “คุณถอดเสื้อผ้าของฉันทำไม” เธอต่อว่าอย่างขุ่นเคือง “ก็แล้วเวลาเธออาบน้ำ เธออาบทั้งเสื้อผ้าหรือไง?” คนหน้ามึนบอกก่อนจะหยิบหมอนอีกใบมาปิดอาวุธประจำกายอย่างเสียมิได้ ‘บ้าจริง! ทำไมเราต้องอายด้วยวะ’ “ฉันอาบเองได้ แล้วคุณรู้ตัวไหมว่ากำลังล่วงเกินคนอื่น คุณเลโอนาดท์” “พรุ่งนี้เธอก็ต้องอาบให้ฉัน ฉันก็แค่สอน... เธอก็ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้” ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเซ็งๆ กับความต้องการที่ค้างและโด่จนปวดไปทั้งแก่นกาย “นี่คุณคิดว่าเรื่องที่คุณลวนลามฉันเป็นเรื่องเล็กงั้นเหรอ” “ใช่!” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่แคร์ “แต่สำหรับฉันมันคือเรื่องใหญ่” มะลิฉัตรเอ่ยพลางน้ำตาคลอขึ้นมาทันใด “ใหญ่แค่ไหนล่ะ?” สิงโตหื่นเลิกคิ้วถามอย่างสนใจ “ใหญ่พอที่คุณจะต้องเอาแหวนมาคุกเข่าขอเลยละ!” “หึ! เธอนี่หวังสูงไปนะมะลิ แค่ชั่วคราวก็พอมั้ง” เลโอนาดท์ส่ายหน้าอย่างขำๆ กับน้ำเสียงจริงจังของสาวเจ้า
like