?คู่ที่ 1 ซื่อบื้อตัวพ่อ❤️มั่นตัวแม่ (มั่นหน้ามั่นโหนก) ?
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
หลังจากที่รับประทานอาหารไปได้สักพัก โจเซฟก็รีบเดินออกไปรับสายสำคัญที่ด้านนอกอย่างเร่งรีบ แต่พอคุยเสร็จและกำลังจะเดินกลับเข้ามาในร้านอาหาร ก็บังเอิญชนเข้ากับสาวคนหนึ่งอย่างจัง
“อ๊ะ! ว้าย!” ดารินกรีดร้องขึ้นอย่างตกใจ ใช่! มันไม่เหมือนที่เธอคิดเอาไว้สักนิด เขาน่าจะรับเธอเหมือนอย่างกับในหนังรักโรแมนติก แต่เปล่าเลย! เธอหงายหลังล้มก้นจำเบ้าและหัวก็เกือบจะฟาดลงกับพื้น
ฟุบ!
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” โจเซฟรีบถามอย่างเป็นห่วง อยากจะคิดว่านี่คือการแสดง แต่สาวตรงหน้าคงจะเจ็บจริงอยู่ไม่น้อย
“เจ็บบั้นท้ายค่ะ คุณช่วยดึงฉันลุกขึ้นทีได้ไหมคะ” ดารินเงยหน้าขึ้นมองและขอความช่วยเหลือ พร้อมกับส่งมือไปให้อีกฝ่าย
“ครับ ให้ผมพาไปหาหมอไหม? ” โจเซฟดึงมือของสาวเจ้าให้ลุกขึ้น พร้อมกับประคองนิดๆ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่คืนนี้เลี้ยงข้าวฉันสักมื้อก็พอ” ดารินเปิดฉากอ่อยทันทีที่ตั้งตัวได้
“...” โจเซฟจ้องมองหญิงสาวแสนสวยตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาเกือบจะคิดว่าเธอแตกต่าง แต่สุดท้ายก็เป็นเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่พยายามจะเข้าหาด้วยมุกเดินชน
“นี่นามบัตรของฉันค่ะ ขอของคุณด้วยนะคะ” ดารินฉีกยิ้มหวานโปรยเสน่ห์เหมือนที่เคยทำและได้ผลในทุกๆ ครั้ง
“สรุปคือไม่ได้เจ็บอะไรใช่ไหม” โจเซฟถามด้วยน้ำเสียงที่ต่างไปจากเดิม
“เจ็บสิคะ ล้มลงไปกระแทกพื้นแบบนั้น ไม่เจ็บได้ไง” ดารินรีบทำท่าทางเจ็บปวดให้อีกฝ่ายเห็น
“งั้นก็ไปหาหมอครับ” โจเซฟบอกพร้อมกับดึงแขนของสาวเจ้าให้ออกเดิน
“แต่ฉันอยากจะไปทานข้าวกับคุณมากกว่าค่ะ” ดารินรีบขืนตัวเอาไว้ไม่ยอมขยับไปไหน
“หน้าตาก็สวยนะ ไม่น่าทำแบบนี้เลย” โจเซฟต่อว่าด้วยสีหน้าตึงๆ
“ทะ...ทำอะไรคะ” ดารินถามกลับอย่างมึนงง
“ก็อ่อยผู้ชายด้วยวิธีโง่ๆ แบบนี้ไง” คนที่เกลียดผู้หญิงเข้าหาด้วยวิธีที่กระแดะและดัดจริต บอกอย่างโมโห
“นี่คุณ!” ดารินรู้สึกอับอายจนแทบจะเอาหน้าแทรกพื้นหนี แต่พอหันไปเห็นเพื่อนๆ ที่กำลังมองมาก็ทำให้เธอถอยไม่ได้
? คู่ที่2 ?
“ฉันจะไม่ขอโทษอะไรทั้งนั้น” คันเลนมองแผ่นหลังบางที่เปลือยเปล่าของคนที่นั่งสะอื้นไห้อยู่บนเตียง ซึ่งกำลังหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมด้วยมือไม้ที่สั่นเทานิดๆ
“ฮึก...เอาเลขบัญชีมาค่ะ จะได้จบๆ ไปซะที” เปรมมิกาบอกพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเป็นทาง
“ฉันส่งแชตไปลาออกจากที่ทำงานให้แล้ว” คัลเลนบอกเสียงเข้มก่อนจะหยิบเสื้อคลุมที่หล่นอยู่ขึ้นมาสวม
“อะ...อะไรนะ” เปรมมิกาหันไปถามอย่างตกใจ
“ฉันพิมพ์บอกไปว่าเธอได้งานทำแล้ว และเขาก็เรียกตัวเข้าไปทดลองทำงานกะทันหัน”
“นี่คุณย่ำยีหนูยังไม่พอ ยังจะ...”
“ฉันจะรับผิดชอบชีวิตของเธอต่อจากนี้เอง” คนที่ไม่เคยคิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน บอกเสียงหนักแน่น
“ไม่ต้องค่ะ ให้มันจบกันที่ตรงนี้เถอะ” เปรมมิกาบอกอย่างไม่แคร์
คัลเลนไม่สนคำตอบของสาวเจ้า รีบขยับเข้าไปหาพร้อมกับใช้มือแตะที่ผากมนเบาๆ “ไปกินข้าว เดี๋ยวต้องกินยาต่อ เธอมีไข้นะรู้ไหม”
“ฮึก...คุณไม่ต้องมาทำเหมือนเป็นห่วงหรอกค่ะ กลัวหนูจะแจ้งความใช่ไหม” เปรมมิกาตอกกลับอย่างรู้ทันความคิดของอีกฝ่าย
“จะแจ้งไหมล่ะ เดี๋ยวจะโทร. เรียกตำรวจมาให้ ตอนนี้หลักฐานยังอยู่นะ คราบต่างๆ ของเรา ยังคงอยู่บนผ้าปูที่นอน แล้วก็ในตัวของเธอ”
“ฮึก...ฮือๆๆ จิตใจของคุณทำด้วยอะไรฮะ” เปรมมิกาปล่อยโฮออกมาอย่างเจ็บช้ำน้ำใจที่อีกฝ่ายเอ่ยประชดความรู้สึกของเธอ
“จิตใจของเธอต่างหากเปรม มันทำด้วยอะไร? ฉันจะรับผิดชอบ ก็ไม่เอา จะเรียกตำรวจมาให้ก็ไม่เอา สรุปจะเอายังไงกันแน่” คัลเลนถามกลับอย่างเริ่มจะโมโหขึ้นมานิดๆ