ตอนที่ 8

1278 คำ
ตอนที่ 8 มือหรือจะยอมเสียนางไปไม่มีทางเสียหรอกและก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะหย่ากับนาง “เพราะพี่ใหญ่ชวนพี่ พี่มิอาจจะปฏิเสธ ลงมาคุยกันดีๆ เถิดนะ” เขาว่าหยุดอยู่ที่ตรงหน้าของนาง มือหนาก็ชูเสมือนจะอุ้มนางลงมา เถาม่านหลิวยกยิ้มจนตาหยีอย่างพอใจ “ท่านพี่” เสียงหวานส่งให้สามีตัวดี ที่เขาหลงลืมไปแล้วว่าตนเองจะต้องโดนอะไรบ้าง เพล้ง เสียงของแจกันหยกใบขนาดพอดีมือ และก็มีรูปพยัคฆ์ขนาดพอดีมือเรียวของนางเช่นกัน สองสิ่งนี้เรียกได้ว่าอาวุธชิ้นสำคัญที่ทำให้นางมีชัยในวันนี้ “โอ๊ย ฮูหยินพอแล้ว พอแล้ว” เขาทรุดตัวนั่งลงข้างเตียงด้านล่างตรงพื้น สองมือหนากุมศีรษะตนเองไว้ พลันโลหิตสีแดงก็ไหลลงมาเป็นสาย “ข้าบอกท่านว่าอะไร ท่านพี่จะยอมหย่าให้ข้าหรือไม่” นางเอ่ย แต่หางตาไม่มองผู้เป็นสามีของนางที่ทรุดตัวจับศีรษะ “ต่อให้ตายก็ไม่ยอมหย่า” เขายืนกรานเสียงแข็ง โลหิตก็หยดลงพื้นไปหลายหยดแต่ก็ยังไม่ได้เรียกพ่อบ้านให้ไปเรียกหมอมาดูอาการ “เช่นนั้นก็รับผลกรรมที่ท่านทำไว้เถิด” มือเรียวก็หยิบเอาไม้ที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มยกขึ้นมา ฟาดเข้าไปที่ด้านหลังจนไม้หักคามือของนาง นางฟาดอย่างเต็มแรงเกิด จนลืมไปว่ามือเรียวของตนเองก็ต้องเจ็บด้วยเช่นกัน เขายอมอยู่นิ่งๆ ให้ภรรยาฟาดไม่ลงที่ด้านหลัง มันเป็นเพียงแค่ไม้เท่านั้นไม่ใช่ของมีคมเช่นดาบ หากเป็นเช่นนั้นเขาไม่อยู่เฉยๆ ให้นางเช่นนี้หรอก มือเรียวก็ปล่อยไม้ทันทีที่ไม้หักลง นางมองมือของตนเองที่มีรอยถลอกและมีเลือดซึมออกมาทั้งสองข้าง นางยืนนิ่งเพราะว่านางตกใจมือตัวเองเจ็บ เวรกรรมของนางที่ทำสามี สามีตัวดีเมื่อเห็นภรรยานิ่งไปจึงได้ดูที่มือเรียวสองข้างนั้น มีเลือดซึมออกมา มือหนาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉานนั้นก็จับมือนิ่มของภรรยามาดูอย่างเป็นห่วง ศึกในห้องนอนตอนนี้สงบลงแล้ว มือหนาก็จับมือเรียวของภรรยาประคองนางให้นั่งลงที่เตียง นางยังนิ่งไม่พูดอะไรอีก “เจ็บมากใช่หรือไม่ พี่ยอมเจ็บให้เจ้าได้สบายใจ” เขาว่าพลางเป่ามือเรียวของภรรยา เสมือนเด็กน้อยที่หกล้มแล้วให้พี่ชายเป่าแผลให้ นางนึกย้อนเหตุการณ์นี้กลับไปเมื่อตอนเด็ก ตอนนั้นนางก็หกล้มฝ่ามือเล็กๆ ของนางนั้นก็เต็มไปด้วยโลหิต มีพี่ชายใจดีที่มากับพี่ใหญ่ช่วยเป่าแผลให้นาง ไม่ให้นางร้องไห้ออกมาแต่น้ำตาก็ไม่ยอมหยุดไหลช่างน่าอายยิ่งนัก แก้มยุ้ยของนางก็ถูกเขาจับไปสองครั้งเพราะว่าเขาหมั่นเคี่ยวนาง แต่นางก็จำพี่ชายผู้นั้นไม่ได้ เพราะว่าน้ำตาของนางนั้นไหลอาบแก้มอยู่จึงมองไม่เห็นใบหน้าของพี่ชายผู้นั้น นางพยายามกลั้นน้ำตาแต่ก็ยังไหลออกมาอยู่ดี “ได้โปรดเถิด อภัยให้พี่เถิดนะ พี่ผิดไปแล้ว พี่ขอโทษ” เขานั่งคุกเข่าที่มีค่ามากกว่าทองพันชั่งสำหรับบุรุษที่เป็นถึงแม่ทัพใหญ่ผู้เกรียงไกร เขายอมเพื่อนางเพียงผู้เดียว “ฮูหยิน พี่รักเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น ต่อแต่นี้พี่จะกลับจวนรับอาหารกับเจ้านะ” เขาว่า เขาควบอาชาตามหลังมาและเดินเข้ามาหน้าจวนมุ่งหน้าไปยังเรือนนอนของภรรยา อาปา กล่าวรายงานว่า ฮูหยินลงมือทำอาหารไว้รอ แต่นายท่านก็ยังไม่มา อีกทั้งอาหารเหล่านั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นเขาเปรยว่าอยากกิน เขารู้สึกผิดมากที่ทำให้ภรรยาตัวน้อยเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นเพราะเขาใจอ่อนตามพี่ใหญ่ไป แต่คราวหน้าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว เขาก็ยังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าภรรยาเช่นนั้น โดยที่นางนั้นนั่งอยู่บนเตียงน้ำตาร่วงหล่นหลายหยด นางมองที่ศีรษะนั้นที่โลหิตยังไหลออกมาไม่ยอมหยุด เขายอมให้นางตีทั้งๆ ที่เขาหลบได้แต่ก็ยังยอมให้ตี มือเรียวนั้นก็ยังถูกจับไว้ด้วยมือหนาที่ส่งสายตาอ้อนวอนภรรยาให้ยกโทษให้ หากนางไม่ยกโทษเขาก็จะคุกเข่าอยู่เช่นนี้ เขายอมให้คนภายนอกดูถูก เขาไม่สนใจใครทั้งสิ้น เขาสนใจเพียงแค่ว่าภรรยาของเขานั้นจะยกโทษให้ได้หรือไม่ “พี่สัญญา ต่อแต่นี้พี่จะไม่ทำอีกแล้ว ขอโอกาสพี่อีกสักครั้งนะภรรยารักของพี่” คำอ้อนวอนก็ยังส่งไปหาภรรยาตัวน้อยอย่างต่อเนื่อง มือหนาก็เช็ดมือให้สะอาดพลางบรรจงเช็ดน้ำตาที่แก้มนวลทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยน ภรรยาตัวน้อยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับเด็กน้อยตัวเล็กเมื่อสิบสองปีก่อน “พี่จะไม่ไปหอบุหลันอีกแล้ว เชื่อพี่เถิดนะคนดีของพี่” “ก็ได้เจ้าค่ะ หากท่านพี่ผิดคำพูดเช่นนี้อีก คราวหน้าข้าจะเอาดาบตัดหัวท่านเสียบประจาน” วังหลวง ยามยาม จี๋ (ซื่อ 09.00 - 10.59 น.) ร่างบางของสตรีสูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ศาลากลางสระบัวขนาดใหญ่ ศาลานั้นยื่นลงไปในสระกว้างที่เหล่าดอกบัวชูช่อกันอย่างเนืองแน่น ด้านข้างสระฝั่งซ้ายมีดอกไม้ทั้งสีแดงสดใสที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนล่อลวงเหล่าผีเสื้อน้อยใหญ่ที่หลากสีสันโผบินมาดอมดม และด้านขวามือนั้นเป็นดอกไม้สีขาวสลับกับสีเหลืองที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนไม่แพ้กัน เหล่าผีเสื้อน้อยใหญ่ที่ปีกของพวกมันกระพือขึ้นลง ขยับปีกอย่างช้าๆ และหยุดลงชิมเกสรน้ำหวานที่เหล่าดอกไม้พวกนั้น หมู่ภมรก็ไม่แพ้กันต่างพากันบินชิมน้ำหวานดอกแล้วดอกเล่า ภายในศาลาที่ประดับประดาอย่างงดงามก็มีสตรีทั้งสามนั่งจิบชาและรับขนมกันอยู่ ทั้งสามนั้นมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก อีกทั้งคนที่เป็นผู้ที่ทำให้เรื่องใหญ่โตก็ไม่มีใครนอกจาก พี่ชายตัวดีของนาง เขาพี่ชายตัวดีของนางมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดของแคว้นหานแห่งนี้ และไม่ใช่ใครที่ไหน เขาก็คือองค์ไท่จื่อ รัชทยาทของพระบิดาบุญธรรมของนาง เถาม่านหลิวคือองค์หญิงบุญธรรมของฮ่องเต้และฮองเฮา ที่ทั้งสองพระองค์นั้นไม่องค์หญิงไว้เชยชม เมื่อมารดาของนางนั้นคลอดนางออกมา จึงได้ประสงค์ว่าอยากให้ทั้งสองเกี่ยวดองกัน เพียงแต่ว่ามารดาของนางนั้นขอร้องไว้ จึงได้เป็นองค์หญิงของแคว้นหานแห่งนี้แทน และเรื่ององค์หญิงนั้นก็มีผู้ที่รับรู้กันไม่มากนัก นอกจากพวกเหล่าขุนนางเก่าแก่ แต่เป็นเรื่องของเชื้อพระวงศ์ที่พวกเขาไม่สามารถก้าวก่ายได้และไม่ได้ทำให้เสียหาย กลับดีเสียอีกที่ทั้งสองพระองค์เบิกบานพระทัยที่มีองค์หญิงตัวน้อยวิ่งเล่น เข้าออกวังหลวงกับจวนตระกูลเถา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม