ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
ภายในห้องขนาดใหญ่ ข้าวของเครื่องใช้ล้วนบ่งบอกฐานะเจ้าของจวนได้เป็นอย่างดี เขาเป็นแม่ทัพผู้เกรียงไกร ที่ได้รับการขนานนามว่า โหด เลว ดิบ เถื่อน ด้วยใบหน้าใต้หน้ากากเป็นรูปปีศาจสีแดงครึ่งหน้า
นามของเขาคือฟางเทียนหมิง เขามีภรรยาที่ได้รับสมรสพระราชทานมาเมื่อ สามวันที่แล้ว และอีกสองเดือนข้างหน้าก็ต้องแต่งนางเข้าเป็นฮูหยินเอกของจวนแม่ทัพผู้ที่โหดเหี้ยมที่สุดในแผ่นดิน
และแล้วก็ถึงวันมงคลเสียที เขาไปรับเจ้าสาวเองถึงจวน นางเป็นบุตรีของขุนนางผู้หนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าซื่อสัตย์ที่สุด และมีเพียงฐานะต่ำต้อยเป็นขุนนางระดับล่าง และไม่คาดคิดว่าขุนนางผู้นี้เป็นถึงพระอาจารย์ของไท่จื่อแห่งแคว้น
ราชวงศ์หานไม่มีสงครามแก่งแย่งภายในให้มัวหมองหากจะมีก็มีภายนอกที่อยากจะเข้ามาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับแคว้นแห่งนี้กระมัง
แต่แน่หละล้วนแล้วมีแต่ผลประโยชน์ทั้งสิ้น อีกทั้งพวกนั้นยังอยากจะยึดครองบัลลังก์มังกรของฮ่องเต้ ที่ผืนแผ่นดินนี้อุดมสมบูรณ์และมั่งคั่งที่สุดในแคว้นใกล้เคียง
ศึกสงครามในแค้วนย่อมไม่มี มีเพียงภายนอกต้องให้เขาไปปราบเท่านั้น กำลังพลเพียงน้อยนิดชนะสงครามอย่างง่ายดาย เขาไม่ได้ใช้กำลังเพียงอย่างเดียว ต้องใช้หัวสมองอันชาญฉลาดของแม่ทัพผู้เกรียงไกร
งานมงคลก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เกี้ยวเจ้าสาวคันใหญ่โตสีแดง เจ้าบ่าวควบม้าขนาบข้างสวมหน้ากากครึ่งบนเป็นสีทองแลดูงดงาม วันนี้เป็นวันมงคลของเขาจึงได้เปลี่ยนหน้ากากปีศาจสีแดง เป็นหน้ากากทองที่งดงามราวกับเทพบุตร
ค่ำคืนเข้าหอเขากลับทิ้งให้เจ้าสาวนอนรอจนสว่างเขาจึงได้กลับเข้าเรือนหอ ดังนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเจ้าสาวใหม่หรือฮูหยินเอกแห่งจวนท่านแม่ทัพก็มีท่าทีรังเกียจ สามีของตนเองอย่างออกนอกหน้า ขนาดถึงได้เอ่ยว่าให้เขารีบหย่ากับนางเสีย
มีหรือแม่ทัพผู้หยิ่งใหญ่จะยอมเขายิ่งชอบเอาชนะเสียด้วย อีกทั้งยังเป็นคำที่ลูกแมวตัวน้อยน่ารักที่เขามองดูมานานนับปีเช่นนาง เขามิยอมปล่อยไปง่ายๆ เช่นนี้หรอก
กว่าจะได้นางมาเชยชมก็แสนจะลำบากเพียงแค่อยากกลั่นแกล้งลูกแมวตัวนี้ก็เท่านั้น แต่เห็นว่าการกลั่นแกล้งเช่นนี้ทำให้นางเสียหน้ายิ่งนัก
เขาเป็นชายชาตินักรบย่อมไม่มีความอ่อนน้อม เช่นรักหยกถนอมบุปผาอะไรเช่นนี้ เขาเป็นคนห้วนๆ ห้าวๆ และโหด ตรงไปตรงมา และรักนางเพียงผู้เดียวแต่ติดที่ปากหนัก หรือปากสุนัขมากไปหน่อย จึงมักทำให้ภรรยาโกรธ แต่เขาชอบเวลาที่นางโมโหและดุด่าเขา
“อย่าเอามือสกปรกของท่านมาแตะต้องตัวข้านะ” ฮูหยินเอกเอ่ยเสียงดังขึ้น ขณะที่เขากำลังล้มตัวลงนอนข้างนาง นางรังเกียจมือของเขายิ่งนักทั้งสัมผัสบุรุษพวกนั้นอีกทั้งยังสัมผัสเนื้อตัวของนางโลมชั้นต่ำพวกนั้น
เขากลับมาทีไรต้องมีกลิ่นหอมฉุนเช่นนี้มาเสมออีกทั้งยังมีกลิ่นสุราติดมาด้วย และนางไม่ชอบยิ่งนัก นางเกลียดเขาเป็นที่สุด นางลุกขึ้นจากเตียงจุดโคมไฟในห้องให้ส่องสว่างเพื่อมองใบหน้าของสามีตัวดีของนาง และนางก็ยิ้มเย้ยหยันในโชคชะตานี้เสียจริง
แต่งงานกับเขามาหนึ่งเดือนกว่าก็มีเรื่องให้นางต้องปวดหัวทุกวันจากสตรีที่งดงามอ่อนหวาน เรียบร้อยไม่มีปากมีเสียง แต่บัดนี้นางกลายเป็นยายแก่ขี้บ่น และก็อีกทั้งยังลงไม่ลงมือกับสามีเช่นเขาอีกด้วย
“มือสกปรกของข้าก็ทำให้เจ้าถึงสวรรค์มาไม่รู้กี่ครั้งกี่หน” เขาว่าพลางมองใบหน้าของภรรยาน้อยที่บึ้งตึงพลางเท้าสะเอวสองข้าง จ้องมองเขาเหมือนอย่างจะกลืนกินเขาลงท้อง แน่แหละเขาชอบที่นางเป็นเช่นนี้ทำให้มีสีสันมากมายยิ่งนัก เขาเป็นบุรุษป่าเถื่อน หรือเถื่อนมาก
“หยาบคายยิ่งนัก” นางพูดได้เพียงเท่านี้ หากว่าเขาไม่ใช่แม่ทัพแล้วละก็ป่านนี้นางคงจะเอาดาบมาฟัดปากของเขาให้ล่วงลงกับพื้น หรือไม่ก็กระทืบซ้ำไปซ้ำมาสักหลายๆ รอบให้หนำใจเสีย
เพียงแต่นางทำไม่ได้ หากทำเช่นนั้นละก็คงจะถูกชาวบ้านนินทาว่าร้าย ทำไมชายชาตรีถึงตบตีภรรยาได้ แต่ทำไมภรรยาตบตีสามีถึงกล่าวว่าร้ายกาจนัก
“หยาบคายหรือ ถึงข้าชั่วช้าอย่างไรก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเจ้า อย่าคิดแม้แต่จะหย่าสามีเช่นข้าได้ ต่อให้เจ้าตายก็ย่อมเป็นผีตระกูลข้า” เขาว่าเสียงดังในห้องสี่เหลี่ยมที่กว้างใหญ่ สามีนั่งมองภรรยาบนเตียง ส่วนภรรยายืนมองสามีอย่างเอาเป็นเอาตายห่างออกไปเกือบถึงประตูหน้าห้อง
“ไอ้ชั่ว ไอ้เลว” นางกร่นด่าคำหยาบออกมา เป็นเพราะเหลืออดแล้วจริงๆ กับบุรุษหน้าเหม็นคนนี้ เสียแรงเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ แต่ปากสุนัขเสียจริง เขาจะทำให้นางเป็นบ้าหรือไร
นางก่นด่าเขาสารพัดจนหน้าดำหน้าแดงด้วยความโมโห เส้นเลือดในสมองของนางคงจะเต้นตุบๆ เพราะโมโหเขาเป็นแน่
“เลวนักใช่ไหม ชั่วนักใช่ไหม วันนี้ข้าจะกดเจ้าให้จมเตียงยันเช้า” เขาว่าพลางถอดหน้ากากปีศาจสีแดงออก เผยใบหน้าที่หล่อเหลา ล่อลวงสตรี แต่ไม่ใช่กับนาง เพราะนางชินตากับความล่อลวงเช่นนี้ ถึงได้กลายเป็นนางมารอยู่อย่างนี้อย่างไรเล่า
เขาลุกขึ้นจากเตียงเดินอย่างทระนงตนมุ่งไปหาภรรยาตัวดีที่ยืนหน้านิ่ว คิ้วผูกโบ ส่วนภรรยาตัวดีนั้นก็เห็นท่าไม่ดีจะหนีเอาตัวรอด แต่เกรงว่าไม่ทันการณ์ มือหนาเอื้อมปิดประตูด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งก็สอดเข้าที่เอวบางของผู้ที่เป็นภรรยา
ร่างบางกัดเข้าที่แขนมุ่งหมายสั่งสอนสามีชั่วช้า ที่บังอาจไปนอนที่หอคณิกาไม่กลับจวน หรือหากกลับก็ดึกดื่นบางวันก็เกือบรุ่งเช้า นางจะทนได้เช่นไร แต่งงานกับนางแต่เขาชอบไปหาความสำราญนอกจวน เช่นนั้นทำไมไม่แต่งพวกนางคณิกาทั้งหลายเข้ามาในจวนหยามนางเสียเลยเล่า