เผียะ เผียะ...
เสียงแม่ตีแขนลูกสาว และชูมือ ทำปากบอกรพิชา
“อีกสองแสนจ่ายเมื่อไร” เหมือนจะให้รพิชาถาม
“ป้าจะโอนตอนไหนคะ แล้วอีกสองแสน”
ถามตามความต้องการของแม่ ที่หน้าบานเป็นจานดาวเทียมแล้ว
(“ส่งเลขบัญชีมาให้ป้าเลยนะ สักพักป้าจะโอนให้ สองแสนสองหมื่นนะ”)
“จ้ะพี่ เดี๋ยวฉันจะส่งหมายเลขบัญชีไปให้พี่เลยนะ” กนกขวัญหมายถึงบัญชีธนาคารของตัวเอง
“แม่... นั่นมันค่าจ้างของหนูไม่ใช่เหรอ” พูดกระซิบให้ได้ยินกันสองคน
“เงินลูกก็เหมือนเงินแม่” แล้วหัวเราะคิก ๆ
(“ขอบใจมากนะทอฟฟี่ ทีแรกป้าก็คิดหัวแทบกลับจะทำอย่างไรจะได้เจอ หรือได้คุยแบบเห็นหน้ากับฟรานบ้าง เฮ้อ... โล่งใจ ขอให้ทอฟฟี่เอ็นดูฟรานให้เยอะ ๆ นะ เพราะฟรานก็เป็นหลาน เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน มาจากต้นตระกูลเดียวกัน ดีกว่าเราต้องไปทำงาน ไปสอนลูกหลานคนอื่น”)
“จริงพี่ ฉันเห็นด้วยมาก ๆ เลย”
(“ทอฟฟี่เตรียมตัวให้พร้อมนะ อย่าลืมส่งเลขบัญชีมาให้เลยล่ะ”)
“ค่ะป้า”
(“แค่นี้แหละนะ”) น้ำเสียงเปลี่ยนไป
คุณกนกแก้วดีใจมาก ๆ ต่อไปแกจะได้คุยกับหลานชายได้ทุกวัน คุณกนกแก้ววางสายไปแล้ว
“แม่ไปหยิบสมุดบัญชีก่อน” รีบหมุนตัวหายไปเลย
“แม่นะแม่” ปุ๊บปั๊บก็จะได้ไปเมืองนอก
แม่กนกขวัญกลับมา รีบถ่ายรูป และส่งไปให้พี่สาว
ติ๊ง ติ๊ง... ไม่ทันไรก็มีเสียงเตือนข้อความเข้า
(พี่โอนเงินให้แล้วนะ ไปเช็กด้วย) ป้าก็ส่งสลิปมาให้ดู
(จ้ะ)
‘ไวมาก’ คุณกนกขวัญกำลังกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ชักหน้าไม่ถึงหลัง พี่สาวของเธอแต่งงานกับเถ้าแก่ มีฐานะร่ำรวย รวยจนส่งลูกสามคนไปเรียนเมืองนอกได้
แต่คุณกนกขวัญโชคไม่ดี เธอแต่งงานกับคุณเชิงชาย แต่เขาก็โชคร้ายจากไปก่อนวัยอันควรด้วยอุบัติเหตุ ทิ้งให้เธอกับลูกสาวต้องต่อสู้ลำพัง ตอนที่คุณเชิงชายเสีย รพิชาอายุเพียงสิบขวบเท่านั้น กว่าจะฟันฝ่า และเก็บหอมรอมริบดาวน์บ้านหลังนี้ได้ ก็ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิต
(เอาเงินให้ทอฟฟี่ไปซื้อเสื้อผ้าด้วยนะ จะได้ไม่อับอายขายขี้หน้าเขา พวกนั้นเขาไฮโซโก้เก๋อยู่ แต่ว่าเราก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้ของแพงมาก เอาที่มีคุณภาพสักหน่อย ให้ดูดี ดูเรียบร้อยหน่อยก็พอ)
คงกังวลอยู่เหมือนกัน เพราะเท่าที่รู้ คนรวยแบบเข้าขั้นมหาเศรษฐี ก็คงต้องอยู่และกลืนไปกับพวกเขา
(ให้เบอร์โทรของทอฟฟี่มาด้วย อย่าลืมไปทำพาสปอร์ต นะ หรือมีแล้ว)
(มีแล้วจ้ะพี่ เราสองคนเพิ่งไปเที่ยวเกาหลีมา)
(ดี ๆ ให้ถ่ายรูปพาสปอร์ตส่งมาด้วยนะ พี่จะได้จองตั๋ว)
(แล้วเรื่องวีซ่าล่ะพี่)
(ไม่ต้องทำ เพราะที่นี่เขากำลังเปิดประเทศ ยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย และอยู่ในบ้านเมืองเขาได้ถึงสามเดือน แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พ่อของฟรานจะจัดการเรื่องทุกอย่างให้เอง)
(จ้ะพี่)
“แม่โอนให้ทอฟฟี่หมื่นหนึ่งนะ พอไหม”
“แม่อะ ป้าให้หนูสองหมื่นนะ”
“แหมจะซื้อเสื้อผ้าอะไรเยอะแยะมากมาย เงินหนึ่งหมื่นบาทเนี่ย ซื้อได้เป็นรถเข็ม”
“แม่ไม่ได้ยินหรือที่ป้าบอกว่า เขาเป็นมหาเศรษฐีน่ะ แม่จะให้ลูกสาวแม่ไปอย่างซอมซ่อหรือไง โอนมาให้หนูสองหมื่น แล้วที่เหลือแม่จะเอาไปทำอะไรก็ได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นแม่จะเอาไปผ่อนบ้าน และที่เหลือแม่เก็บเอาไว้ให้” ใบหน้าสดชื่น
แต่ลูกสาวก็ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ
คุณกนกขวัญร้องเพลง “แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง แม่เฝ้าหวง ห่วงลูกแต่หลัง เมื่อยังนอนเปล”
รพิชารีบยกมือห้าม “โอเคจ้ะแม่จ๋า แม่หยุดร้องเพลงนี้เถอะ หนูโคตรยินดีกตัญญูเลย”
แต่แม่ก็ไม่หยุด ฮัมเพลงต่อ “แม่เราเฝ้าโอละเห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปล ไม่ห่างหันเหไปจนไกล”
รพิชาถึงกับเดินหนี เธอรีบเดินหนีเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง และคิดไปถึงใบหน้าของเจ้าหนูฟราน ที่ป้าพอได้เบอร์ก็แอดไลน์มาในทันที
‘น่าสงสารเหมือนกันนะ ฟรานไม่มีแม่ แต่น้าน่ะไม่มีพ่อ น้าเข้าใจเลยว่าฟรานจะเหงาและโดดเดี่ยวแค่ไหน’
รพิชาเห็นแม่โอนเงินเข้ามาแล้ว ‘พรุ่งนี้ค่อยไปหาซื้อเสื้อผ้าและรองเท้าใหม่’
‘ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างนะ’
รพิชาเปิดเข้ากูเกิล และพิมพ์หา...
‘ราชอาณาจักรฮัชไมต์อิลลาเรนด์’
‘หวังว่าพ่อของฟรานจะน่ารัก ฟรานก็เลี้ยงง่าย ๆ นะ’
รพิชาเปิดดูในเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่นี่น่าเที่ยว เป็นเมืองที่สงบ และสวยงาม ‘จะมีโอกาสได้ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาบ้างไหมหนอ’
‘สวย สวยจริง ๆ’ รพิชาตื่นเต้นและดีใจ เพราะเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งที่สองเท่านั้น
คุณกนกแก้วยังส่งรูปสองพ่อลูกมาให้รพิชาอีกหลายรูป เธอเพ่งมองเขาพยายามจดจำใบหน้าของเขา เธอจะได้ไม่ลืม และมองเอาไว้เพื่อทำความรู้จัก
‘โคตรเกิดมาโชคดี หล่อ แล้วยังรวยมาก พระเจ้าทำไมต้องสร้างมนุษย์มาไม่เท่ากัน’
ดูเธอสิ โชคร้ายพ่อมาเสียชีวิตตั้งแต่เธอสิบขวบ ปากกัดตีนถีบ ต่อสู้มากับคุณแม่ รพิชายังจำได้ว่าบางเทอมคุณครูต้องทวงค่าเทอมจนถึงวันสุดท้าย แม่จะหาเงินมาจ่ายได้ ก็วันสอบปลายภาคนั่นแหละ เธอไม่อับอายหรอก ต้องทำตัวให้ชิน
แม่ลำบากกับเธอมาเยอะแล้ว ต่อไปเธอจะเลี้ยงดูแม่เอง รพิชาให้คำมั่นกับตัวเอง
รพิชาได้กระเป๋าทั้งหมดแล้ว เธอก็เข็นรถเดินออกมาข้างนอก ด้วยหัวใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ตอนอยู่บนเครื่องไม่ได้นีอาการหนักแบบนี้
แต่พอได้เหยียบพื้นแผ่นดินของราชอาณาจักรฮัชไมต์อิลลาเรนด์ เป็นครั้งแรกที่ได้มาที่นี่ ไกลสุดในชีวิตแล้ว