ราชอาณาจักรฮัชไมต์อิลลาเรนด์
ในสนามบินอย่างอลังการงานสร้าง ก็อย่างว่าแหละ ประเทศนี้มีพื้นที่ติดมหาสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน และข้ามน้ำทะเลไปอีกฝั่งก็คือประเทศสเปนแล้ว ชายหาดที่ทอดยาวเกือบหลายรัฐของราชอาณาจักร ทำให้นักท่องเที่ยวทางฝั่งยุโรปเดินทางมาท่องเที่ยวได้ง่าย ๆ ใช้เวลาบนเครื่องบินก็ไม่นานด้วย
เอาตรง ๆ นี่เป็นการเดินทางมาที่ราชอาณาจักรนี้ครั้งแรก แถมไม่มีไกด์นำเที่ยวมาด้วย รพิชาแม้จะสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี แต่เธอก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย อีกอย่างกังวลว่าจะมีใครมารับเธอหรือเปล่า
พอเดินออกมา รพิชาก็เห็นคนถือป้ายโชว์ชื่อของเธอหรา เป็นคนขับรถหน้าเข้มของฟาอิน รพิชาฉีกยิ้ม และเดินตรงปรี่เข้าไปหาเขา เธอพูดภาษาอังกฤษแนะนำตัว
“ฉันชื่อรพิชาค่ะ นี่เป็นชื่อของฉันค่ะ” เธอชี้ไปที่ป้าย
“สวัสดีครับ เจ้านายให้ผมมารับคุณ เชิญทางนี้ครับ”
“ค่ะ” เขาเข้ามาจับรถเข็นไปจากมือของรพิชา
“เชิญด้านนี้เลยครับ ตามผมมานะครับ”
รพิชาเดินตาม แต่ตาก็ส่ายมองผู้คนในสนามบิน ที่นี่ค่อนข้างพลุกพล่าน ที่นี่ก็เป็นประเทศที่น่าเที่ยวประเทศหนึ่ง เพราะว่ามีพื้นที่ที่ติดกับทะเล ซึ่งถือว่าเป็นทะเลที่สวย สีน้ำทะเลสีฟ้า และหาดทรายสีขาว
เขาพาเธอเดินไปลิฟต์เพื่อที่จะไปยังที่จอดรถ
“ผมชื่อโทคูเอลครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันชื่อทอฟฟี่” เธอเอ่ยชื่อเล่น
โทคูเอลพอได้ยินชื่อของเธอ ก็ยิ้มใหญ่
“ชื่อของคุณน่ากินมากนะครับ เด็ก ๆ คงจะชอบ และผมหวังว่าคุณฟรานก็คงจะชอบคุณด้วยเช่นกัน”
โทคูเอลตรงไปที่รถยนต์คันโก้คันใหญ่สีดำทะมึน เขาขนกระเป๋าของรพิชาขึ้นรถ โดยที่หญิงสาวก็ช่วยจับ
“จากที่นี่ไปบ้านของฟรานไกลไหมคะ”
“ไม่ไกลเท่าไหร่ครับ ขับรถประมาณสี่สิบห้านาที เชิญคุณผู้หญิง” เขาเปิดประตูรถให้เธอ รพิชาเข้าไปนั่ง หญิงสาวชื่นชมกับความงามด้านนอก มันช่างตื่นตาตื่นใจ ทุกอย่างดูเป็นระบบระเบียบ และสะอาดสะอ้าน รพิชาเพลิดเพลินกับความงามที่แตกต่างนั้นอย่างพึงพอใจ จนอดไม่ได้
หญิงสาวได้หยิบมือถือมาถ่ายวิดีโอและถ่ายเป็นรูปภาพ ตอนที่รถติดไฟแดง
รพิชากับแม่ก็ปากกัดตีนถีบ เพิ่งจะได้ไปเที่ยวเกาหลีเพราะได้ตั๋วฟรีจากที่ทำงานของแม่ แม่กรี๊ดสนั่นตอนจับสลากได้ในงานปีใหม่ของบริษัท แม้ว่าแม่เธอจะเป็นพนักงานแม่บ้านตัวเล็ก ๆ
ในบริษัทนี้ แต่ที่นี่เขาให้ความเท่าเทียม แม่ทำงานมาหลายปี เงินเดือนจึงเยอะสุด ทำให้ลืมตาอ้าปากได้ และสวัสดิการดี จึงทำให้แม่ไม่ย้ายงานไปทำที่ไหน
จังหวะนั้น มือถือของโทคูเอลดังขึ้น เขาจึงกดรับมือถือที่ต่อบลูทูทเข้าไปในเครื่องเสียง เธอเพิ่งเห็นว่าเทคโนโลยีของรถคันนี้ดีมาก โทคูเอลกดปุ่มเดียว ก็มีกระจกเลื่อนเหมือนหน้าต่างที่คั่นระหว่างเธอกับเขา กระจกถูกปิดจนสนิท หญิงสาวจึงไม่ได้ยินในสิ่งที่โทคูเอลพูด “เจ้านาย ผมรับคุณทอฟฟี่ขึ้นรถมาแล้วครับ”
(“พาเธอไปเจอกับฟรานนะ นีอาจะดูแลเธอเป็นอย่างดี”)
“ครับเจ้านาย”
(“โทคูเอลระหว่างทางพาเธอไปจอดที่ซูเปอร์มาร์เกต เผื่อเธออยากได้อะไรที่เป็นของใช้ตัวเอง จ่ายเงินให้เธอด้วยนะ”) ที่นี่ใช้สกุลเงินดอลลาร์แทบจะทุกที่
“ครับเจ้านาย”
โทคูเอลขับรถไปได้สักสิบห้านาที เขาก็จอดที่หน้าซูเปอร์-มาร์เกตใหญ่แห่งหนึ่ง กระจกที่กางกั้นระหว่างเธอกับเขาได้ถูกเปิดอีกครั้ง
“คุณผู้หญิงครับ เจ้านายสั่งให้ผมพาคุณมาที่นี่”
“มาทำไมหรือคะ”
“เจ้านายสั่งว่าให้คุณลงไปซื้อของใช้ส่วนตัวครับ”
“อ้อค่ะ เอ่อ... แต่ฉันไม่รู้จะซื้ออะไรเหมือนกันค่ะ”
“ลงไปเถอะครับ ผมจะลงไปเป็นเพื่อนด้วย คุณต้องซื้อพวกของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ ยาสีฟัน อะไรทำนองนั้นก็ได้ครับ คุณคงจะไม่ได้พกพาติดตัวมาด้วยใช่ไหมครับ คือถ้าเข้าไปถึงที่นั่นแล้ว จะออกมาข้างนอกมันยากนะครับ อีกอย่างถ้าจะให้ดี คุณไปดูเอาไว้ก่อนก็ได้ว่าที่นี่มีอะไรขายบ้าง และเจ้านายก็คงอยากให้คุณอยู่ที่นั่นอย่างสบายใจด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ” โทคูเอลลงจากรถแล้วมาเปิดประตูให้เธอ
เรียวขาเล็กก้าวลงไปจากรถ ทันทีที่เข้าไปข้างใน รพิชาก็นึกขึ้นมาได้ เธอลืมเอาผ้าอนามัยมาด้วย มันเป็นความจำเป็นในทุก ๆ เดือน หญิงสาวจึงเข้าไปเอารถเข็น ไหน ๆ ก็มีคนจ่าย เธอก็ขอชอปปิงก่อนแล้วกัน โทคูเอลอาสาเข็นรถเดินตาม
“หาอะไรครับ”
“ของใช้ในห้องน้ำค่ะ และก็สำหรับผู้หญิง”
“อ๋อครับ ไปทางนี้ดีกว่าครับ” เขาเดินนำ เพราะรพิชาเพิ่งมาเป็นครั้งแรก เขาพาเธอจนเดินไปถึงโซนของใช้
โทคูเอลจึงให้รพิชาเลือกของใช้ได้ตามสะดวก เขาปลีกตัวไปหาซื้อของใช้ส่วนตัว
รพิชาหยิบหลาย ๆ อย่างลงไปในรถเข็น เธออ่านดูแล้ว สินค้าที่นี่ ยี่ห้อแตกต่างจากทางบ้านเรามาก เธอพลิกอ่านดูอย่างช้า ๆ กว่าจะได้แต่ละชิ้น แถมตัวหนังสือบนฉลากก็เยอะเหลือเกินและตัวเล็กมากด้วย
แต่ดีหน่อย สินค้าหลายตัวมีแขวนตัวทดลองให้เช็กกลิ่นได้อีกด้วย เธอจึงเลือกกลิ่นที่ชอบ รพิชาได้ของมาเกือบเต็มรถเข็น โทคูเอลส่งยิ้มมาแต่ไกล รอยยิ้มนั่นเหมือนจะแซว รพิชาไหนว่าไม่อยากซื้ออะไร แต่ของเกือบเต็มคัน เขาพาไปจ่ายเงิน
บ้านของฟาอิน
“คุณหนูฟรานคะ ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ พี่เลี้ยงคนใหม่ที่เป็นญาติของคุณแม่จะเดินทางมาถึงแล้วนะคะ” ได้ยินนีอาพูดแบบนี้มาหลายหนแล้ว ทั้งที่ดีใจ แต่ก็ยังทำตัวมีปัญหา
“ทำไมคุณพ่อต้องให้ญาติของคุณแม่มาดูแลฟรานด้วย”
“ทำไมคิดอย่างนี้ล่ะคะ”
“ก็ฟรานเกลียดคุณแม่”
“โอ้มายก๊อด คุณฟรานขาอย่าพูดแบบนี้ค่ะ ไม่ดีเลย คนที่ได้ยินจะรู้สึกไม่ดีกับคุณฟรานนะคะ แล้วยิ่งอยู่ต่อหน้าคุณพ่อด้วย คุณฟรานจะพูดแบบนี้ไม่ได้”
“ก็แม่ไม่รักฟราน แม่ทิ้งฟราน” เด็กน้อยพูดออกมาตามความรู้สึก นีอาถึงกับทำหน้าตาเศร้าด้วยความสงสารฟราน
บ้านหลังนี้ขาดความอบอุ่น เด็กชายขาดอ้อมกอดของแม่ ช่างน่าสงสารดีแท้ พ่อก็เอาแต่ทำงาน ไม่ค่อยจะมีเวลาให้ลูก นีอาดีใจที่คุณฟาอินตัดสินใจรับคนที่แม่ยายเสนอมาให้