ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เค้ก! อยู่ไหมลูก แม่ทำข้าวกล่องมาให้ ของอุ่นด้วยนะ แม่ทำมาเผื่อ” เสียงเคาะประตูและเสียงเรียกจากคนด้านนอก ทำให้ร่างบางหลุดจากภวังค์ หลังจากร้องไห้มานานจนลืมไปว่าตอนนี้เป็นเวลาไหน
เอี๊ยด!
“แม่! ฮือ...” ธิดาเปิดประตูและโผเข้ากอดดุจดาว ทำเอาหล่อนมีสีหน้ามึนงงว่าบุตรสาวของตนเป็นอะไร
“ยังไม่อาบน้ำอาบท่าอีกเหรอ แบบนี้แม่จะตีก้นให้เข็ด” หล่อนตำหนิเบา ๆ เพื่อให้หญิงสาวคลายความกลุ้มใจ
“แม่! ฮือ...” เธอได้แต่ร้องเรียกหามารดาในขณะที่น้ำตาไหล เป็นสาย จนเปรอะเปื้อนเสื้อของหล่อน
“เป็นอะไร ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ” เธอผละร่างออก ยกมือปาดน้ำตาให้กับหญิงสาวสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู
“คะ เค้ก ฮึก!” หญิงสาวอยากเล่าให้อีกฝ่ายฟัง แต่อีกใจก็กลัวว่าดุจดาวรู้ และจะเกลียดเขา
“โอ๋ ๆ แม่ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ ว่าแต่อุ่นไปไหนลูก กลับไปแล้วเหรอ ทำไมไม่รอกินข้าวพร้อมกัน” เธอชะเง้อคอมองเข้าไปด้านใน พบแต่ความว่างเปล่า
“พี่เขากลับไปทำงานต่อค่ะแม่ ว่าแต่วันนี้แม่ทำอะไรมาให้เค้กกินบ้างคะ” เธอยกมือปาดน้ำตา ก่อนดันร่างของมารดาออก แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย “แม่มาแบบนี้ใครจะอยู่ที่ร้านคะ ให้เค้กไปช่วยงานที่ร้านไหม”
“เราใกล้จะสอบแล้วไม่ใช่หรือไง แม่แค่แวะเอาข้าวมาให้ เดี๋ยวก็กลับไปที่ร้านแล้ว แม่นั่งวินฯ มา ไปก่อนนะเดี๋ยวเขารอนาน” บอกเสร็จสรรพ พลางสาวเท้าไปหน้าบ้าน หญิงสาวโบกไม้โบกมืออยู่หน้าประตู ก่อนที่แผ่นหลังของมารดาจะลับหายไป
เมื่อดุจดาวจากไปแล้ว ธิดาได้สาวเท้าไปยังห้องครัว มีอาหารกล่องวางไว้อยู่สองกล่อง
ยิ่งเธอเห็นแบบนั้นก็ยิ่งนึกถึงหน้าของเขา เธอตั้งใจจะนำกล่องอาหารทิ้งลงในถังขยะ แต่เธอฉุกคิดอีกครั้ง กว่าเธอกับแม่จะมาถึงวันนี้ได้ ก็ลำบากไม่น้อย
“กินมันเองทั้งสองกล่องนี่แหละ” หญิงสาวกล่าวกับตัวเอง ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า พลางหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้
ทว่าเธอกลับมีสีหน้าไม่สู้ดี พะอืดพะอมเหมือนเหม็นอะไรสักอย่าง ก่อนจะวิ่งไปอ้วกในอ่างล้างจานจนหมดไส้หมดพุง
ใบหน้าเริ่มอิดโรยจนเห็นได้ชัด เธอนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ รีบสาวเท้าขึ้นไปบนห้องนอน ไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อเปิดดูรอบเดือนของเธอหมดวันไหน และมาครั้งแรกวันไหนของเดือนที่ผ่านมา
ดวงตาเบิกกว้างอีกครั้ง โทรศัพท์คู่ใจร่วงหล่นตกพื้น จนหน้าจอดับ ร่างบางเองก็ด้วยเช่นกัน วันนี้เธอเจอมาหนักแล้วยังต้องมาเจอเรื่องนี้อีก
ก่อนที่หญิงสาวจะคิดไปไกลกว่านั้น เธอรีบอาบน้ำแต่งตัว เพื่อไปซื้อของบางอย่างให้มันรู้แน่ชัดไปเลยว่าจริงหรือไม่
ระหว่างที่ธิดากำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจก เธอเห็นรอยแดงบนใบหน้าที่ยังปรากฏชัด หญิงสาวโล่งอกที่แม่ของเธอไม่ทันได้สังเกต อีกฝ่ายคงรีบกลับไปดูร้าน นับเป็นเรื่องดี ไม่อย่างนั้นธิดาไม่รู้ว่าจะอธิบายให้แม่ฟังอย่างไร
ธิดานึกถึงคำโกหกของตัวเอง หากนันยศแต่งงานแล้ว ท้องเธอยังไม่โต มีหวังเขาคงเกลียดเธอเอาแน่ ๆ ที่ไปให้ความหวัง
แท้จริงแล้ว เธออยากลองเชิงเพื่อดูปฏิกิริยาของทั้งคู่ และก็เป็นอย่างที่เห็น พิมพ์ภาไม่ยอมรับ ไม่พอ ยังดูถูกผู้หญิงด้วยกันเสียอีก แล้วแบบนี้จะให้เธอทนเห็นคนรักของตนไปแต่งงานกับคนอื่น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะทำใจได้
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ การแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก เขาเองก็คงเจ็บปวดไม่แพ้กัน เมื่อคิดได้ดังนั้น หญิงสาวจึงกดส่งข้อความไปยังแอปพลิเคชันสีเขียว ว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง และบอกกับเขาว่าเธอเป็นห่วงเขา
ธิดานำโทรศัพท์แนบเข้าที่หน้าอก หลังจากที่กดข้อความส่งหาเขาเรียบร้อยแล้ว จึงกดเรียกรถจากแอปพลิเคชันมารับเธอที่บ้าน เพื่อไปซื้อของที่เธอต้องการ และไม่ลืมที่จะแวะไปหาดุจดาวที่ร้าน
ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง คนที่อยู่ข้าง ๆ หญิงสาวก็มีแค่ดุจดาวเพียงคนเดียว อีกฝ่ายเลี้ยงเธอมาจนโต ส่งเสียให้เธอเรียน จนตอนนี้ก็เกือบจะเรียนจบแล้ว เหลือแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น ทางมหาวิทยาลัยก็จะปิดภาคเรียน
ทันทีที่ธิดามาถึงร้านของดุจดาว ก็รีบไปต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ทำให้หล่อนที่มองอยู่ห่าง ๆ อดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้ ทั้งที่บอกแล้วว่าไม่ต้องมาช่วยที่ร้าน กลัวว่าจะทำให้หญิงสาวเสียการเรียน
หากเรียนจบแล้ว ก็อยู่ที่ตัวของเธอ ว่าจะออกไปหางานทำอย่างที่ตนเองต้องการ หรือออกมาช่วยงานที่ร้าน ซึ่งหล่อนทำเองคนเดียวไม่ไหว ต่อให้มีลูกจ้างรายวันมาช่วยแล้วก็ตาม
ถ้าวันไหนลูกจ้างเจ็บไข้ได้ป่วย หล่อนก็ต้องจัดการเองคนเดียว ยังดีที่มีบุตรสาวที่ตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ มาช่วยจัดแจงเรื่องที่ร้าน ก่อนปลีกตัวไปมหาวิทยาลัย
“นี่แน่ะ แม่บอกแล้วใช่ไหม ว่าแม่จัดการเอง แล้วนี่เอาหนังสือ การบ้าน หรืออะไรมาบ้างไหม” หล่อนตีต้นแขนของธิดาที่กำลังตักน้ำแข็งใส่แก้วให้ลูกค้า
“เอามาค่ะแม่ เค้กช่วยแม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะรีบไปอ่านหนังสือ และตั้งใจทำการบ้านค่ะ” เธอฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะปลีกตัวนำน้ำไปเสิร์ฟให้ลูกค้าที่โต๊ะ
ดุจดาวส่ายศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจ ใช่ว่าเธอจะฟังหล่อนที่ไหน ก็ในเมื่อคนตรงหน้า ช่วยงานหล่อนเสมือนกับว่ามีพนักงานเกือบสิบคน
ตุบ!
จู่ ๆ ร่างของธิดาก็ฟุบลงไปต่อหน้าต่อตาดุจดาว ระหว่างจดรายการอาหารจากลูกค้า คนเป็นมารดารีบปรี่ไปหาบุตรสาวของตน เช่นเดียวกับเหล่าไทยมุงที่คอยดูแลอยู่ข้าง ๆ ต่างคนต่างรีบโทรแจ้งรถพยาบาลให้มารับ เพราะไม่รู้ว่าหญิงสาวจะเป็นอย่างไรบ้าง