บทที่ 1 ข่าวร้าย
“ธิดา เอ่อ.. คือ..” เขาอ้ำอึ้ง ไม่กล้าบอกกับอีกฝ่าย ว่าเขาจะกล่าวอะไรกับเธอต่อจากนี้
“มีอะไรเหรอพี่อุ่น” หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน สีหน้าของชายคนรักบ่งบอกว่ามีเรื่องเครียดที่ทำให้เขาคิดหนัก หรือกังวลใจไม่น้อย
“อะ เอ่อ...คือ พี่...” สายตามองไปที่ใบหน้าของหญิงสาว ที่ดูเป็นห่วงเขาเป็นพิเศษ
“มีปัญหากับที่บ้านเหรอ หรือว่าเป็นเรื่องของธิดา พี่อุ่นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นเลยค่ะ ธิดาไม่ต้องการอะไรจากพี่เลย ธิดารักพี่ด้วยความจริงใจ ไม่ได้หวังทรัพย์สินเงินทอง ขอให้พี่และครอบครัวไว้ใจได้” แววตาจ้องมองไปยังใบหน้าของเขา ฝ่ามือบางจับฝ่ามือชายคนรัก เพื่อให้เขาเข้าใจว่าเธอรักเขาจริง ๆ ไม่ได้หวังอะไรอย่างอื่นแม้แต่น้อย
“ปะ เปล่า ไม่ใช่เรื่องนั้นเลยธิดา” เขาจับมือเธอขึ้นมาก่อนกล่าวต่อ “มันเป็นเรื่องระหว่างเรา”
“ทำไมเหรอคะ ธิดาทำอะไรให้พี่อุ่นไม่พอใจ หรือไม่สบายใจ พี่อุ่นบอกธิดาได้เลยค่ะ”
เขาแอบรู้สึกผิดไม่น้อย หญิงสาวตรงหน้า เป็นคนที่เขารักมาก ไม่แพ้ไปกว่าที่ธิดารักเขา
“พะ พี่...” อีกฝ่ายกำลังรอฟัง จนเขาต้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อีกครั้ง “พี่กำลังจะแต่งงาน”
เปรี้ยง!
เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจของเธอเข้าเต็มเปา จู่ ๆ หยาดน้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมาอย่างมิได้นัดหมาย
“อะ...อะไรนะคะ พี่อุ่นว่าอะไรคะ” น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลพลางนำหลังมือปาดน้ำตาออกจากพวงแก้ม
“พะ พี่ขอโทษ” เขากล่าวเพียงแค่นั้น ก้มมองพื้น เพราะไม่กล้าสบตาของอีกฝ่าย ยิ่งทำให้หญิงสาวร้องไห้หนักกว่าเก่า
เนื้อตัวของเธอสั่นเทา มือไม้ชา แขนทั้งสองข้างของธิดาตกลู่ลงข้างลำตัว
สายตาคู่นั้น บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ มีทั้งความเสียใจ เสียความรู้สึก ผิดหวัง ปนเปจนหญิงสาวไม่รู้ว่าจะรู้สึกแบบไหนดี
“พะ พี่อุ่น ฮึก! มะ มันไม่จริงใช่ไหม ฮึก!” เธอกล่าวทั้งน้ำตา เขย่าไหล่ของเขาทั้งสองข้าง “พะ พี่อุ่น ละ ล้อเล่นกับธิดาหรือคะ ฮา ๆ ฮึก!” เธอถามย้ำ หัวเราะทั้งน้ำตา แต่ความเจ็บมันจุกอยู่ในอก จนเธอไม่สามารถควบคุมน้ำตาที่เจิ่งนองนี้ได้เลย
“ฟังพี่นะธิดา” เขาหันมาเผชิญหน้าหญิงสาวอีกครั้งแม้เขาเองก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าเธอ “พี่เพิ่งจะรู้ไปกี่วันก่อน ว่าพี่กำลังจะแต่งงานกับคนที่คุณพ่อคุณแม่หามาให้” เขาขบเม้มริมฝีปากกันจนแน่น แต่คงไม่เท่าธิดา ที่พวงแก้มเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“พะ พวกท่านก็รู้ไม่ใช่เหรอ ฮึก! ว่าพี่มีธิดาอยู่แล้ว”
“รู้ซิ ตะ แต่เพราะพวกท่านไม่ชอบฐานะของธิดา” เขาไม่อยากจะเอ่ยคำนี้ออกมา เพราะมันทำร้ายจิตใจของเธอมากเกินไป
คำพูดของนันยศหรืออุ่น ทำให้ร่างบางร่วงผล็อยลงพื้น เรี่ยวแรงของหญิงสาวหายไปกับคำพูดของเขา แม้แต่ขาก็ไม่รักดีที่จะช่วยให้เธอกลับมายืนได้ตามเดิม
“ธะ ธิดารู้แล้วค่ะ ฮือ ๆ” สิ้นเสียง เธอก็ปล่อยโฮอย่างไม่อาย นั่งลงกอดเข่าบนพื้นหน้าบ้าน เขาจึงนำฝ่ามือและอ้อมกอดปลอบประโลมเธอเท่านั้น
นันยศเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของพิชัยและพิมพ์ภา พวกเขาเป็นครอบครัวนักการเมือง ฐานะทางบ้านดีพอสมควร หากเปรียบเทียบกับธิดา ซึ่งเป็นแค่ลูกแม่ค้า เปิดร้านขายอาหารตามสั่งทั่วไป ไม่ได้มีฐานะดี ให้เป็นที่เชิดหน้าชูตากับนันยศ
พิชัยและพิมพ์ภา จึงหาลูกสะใภ้ให้กับบุตรชายของตน เป็นบุตรสาวของนักการเมืองอีกท่าน ชื่อขวัญเนตร เพื่อที่เขาจะได้ไต่เต้าสู่ตำแหน่งที่สูงสุดกว่านี้
ธิดายังอยู่ในวัยเรียน อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เธอจะจบการศึกษาปริญญาตรี ตอนนี้เธอกำลังทำงานวิจัยกับเพื่อน ๆ จึงไม่ได้มีเวลาพบเจอกับนันยศ เป็นเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์
ตัวเขาเองก็ไม่ได้มีเวลาให้กับธิดา เพราะเขาเองก็มีงานที่ต้องทำ รวมไปถึงธุรกิจของเขาที่เพิ่งจะเปิดตัวไปได้เพียงไม่นาน เพิ่งจะมีการลงข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นไปหมาด ๆ
เขาเป็นหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรง หลังจากที่ดูงานและทดลองงานมาหลายรูปแบบ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานมาพอสมควร เขาจึงขอเงินทุนจากบิดาและมารดา เพื่อเปิดบริษัทของตัวเอง
หากบริษัททำกำไรให้เขาได้มากมาย เขาจะค*****นทุนทั้งหมดให้กับพิชชัยและพิมพ์ภา ส่วนกำไรที่เขาได้จะนำมาแบ่งสันปันส่วนภายในบริษัท
หลังจากที่เขาเปิดบริษัทเรียบร้อยแล้ว มีนักธุรกิจหน้าใหม่และหน้าเก่าเข้ามาใช้บริการในบริษัทเขา เพื่อให้เขาคิดโครงสร้างการจัดทำบ้านจัดสรร หรือบริเวณไหนที่เหมาะแก่การสร้างเป็นหมู่บ้าน หรือตึกพาณิชย์ รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ในตัวจังหวัดและนอกจังหวัด
เขามีพนักงานหลายสิบชีวิตที่ช่วยกันดูแลบริษัท รวมไปถึง การให้บริการลูกค้า ไม่ว่าจะแนะนำในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ หรือแนะนำการทำงานบริษัทของตน
แค่เพียงหกเดือนเท่านั้น เขาก็ได้ทุนคืน จึงนำเงินก้อนนั้นไปคืนให้กับบิดาและมารดา
จนตอนนี้บริษัทของเขาเปิดมาแล้วหนึ่งปีครึ่ง และกำลังไปได้สวย ทางผู้ใหญ่เขาจึงต้องหาลูกสะใภ้หรือหญิงสาวไว้ข้างกายบุตรชายของตน จึงเสนอขวัญเนตร พร้อมกับตกปากรับคำไปกับทางผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง