บทที่ 8 นอนค้างอ้างแรม

1012 คำ
“ทะ… ท่านพี่อย่าทำเช่นนี้กับน้อง ได้โปรดท่านพี่อภัยให้น้องเถิด น้องสำนึกผิดไปแล้ว” นางเข้าไปอ้อนวอนให้สามียกโทษให้ ด้วยน้ำตานองหน้า “ทะ… ท่านพี่ อึก ไม่เห็นแก่ที่ข้าเป็นบุตรสาวของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายของฮ่องเต้หรือเจ้าคะ” นางที่นั่งกอดขาเลี่ยงหรงพลางเหลือบสายตามองขึ้นไปด้านบน เพราะนางอยากให้เขายกโทษให้จึงเอาตำแหน่งของบิดามาข่มขู่เขากลาย ๆ ริมฝีปากเชิดขึ้นสูง ในขณะที่ใบหน้าของนางมีน้ำตานองหน้า ทำให้อู่ไท่เฟยมีใบหน้าที่ดูไม่ได้ แต่นางจะสนหรือ นางกำลังเสแสร้งแกล้งทำไปเพียงเท่านั้น หากว่าเฟยฮวาทำให้สามีของตนหลงรักได้ มีหรือที่นางจะไม่นำมารยาหญิงมาใช้เสียบ้าง “ต่อให้เจ้าเป็นบุตรสาวของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย แต่หากเจ้าทำผิดก็ควรได้รับโทษ ถูกหรือไม่” น้ำเสียงของเขาเย็นลงเพราะเขาไม่อยากให้ตำแหน่งแม่ทัพสั่นคลอนด้วยเช่นกัน “ถูกเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นน้องจะยอมถูกกักบริเวณตามที่ท่านพี่ลงโทษ แต่น้องขอให้ท่านพี่มาหาน้องได้หรือไม่” ในระหว่างที่นางกล่าวออกมา ก็ได้ลุกออกจากขาของเลี่ยงหรง พลางนำศีรษะมาซบที่ไหล่ของเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน เพราะนางอยากทำให้เขาชื่นชมในตัวนางบ้าง “ข้าตกลงตามนี้ ส่วนคืนนี้ข้าจะไปนอนกับน้องลิ่วอี้หยา ส่วนเจ้าอยู่ในเรือนทำตัวดี ๆ ข้าจะมาหาเจ้าเอง” เลี่ยงหรงกล่าวเสร็จสรรพ พลางขยับกายออกจากนาง “ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพี่” นางย่อเข่าน้อมส่งผู้เป็นสามีพร้อมกับใบหน้ามีเลศนัยอย่างเห็นได้ชัด พลางนำหลังมือมาปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ในขณะที่สายตาของนางจ้องมองไปที่ร่างของเขาที่กำลังลับสายตา “ท่านแม่ทัพช่างใจร้ายเหลือเกิน ทำเช่นนี้กับนายหญิงของข้าน้อยได้อย่างไร” สาวใช้คนสนิทบ่นอุบอิบออกมา หากทว่านางกลับโดนสายตาของผู้เป็นนายจ้องจนดวงตาแทบจะถลนออกจากเบ้า “ท่านพี่จะนอนพักที่เรือนน้อง ไยท่านพี่ถึงไม่บอกกับน้องเจ้าคะ น้องจะได้จัดเตรียมน้ำให้ท่านได้อาบ” น้ำเสียงหวานฟังดูไพเราะเสนาะหูเขาเหลือเกิน ทำเอาอารมณ์ที่เขาเพิ่งจะบันดาลโทสะใส่อู่ไท่เฟยไปเมื่อ ชั่วครู่นั้นหายเป็นปลิดทิ้ง “ข้าคิดถึงภรรยาของข้าไม่ได้เชียวหรือ” เลี่ยงหรงว่าพลางนำ ปลายนิ้วจับเข้าไปที่ใบหน้าของลิ่วอี้หยาให้เชิดขึ้น หากทว่านางเบือนหน้าหนีด้วยความเคอะเขิน เพราะนาน ๆ ครั้ง สามีของตนจะเข้ามาหานางที่เรือน “ปากหวานเช่นนี้ น้องควรจะหึงท่านพี่ดีหรือไม่เจ้าคะ” นางหยอกล้อสามีของตนอย่างไม่ได้คิดอะไร “เจ้าออกจะใจกว้างกับข้าเช่นนี้ มีหรือที่ข้าจะไม่รักและไม่โหยหาเจ้า” เลี่ยงหรงกล่าวไปพลางขยับใบหน้าเข้าไปหานางจนได้ยินเสียงลมหายใจของเขา “ช้าก่อนเจ้าค่ะ ท่านพี่ไปอาบน้ำเสียก่อนเถิด ท่านมาเหนื่อย ๆ เดี๋ยวน้องจะนำชุดของท่านพี่ฝากสาวใช้ไปให้นะเจ้าคะ” ว่าแล้วนางก็ลุกออกจากเก้าอี้ไม้พลางสาวเท้าเข้าไปยังเรือนแต่งตัวเพื่อจะนำอาภรณ์ของสามีมาเปลี่ยน ในจังหวะเดียวกันเลี่ยงหรงเองก็ได้ไปชำระร่างกายในเรือนอาบน้ำซึ่งอ่างน้ำทำจากไม้อย่างดี น้ำในอ่างเต็มไปด้วยดอกไม้และสมุนไพรพร้อมกับกลิ่นหอมที่โชยเตะจมูกเขา หลังจากผ่านไปสองเค่อ เลี่ยงหรงก็ได้กลับมายังเรือนนอนของ ลิ่วอี้หยา และพบว่านางกำลังเทน้ำชาในกาให้เขาได้ดื่มก่อนนอน “ดื่มชาก่อนซิเจ้าคะท่านพี่” นางกล่าวพลางยื่นจอกน้ำชามาให้สามีของตน “เจ้ารู้เรื่องที่ข้านำสตรีเข้ามาในจวนแล้วหรือไม่” เขาเอ่ยปากถามอนุภรรยาของตน พลางรับจอกน้ำชาจากมือนางมาถือเอาไว้ “ข้าทราบแล้วค่ะ ใบหน้าของนางช่างสวยและงดงามเสียจริง เจ้าค่ะท่านพี่ ข้าไม่แปลกใจเลยที่ท่านพี่แต่งตั้งนางให้เป็นภรรยาเอก” ลิ่วอี้หยามีน้ำเสียงที่เบาลง ใจจริงนางก็อดเสียใจไม่ได้ เหตุใดสามีของตนถึงไม่เลือกนางทั้งที่นางปฏิบัติตนอย่างดีมาโดยตลอด “เจ้าโกรธข้าและน้อยอกน้อยใจข้าบ้างหรือไม่ เหตุใดถึงไม่ใช่เจ้า” เขาว่าพลางนำจอกน้ำชาวางลงบนโต๊ะไม้ดังเดิม “ข้าเป็นมนุษย์ มีเสียใจ ร่ำไห้ และน้อยใจเป็นนะเจ้าคะ” นางว่าพลางเงยหน้าขึ้นมองสามีของตน ซึ่งมีน้ำตาคลอเบ้า นางอดที่จะน้อยใจบุรุษตรงหน้าไม่ได้จริง ๆ เลี่ยงหรงเห็นดังนั้นก็ได้ขยับกายของตนไปหาลิ่วอี้หยา พลางเอื้อมมือไปโอบนางให้ซบไหล่กว้างของเขา “ถึงข้าจะแต่งตั้งนางให้เป็นภรรยาเอก แต่หัวใจของข้ายังมีเจ้านะลิ่วอี้หยา หัวใจของข้าก็ยังคงมอบให้กับภรรยาของข้าทุกคน” เขาไม่พูดเปล่า เอื้อมมือไปจับไหล่นางทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยน “ทะ… ท่านพี่ ข้าสงสารนางเหลือเกิน หากทว่าท่านพี่ไท่เฟยทำอะไรกับนางอีก นางจะอยู่ได้อย่างไร” ลิ่วอี้หยาอดห่วงสตรีคนรักของสามีอีกท่านไม่ได้ ถึงแม้ว่าในใจของนางอดที่จะอิจฉาเฟยฮวาอยู่ก็ตาม ที่นางเรียกอู่ไท่เฟยว่าท่านพี่ เพราะลิ่วอี้หยาอายุอานามแค่เพียงยี่สิบหนาว ตอนนางแต่งเข้ามาในจวนสกุลลู่ นางมีอายุเพียงแค่สิบเจ็ดหนาวเท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม