เขาวางโทรศัพท์ลงไม่แน่ใจความคิดตัวเองเท่าไรแต่มือกลับวางเงินค่าเหล้าแล้วเดินออกจากตรงนี้ไปยังรถเพื่อขับไปหาอินวาที่อยู่โรงแรมไม่ไกลจากที่นี่มากนัก เขาจะไปเอาเธอกลับคืนมาและจะไม่สนอะไรทั้งนั้นด้วย
อินวาเป็นของเขาก็ควรจะอยู่กับเขาไม่ใช่คนอื่นแบบนี้!
"ไอ้สัตว์น่านมึงจะไปไหนวะ!?" ว่านรีบมาจับแขนเพื่อนรั้งไว้ก่อนจะแย่งกุญแจรถมา
"อย่าเสือกไอ้เหี้ยกูจะไปหาอินวา!" เขาแย่งกุญแจรถแต่เพื่อนสารเลวอีกสองมันมาจับตัวไว้
"สภาพมึงน่ะเดินให้ตรงยังทำไม่ได้เลยขืนขับรถคงได้ชนคันอื่นพอดี คอนโดคุณเลขาอยู่ตั้งไกลมึงเมามากแล้วมึงกลับไปนอนพักก่อนพรุ่งนี้ก็ได้เจอกันแล้ว อดทนหน่อยดิวะ!"
"อินวาอยู่โน้นเองเว้ย! คืนนี้อินวาอยู่โรงแรมกูจะไปหามันใกล้แค่นี้เอง!"
ว่านมองไปตามที่เพื่อนชี้ซึ่งมันเป็นโรงแรมดังอยู่ไม่ไกลจากสนามบินใกล้กับที่นี่พอสมควรขับรถแค่สิบห้านาทีก็น่าจะถึงแล้วแต่ที่นี่มันไกลจากบริษัทและคอนโดคุณเลขาเลยนะ
"กูแดกน้อยสุดกูขับเอง พวกมึงขับตามมาด้วยเผื่อมีเรื่อง" จะห้ามเพื่อนน่ะยากเพราะสันดานคนเหี้ยมันจะอาละวาดแล้วที่นี้แหละรับมือไม่ไหวแน่ต่อให้พวกเขาจะมีถึงสามคนก็ตามเถอะ
ไอ้น่านเวลาเมาใจนักเลงจะตายไปขนาดเวลาปรกติยังปากว่าตีนถีบแต่นี่เมาไร้สติคิดเหรอว่ามันห้ามตัวเองได้
ไปเห็นให้เจ็บจะได้พอสักที!
น่านนั่งนิ่งมองข้างทางไม่นานก็มาถึงโรงแรมคืนนี้เขาคงจะค้างที่นี่แล้วคงนอนกับไอ้ชานเหมือนเดิม ในเวลานี้คนแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำแล้วก็ไม่รู้ว่าตอนนี้อินวากำลังทำอะไรอยู่ ในขณะที่ก้าวเท้าเดินพ้นประตูลิฟท์ใจก็วูบโหวงกลัวขึ้นมาดื้อๆแต่ยังฝืนทนเดินต่อไปถึงห้องที่เธอบอก
ก๊อกๆๆ
เขายืนรออย่างใจจดใจจ่อในขณะที่เพื่อนก็ยืนอยู่ด้วยเพราะกลัวว่าจะมีเรื่องแต่ประตูห้องก็ยังไม่เปิดออกสักทีสมองมันเริ่มซุกซนคิดแต่เรื่องต่ำๆเหี้ยๆให้ใจเจ็บหนักกว่าเดิม
เขายกมือขึ้นค้างอยู่กลางอากาศเกือบนาทีก่อนจะเคาะประตูอีกครั้งแล้วยืนรอด้วยความกลัวว่าคนที่เปิดประตูมาจะเป็นคนที่ได้ใจอินวาไปแล้วจะทนไม่ไหวพลั้งมือต่อยมันแล้วกระทืบมันให้จมตีน
เขามันคนแพ้แล้วพาล!
"บอสน่าน!?" น้ำเสียงหวานติดแหบเล็กน้อยเงยหน้ามองด้วยความมึนงงปนงัวเงียแต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรเพิ่มก็ถูกดึงเข้าไปกอดแน่นมากจนแทบหายใจไม่ออก
กลิ่นน้ำหอมกลิ่นเหล้าและกลิ่นบุหรี่ติดมากับเสื้อเขาจนรู้สึกแทบจะเป็นลมเมื่อต้องสูดหายใจเข้าเพราะใบหน้าแนบชิดกับหน้าอกเขาอยู่
อ้อมกอดแน่นขึ้นมากกว่าเดิมในขณะที่ก้าวยาวก้าวเดินดันตัวเธอเข้าไปให้ห้องเตะประตูให้ปิดแล้วกดล็อคเร็วเกินกว่าเพื่อนจะตามมาทัน เขายังคงกอดอินวาแล้วกดจูบกระหม่อมบางสูดกลิ่นหอมจากเส้นผมน้ำตาที่พยายามกลั้นมาตลอดทางก็เอ่อไหลขึ้นมาทันที
"...บอสคะ?" เกิดอะไรขึ้นเหรอ
"อยู่แบบนี้สักพักนะอินวา ขอผมกอดคุณอีกนิดนะ...ที่รัก" คำพูดสุดท้ายไร้เสียงเป็นเพียงแค่ลมออกจากปากก็เท่านั้น เขาไม่รู้แล้วว่าตอนนี้รู้สึกยังไงกันแน่ระหว่างดีใจกับเสียใจหรือว่าอบอุ่นแต่ความเจ็บปวดมาตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาเหมือนจะได้รับการเยียวยาเพียงแค่กอดเดียว
อินวายืนนิ่งด้วยความงงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบอสน่านที่แสนดีถึงได้ดูอ่อนแอเปราะบางมากขนาดนี้ เธอรู้สึกถึงความอุ่นชื้นที่สัมผัสกับหนังศรีษะและอ้อมกอดที่แน่นมากขึ้นกว่าเดิม เสียงหัวใจของบอสน่านเต้นเป็นจังหวะถี่ๆในขณะที่เธอเดินไปตามที่เขานำจนมาถึงโซฟาตัวใหญ่แต่เขาก็ยังไม่ปล่อยเธอ
"ไม่เป็นอะไรนะคะบอส" เธอพูดไม่ดังมากแต่เขาคงจะได้ยินถึงพยักหน้าเบาๆ
"...มาทำอะไรที่นี่?" เขาพยายามจะควบคุมตัวเองอย่างสุดความสามารถแต่ว่าเสียงมันยังสั่นภายในใจยังวูบโหวงไม่อยากจะได้รับรู้คำตอบอะไรทั้งนั้น
"มาส่งพ่อไปเมืองนอกค่ะแต่มันดึกฉันขับรถกลับไม่ไหวเลยค้างที่นี่แทน บอสละคะไปไหนมา?" คืนวันเสาร์แน่นอนว่าคงจะปาร์ตี้กับเพื่อนจนดึกแน่แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วคนอื่นแค่มาส่งเขาให้กับเธอเหรอหรือว่าค้างที่นี่เหมือนกัน
ใช่! บอสบอกว่าอยู่ที่นี่!
เธอนั่งนิ่งซบอกอุ่นไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือถามอะไรดีเปลือกตาก็เริ่มหนักขึ้นมากจนแทบจะยกไม่ขึ้นอยู่แล้ว เสียงหัวใจเต้นดังตุบๆเป็นจังหวะสม่ำเสมอกำลังเป็นเครื่องดนตรีขับกล่อมในขณะที่ฝ่ามือลูบแผนหลังไปมาคล้ายว่ากล่อมเด็กให้หลับมันช่างเพลินดีจัง
"บอสคะ?"
"..."
"ฉันง่วงแล้วนะ"
"งั้นผมพาไปนอนนะอินวา"
"บอสไปอาบน้ำให้สดชื่นนะจะได้หลับสบาย"
"อืม"
"บอสน่าน"
"ครับ?"
"แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะคะ ปีนี้ฉันตั้งใจเลือกของขวัญแล้วห่อเองกับมือเลยนะคะ บอสแก่ขึ้นอีกปีแล้วนะต้องดูแลสุขภาพตัวเองเยอะๆหาเวลาพักผ่อนบ้างนะคะและขอให้บอสสมหวังในทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการนะคะและไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะอยู่เคียงข้างบอสนะคะ"
"ขอบคุณนะที่จำวันเกิดผมได้"
"ก็บอสเป็นคนพิเศษจะให้ลืมได้ไงละคะ บอสไปอาบน้ำนะแล้วค่อยมาดูของขวัญว่าชอบไหม?"
"คุณง่วงไม่ใช่เหรอ?"
"ถ้าอินวาเผลอหลับบอสค่อยบอกพรุ่งนี้เช้าก็ได้ค่ะว่าชอบรึเปล่า"
"คุณแสนดีเสมอเลยนะอินวา"
"ก็บอสแสนดีนี่คะจะให้ทำตัวแย่ใส่ได้ไงละ"
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออกก่อนจะจำใจปล่อยเธอออกจากอ้อมกอดด้วยความเสียดาย
อินวาลืมตาแทบไม่ขึ้นแล้วแต่ก็ยังน่ารักมากอยู่ดี เธอยกมือมาปิดปากที่กำลังหาวแล้วขยี้ตาจนเขาต้องจับมือไว้เพราะกลัวว่าจะระคายเคืองเอาได้
เธอส่งยิ้มหวานทั้งที่ตาแทบปิดอยู่รอมร่อ
เขายิ้มให้แต่เต็มไปด้วยความรู้หลากหลาย
อินวาเดินนำไปที่เตียงแล้วหยิบกล่องของขวัญขนาดไม่ใหญ่มากประมาณเท่าฝ่ามือได้ห่อตัวกระดาษสีน้ำเงินเข้มผูกด้วยริบบิ้นสีฟ้าอ่อนวางบนเตียงแล้วยิ้มหวานให้ในขณะที่เขาเดินเข้าห้องน้ำทั้งที่ยังเซนิดๆแต่รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว
น้ำอุ่นไหลผ่านตัวไปในขณะที่สมองสวนทางกลับหัวใจความคิดความรู้สึกตีวนชนกันจนไม่แน่ใจว่าตอนนี้มีความสุขจริงๆหรือว่ากำลังหลอกตัวเองกันแน่ ความอบอุ่นจากกอดของเธอช่วยปลอบประโลบหัวใจที่บอบช้ำแต่สมองมันกลับตอกย้ำเรื่องเธอให้ต้องเจ็บหนักอีกครั้ง
"ผมรักคุณไม่แพ้ใครเลยนะอินวา ผมรักคุณมาก" น้ำเสียงสั่นเครือพูดไม่ดังมากแววตาอ่อนล้าจ้องมองภาพตัวเองที่สะท้อนกลับมาในกระจกมุมปากก็เหยียดยิ้มด้วยความสมเพชน้ำตาที่พึ่งจะเหือดแห้งไหลอาบแก้มอีกครั้งอย่างไม่สามารถจะห้ามได้เลย
เขาเดินออกจากห้องน้ำมองคนที่นั่งหลับมือยังถือของขวัญอยู่ก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้ เขาหยิบกล่องของขวัญออกมาก่อนจะขยับตัวให้เธอนอนหลับสบายมากขึ้นแล้วเริ่มแกะของขวัญอย่างทะนุถนอมที่สุดเท่าที่จะทำได้
"กำไลงั้นเหรอ...คุณจำได้!" กำไลแบรนด์นี้เขาเคยพูดนานแล้วว่าอยากได้แต่ยังไม่มีเวลาไปเลือกเองสักทีแต่ใครจะคิดละว่าเธอจะซื้อมาให้เป็นของขวัญแถมยังสลักชื่อด้านในอีกด้วย
เขาใส่ทันทีมองเหมือนว่านี่คืออัญมณีล้ำค่าทั้งที่มันก็เป็นแค่กำไลราคาหมื่นต้นๆ ปากหยักยิ้มกว้างความสุขเริ่มแทรกซึมเข้ามาภายในใจจนลืมไปหมดแล้วว่าไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ร้องไห้เพราะใคร
"ขอบคุณนะที่รัก ขอบคุณที่จำได้" เธอยังใส่ใจเขาอยู่ถึงได้จำสิ่งที่พูดไม่ถึงสามครั้งแถมยังผ่านมาเกือบสองเดือนได้แล้วหาซื้อมาให้
เขาขยับตัวลงนอนตะแคงเท้าคางมองอินวาที่หลับสนิทไปด้วยความแววตาที่เต็มไปด้วยความรักที่ล้นทะลักออกมาจนไม่รู้จะฝืนทนต่อยังไงแล้ว
เขาแค่อยากจะรอเวลาที่พร้อมจะกล้าเปิดใจแต่กลับกลายเป็นว่าเขาปล่อยเวลาผ่านไปถึงสองปีความกล้าก็ยังไม่เคยมีเลยสักครั้ง ยิ่งเขาได้อยู่ใกล้ชิดเธอมากเท่าไรยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นเท่านั้นเพราะนอกจากความรักเราก็แทบจะไม่มีอะไรเหมือนกัน
ทำไมความรักถึงไม่เคยง่ายเลยนะ!
ตลอดเวลาที่ผ่านมาสิ่งที่แสดงออกไปไม่ได้เสแสร้งถึงบางครั้งจะเรียกร้องความสนใจมากก็ตามเถอะ เขาดูแลเธอประดุจเจ้าหญิงจากราชวงศ์ชั้นสูงเฝ้าคอยทะนุถนอมไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องด้วยกลัวว่าเธอจะหายไปจากวงโคจรแสนมีความสุขของเขา
"ถ้าผมบอกรักคุณไปเราจะเดินหน้าต่อไหมที่รัก ถ้าผมเปิดเผยทุกอย่างคุณจะรับได้ไหมเพราะผมไม่ใช่คนแสนดีอย่างที่คิด ที่ผ่านมาผมแค่ใจดีกับคุณคนเดียว อินวาเมื่อไรจะหยุดมองข้ามแล้วชายตามองผมบ้างที่รัก…เมื่อไร?" นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขากลัวจนไม่กล้าเดินเกมรุกทั้งที่ใจอยากเก็บเธอไว้แนบชิดข้างกายขังไว้ในกรงทองลงกลอนสักพันชั้นไม่ให้ใครได้พบเจอ ไม่ให้ใครพบได้กลิ่น ไม่ให้ใครได้สัมผัสและไม่ให้เธอโปร่ยบินหนีไป
จับปืนไล่ยิงก็ทำมาแล้ว!
กระทืบคนให้จมตีนก็บ่อย!
โดยทำร้ายปางตายก็ผ่านมาได้!
แต่...ไม่เคยมีอะไรทำให้กลัวสักนิด!!!
ทำไม…คำว่ารักง่ายๆทำไมถึงกลัวขนาดนี้!
...ช่างน่าสมเพชจริงๆ
เขาขยับตัวเข้าไปกอดช้าๆหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขที่มีเธออยู่ในอ้อมแขนแม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆแต่ก็มากพอจะเยียวยาหัวใจที่พังเละเทะไม่เป็นท่าให้ประกอบร่างกลับคืนใหม่อีกครั้งด้วยความรักที่ยังเต็มเปี่ยมอัดแน่นอยู่ภายในใจ
ครั้งนี้เขาจะตื่นพร้อมเธอเผื่อว่าการที่เรานอนกอดกันจะทำให้คนแสนดีรู้ตัวบ้างว่ามีใครแอบรักอยู่ตรงนี้และเฝ้ามองตลอดเวลา เขาหวังให้เธอรู้สึกเอะใจสักนิดแล้วสงสัยจากนั้นค่อยๆคิดถึงเวลาตลอดสองปีของเราว่ามีอะไรที่เกินคำว่าเจ้านายกับลูกน้องบ้าง
แต่เขากล้าได้พูดอย่างเต็มปากว่าเลยนะว่าไม่เคยเลยที่มองเธอเป็นลูกน้องสักวินาทีเดียว
อินวาเป็นคนรักนี่คือสถานะเดียวที่มอบให้!