“ยัง จนกว่าเธอจะลงไปจากตัวฉัน” เดี๋ยวนะ! ทำไมเธอรู้สึกเหมือนเขากำลังกวนประสาทเธอเลยล่ะ ไม่สิ! เขาจะกวนประสาททั้งๆ ที่สีหน้ายังเรียบเฉยแบบนั้นไม่ได้
“เอ้า! ก็บอกชอบไปแล้วไงจะเอาไงอีก” เพราะคิดว่าคำคำนั้นจะทำให้ตัวเองมีอภิสิทธิ์อยู่บนตัวเขาต่อ เธอจึงยอดพูดให้มันจบๆ ไป แต่ดูเหมือนมันจะไม่จบ
“ก็ไม่เอาไง เธอก็แค่ลงไปจากตัวฉันก็พอ เพราะว่าฉัน…ไม่ได้ชอบเธอ” อื้อหือ! เหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่ ประหนึ่งถูกหลอกให้สารภาพรัก แล้วหักอกกันทีหลัง
“แล้วไงใครแคร์ ในเมื่อฉันก็ไม่ได้ชอบคุณจริงๆ เหมือนกัน ไม้กันหมาน่ะรู้จักไหม ไม้กันหมาที่เป็นไม้กันหมาจริงๆ เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้ฉันลงจากตัวคุณ คุณก็ต้องไล่หมาคุณออกไปก่อน จะไล่ไม่ไล่ว่ามา” ความจนตรอกทำให้เธอทั้งข่มขู่และคาดคั้นในคราวเดียวกัน
“ไม่ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าระหว่างฉันกับเธอ ใครมันจะอึดกว่ากัน” ดูเหมือนประโยคนี้จะทำให้เธอแน่ใจแล้วว่าพ่อคุณตั้งใจกวนประสาทเธอจริงๆ และนั่นก็ทำให้ความอดทนของเธอสะบั้นลง
“จะเอาแบบนี้ใช่ไหม จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม ได้!” สิ้นเสียงแม่คุณก็ก้มลงไปกัดที่ไหล่เขาแรงๆ
“…….” เขาร้องลั่นพร้อมกันนั้นก็พยายามจะดันหน้าเธอออก
“จะไล่ไม่ไล่” เธอผละออกมาถามอีกครั้ง
“ไม่! อยากไล่ก็ไล่เองสิ” เขาปฏิเสธเสียงแข็ง ทำให้เธอก้มลงมากัดที่เดิมอีกครั้ง
“โอ๊ย! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะยัยหมาบ้า” เขาแหกปากร้องลั่นอีกครั้ง แต่รายนั้นก็ดื้อด้านและเขาก็เจ็บเกินกว่าจะปล่อยไว้แบบนั้น จึงตอบโต้กลับไปบ้าง
“ชอบกัดนักใช่ไหม ได้…” สิ้นเสียงพ่อคุณก็ก้มลงไปกัดที่ไหล่เธอคืนบ้าง
“โอ๊ย…! ไอ้บ้า กัดมาได้เป็นหมารึไงหา” เธอผละออกมาแหวเสียงเขียว
“ก็โดนหมากัด ฉันเลยกัดตอบ ถ้าไม่อยากโดนอีกก็รีบๆ ลงไปซะ ตัวหนักอย่างกับอะไรดี” คนถูกทักเรื่องน้ำหนักหันขวับมามองตาขวาง
“หนอยแน่! หนักเหรอ ใครเขาให้พูดเรื่องน้ำหนักผู้หญิงกันหา ปากเสียงอย่างคุณมันต้องโดน” สิ้นเสียงแม่คุณก็ก้มลงไปกัดที่ไหล่เขาด้วยความโกรธกรุ่นอีกครั้ง
“จะเอาแบบนี้ใช่ไหม ได้…!” สิ้นเสียงเขาก็ก้มลงไปบ้าง คราวนี้ไม่ใช่ที่ไหล่แต่เป็นที่คอขาวๆ ของเธอ