01
บทนำ
“แต่งงานกันไหมคุณ” เธอโผล่พรวดเข้าพร้อมกับโพล่งออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาคนที่กำลังง่วนอยู่กับแฟ้มเอกสารในมือจำต้องเงยหน้าขึ้นมองพลางขมวดคิ้วอย่างไม่แน่ใจว่าเธอจะมาไม้ไหน ก็เมื่อเช้าแม่คุณยังร้องไห้จนเขาใจเสีย มาตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จึงไม่แปลกที่เขาจะคลางแคลง
“ถ้าไม่สบายก็กลับไปนอน ฉันจะทำงาน ไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กแก่แดดอย่างเธอหรอกนะ” เขาหยั่งเชิงท่าทีด้วยการก้มลงมองแฟ้มเอกสาร แสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่ก็แอบลอบมองเธอบ่อยๆ
“นี่…ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ เรียนจบ มีงานทำ แล้วฉันก็อยากแต่งงานจริงๆ ไม่ได้คิดเล่นๆ อย่างที่คุณว่าด้วย” เธอขยับมายืนประจันหน้ายืนยันด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง ทำให้คนที่นั่งอยู่จำต้องลุกขึ้นแล้วขยับเข้าไปใกล้ๆ อย่างพยายามจะจับผิด
“แล้วรู้ไหมว่าแต่งงานแล้ว สามีภรรยาเขาต้องทำอะไรกัน” เขาแสร้งโน้มลงมาใกล้ๆ เพื่อดูท่าที ในขณะที่เธอเพียงพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะก้มหน้างุดด้วยความกระดากอาย
“รู้ใช่ไหมว่ากิจกรรมระหว่างผัวเมีย มันมากกว่าแค่นอนมองตากันเฉยๆ ดีไม่ดีบางคืนอาจจะไม่ได้นอนด้วยซ้ำ แล้วเด็กที่ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำอย่างเธอจะไหวเหรอ” คำพูดประหนึ่งดูหมิ่นกันซึ่งๆ หน้า ทำให้มีนาเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาเอาเรื่อง
“คำก็เด็กสองคำก็เด็ก ก็บอกแล้วไงว่าไม่เด็ก ถึงฉันจะไม่มีประสบการณ์เรื่องอย่างว่าหรือผ่านโลกมาโชกโชนเหมือนคุณ แต่ฉันก็ไม่ใช่กบที่หลบอยู่ในกะลาถึงจะไม่รู้ว่ากิจกรรมอย่างว่าระหว่างผัวเมีย มันคืออะไร” เธอพูดใส่หน้าเขาอย่างเหลืออด
“แปลว่าเธออยากทำกิจกรรมแบบนั้นกับฉัน?” เขาเลิกคิ้วดูปฏิกิริยา ครั้นพอเห็นเธอผงะตาโตจึงหันไปลอบยิ้มอีกทาง
“โอ๊ย! จะถามอะไรนักหนา แค่ตอบว่าแต่งหรือไม่แต่งก็พอไม่ได้รึไง”
“งั้นเธอลองบอกเหตุผลดีๆ สักข้อสองข้อสิว่าทำไมฉันถึงต้องแต่ง…กับเด็กกะโปโลอย่างเธอ” เห็นเธอเม้มปากอย่างพยายามใช้ความคิด เขาก็แทบจะหลุดขำออกมา กระทั่งได้ฟังคำตอบ
“เหตุผลข้อแรกถ้าคุณแต่งกับฉัน คุณจะมีฉันเป็นภาระไปตลอดชีวิต แล้ว…” ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดต่อ เจ้าของคำถามก็แทรกขึ้นมาทันที
“งั้นฉันไม่แต่ง จะไปไหนก็ไปไป ฉันจะทำงาน” เขาแสร้งโบกมือไล่แล้วกลับไปนั่งที่เดิม ทำให้เธอต้องรีบเดินตามมา