Chapter 7 รักของเรา (5)
ที่หน้าตึกพิเศษ ชัยกรกับบุษบากรพากันเดินออกมาจากตัวอาคารเพื่อกลับบ้าน...หากแต่ใครบางคนที่นั่งรออยู่ตรงทางเดิน ก็ทำให้ทั้งสองต่างชะงักฝีเท้า มองหน้าสบตากันเลิ่กลั่ก
ชัยกรนั้นไม่เท่าไหร่ แต่บุษบากรกลัวเหลือเกิน กลัวเขาจะเกิดลูกบ้าทำอะไรไม่คาดฝันขึ้นมาอีก
จอมทัพลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินเข้ามาใกล้คนสองคนที่ยืนงง...เขาบึ่งรถมาจากพัทยาเมื่อเช้า ก็เพื่อมารับหล่อนโดยเฉพาะ
"จะกลับบ้านใช่ไหม ถ้างั้นก็ไปด้วยกัน ส่วนนาย...กลับบ้านไปได้แล้ว ทางใครทางมัน!"
"แต่..."
แววตาขุ่นขวางที่ตวัดมอง ทำให้ชัยกรยอมที่จะเงียบ เขาไม่อยากพูดอะไรมากให้เกิดเรื่องในโรงพยาบาลอีก ที่สำคัญ...เขาไม่อยากทำอะไรที่ทำให้กระทบจิตใจบุษบากร เพราะแพทย์สั่งเอาไว้ให้ระวังเรื่องความเครียด และให้นอนพักผ่อนเยอะ ๆ สักหนึ่งสัปดาห์
"นายก็แยกย้ายกันตรงนี้ ไม่ต้องห่วงเพื่อน...เอ่อ...ไม่ต้องห่วงเมียนาย ฉันจะพาเธอกลับบ้านเอง"
บุษบากรตวัดสายตามองหน้าคนพูด อยากจะเถียงเขาว่าไม่ใช่ และไม่ชอบใจเป็นอย่างมากที่เขายัดเยียดหล่อนให้เป็นเมียคนโน้นคนนี้
เขาทำเป็นไม่สนใจแววตาขุ่น ๆ คู่นั้น อุ้งมือแกร่งคว้าข้อมือเล็กแล้วออกแรงกระตุก สบตาหล่อนให้รู้ว่าถ้าไม่อยากมีปัญหา ก็ให้ทำตัวว่าง่าย ยอมไปกับเขาแต่โดยดี
"แล้วเรื่องนั้นล่ะครับ พี่จอมจะว่ายังไง จะบอกผู้ใหญ่ตอนไหน ผมพร้อมเสมอหากจะเข้าไปสารภาพความจริง"
"ยังไม่ต้อง ฉันจัดการเอง!"
เขาตะคอกกลับ อยากซัดหน้าเด็กรุ่นน้องให้หายซ่าส์ เขาแสลงใจที่อีกฝ่ายตอกย้ำทวงสิทธิ์ถึงความเป็นพ่อ และความที่กลัวจะกดอารมณ์ไม่ไหวจึงรีบพาบุษบากรเดินหนีมาเสียดื้อ ๆ ซึ่งหล่อนจำต้องเดินตามเพราะนึกถึงคำสั่งหมอ...ยังคงเป็นห่วงลูกในท้อง ไม่อยากขัดขืนดึงดันให้ต้องกระทบกระเทือน
ไม่อยากจมกับความรู้สึกนั้นอีกแล้ว ความรู้สึกที่กลัวกับความสูญเสียจนใจดำดิ่งลึกสู่ความมืด ตรงนั้นมันทั้งเงียบเหงาและวังเวง น่ากลัวเหลือเกินเมื่อต้องเผชิญกับความรู้สึกนั้นเพียงลำพัง
บนเส้นทางที่พาออกห่างจากใจกลางเมือง แอสตันเคลื่อนที่ไปบนท้องถนนด้วยความเร็วไม่มากนัก บุษบากรมองเสี้ยวหน้าคนขับด้วยแววตาเลิ่กลั่ก เพราะมันไม่ใช่ทางที่มุ่งหน้าไปสู่บ้านของเธอ
"พี่จอม จะพาดาวไปไหนคะ!"
"ไปทะเล"
เขาตอบโดยไม่หันมามอง แววตาจับจ้องไปบนท้องถนนที่รถราขวักไขว่ ในขณะที่บุษบากรนั่งกระวนกระวายใจอยู่ในรถ หล่อนใจคอไม่ดีเอาเสียเลยกับการแอบมากับเขาเพียงลำพัง
"นอนพักเสียสิเพียงดาว ถ้าถึงแล้วพี่จะปลุกเธอเอง"
"ทำแบบนี้ทำไมคะ พี่จอมกำลังทำให้ดาวมีปัญหา"
"หมอบอกเธอเครียดเกินไป ควรหาเวลาผ่อนคลายสมองบ้าง"
"แต่ดาวจะเครียดหนัก เพราะมากับพี่จอม"
"เอาเถอะ ทะเลจะช่วยเยียวยาเธอเอง"
เขาตัดบท ยื่นมือไปเร่งปุ่มปรับระดับเสียงเพื่อเปิดเพลงให้หล่อนฟัง...ท่ามกลางไอเย็นที่หมุนวนอยู่ภายในห้องโดยสาร ใจของบุษบากรก็นึกไปถึงคืนแรกที่ได้พานพบกับความสุขจากสัมพันธ์รักลึกซึ้ง
คืนนั้น...ที่เขาเต่า...ในวันที่หล่อนบรรลุนิติภาวะแล้ว ส่วนเขาเพิ่งผ่านพ้นเลขสามมาได้ไม่นาน ความต่างของประสบการณ์ชีวิต ทำให้หล่อนยอมจำนนเป็นของเขาอย่างง่ายดาย
ริมทะเลเขาเต่าที่มีเขตติดต่อกับปราณบุรี มีคอนโดหรูที่ซุกซ่อนอยู่ภายในผืนป่าที่ยังคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์ ด้วยทำเลที่ดีเยี่ยมหลายคนจึงแย่งกันจับจองเป็นเจ้าของ หนึ่งในนั้นก็คือจอมทัพ เขาซื้อทิ้งไว้และชอบพาหล่อนไปพักผ่อนที่นี่
ลมอ่อนพัดโชยหอบเอากลิ่นสดชื่นลอยมาเมื่อยามค่ำ...ในห้องพักแสนหรูหราราคาเหงื่อตก บนเตียงกว้าง...ละครฉากอีโรติกกำลังเริ่มขึ้น
“ดาวจ๋า…พี่ขอนะ…”
เสียงกระซิบมาพร้อมความแข็งขึงที่สอดประสานแทรกลึก…ความคับแน่นแสนอึดอัดทำให้เสียงหวานประท้วงออกมาเบา ๆ
"อื๊อ...เจ็บ..."
เสียงเบาหวิวครางเล็ดลอดผ่านเรียวปากอิ่มแดงระเรื่อ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากับพร้อมสีหน้าที่สื่อถึงความเจ็บปวดจากการถูกล่วงล้ำ เขาทำหล่อนตกใจจนน้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะ...ประสบการณ์รักครั้งแรกกับผู้ชายที่ให้เขาไปหมดแล้วทั้งใจ น้ำคำหวานและสัญญารักที่กระซิบพร่ำรำพัน ทำให้หล่อนยอมพลีกายทอดร่างให้เขาเชยชม
“โอววว...เพียงดาว...เธอเป็นของพี่แล้ว..."
เสียงครางกระเส่าอยู่ในลำคอ กระซิบเล็ดลอดดังระเรี่ยอยู่ข้างหู...สองแขนเรียวกอดเกี่ยวแผ่นหลังกว้างเอาไว้ยามเขาพาโลดแล่นไปบนเส้นทางหวามหวาน มันคือความเจ็บปวดที่มาพร้อมกับความสุขล้ำอย่างประหลาด สัมพันธ์ลึกซึ้งแนบเนื้อลึกซึ้งคือเครื่องบ่งบอกว่าเขาและหล่อนเป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์
ในคืนหวาม...มันยาวนานกว่าพายุคลั่งจะสงบลง หล่อนแทบไม่ได้นอนเพราะเขาเฝ้าวนเวียนตักตวงความสุขจากกายสาวแสนสดใหม่...คือสัมพันธ์ที่ลักลอบปกปิด ไม่มีใครล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์นี้ตลอดระยะเวลาหลายปี...
"เพียงดาว..."
".....!"
เสียงกระซิบอยู่ข้างหูดึงหล่อนขึ้นมาจากห้วงอดีต เห็นใบหน้าคมคร้ามอยู่ห่างจากกันแค่คืบ ความตกใจทำให้หล่อนเอี้ยวหน้าหนี
"เป็นอะไร เรียกตั้งหลายครั้งแต่เธอก็ไม่ขาน"
"อะ...เอ่อ..."
สีหน้ามีพิรุธและแววตาเลิ่กลั่ก ทำให้เขารู้ทันว่าหล่อนกำลังใจลอยไปถึงไหนต่อไหน จึงเลิกซักไซ้
"พี่จะเข้าห้องน้ำ เธอจะไปเข้าหรือเปล่า"
"ปะ...ไปค่ะ"
อะไรก็ได้เพื่อหลีกหนีสายตาคู่นั้น เขาจับจ้องกัน
อย่างมีความหมาย และหล่อนกำลังจะใจอ่อนอีกครั้ง พ่ายแพ้ให้กับความรักที่ยังเหลืออยู่เต็มหัวใจ ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าลืมไม่ลง
จอมทัพรีบเข้าห้องน้ำและมายืนดักรอหล่อนที่ด้านหน้า เมื่อบุษบากรเดินออกมาก็เห็นเขายืนเฝ้าชนิดที่ปลีกตัวไปไหนไม่ได้ จนต้องลอบถอนหายใจออกมา
"ทำไมไม่ไปรอที่รถคะ"
"ไม่ได้ เดี๋ยวเธอหนี"
"ดาวคงไม่พาลูกระหกระเหินหนีไปหรอกค่ะ นอกเสียจากว่า..."
"นอกจากอะไร!"
แววตาของหล่อนทำให้เขานึกกลัวขึ้นมาได้ ทั้งที่ชัยกรยืนยันมั่นเหมาะ แต่น่าแปลก เขากลับกลัวหล่อนหอบลูกหนีไปเสียอย่างนั้น กลัวจะไม่ได้เจอหน้ากันอีก...เขาช่างแปลกประหลาดที่กลัวลูกคนอื่นหายราวกับเป็นลูกตัวเอง
แอสตันคันเดิมวิ่งฉิวไปบนท้องถนนโดยมีจุดหมายปลายทางคือหัวหิน...จอมทัพเหลือบมองคนข้างกาย หล่อนผล็อยหลับไปแล้วและเขาไม่คิดจะปลุก...เขาจะพาหล่อนไปที่นั่น...สถานที่ ๆ เคยมีความสุขด้วยกัน มันคือสถานที่ที่เขาสารภาพรักเป็นครั้งแรก ความทรงจำยังคงกรุ่นอยู่ในใจ ไม่อาจลืมได้ลง
บนเส้นทางคอนกรีตเล็ก ๆ ที่ตัดผ่านความเขียวรื่นของป่าในเขตวนอุทยาน มันคือทางที่พาไปสู่ดินแดนแห่งความลับ ชายหาดเขาเต่าที่ไกลจากความพลุกพล่าน...แอสตันพาตัวเองซอกแซกไปตามทางที่คดเคี้ยววกวนโดยมีจุดหมายปลายทางคือคอนโดหรูที่ซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบสงบ ที่นั่น...มันคือสวรรค์ของการพักผ่อนอย่างแท้จริง
จอมทัพนำรถไปจอดยังพื้นที่ส่วนตัวเพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้ครอบครองห้องของคอนโดแห่งนี้...ลมอ่อนพัดโชยเข้ามาถึงในห้องโดยสารยามลดกระจกลง กลิ่นสดชื่นที่ถูกหอบพัดพามาจากทะเลปลุกคนที่หลับใหลด่ำดิ่งลึกให้รู้สึกตัว
แพขนตางอนยาวกระพริบถี่ ๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะเผยอเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ ภาพตรงหน้าคือท้องทะเลสีฟ้าอ่อนและหาดทรายขาวละเอียด จนนึกอยากถอดรองเท้าแล้วลงไปเดินเล่นเหยียบความนุ่มฟูให้คลื่นซัดสาดกระทบเท้า เพื่อเติมพลังความสดชื่นให้ร่างกาย
แววตาง่วงงุนเหลือบมองคนที่กำลังลงจากรถ...คิดไปพร้อมกัน เขาพาหล่อนมาที่นี่อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด
จอมทัพเดินอ้อมมาอีกฝั่ง เขาเปิดประตูรถแล้วคว้าข้อมือของบุษบากรเพื่อให้ลงจากรถ ออกแรงลากพาเดินไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องแห่งความทรงจำ...
บุษบากรยืนใจเต้นแรงเมื่อประตูลิฟต์ค่อย ๆ เปิดออก ที่ด้านนอก...ทางเดินหินอ่อนทอดยาวเงาวับ ยามที่ถูกเขาจูงมือให้เดินไปตามทาง...ความทรงจำแสนหวานก็หลั่งไหลพรั่งพรู
"พี่จอม...พาดาวมาที่นี่ทำไมคะ"
เขาไม่ตอบ มือใหญ่แตะลงบนเครื่องสแกนแล้วผลักบานประตูเข้าไป...เห็นเตียงกว้างที่หันปลายเท้าออกสู่ท้องทะเลผืนงาม ภาพความทรงจำย้ำเตือน
บุษบากรยืนขาแข็งอยู่ตรงประตู แววตาสั่นระริกมองกวาดไปทั่วห้อง กลิ่นและบรรยากาศอันแสนคุ้นเคย ทุก ๆ อย่างยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป แม้กระทั่ง...ดอกไม้ในแจกัน
"มานี่สิเพียงดาว"
ความทรงจำฉุดรั้งสองขาให้เดินเข้าหาเขาอย่างว่าง่าย...บนเตียงกว้าง เขาตวัดเกี่ยวกอดรั้งร่างหล่อนให้ทิ้งกายลงไปบนนั้นพร้อม ๆ กัน บุษบากรพลิกกายนอนตะแคงหันข้างเพื่อจะหนีลงจากเตียง หากแต่ก็ถูกรั้งเอาไว้ด้วยท่อนแขนแข็งแรง
ชายหนุ่มขยับกายแนบชิดจากทางด้านหลัง อุ้งมือแกร่งทาบทับหลังมือนุ่มแล้วกดเอาไว้ไม่ให้หล่อนขยับหนี...บุษบากรใจร้อนรุ่มเมื่อสัมผัสสากระคายคลอเคลียอยู่ข้างพวงแก้ม ไล่ลงต่ำระรานอยู่ข้างซอกคอ
เขาจับมือนุ่มให้ลากไล้ไปตามผืนผ้าเรียบลื่น...ความทรงจำคืนนั้น...เขาคิดถึงมัน
ทุกเสียงและทุกสัมผัสที่เกิดขึ้นในห้องนี้ ยังคงกรุ่นอยู่ในใจเสมอ
แววตาคมกล้าปรายมองไปตามผืนผ้าสีขาวสะอาด ที่ก่อนมาได้โทร.ติดต่อให้คนมาทำความสะอาดห้องไว้รอ...ยังจำได้ดีกับร่องรอยแห่งรักในคืนนั้น เขาทำผืนผ้าสีขาวสะอาดเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบสีแดง คือเครื่อง หมายที่ตีตราว่าหล่อนเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์
ปลายนิ้วแกร่งสอดประสานเข้ากับนิ้วเรียวของหล่อน แรงกดหน่วงหนักจนความอุ่นร้อนแผ่ซ่านซึมลึก ราวต้อง การดื่มด่ำกับความรู้สึกนั้นอีกครั้ง สัมผัสที่ทำให้หัวใจสอง
ดวงหวามไหว เสียงกระซิบแนบชิดอยู่ข้างพวงแก้มนุ่ม
"เพียงดาว...เธอจำมันได้ไหม..."
"จำได้ จำได้แม่นว่าพี่จอมเคยสัญญาอะไรไว้!"
หล่อนโต้ทันควันเสียงสั่น ขอบตาร้อนผ่าวปวดหนึบจากสัญญารักสัญญาลวง เขาใช้มันล่อหลอกเพื่อหวังได้ในสิ่งที่ต้องการ
"พี่จอมบอกว่าถ้าดาวเรียนจบ เราจะแต่งงานกัน"
เขานิ่งอึ้งกับสัญญาที่เคยเอ่ยปาก จริง ๆ มันควรเป็นเช่นนั้น หากว่าไม่เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน...เขานึกย้อนไปถึงความผิดพลาดของตัวเอง...
"ฮือ ๆ"
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นยังคงดังไม่หยุด...ตรงหน้าคือภารดีกับวรพลที่ยืนมองมาด้วยแววตาที่ถามหาความรับผิดชอบ...คคนางค์ในสภาพเปลือยเปล่าที่นอนอยู่กับเขาบนเตียง และเขาก็ยังไม่รู้เลยว่า ใครเป็นคนโทร.หาพ่อแม่ของหล่อนจนเรื่องแดงขึ้นมา
เหตุเกิดเพราะความเมาและเขาจำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปและมีสัมพันธ์กับหล่อนจริงหรือไม่...เมาหนักเพราะช้ำรัก เขาเหมือนคนเสียผู้เสียคน หลังจากได้รู้ว่าบุษบากรกับภวินทร์นั้นแอบมีสัมพันธ์กัน เหมือนถูกหักหลังจากคนที่เขาให้ใจไปแล้วทั้งดวง ยิ่งรักมากก็เจ็บมาก ความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นรอวันเอาคืน
อารมณ์ตอนนั้นเหมือนถูกซาตานร้ายเข้าสิงใจ เขาเห็นช่องทางเอาคืนบุษบากร
"ผมจะรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับเพียงรัก แต่ขอร้อง...อย่าบอกทุกคนว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่"
นั่นคือข้อต่อรองที่เขาขอกับพ่อตาแม่ยาย...แน่นอน...ฝ่ายนั้นรีบยอมรับข้อเสนอ เขารู้ดี เป็นเพราะธุรกิจที่กำลังจะล้มละลายทำให้ทั้งสองคิดว่าใครก็ได้ที่ควรได้แต่งงานกับเขา หวังให้เขามาช่วยฟื้นฟูธุรกิจที่ซวนเซ แต่...ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างใจคิด ไม่มีใครอยากเอาเงินไปจมกับบริษัทที่จวนจะเจ๊งอยู่รอมร่อ
มาคิดได้ก็เมื่อสายไป...มันไม่ง่ายเลย...กับการตัดใจจากใครสักคน เพิ่งได้รู้ก็เมื่อพานพบ และเขากำลังทรมานกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์...
กายที่สะท้านไหวและเสียงสะอื้นเบา ๆ ดึงเขาขึ้นสู่ปัจจุบัน สองมือจับพลิกร่างของหล่อนให้นอนหงาย จับจ้องมองลึกลงไปในแววตาฉ่ำน้ำ
น้ำตาของหล่อนทำให้เขาใจหวิว...รู้...มันคงมาจากความรู้สึกขัดแย้งภายใน
"เพียงดาว...พี่...ขอโทษ"
"แล้วพี่จอมไม่คิดอะไรแล้วเหรอคะ ทำใจได้แล้วเหรอคะ ในเมื่อพี่จอมก็เห็น ดาวมีอะไรกับคนอื่นอีกตั้งหลายคน จะมีอะไรมาพิสูจน์ว่าดาวไม่ได้โกหก"
"....."
เขานิ่งเงียบ...ยอมรับว่ายังคงตะขิดตะขวงใจระหว่างเรื่องของหล่อนกับภวินทร์ ไหนจะชัยกรที่รอเสียบอยู่อีกคน แต่เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้เหตุใดจึงรับได้ เขารับหล่อนได้แม้ร่างกายจะผ่านใครมาก็ตาม
แต่ก็มีอีกเสียงกระซิบย้อนแย้ง...เขาควรเชื่อใจหล่อน คนที่เขารักต้องไม่เป็นแบบนั้น หล่อนไม่ได้มั่วผู้ชายอย่างที่ถูกกล่าวหา
"ลึก ๆ แล้วพี่จอมก็ยังคงไม่เชื่ออยู่ดี"
เขาเช็ดหยาดน้ำตาบนร่องแก้มด้วยปลายนิ้ว สบตาหล่อนด้วยแววตาจังจริง
"พี่ให้โอกาสเธอสารภาพความจริงอีกครั้ง เธอท้องเมื่อไหร่ ตอนไหน เธอต้องจำได้ ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายวันที่เท่าไหร่ และตอนนี้เขาได้กี่สัปดาห์แล้ว"
เขาไล่เป็นสัปดาห์เพื่อให้หล่อนจนมุม...ยังจำได้ดี...สัมพันธ์รักครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นช่วงไหน ถ้าหากเวลานั้นสัมพันธ์กัน เขาจะเชื่อมั่นได้ทันทีว่าเด็กในท้องลูกใคร
"เงียบทำไมเพียงดาว ตอบมา!"