Chapter 1 ส่งเธอสู่ประตูวิวาห์
Chapter 1
ส่งเธอสู่ประตูวิวาห์
ยามเช้ามืดของปลายเดือนพฤศจิกายน อากาศเริ่มเย็นลงจากอุณหภูมิที่ลดลงต่ำ...ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่ห่มคลุมด้วยอารมณ์หมองเศร้า เสียงสะอื้นดังแว่วมาเกือบตลอดทั้งคืน
บุษบากรซุกหน้ากับหมอนที่ชุ่มโชกด้วยหยาดน้ำตาแห่งความเสียใจ หล่อนร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะไหล...หน้าคนใจร้ายตามมาหลอกหลอนจนนอนไม่หลับ ทรมานเหลือเกิน อยากให้วันพรุ่งนี้มาถึงโดยเร็ว
มือนุ่มทาบลงบนท้องน้อยแล้วไล้ไปมาอย่างช้า ๆ สายใยรักแผ่ซ่านซึมลึก เรียกหยาดน้ำใส ๆ ให้ไหลออกมาอีกครั้ง...วันนี้แล้ว...คนที่เคยรักก็จะเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ กับคนที่เป็นดังเงาของหล่อน...คคนางค์
เวลาก็ช่างเดินหน้าไม่ค่อยท่า หล่อนไม่อยากลุกจากเตียงนอนไปทำอะไรทั้งนั้น หากแต่ว่าเสียงเคาะประตูก็ดังถี่ขึ้นเรื่อย ๆ หล่อนรีบปาดน้ำตาทิ้งไปด้วยหลังมือ
"คุณแม่ให้มาปลุกคุณดาวค่ะ บอกให้รีบแต่งตัวแล้วก็ตามไปที่โรงแรม"
คนมาบอกมองมาด้วยแววตาเจือความสงสาร เห็นแววตาคู่นั้นบวมเห่อ ทำไมหล่อนจะไม่รู้ บุษบากรนั้นไม่อยากไปร่วมงานแต่งของอดีตคนรัก สัมผัสได้และเข้าใจดี คนที่รักกำลังจะเป็นของคนอื่น ไม่มีใครทานไหวกับความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญ
ไม่เข้าใจคนในบ้านหลังนี้ ทำเป็นเหมือนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร หากแต่ก็ยอมให้งานแต่งเกิดขึ้นโดยไม่สนใจความรู้สึกของลูกสาวคนเล็ก หล่อนเลยเชื่อว่าเพราะอำนาจเงินที่ทำให้เป็นไป เงินของจอมทัพจะช่วยพยุงกิจการที่กำลังจะล่มให้เดินหน้าต่อไปได้
ก็เลยหมายมั่นใครสักคนก็ได้ให้แต่งงานกับเขา และสุดท้ายคคนางค์ก็เป็นเจ้าสาวผู้โชคดี
"ขอบใจจ้ะ..." บุษบากรคลี่ยิ้มเศร้า ๆ ก่อนจะรีบปิดประตูหนีสายตาของแม่บ้าน...ร่างอ่อนแรงยืนเอาหลังพิงบานประตู คิดอย่างร้าวรวด...หล่อนจะทำได้ไหม กับการปั้นหน้าไปร่วมงานวิวาห์ หลั่งรินน้ำสังข์ให้อดีตคนรักด้วยมือของหล่อนเอง
หากแต่ก็ต้องไป...หล่อนจะพาเขาไป...โซ่รักคล้องใจที่จอมทัพและหล่อนร่วมกันสร้างขึ้นมา จะพาเขาไปร่วมอวยพรส่งพ่อเข้าสู่ประตูวิวาห์ ให้พ่อของเขาสร้างครอบครัวอย่างมีความสุขอยู่กับผู้หญิงอีกคนที่ไม่ใช่เธอ
ส่วนหล่อนและลูก ก็คงต้องก้าวเดินต่อไปบนเส้น ทางที่ไม่มีเขาเคียงข้าง...เพียงลำพัง
++++++
ภายในห้องน้ำของโรงแรมที่ใช้จัดงาน...บุษบากรมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ แม้หยาดน้ำตาจะแห้งเหือดเพราะกดมันเอาไว้ หากแต่ร่องรอยแห่งความเสียใจยังคงปรากฎให้เห็นทางแววตา หล่อนพยายามแล้วที่อาศัยการแต่งหน้าช่วยปกปิด แต่...มันก็คงจะใช้หลอกทุกคนไม่ได้อยู่ดี
แว่นสายตาถูกหยิบออกมาจากกระเป๋า คงจะช่วยแก้ขัดได้...หล่อนสวมมันลงบนกรอบหน้ารูปไข่ ปลายนิ้วสางไปตามเส้นผม จัดทรงผมให้ได้ทรง มองสำรวจความเรียบร้อยของเดรสสีทองเรียบหรูเข้ากับตีมของงาน หล่อนไม่ต้องกังวลเรื่องหาเสื้อผ้า...เลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้าบ่าวนั้นเพิ่งก่อเกิด ไม่มีใครรู้ถึงความผิดปกตินอกจากหล่อนคนเดียวเท่านั้น
ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว ในเมื่อเขาเลือกทางเดินที่ไม่มีหล่อนเคียงข้าง ก็คงต้องทำใจยอมรับ และทำไม่ได้ หากจะเดินเข้าไปบอกใคร ๆ ว่าผู้ชายคนนั้นคือสามี
ไม่ใช่แค่สามี แต่เขาคือพ่อของลูก คือคนที่หล่อนยังไม่อาจตัดใจ แม้เขาจะใจร้ายทำกันได้ลง
งานแต่งถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่าย หลังจากผ่านพิธีช่วงเช้าก็จะต่อด้วยงานเลี้ยงทันทีโดยไม่ต้องรอช่วงค่ำ เพื่อไม่ให้แขกเสียเวลาและประหยัดเวลาไปด้วยในตัว
ที่จริงหล่อนควรจะไปยืนอยู่ตรงนั้น...ตำแหน่งเพื่อนเจ้าสาวที่ยามนี้มีญาติคนอื่นทำหน้าที่ เพราะใจไม่เข้มแข็งพอ จึงโกหกทางบ้านว่าไม่สบาย
เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวมองดูเหมาะสมกันดี...หล่อนแค่นยิ้มหยันให้กับโชคชะตา...ใช่...หล่อนต้องคิดว่ามันเหมาะ สม เพราะเจ้าสาวที่นั่งเคียงข้างเจ้าบ่าวนั้นมีใบหน้าที่เหมือนกับเธอราวกับโคลนนิ่งกันมา มันต่างกันที่ว่าเขาไม่ได้เลือกเธอ
มองใบหน้าคมคร้ามที่เคยได้สัมผัส นับจากวันนี้ไปหล่อนหมดสิทธิ์ในตัวเขาอย่างแท้จริง
คนใจสลายยืนแอบอยู่ในมุมมืดอย่างเศร้า ๆ รอจน
กระทั่งแขกบางตา...สูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกเพื่อเดินออกไปตรงนั้น ตรงตั่งรดน้ำสังข์ ยามสองขาค่อย ๆ ก้าวเดินเข้าไป หล่อนรู้สึกว่าร่างกายช่างเบาหวิวเหลือเกิน
'เพียงดาว!'
จอมทัพผงะเล็กน้อยคล้ายตกใจ เขาเงยหน้าขึ้นมอง สบตากับหล่อนผ่านแว่นสายตาที่ใช้อำพราง...ร่องรอยเห่อแดงบวมช้ำ ไม่อาจปกปิดเขาได้
หล่อนกำลังตีหน้าเศร้าให้เขาสงสาร มันจะไม่ได้ผลอีกต่อไป เขาจะไม่มีวันเห็นใจเธอ...ผู้หญิงร่านรัก!
ชายหนุ่มบดกรามจนเป็นสันนูนเบือนหน้าหนี ราวกับว่าโกรธกันมาแต่ชาติปางไหน...คคนางค์หรี่ตามองเจ้าบ่าวที่กำลังออกอาการ หล่อนกำลังหวาดระแวง กลัวเหลือเกินกับถ่านไฟเก่าที่ยังไม่มอดดับ
บุษบากรขบกรามแน่น มองมือที่พนมรับน้ำสังข์อยู่บนตั่งด้วยใจที่สั่นระรัว มือสั่น ๆ บรรจงหลั่งรินน้ำสังข์ลงไป หยาดน้ำที่หลั่งรินทำหล่อนน้ำตาร่วง วินาทีนั้นเหมือนโลกถล่มทลาย อยากทิ้งตัวลงฟูมฟายประท้วงเจ้าสาวขอทวงสามีคืน
ธรรมเนียมไทยว่าไว้ ห้ามคนอายุน้อยกว่าหลั่งน้ำ
ศักดิ์สิทธิ์ แต่วันนี้หล่อนขอแหกกฎ อยากพาลูกได้มาร่วมอวยพรให้กับพ่อเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนี้เส้นทางเดินก็จะเป็นเหมือนเส้นขนาน อาจไม่ได้พบกันอีก