ธีรัชหอมแก้มหญิงสาวอย่างแผ่วเบาก่อนจะอุ้มเธอขึ้นไปนอนบนเตียง ดาริกาไม่ขัดขืนใดๆเพราะเธอรักเขาและเขาจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอจะยอมพลีกายให้ ชายหนุ่มพรหมจูบทั่วใบหน้าลากไล้ลงมาช่วงลำคอ มือหนาซุกซนตามตัว
"พี่รักน้องดานะ"
เขาเอ่ยออกมาเสียงหวานก่อนจะค่อยๆปลดเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้นอย่างเบามือ หญิงสาวร้องครางออกมาเสียงกระเส่ามือเล็กจิกลงบนไหล่กว้าง เคลิ้มไปกับสัมผัสที่แปลกใหม่จากชายหนุ่มที่มอบให้
"อื้อ พี่ธี"
"น้องดาของพี่ธี สวยที่สุดเลยรู้มั้ย"
เขาซุกไซ้ตามตัวก่อนจะขยับเข้าไปแนบชิดหญิงสาวมากขึ้น ชายหนุ่มยังความเป็นชายที่มันพองโตเต็มที่ค่อยๆสอดใส่เข้าไปหยอกล้อกับร่องสาวอันบริสุทธิ์
"จะ...เจ็บ อ๊ะ"
"นิดเดียวค่ะเดี๋ยวมันจะหายเจ็บเอง"
เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับร้องซี๊ดเมื่อร่องสาวตอดรัดความเป็นชายบีบแน่นจนเขาแทบจะแตกเสียให้ได้ หญิงสาวกำมือแน่นกำลังอยู่ในช่วงปรับตัวให้เข้ากับจังหวะของชายคนรัก ความเป็นชายเข้าออกอย่างชักช้าไม่เร่งรีบก่อนจะเริ่มเข้าจังหวะถึงได้ขยับให้เร็วขึ้น
หญิงสาวในตอนนี้เคลือบเคลิ้มไปกับสัมผัสอันอ่อนหวานที่ชายหนุ่มมอบให้ ทั้งสองคนเร้าร้อนกันอย่างดุเดือดบนเตียงนอนนานเป็นชั่วโมงก่อนจะหยุดพักให้หญิงสาวได้พอหายใจหายคอ
"แฮ่กๆ"
ดาริกาหายใจเข้าออกนอนคว่ำหน้าอย่างเหน็ดเหนื่อย ไม่เคยต้องใช้แรงเยอะมากขนาดนี้มาก่อน แค่รอบเดียวก็เล่นเอาเธอแทบแย่แล้ว
"ไหวมั้ยเนี่ยคนเก่ง"
ชายหนุ่มขึ้นไปคร่อมทับบนตัวของหญิงสาวจากทางด้านหลัง เธอเหลือบสายตามองชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ
"ไหวค่ะแต่ว่าตอนนี้หิวน้ำคอแห้งหมดแล้ว"
"ก็ร้องเยอะเองนี่"
"พี่ธี! พูดอะไรเนี่ยคนบ้า"
หญิงสาวทุบตีชายหนุ่มอย่างเขินอาย ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ชีวิตคนเราก็ต้องการแค่นี้แหละ แค่มีกันและกันอยู่ตรงนี้ก็ดีที่สุดแล้ว
'แต่ยังไงเขาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปว่าสามารถเติบโตขึ้นได้ด้วยความสามารถของตัวเอง และเขามั่นใจว่าต้องทำได้ เพื่อน้องดาเขาสู้ขาดใจ'
วันต่อมา...
ดาริกาตักข้าวให้คุณแม่ของธีรัช ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้มาก แต่เธอทำอาหารเป็นนะอร่อยมากเลยด้วย แล้วก็ดูแลคุณแม่ของเขาได้ในเวลาที่เขาทำงานจะได้ไม่ต้องห่วงหน้าห่วงหลัง
"คุณแม่ลองทานผัดผักของน้องดานะคะ อันนี้ทำแบบเพื่อสุขภาพสุดๆเลย"
เธอนั่งลงข้างท่านก่อนจะตักนั้นตักนี่ให้อย่างเอาใจ ธีระที่เดินตามมาเห็นทั้งสองคนดูเข้ากันได้ดีมากก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ดาริกาเป็นผู้หญิงที่จิตใจอ่อนโยนมากใครอยู่ใกล้ก็รู้สึกสบายใจไม่ทุกข์ใจ ยิ่งคุณแม่ของเขาป่วยต้องการพลังบวกพออยู่กับดาริกาท่านดูสดใสมีความสุขมาก
"อร่อยมากเลยลูก ขอบคุณมากนะที่ดีกับแม่ขนาดนี้"
"ต่อจากนี้ไปคุณแม่ต้องการอะไรบอกน้องดานะคะ แล้วน้องดาจะดูแลคุณแม่แทนพี่ธีเอง"
คุยอะไรกันอยู่ครับสองสาว"
เขาเดินมาลูบผมหญิงสาวก่อนจะจุ๊บศีรษะอย่างแผ่วเบา คนเป็นแม่อมยิ้มอย่างอารมณ์ดีที่เด็กทั้งสองคนเข้าใจกันได้สักที หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจกันมานาน
"กำลังให้คุณแม่ชิมผัดผักของน้องดาค่ะ"
"น้องดาทำอาหารอร่อยอยู่แล้ว คุณแม่ก็เคยกินบ่อยนี่นา"
"วันนี้น้องทำเพื่อสุขภาพนะ อาจจะไม่ถูกปากเราสักเท่าไหร่แต่ว่าสำหรับแม่อร่อยมากเลย"
"งั้นกินเยอะๆนะคะ"
เธอยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่ตอนนี้เท้าคางมองเธอด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม
"พี่ธีก็ทานเยอะๆนะคะ"
"ค่ะ หนูก็ทานทานด้วยนะเดี๋ยวไปบริษัทด้วยกัน"
ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ แค่ทุดวันนี้ตื่นมาเจอหน้ากัน ทานข้าวด้วยกันแค่นี้เธอก็มีความสุขมากแล้ว...
เวลาต่อมาทั้งสองคนก็เดินทางมาถึงที่บริษัท ธีรัชกุมมือหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะพากันเดินเข้าไปยังชั้นผู้บริหาร ตอนนี้คุณณเรศและดัชกรกำลังนั่งคุยกันอยู่ เจอลูกสาวกับธีรัชเดินเข้ามาพอดีก็เอ่ยทักทาย
"เมื่อวานลูกสาวพ่อต้องบินไปอังกฤษไม่ใช่เหรอ ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ"
เขาทำเหมือนแปลกใจไม่รู้อะไรทั้งที่เมื่อวานเขารู้จากลูกน้องหมดแล้ว ดาริกาเดินเข้าไปหาคุณพ่อก่อนจะกอดท่านอย่างออดอ้อน
"น้องดาไม่ไปแล้วค่ะ"
"ไหนบอกว่าไม่ตื้อแล้วไงทำไมถึงมาด้วยกันได้อีก เค้าไปง้อนิดหน่อยก็ใจอ่อนแล้วสินะ"
"ก็พี่ธีไปง้อน้องดาถึงสนามบินไม่ให้ใจอ่อนได้ยังไงคะ ใช่มั้ยคะพี่ธี"
เขาอมยิ้มไม่พูดอะไรเพราะเขาคิดว่าทั้งสองคนรู้อยู่แล้วแต่แกล้งถามไปอย่างนั้น เมื่อวานเราคุยกันอย่างดีแต่มันยังไม่ชัดเจนจึงมาคุยต่อวันนี้
"ผมมาที่นี่เพื่อมาคุยกับท่านประธาน เรื่องของผมกับลูกสาวท่าน ผมรักน้องดาครับรักมานานแล้ว ผมขอโอกาสได้ดูแลน้องดาจากนี้ไป และผมพร้อมพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรที่จะได้รักกับลูกสาวของท่าน"
เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจังมาก ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันก่อนจะยิ้มมุมปากออกมา
"แล้วนายคิดว่าตัวเองมีอะไรคู่ควรกับน้องสาวฉันเหรอ ไม่ได้ดูถูกนะแต่อยากจะรู้ว่านายจะทำยังไงก็เท่านั้น"
ดัชกรเอ่ยถามอย่างใครรู้ อย่างน้อยเขาต้องวางแผนอนาคตไว้แล้วจะทำอะไรต่อไป ถ้าต้องเป็นลูกจ้างไปจนตาย ชาตินี้คงไม่มีทางที่จะเลี้ยงดูน้องสาวของเขาได้
"ตอนนี้ผมผลิตรถพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับผู้พิการส่งเข้าประกวดระดับประเทศ ตอนนี้ติดห้าอันดับสุดท้ายมีโอกาสลุ้นรางวัลชนะเลิศด้วยเพราะมีคนสนใจเยอะมาก ถ้าผมชนะจะได้เงินรางวัลมาห้าล้านบาท ถึงตอนนั้นผมว่าจะเปิดศูนย์บริการซ่อมรถนำเข้าพวกอะไหล่หายากมือสอง ของแต่งรถต่างๆ แต่ถ้าไม่ชนะผมก็จะลองกู้แบงค์มาลงทุนแต่ทุนอาจจะน้อยกว่าที่คาดไว้ คือผมอยากทำธุรกิจของตัวเองครับมันเติบโตเร็ว และจะออกแบบผลิตภัณฑ์ขายด้วย"
ท่านณเรศนั่งฟังเขาอย่างตั้งใจ ก็ถือว่ามีเป้าหมายในชีวิตนะและถ้าเขาทำได้ก็จะเติบโตขึ้นมาอีกขั้น แต่เงินแค่ห้าล้านจะไปทำอะไรได้ล่ะ
"ก็ถือว่ามีเป้าหมายที่ดีนะ แต่เงินห้าล้านไม่พอหรอก"
"ผมไม่ได้จะทำใหญ่โตอะไรครับ ค่อยเป็นค่อยไปไม่เร่งรีบ แต่ผมจะพยายามทำให้จากห้าล้านกลายเป็นสิบล้าน ยี่สิบล้าน ร้อยล้าน ผมมั่นใจครับว่าผมทำได้"
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังมาก เขาเชื่อในความสามารถของตัวเองที่ได้เปรียบกว่าคนอื่น เขาไม่เคยมีความคิดที่จะอยากร่ำรวยเป็นเศรษฐี แต่พอได้รักกับน้องดาเธอทำให้เขามีความฝันอยากมีทุกอย่างเพื่อเธอ
"โอเคพ่อเอาใจช่วย ทำให้สำเร็จนะ"
"พี่ก็เอาใจช่วยนะไอ้น้องชาย นายต้องเอาชนะคำดูถูกของคนอื่นให้ได้"
ท่านณเรศและดัชกรเอ่ยออกมาด้วยความจริงใจ ดาริกายกนิ้วโป้งให้ชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมาจนตาหยี ธีรัชได้ยินท่านประธานและท่านรองเรียกแทนตัวเองว่าพ่อกับพี่ก็ทำให้เขายิ้มได้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป เขาจะไม่พึ่งพาเงินของพวกท่านเด็ดขาดจะพยายามหามาด้วยตัวเอง
"ขอบคุณนะครับ ผมจะไม่ทำให้คุณพ่อกับพี่ดัชผิดหวัง"
"พ่อเอาใจช่วยนะ ว่าแต่ลูกสาวไม่กลับบ้านเมื่อคืนไปนอนที่ไหน"
"พ่อไม่น่าถามอ่ะ ขนาดนี้ละนอนด้วยกันแล้วล่ะมั่ง"
เขากระซิบคุณพ่อเสียงเบา ดาริกาที่ได้ยินก็หน้าแดงก่ำตีไหล่พี่ชายหลายทีอย่างหมั่นไส้
"พี่ดัชแซวน้องดาทำไม"
"เอาล่ะๆ พ่อไม่ได้หัวโบราณขนาดนั้น แต่ว่าทั้งสองคนต้องรู้ขอบเขตว่าควรวางตัวยังไง พ่อจะรอวันที่ธีรัชมีพร้อมแล้วมาขอลูกสาวพ่อแต่งงานนะ"
ธีรัชยกมือไหว้ขอบคุณท่านมากที่มีความเอ็นดูและมอบโอกาสที่ใครหลายคนไม่เคยได้
"ขอบคุณมากนะครับ ผมไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีโอกาสดีๆแบบนี้ เมื่อผมประสบความสำเร็จตามที่หวังผมจะพาแม่คุยเรื่องแต่งงานครับ"