Chapter 1 จะรักพี่ก็ต้องมาสายเซ็กซี่ (3)
สุดที่รักไม่เห็นว่าเขายืนอยู่ข้างหลังแบบเงียบๆ ไม่ส่งเสียง แรงปะทะทำให้น้ำกาแฟในแก้วกระฉอกจนเปื้อนเนคไทและเชิ๊ตสีฟ้าอ่อนของเขาจนเป็นคราบยาว วินาทีนั้นหัวใจของหล่อนแทบหยุดเต้นจนเกือบลืมหายใจ เห็นเขาสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมเสียงสูดปากเบาๆ
"ปะ เปื้อนหมดเลย"
"....."
"ขะ ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจ"
เป็นอีกครั้งที่ทำเขาเจ็บตัวและเสื้อผ้าต้องเลอะเทอะอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น หล่อนกัดฟันแค่นยิ้มไปให้คนที่ยืนข่มกลั้นอารมณ์หงุดหงิด ก้มลงมองเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือสลับกับคราบสีน้ำตาลแล้วมองลอดแว่นสบสายตากับเขาอย่างหวาดหวั่น โปรยยิ้มหวานสุดพลังเผื่อว่าเขาอาจจะคลายความโกรธลงไปได้บ้าง
"ทำไมหายมานานจังเลยล่ะครับ"
"ก็มัวดริปกาแฟให้พี่ภามไงคะ เลยนาน..."
"เหรอออ..."
เขากระตุกยิ้มที่ยากจะคาดเดาในความคิด ปลายนิ้วแกร่ง
ค่อยๆ แกะเนคไทแล้วรูดออกจากคอเสื้อ แววตาหลุกหลิกมองตามทิศทางที่เขาโยนมันไปบนเดย์เบด ตามมาด้วยการแกะกระดุมเสื้อไล่ตั้งแต่เม็ดบนลงล่าง คนมองอ้าปากค้างเมื่อแววตาชวนให้ใจละลายสบตากับตนพร้อมรอยยิ้มยั่ว ท่าทางของเขาดูเหมือนหนุ่มในบาร์กลางคืนกำลังยั่วรักเรียกน้ำย่อย ส่วนหล่อนดูเหมือนป้าหื่นๆ ที่ถูกเขาปั่นหัวเล่นจนตามเกมไม่ทัน
หญิงสาวยืนเกร็งเบิกตากว้าง เลือดกำเดาแทบพุ่งเมื่อเขาแหวกสาปเสื้อออกจากกันจนเกือบกระชาก อวดซิกแพคและเนื้อแน่นๆ กันหน้าตาเฉย ไม่เกรงใจกันบ้างเลยว่าคนมองจะอายจนแทบมุดดิน
"มองอะไรครับ ไม่เคยเห็นผู้ชายถอดเสื้อหรือไงฮึยายแว่น"
ยังจะมีหน้ามาหัวเราะในลำคอล้อเลียน คิดพลางหันหลังหนีเพราะรู้สึกอายเหลือทน วางแก้วไว้บนโต๊ะแล้วยกสองมือขึ้นมาปิดหน้า จริงๆ ที่ปิดเพราะไม่อยากให้เขาล้อว่ามันกำลังแดงเป็นมะเขือเทศที่สุกงอม
"จะยืนอายอีกนานมั้ย ทางนี้ร้อนจนเนื้อจะสุกอยู่แล้ว"
เสียงเขาดุอยู่ข้างหลัง พร้อมๆ กับเสื้อที่ถูกโยนตามลงไปกองรวมกับเนคไท ยังไม่ทันที่จะทำอะไรต่อไป บานประตูก็ถูกผลักเข้ามาอีกครั้ง เป็นพนักงานสาวสวยที่พาแขกมาพบบอสถึงห้องทำงาน
"อะ อุ่ย!"
คนที่เข้ามาก่อนถึงกับชะงักแบบกะทันหันเมื่อเห็นเจ้านายในสภาพท่อนบนเปลือยเปล่าอวดกล้ามแน่นๆ จนคนที่เดินตามมานั้นเบรกไม่ทัน เขาชนเข้ากับบั้นท้ายของหล่อนชนิดที่ต่างฝ่ายต่างตะลึงไม่ต่างกัน แต่เขาก็ชอบเพราะเป็นฝ่ายได้กำไรเต็มๆ
"นายจะทำอะไรปลากริมน่ะ!"
พีรพลเบียดแทรกบั้นท้ายกลมกลึงที่ขวางอยู่หน้าประตูเข้ามาด้านใน เพราะสภาพของภัทรนนท์นั้นส่อไปในทางให้คิดลึก ประกอบกับใบหน้าที่แลดูตื่นตะลึงของสุดที่รัก ทำให้เขาคิดเองเออเองว่าหล่อนกำลังจะถูกเจ้าของห้องหลอกกินตับกันกลางวันแสกๆ และโชคดีที่เขามาขัดจังหวะได้ทันเวลาพอดิบพอดี
"ปลากริมมานี่ เราน่ะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของพี่เขาหรอก"
พีรพลแทรกไปยืนขวางกลางเอาไว้ ดันร่างคนที่ยืนทำหน้าเลิ่กลั่กให้ไปหลบอยู่ด้านหลัง ไล่มองท่อนบนที่เปลือยเปล่าแล้วหรี่ตามองอย่างจับผิด จนอีกฝ่ายต้องรีบแก้ตัว
"อย่าเข้าใจผิดสิเฮีย ผมไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น"
"แล้ว...นายถอดเสื้อทำไม อย่าบอกนะว่าร้อน"
"เปล่า แต่ผมถูกกาแฟลวก ไม่เชื่อก็ดูที่เสื้อได้เลย"
คนพูดชี้ไปยังหลักฐานที่กองอยู่บนเดย์เบด พีรพลปรายตามองตามแล้วเอื้อมมือไปหยิบมากางดูเพื่อคลายความแคลงใจ
"เห็นไหม มีคราบเปื้อนจริงๆ"
"ปลากริมทำกาแฟหกใส่พี่ภามเองค่ะ เฮียอย่าโกรธเลยเพราะ
เขาไม่ได้ทำอะไรปลากริมจริงๆ"
สุดที่รักออกโรงสนับสนุน เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลง
"แล้วไป ฉันนึกว่านายจะไม่เว้นแม้กระทั่งเธอ"
"โธ่เฮีย...อย่างยายแว่นเนี่ยนะที่ผมจะสน ต่อให้ผ้าหลุดต่อหน้าก็ยังทำไม่ลง เห็นอย่างนี้ก็เลือกนะครับ"
คนพูดหัวเราะตามหลัง สุดที่รักถึงกับตวัดตามองผ่านเลนส์แว่น หมั่นไส้ที่เขาเหน็บแนมเป็นเชิงว่าเธอนั้นแสนไร้เสน่ห์ดึงดูดต่อเพศตรงข้าม พลางคิดในใจว่าเขาน่ะปากร้ายไม่มีใครเกิน
'ปากเสีย...ขอให้ได้เมียสาวแว่น’
ภัทรนนท์มองหน้าคนที่ยืนทำหน้าง้ำใส่แล้วอดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้ ไม่เข้าใจทำไมจึงรู้สึกมีความสุขที่ได้แกล้งเธอ ก่อนจะหันไปสั่งพนักงานที่ยังคงยืนงงอยู่กลางห้องให้ไปบอกแม่บ้านหาเสื้อมาให้ตนใส่แทนตัวที่เปื้อน อีกฝ่ายพยักหน้าอย่างงงๆ แล้วรีบเดินออกไป
"ชอบคนสวยระวังให้ดีจะถูกหลอก ถ้าถึงวันนั้นฉันจะหัวเราะให้ฟันหลุด"
"ใครบ้างที่ไม่ชอบคนสวย หรือเฮียจะเถียง"
"ถ้าฉันจะเลือกใครสักคนมาเป็นแฟน ฉันจะไม่ดูแค่หน้าตาแน่นอน มุมมองและทัศนคติของพวกเธอคือสิ่งสำคัญ ฉันชอบผู้หญิงที่มีทัศนคติคล้ายกัน"
ภัทรนนท์ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เขาแย่งเสื้อในมือพีรพลมาใส่แก้ขัดแต่ไม่กลัดกระดุม ก่อนจะหันไปสั่งสุดที่รักในเรื่องที่ยังค้างคา
"กาแฟหกแล้วก็ดริปใหม่สิครับ ดริปมาเผื่อแขกของพี่แก้วนึง"
"ดะ ได้ค่ะ"
"ทำเป็นแล้วใช่ไหม"
ชายหนุ่มแกล้งถามไปอย่างนั้นเอง เพราะก่อนหน้าเขาเห็นอีกฝ่ายคุยไลน์กับใครบางคนก่อนชงกาแฟ
"อะ เอ่อ ก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ค่ะ"
"แล้วแก้วเมื่อกี้คนกินได้มั้ยนะ ดีนะที่หกเสียก่อน"
คนถามหัวเราะอยู่ในลำคอ ก่อนจะเดินไปตรงโต๊ะสำหรับชงกาแฟ หยิบเหยือกแก้วฐานกว้างออกมาวาง รวมทั้งขวดโหลใส่เมล็ดกาแฟที่ทำเอาคนมองยืนงง
"พี่ภามจะทำอะไรคะ"
"ก็ จะดริปกาแฟไงครับ"
"แต่...เมื่อกี้ปลากริมใช้อันนี้ชงให้พี่ภามค่ะ"
หล่อนหยิบกล่องกาแฟให้เขาดูแล้วยิ้มเก้อเขิน เมื่อรู้ว่าทำในสิ่งที่ไม่ใช่ความต้องการของเขา ภัทรนนท์ยิ้มกับตัวเองเพราะคิดว่าคนที่หล่อนคุยด้วยนั้นน่าจะเป็นมินตราแน่นอน
"แล้วถามใครมาล่ะครับ"
"ถาม...ถามอัยย์ค่ะ"
"แบบนั้นก็ถูกแล้ว แต่นั่นเป็นเคสเร่งด่วนที่ต้องการความรวดเร็ว ถ้ามีเวลาพี่จะชอบแบบนี้มากกว่า บดกาแฟใหม่ๆ ก่อนชงหอมดี ที่สำคัญชงได้ทีละหลายแก้วด้วย"
"สงสัยอัยย์บอกทางลัด กลัวสอนแบบนี้แล้วทำไม่เป็นแน่ๆ เลย"
"น้องอัยย์คงกลัวทำอะไรในนี้พัง เธอเลยบอกวิธีง่ายๆ ไม่ซับซ้อน"
คนพูดลอบยิ้มเมื่อนึกไปถึงความซุ่มซ่ามของเธอ ช้อนไม้ตักเมล็ดกาแฟออกมาตวงบนตาชั่งให้ได้น้ำหนักตามที่ต้องการ นำไปใส่เครื่องบดแบบพอหยาบ จากนั้นจึงนำกรวยกระดาษมาเสียบลงที่ปากเหยือก รินน้ำร้อนลงไปเพื่อล้างกรวยรอบหนึ่ง ก่อนจะหยิบกรวยออกมาแล้วเทน้ำในเหยือกทิ้งไป
สุดที่รักมองตามอย่างสนใจในขั้นตอนการดริป เขาทำอย่างคล่องแคล่วราวกับดริปจนชิน เริ่มตั้งแต่การเทกาแฟบดลงในกรวย รินน้ำร้อนใส่ทีละน้อยให้เป็นวงกลมอย่างใจเย็น ลีลาดริปกาแฟดูแล้วช่างเหมือนบาริสตาหนุ่มหล่อมืออาชีพตามร้านกาแฟ ช่วงจังหวะที่เขาเหลือบสบตาด้วยแววตาชวนให้ใจละลายพร้อมรอยยิ้มยั่ว สาบเสื้อที่แหวกออกโชว์กล้ามเนื้อน่าซบ เซ็กแอพพรีลเต็มพิกัดกระแทกตาแบบไม่ต้องพยายาม ใจของหล่อนก็หล่นวูบไปที่ตาตุ่มพร้อมอาการเต้นแรงเพราะเขานั้นช่างร้อนแรงได้ทุกเวลา แม้กระทั่งตอนดริปกาแฟแค่ไม่กี่นาทีก็ไม่ปราณีสายตาคนมองเลยสักนิด
"เอ่อ แค่ดริปกาแฟ นายไม่ต้องทำเซ็กซี่ใส่ขนาดนี้ก็ได้มั้ง"
พีรพลเอ่ยแซว เขารับกาแฟมาจากมือบาริสตาจำเป็นที่รินใส่แก้วมาให้ ก่อนจะตักน้ำตาลใส่ไปนิดหน่อยเพราะอยากดื่มด่ำกับรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของกาแฟจริงๆ
"ปลากริมลองสักแก้วมั้ย"
"เอ่อ..."
"ลองชิมดูสิครับ พี่เขาไม่เคยดริปให้ใครง่ายๆ นะ โดยเฉพาะสาวๆ อย่าหวังว่าเขาจะลงมือทำให้"
พีรพลคะยั้นคะยอพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ แต่นั่นกลับทำให้คนฟังหน้าแดงเพราะความเขินอาย
"วันนี้พี่จะไปร้องเพลง จะไปนั่งหาอะไรดื่มไหม"
เขาเอ่ยปากชวนเธอ สุดที่รักแทบไม่อยากจะเชื่อหูเพราะนั่นคือเรื่องแสนแปลกประหลาดในความคิดตน อีกใจหนึ่งก็อยากไป แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะถูกมองไม่ดีเพราะว่าเขาไม่ใช่คนรู้ใจ ไม่ใช่คนที่จะไปไหนมาไหนกับเขาก็ได้ในทุกๆ ที่ที่อยากไป
"ถ้านายชวนเธอแต่ควงคนอื่นไปด้วยก็อย่าดีกว่า เพราะเดี๋ยวผู้หญิงของนายจะเขม่นเอาได้"
"มีที่ไหนครับผู้หญิงของผม คนเราก็พูดกันไปเรื่อยทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าจริงหรือไม่จริง"
"ฉันก็ไม่ได้เจาะจงสักหน่อย ทำไมนายดูร้อนตัวจัง"
"ผมไม่ได้ร้อนตัว แต่ไม่อยากให้ลือกันส่งเดช ผู้หญิงคนนั้นจะเสียหายเอาได้"
พีรพลเลือกที่จะเงียบไม่ต่อความยาวสาวความยืด ไม่อยากแสดงความเห็นอะไรมากเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว และเขาก็คิดตามอย่างที่อีกฝ่ายว่า เรื่องที่พูดต่อๆ กันมานั้นจริงหรือไม่เขาก็ไม่ได้รู้ขนาดนั้น เพราะมันมาจากคำพูดของคนที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าประสงค์ดีหรือร้ายกันแน่
"แล้วนายนัดคนอื่นหรือยัง มีใครเข้าประชุมบ้าง"
"มีคุณรุ้งที่เป็นเมนหลัก...เอาละเรามาเริ่มงานแรกเลยดีกว่า ปลากริมจองห้องประชุมให้พี่หน่อยสิครับ"
ภัทรนนท์หันไปสั่งคนที่ยืนงงกลอกตาไปมาแล้วทำคิ้วย่น จู่ๆ เขาก็จะให้จองห้องประชุม จองกันแบบไหนอย่างไรหล่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องเริ่มติดต่อใคร
"ต้องติดต่อใครอะไรยังไง พี่ยังไม่เคยสอนปลากริมเลยนะคะ"
"โทร.ไปหาน้องฝ่ายต้อนรับให้เธอเช็คห้องว่าง หากห้องไหนยังไม่มีใครใช้ก็บุ๊คได้เลย ขอเป็นช่วงเวลาสิบโมงเช้าถึงเที่ยงนะ"
"อะ โอเคค่ะ"
หล่อนรับคำสั่งแบบงุนงง หากแต่ว่าก็รีบไล่สายตาดูเบอร์ภายในเพื่อโทร.หาเจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับตามที่เขาบอก เป็นงานแรกที่หล่อนได้เรียนรู้ในขั้นตอนภายในบางอย่าง และเขากำลังเริ่มต้นสอนทีละเล็กละน้อยเพื่อให้หล่อนเรียนรู้ด้วยตัวเอง กับการเตรียมพร้อมสู่โลกแห่งการทำงานจริงที่ต้องพบเจอกับผู้คนมากมายหลากหลายนิสัยใจคอ