“อ้อ! แล้วคุณเจฟล่ะคะสนใจไอเดียของฉันบ้างรึเปล่า” เฮือก! ได้ยินความหวังดีของไอรดา คนของจิโอวาโน่แทบผวากอดกันราวกับกำลังเจอผีหลอก นึกว่าตัวเองจะรอด สุดท้ายแม่คุณก็ไม่ลืมเผื่อแผ่ความปราถนาดีมาให้ โอ้ว! ช่างมีน้ำใจซะเหลือเกิน ถามกันสักหน่อยไหมคร้าบ ว่ากูอยากได้รึเปล่า
“ว่ามาสิ” จิโอวาโน่บอกเสียงขรึมเช่นเดิม
“อืม! เอาเป็นเอี๊ยมลูกหมีดีไหมคะ ชุดบอดีการ์ดน่ารักเหมาะกับเจ้านายน่ารักๆ แบบคุณดี” โอว!ไม่ พูดแบบนี้พวกผมก็ตายสิครับคุณหนู มาร์โก้เริ่มเห็นโชคชะตาตัวเองรำไรๆ เมื่อเห็นหน้าแดงๆ ของจิโอวาโน่ที่กำลังเขินอายเมื่อถูกเธอชมตรงๆ แบบนั้น กูกำลังจะกลายเป็นหมี นักฆ่าหมีขั้วโลก ไม่! กูรับไม่ได้
“เฮ้ย! มาร์โก้ ถ้าเราต้องใส่เอี๊ยมลูกหมีไปสู้กับศัตรูจริงๆ แกว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหนวะ” ซานโดรหันไปกระซิบถามมาร์โก้ที่กำลังทำหน้าไม่สู้ดีอยู่ตอนนี้
“มันก็คงเป็นภาพที่ดูไม่จืดเลยไง ถ้าให้ดีแกไม่ต้องพกปืนไปให้หนักด้วยนะโว้ย แกคงไม่ได้ใช้เพราะมันคงขำตายคาที่กันหมดก่อนที่จะได้ยิงกัน” มาร์โก้หันมาประชดประชันใส่เพื่อน
“เออว่ะ จะได้ช่วยนายประหยัดลูกกระสุนด้วย สรุปว่าเอาชุดนี้เนอะ” ซานโดรประชดกลับไปบ้าง
“ไอ้เวร เชิญมึงใส่ไปคนเดียวเถอะ” มาร์โก้หันมาทำตาขวางใส่เพื่อนที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“เฮ้ย! ถ้าฉันใส่แกก็ต้องใส่ด้วยสิวะ ชุดแบบนี้มันต้องใส่เป็นทีมนะถึงจะน่ารัก” ซานโดรแกล้งแหย่ต่อด้วยความนึกสนุก
“เฮ้ย! “ จู่ๆ อเล็กซิสก็ร้องอุทานเสียงดังในขณะที่ทุกคนกำลังสนทนากัน ราวกับกำลังตกใจอะไรบางอย่าง
“แกจะเสียงดังหาพระแสงอะไรวะอเล็กซ์ เดี๋ยวยัยต่างดาวนี่ก็ตื่นมาตีกบาลแกหรอก” จิโอวาโน่หันไปต่อว่าเพื่อน ในขณะที่ตัวเองกำลังช้อนอุ้มร่างบอบบางของไอรดามาไว้ในอ้อมกอด
“อย่าบอกนะว่าทั้งหมดนี่ฝีมือแก” อเล็กซิสหันไปมองคนของไอรดาที่มีสภาพไม่ต่างจากเจ้านายเลยแม้แต่น้อย
“ฉันเปล่า ฝีมือมาร์โก้โน่น” จิโอวาโน่บอกหน้าตาเฉย เดือดร้อนให้มาร์โก้ต้องรีบแก้ตัว
“เอ้า! ถ้านายไม่สั่ง ผมจะกล้าเหรอครับ” มาร์โก้บอกเสียงเครียด
“เอาน่า! อย่าซีเรียส ถึงฉันจะเป็นคนสั่ง แต่คนทำก็ยังเป็นแกอยู่ดี ฮ่าๆๆ” จิโอวาโน่บอกอย่างอารมณ์ดี ผิดกับก่อนหน้าลิบลับ จนอเล็กซิสยังอดหมั่นไส้ไม่ได้
“เออๆ ใครจะสั่งใครจะทำก็ช่าง สรุปแกจะเอาไงต่อ” อเล็กซิสตัดบท หันไปมองหลายชีวิตที่กำลังหลับเป็นตายอีกครั้งด้วยความหนักใจ
“ก็ไม่เอาไง” จิโอวาโน่ยังคงไม่อนาทรร้อนใจกับเรื่องที่ตัวเองเป็นคนก่อเลยสักนิด
“ไม่เอาไง แกทำคนนอนเกลื่อนเต็มร้านขนาดนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เอาไง เออ! ไม่เอาไงใช่ไหม ถ้างั้นเรื่องแองเจิ้ลแกก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอาไง แต่ฉันรู้ว่ะเพราะฉะนั้นปล่อยให้ฉันดูแลเองแล้วกัน” อเล็กซิสสาวเท้าเข้าไปใกล้หวังจะพรากไอรดาที่กำลังหลับสบายออกจากอ้อมกอดของเพื่อนรัก แต่...
“ก็ถ้าคิดว่าฉันจะอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร แกก็เข้ามาเลยอเล็กซ์” น้ำเสียงและนัยน์ตาดุดันขอจิโอวาโน่ ทำเอาอเล็กซิสถึงกับชะงักเท้าไม่กล้าเสี่ยงกับอารมณ์ของเพื่อนสักเท่าไหร่
“เออไม่แตะก็ได้โว้ย แต่ขอถามเหตุผลสักข้อเถอะว่ะ มันข้องใจจริงๆ แกทำแบบนี้เพื่อ?” อเล็กซิสอดแปลกใจกับพฤติกรรมของเพื่อนไม่ได้ คนอย่างจิโอวาโน่เนี่ยนะถึงขั้นต้องวางยาผู้หญิง บอกใครใครเขาจะเชื่อ
“ความพอใจ” จิโอวาโน่ยักไหล่ตอบสั้นๆ
“เออ! จบ กูไม่ถามละ” อเล็กซิสกระแทกเสียงแดกดัน เมื่อเจอคำถามกวนๆ ของอีกฝ่าย
“ก็ดี เพราะฉันเองก็ขี้เกียจจะตอบเหมือนกัน ไปนะ” จิโอวาโน่พูดจบก็โบกมืออำลา พร้อมกระชับร่างบอบบางในอ้อมแขนเพื่อก้าวออกไปจากที่นี่
“เฮ้ย! แล้วที่เหลือนี่ล่ะจะเอายังไง ใครจะเป็นคนจัดการ” อเล็กซิสโวยวายเสียงดังลั่นร้าน เมื่ออีกฝ่ายกำลังจะโยนกระดูกมาแขวนคอเขาแบบหน้าตาเฉย
“ก็แกไง ฝากด้วยนะเพื่อนรัก” จิโอวาโน่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนกับเสียงโวยวายของเพื่อน
“นี่แกต้อนรับเพื่อนที่อุตส่าห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาแกถึงนี่ด้วยวิธีนี้เหรอวะ น่าประทับใจที่สุดๆเลยว่ะ” อเล็กซ์บอกอย่างงอนๆ หวังให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจ แต่อีกฝ่ายกลับตอบสั้นๆ กลับมาว่า
“อือ!” จิโอวาโน่รับคำแค่นั้นแล้วก็เดินออกไป เดือดร้อนอเล็กซิสต้องกลายเป็นฝ่ายตามง้ออีก
“เฮ้ย! เดี๋ยวดิจะทิ้งกูไว้จริงๆ เหรอ กูเพื่อนมึงนะ แล้ววันนี้กูก็เดินทางไกลด้วย เค้าเหนื่อย เค้าเพลีย เค้าอยากพักผ่อน ขอเค้าไปกับตัวเองด้วยสิ รับรองเค้าจะเป็นผู้ชมที่ดี” อเล็กซิสทำเสียงออดอ้อนขอความเห็นใจ แต่ท้ายประโยคของเขานี่สิทำเอาคนฟังถึงกับหันมาทำตาดุ
สุดท้ายเพื่อนรักอย่างอเล็กซิสจึงถูกลอยแพพร้อมกับต้องรับภาระหน้าที่อันหนักหนาสาหัสที่เพื่อนโยนเอาไว้ แต่จะทำยังไงได้นอกจาก...บ่นกระปอดกระแปดอยู่คนเดียว คนอุตส่าห์หนีงานหวังจะมาพักผ่อนกับเพื่อน สุดท้ายเพื่อนก็หนีไปเสวยสุขอยู่คนเดียวจนได้ อย่างนี้จะไม่ให้บ่นได้ยังไง
และในขณะที่ทางนี้ต้องเก็บกวาดสิ่งที่เพื่อนก่อเอาไว้ คนก่อเรื่องอย่างจิโอวาโน่กลับกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับภาพงดงามที่อยู่บนเตียง
“โทษผมไม่ได้นะไอรดา ในเมื่อเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคุณเป็นคนก่อ ถ้าคุณต้องรับผลขอมันด้วยก็คงไม่ผิด คุณทำให้ผมสงสัยในตัวคุณ และผมมันก็พวกชอบพิสูจน์ซะด้วยสิ” จิโอวาโน่บ่นพึมพำกับร่างไร้สติของไอรดาที่กำลังหลับพริ้มอย่างมีความสุข ขณะเดียวกันมือหนานุ่มของเขาก็ทำหน้าที่ปลดพันธนาการออกจากร่างบางของเธอทีละชิ้นๆ เผยให้เห็นสัดส่วนสวยงามจนยากที่จะละสายตาออกจากร่างเปลือยเปล่าของเธอได้เลยในเวลานี้ แต่เขาก็ต้องหักห้ามใจตัวเองเอาไว้อย่างยิ่งยวด เพราะสิ่งที่เขาอยากพิสูจน์จะต้องทำเมื่อเธอมีสติครบถ้วนเท่านั้น แต่ไม่นานหรอก อีกไม่นานเขาจะต้องได้ทำมันแน่
“อื้อ! ปวดหัวจังมาเรีย นี่ฉันหลับไปนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย” แล้วเวลาที่จิโอวาโน่กำลังรอคอยก็มาถึงจนได้ เมื่อไอรดาเริ่มรู้สึกตัว และคงจะคิดว่าตัวเองกำลังอยู่กับเลขาคนโปรดอย่างมาเรียเป็นแน่ แต่เธอคิดผิดถนัด
“ราวสามชั่วโมงเห็นจะได้ “ เป็นเสียงจิวาโน่ที่ตอบกลับไปแทนที่จะเป็นเสียงของมาเรียอย่างที่เธอเข้าใจ
“อ๋อ เหรอ อืม เฮ้ย!” ไอรดารับคำด้วยอาการงัวเงีย แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเสียงที่เธอได้ยินหาใช่เสียงมาเรียที่เธอคุ้นเคย จึงดีดตัวลุกขึ้นมองด้วยความตกใจ
“ไง ตื่นปุ๊บก็รับบทนางโชว์เลยนะ แต่อย่างคุณถึงไม่โชว์ผมก็ยังจะกระโจนเข้าใส่อยู่ดีนั่นแหละ ว่าไหม” เธอทำตาโตเมื่อได้เห็นชัดๆ ว่าคนที่กำลังคุยอยู่กับเธอเป็นใคร แต่ประโยคที่เขาพูดมามันทำให้เธองงไม่ใช่น้อย แล้วไหนจะนัยน์ตากรุ้มกริ่มเป็นประกายนั่นอีก เมื่อเห็นว่าตอนนี้สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ไหน จึงก้มมองตามและ...
“กรี๊ด...!” ไอรดากรีดร้องสุดเสียง เมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไม่มีอาภรณ์ติดตัวแม้สักชิ้นจึงรีบรั้งผ้าห่มขึ้นมาคลุมอย่างรวดเร็ว
“กรี๊ด...! นี่แกทำอะไรฉัน ออกไปนะคนเลวคนบ้าออกไปให้พ้นนะ มาเรียล่ะ มาเรียอยู่ไหน” หลังจากตั้งสติและพยายามประติดประต่อเรื่องทั้งหมด เธอก็โวยวายต่อว่าเขาเป็นการใหญ่
“มาเรียเหรอ ไม่รู้สิบางทีตอนนี้เธออาจจะกำลัง...” เขาเว้นไว้แค่นั้นให้เธอได้คิดเอง
“คุณทำอะไรมาเรีย บอกมาเดี๋ยวนี้นะ สารเลว คุณมันเลวกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ซะอีก คุณทำแบบนี้กับผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ได้ยังไง คุณยังเป็นคนอยู่รึเปล่าฉันไม่นึกเลยว่าฉันจะดูคุณผิดไป” ไอรดาต่อว่าอีกฝ่ายด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ หลงให้ความไว้ใจคิดว่าเขาน่าคบหา และที่น่าเจ็บใจกว่านั้นคือลูกสาวมาเฟียอย่างเธอกำลังถูกลบเหลี่ยมเหยียบย่ำจากผู้ชายคนนี้
“ด่าพอรึยัง” จิโอวาโน่ถามเสียงเรียบไม่บ่งบอกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน
“ยัง” ไอรดาตอบเสียงกระแทกกระทั้นกลับไป
“อืม! งั้นเชิญด่าต่อได้ตามสบาย ผมรอฟังอยู่” จิโอวาโน่ยังคงรักษามาดนิ่งของตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“กรี๊ด...! ฮือๆๆ คนบ้านี่คุณไม่คิดจะทำอะไรนอกจากนั่งฟังอย่างเดียวบ้างรึไง ฉันคิดคำด่าไม่ออกแล้ว” เขาถึงกับหลุดขำออกมา เมื่อได้ยินประโยคนี้ของเธอ คิดเอาไว้แล้วว่าคุณหนูอย่างเธอจะด่าคนได้สักเท่าไหร่กันเชียว
“ก็คุณทำไปหมดแล้ว จะให้ผมทำอะไรได้อีกล่ะ” ไอรดาถึงกับทำตาโตเมื่อเขาพูดแบบนี้
“ทำอะไร ฉันทำอะไร อย่าบอกนะว่าฉันข่มขืนคุณ ทำไมฉันไม่รู้เรื่องเลยล่ะ หรือว่า...หรือว่าฉันโดนวางยาปลุกเซ็กส์ ใช่! ต้องใช่แน่ๆ ไม่นะฉันไม่รู้เรื่อง ฉันไม่ได้ทำ ฉันจำไม่ได้ ฮือๆๆ ฉันทำเรื่องแบบนั้นไปได้ยังไง นี่ฉันข่มขืนผู้ชายเหรอเนี่ย ไม่นะมันต้องไม่ใช่แบบนั้นสิ” จิโอวาโน่ครางเสียงแผ่ว ไม่คิดว่าเธอจะคิดเรื่องแบบนี้ได้ เธอช่างมีจินตนาการที่ล้ำเลิศมากๆ
“นี่เดี๋ยวก่อนแม่คุณ คุณคิดว่าผู้ชายอย่างผมจะยอมให้ผู้หญิงข่มขืนได้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ คุณเอาสมองส่วนไหนมาคิดเรื่องบ้าๆ พวกนี้เนี่ยไอรดา ผมละเชื่อคุณจริงๆ ผู้ชายที่ไหนเขาจะยอมให้ผู้หญิงข่มขืนกันเล่า เสียชาติเกิดชายชาตรีกันพอดี เฮ้อ! นี่ผมคิดถูกคิดผิดเนี่ยที่มายุ่งกับผู้หญิงอย่างคุณ” จิโอวาโน่ส่ายหน้ากับความคิดพิลึกพิลั่นของเธอ