“ถึงว่าหน้าคุณถึงดูไม่เหมือนคนยุโรปทั่วไป คุณต้องเหมือนคุณแม่แน่เลยใช่ไหมครับ” คงมีแต่อเล็กซิสที่ชวนเธอคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ ต่างกับเจ้ามือในวันนี้ที่ยังเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา “ผู้หญิงเอเชียนี่สวยนะครับ ตัวเล็กๆ น่ารักน่าทะนุถนอม ผมชอบ” ไอรดายิ้มน้อยๆ กับคำชมของอีกฝ่าย ต่างกับจิโอวาโน่ที่กำลังทำหน้ายักษ์อยู่ตอนนี้
“รีบๆ กินสิ อาหารจะเย็นหมดแล้ว เดี๋ยวจะไม่อร่อย” จิโอวาโน่รีบขัดขึ้น เมื่อเห็นท่าทีกระหนุงกระหนิงของทั้งคู่
“ทานไปคุยกันไป ก็เจริญอาหารดีนะ ว่าแต่คุณมีชื่อเล่นรึเปล่าแองเจิ้ล ชื่อจริงของคุณมันเรียกยาก ถ้ายังไงผมขอเรียกแองเจิ้ลเหมือนเดิมนะ เหมาะกับคุณดี” อเล็กซิสเห็นท่าทางของเพื่อนแล้วก็อยากแกล้ง จึงทำเป็นไม่สนใจชวนเธอคุยต่อ
“ที่บ้านจะเรียกฉันว่าไอด้าน่ะค่ะ ส่วนคุณจะเรียกชื่อไหนก็ได้ตามสบายเลยค่ะ” ไอรดาตอบด้วยรอยยิ้มรู้สึกเป็นกันเองกับอีกฝ่ายมากขึ้น
“ถ้าเดาไม่ผิด ไอด้าคงมาจากไอรดาใช่ไหม” อเล็กซิสยังชวนคุยต่ออย่างถูกคอ
“ใช่ค่ะ คุณเก่งจังแสนรู้เชียว” ไอรดาเอ่ยชมจากใจจริง แต่
“เอ่อ...! แองเจิ้ล แสนรู้น่ะเขาไว้ใช้กับหมา อย่าให้เกียรติผมขนาดนั้นเลยครับ สงสารหมา เอ๊ย! สงสารผมเถอะ” อเล็กซิสทำหน้าจืดเจื่อน ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจหรือไม่รู้จริงๆ กันแน่
“เอ้าเหรอ! แล้วจะใช้อะไรดีอ่ะ” ไอรดาบอกด้วยดวงตาใสซื่อ ทำเอาอเล็กซิสเคืองไม่ลงเลยจริงๆ แต่คนที่เขาควรจะเคืองมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเพื่อนรักอย่างจิโอวาโน่ที่ดูจะยิ้มอารมณ์ดีกว่าใครเพื่อน
“คำไหนก็ได้ที่ไม่ใช่แสนรู้ ผมยังอยากเดินสองเท้าอยู่” อเล็กซ์ทำหน้าแหยๆ ส่วนเธอก็ได้แต่พยักหน้าเข้าใจ ซึ่งไม่รู้ว่าเธอจะเข้าใจมากน้อยแค่ไหน “งั้นเอาเป็นว่าผมขอเรียกของผมอย่างนี้แล้วกันนะแองเจิ้ล”
“ค่ะ ยังไงก็ได้ เพราะส่วนใหญ่คนทั่วไปจะเรียกฉันว่าเอลล่า มีคนสนิทกับญาติๆ เท่านั้นล่ะค่ะที่เรียกไอด้า แต่สำหรับคนใจดีอย่างพวกคุณสองคน ฉันอนุญาตให้เรียกอะไรก็ได้ตามสะดวก โดยเฉพาะคุณอเล็กซ์ คุณคุยเก่ง น่ารักเป็นกันเองดี” เธอบอกใจจริง น้อยคนนักที่เธอจะคุยอย่างสนิทใจได้อย่างนี้ อาจเป็นเพราะอีกฝ่ายคารมดีมีมนุษยสัมพันธ์ก็เป็นได้
“น่ารัก แล้วอยากรักไหมล่ะแองเจิ้ล” อเล็กซิสได้โอกาสหยอดคำหวานหวังแกล้งยั่วเพื่อนรักต่อ แต่...
“โอ๊ย! ไม่เอาหรอกบอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบผู้ชายสำส่อน เราเป็นเพื่อนกันแบบนี้น่ะดีแล้ว ยั่งยืนกว่าเยอะ” คำตอบของเธอเล่นเอาคนคารมเป็นต่ออย่างอเล็กซิสแทบหงายเงิบ ต่างกับจิโอวาโน่ที่กำลังกลั้นขำแทบแย่
“เอ่อ! แองเจิ้ลให้เกียรติกันอีกแล้ว อย่าให้เกียรติผมขนาดนั้นเลย คำนี้เป็นของไอ้เจฟมัน ผมมิบังอาจเทียบชั้นมันหรอก สำหรับผมแค่คำว่า...ผู้ชายลั้ลลาก็พอ” จิโอวาโน่ได้ยินเพื่อนรักพูดแบบนั้นก็หันมาทำตาขวาง แต่มีหรือที่คนอย่างอเล็กซิสจะสน มิหนำซ้ำยังคงพูดต่อ
“อีกอย่างนะ เรื่องผู้หญิงสำหรับผู้ชายน่ะมันเป็นเรื่องธรรมดาจะตาย ก็แค่การหาความสุขตามประสาชายโสด เราจะไม่หยุดค้นหาจนกว่าเราจะเจอคนที่ใช่ แต่เมื่อไหร่ที่เราค้นพบคนที่เลอค่าสำหรับเราแล้ว เราก็พร้อมที่จะหยุดทั้งตัวและหัวใจเพื่อเธอคนนั้นเพียงคนเดียว” แต่กว่าจะเจอ ผมคงอิ่มตัวเรื่องผู้หญิงแล้วล่ะ อเล็กซิสยิ้มและแอบพูดต่อในใจ แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันเพราะประโยคต่อมา
“แต่ฉันว่ากว่าคุณจะเจอคนที่ใช่ คุณอาจจะเป็นเอดส์ตายไปก่อนก็ได้ ทำไมไม่รักษาตัวให้ดีเพื่อรอเธอคนนั้นล่ะ” ไอดาพูดเตือนด้วยความหวังดี
“เฮ้ย! แองเจิ้ล คุณให้เกียรติผมอีกแล้ว แสนรู้เอย สำส่อนเอย แล้วยังจะให้ตายด้วยโรคเอดส์อีก คุยกับคุณแล้วชีวิตผมเจริญฮวบๆ ยังไงก็ไม่รู้”คำพูดของไอรดาทำเอาความมั่นใจของอเล็กซิสหดหายลงไปกว่าครึ่ง ซึ่งถูกใจจิโอวาโน่เป็นที่สุด นานๆ จะได้เห็นผู้ชายลั้ลลาทำหน้าปูเลี่ยนแบบนี้สักที
“เฮ้อ!” จู่ๆ ไอรดาก็ถอนหายใจเสียงดังออกมา สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนไม่น้อย
“เป็นอะไรไปแองเจิ้ล หรือคุณมีเรื่องอะไรไม่สบายใจอะไร ปรึกษาผมได้นะ” อเล็กซิสบอกอย่างใจดี
“เปล่าค่ะ ฉันแค่กำลังสงสัย” เธอทำหน้ายุ่งจนคนอื่นพลอยสงสัยไปด้วย และรอฟังว่าเธอกำลังสงสัยเรื่องอะไร
“คุณเคยสงสัยกันไหมว่าทำไมบอดีการ์ดต้องใส่สูทสีดำ” หลังจากได้ฟังข้อสงสัยของไอรดาก็มีเสียงช้อนตกกระทบจานไปตามๆ กัน ก็ใครจะไปคาดคิดว่าจู่ๆ เธอจะเปลี่ยนเรื่องได้รวดเร็วจนปรับอารมณ์กันไม่ทันขนาดนี้ อุตส่าห์รอฟังนึกว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไร
“เอ่อ! ก็เพิ่งสงสัยเมื่อกี้นี้แหละ” อเล็กซิสไม่รู้จะตอบไปว่ายังไง จึงได้แต่เออออตามเธอไป
“เห็นไหม ว่าแล้วว่าคุณต้องสงสัยเหมือนกัน” เปล่า บอกแล้วไงว่าเพิ่งสงสัยเมื่อกี้ อเล็กซิสตอบในใจ
“คิดดูสิ บอดีการ์ดทั้งของคุณของฉัน ทุกคนใส่สีดำเหมือนกันหมด แทบแยกกันไม่ออกว่าของใครเป็นของใคร อีกอย่างมองแล้วมันก็ไม่เจริญหูเจริญตา รู้สึกหดหู่ อึมครึมยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก คุณคิดเหมือนฉันไหม” ไอรดาย้อนถามอีกที ส่วนอเล็กซิสก็ได้แต่พยักหน้าเอออออีกที
“แล้วคุณคิดว่าเราควรทำยังไงกันดีล่ะแองเจิ้ล” อเล็กซ์ถามต่อ ไม่อยากจะคาดคิดถึงคำตอบเลยจริงๆ
“ฉันคิดว่า เราควรจะปฏิวัติเครื่องแบบบอดีการ์ดซะใหม่ค่ะ” เราเหรอ หมายถึงกูด้วยเหรอ ซวยล่ะมึงคราวนี้ อเล็กซิสอดคิดในใจไม่ได้ เมื่อเห็นสายตามุ่งมั่นของไอรดา
“ปฏิวัติยังไงเหรอ” อเล็กซ์หันไปเห็นสีหน้าของบอดีการ์ดแต่ละคนที่กำลังรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ แล้วก็อดขำไม่ได้
“เราควรจะให้บอดีการ์ดใส่ชุดที่มีสีสันมากขึ้น เอาแบบเจ็ดวันเจ็ดสีไปเลยไง” สิ้นเสียงไอรดา ก็ตามมาด้วยเสียง “เพล้ง!” จากจานชามช้อน หรือแม้กระทั่งแก้วน้ำที่เหล่าบอดีการ์ดทำหลุดมือพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ฮ่าๆๆ แล้วไงต่อแองเจิ้ล” ไม่เพียงแต่อเล็กซิสเท่านั้นที่หัวเราะออกมาเสียงดัง คนที่เอาแต่นิ่งขรึมคราแรกอย่างจิโอวาโน่เองก็ถึงกับกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ด้วย เมื่อเห็นอาการเหล่านั้นของบอดีการ์ด
“ง่ายๆ ค่ะ เราก็ให้ใส่ตามสีของวันไปเลยอย่างวันอาทิตย์ ก็ให้ใส่สีแดง” โอ้ไม่ นึกแล้วสยอง บอดีการ์ดใส่สูทสีแดง คงไม่ตายด้วยฝีมือศัตรูหรอก แต่คงตายเพราะฝูงหมาไล่ฟัดซะมากกว่า ฮือ! คิดได้ไงนะแม่คุณ
“วันจันทร์สีเหลือง สดใสซาบซ่า” โอย! แค่คิดจิตก็ตกแล้วกู สดใสไม่ไหว
“วันอังคารก็สีชมพู คิดดูสิจะน่ารักหวานแหววขนาดไหน ถ้าให้ผู้ชายตัวใหญ่ๆ มาใส่สีชมพูหวานๆ แบบนั้นน่ะ” หึ หึ ให้เปลี่ยนจากถือปืนไปถือพัดด้วยเลยดีไหมครับคุณหนู แล้วแบบนี้ใครจะเกรงกูอีกเนี่ย
“ส่วนวันพุธก็เป็นสีเขียว มองไปคงมีแต่ความสดชื่น” คงจะมีแต่คุณหนูเท่านั้นล่ะครับที่สดชื่น เพราะพวกผมคงห่อเหี่ยวน่าดู
“วันพฤหัสนี่สีส้ม คงเป็นบอดีการ์ดที่ร้อนแรงที่สุดในศตวรรษแน่” ฮือๆๆ กูขอลาออกหรือไม่ใครก็ได้เอาปืนมายิงพวกกูซะ กูรับไม่ได้กับความร้อนแรงที่ว่านั่น
“แล้วก็วันศุกร์สีฟ้า เย็นตาเย็นใจ มองแล้วคงรู้สึกสบายใจหายเครียด” คุณหนูหายเครียด แต่พวกผมกำลังจะบ้าคร้าบ จะเป็นไรไหมถ้าพวกผมจะไปฆ่าตัวตายตอนนี้เลย
“และสุดท้ายวันเสาร์สีม่วง สีนี้เหมาะที่สุดเพราะสีม่วงเป็นสีแห่งพลังและความคิดสร้างสรรค์ มองแล้วคงรู้สึกฮึกเหิมมากขึ้น” คุณหนูเห็นแล้วฮึกเหิมมีพลัง แต่พวกผมใส่แล้วคงหมดแรง แม้แต่ปืนก็คงยกไม่ขึ้นล่ะครับงานนี้
ดีไซเนอร์มือใหม่อย่างไอรดาสาธยายด้วยดวงตาเป็นประกายสุกใส อยู่ในโลกแห่งจินตนาการของตัวเอง ขณะที่คนที่กำลังจะถูกปฏิวัติให้เข้าไปอยู่ในโลกความฝันของเธอกำลังอยากกลั้นใจตาย ต่างมองหน้ากันด้วยความหวาดผวา ความคิดของเธอมันช่างสั่นประสาทพวกเขาได้มากจริงๆ ขออย่าให้เธอปฏิวัติได้สำเร็จเลย ไม่งั้นกูจะลาออก ไม่ปงไม่เป็นมันแล้ว เพราะกูจะต้องเป็นบอดีการ์ดที่ดังสะท้านโลกแน่ๆ ไม่นะกูรับไม่ได้
“ฮ่าๆๆ “ ทั้งจิโอวาโน่และอเล็กซิสระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างสุดจะกลั้นอีกต่อไป ยิ่งได้เห็นบอดีการ์ดทั้งหลายที่พากันนั่งหน้าซีด คอตกไปตามๆ กันตอนนี้ก็ยิ่งหัวเราะชอบใจ
“ฮ่าๆๆ แองเจิล คุณนี่สุดยอดจริงๆ ความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ ต่อให้เป็นเซเล็บหรือดีไซเนอร์ชื่อดังยังต้องหลีกทางให้ คุณจะเป็นคนแรกที่ทำให้วงการบอดีการ์ดสั่นสะเทือนไปทั้งโลก ฮ่าๆๆๆ อ้อ! อย่าลืมจดลิขสิทธิ์ด้วยนะ เดี๋ยวมีคนลอกเลียนแบบ จะหาว่าผมไม่เตือนไม่ได้นะ ฮ่าๆๆๆ” อเล็กซิสพูดไปขำไป แค่คิดภาพตามที่เธอพูดก็สยองแทนคนพวกนี้แล้ว
“คุณอเล็กซ์สนใจด้วยไหมคะ ถ้าจะให้ดีชุดบอดีการ์ดของเราไม่ควรจะซ้ำกัน เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันช่วยคิดให้ดีกว่า” คนของอเล็กซ์พากันสะดุ้งตามกันเป็นแถว เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ “อืม! เอาเป็นสูทลายสก็อตดีไหมคะ เป็นเอกเทศไม่เหมือนใครดี” อูว! แม่เจ้า เอกเทศสุดๆ เพราะคงไม่มีใครคิดจะเลียนแบบแน่นอน
“ฮ่าๆๆๆ สูทลายสก็อตสนใจไหมวะพวก อยากได้คนละกี่ชุดฉันทุ่มงบให้ไม่อั้นเลยเอ้า” อเล็กซิสหันไปถามบอดีการ์ดของตัวเองที่นั่งหน้าซีดกันอยู่อย่างนึกสนุก
“เอ่อ ถ้าจะให้ดีนายช่วยเอาปืนมายิงพวกผมให้ตายไปเลยดีกว่าครับ” ชาเกร์คนสนิทของอเล็กซ์กระซิบบอกเจ้านาย
“ฮ่าๆๆๆ ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ไม่ลองเอากลับไปคิดดูหน่อยเหรอ คุณหนูไอด้าอุตส่าห์คิดให้เลยนะเว้ย” อเล็กซิสยังคงหัวเราะชอบใจไม่สร่างเมื่อได้เห็นสีหน้าคนของตัวเอง