“อะไรเนี่ย ออกมาแป๊บเดียวฝนตกซะละ”
หล่อนหันกลับไปด้านหลังก็เห็นว่าทางกลับบ้านอยู่ห่างไปไกลและคิดว่าคงวิ่งกลับไปไม่ทันก่อนจะหันไปอีกทางก็เห็นโรงไม้และคิดว่าถ้าวิ่งไปหลบฝนที่นั่นก็คงจะใกล้กว่าแน่นอน คิดได้ดังนั้นหล่อนจึงรีบวิ่งตรงไปยังโรงไม้ขณะที่ฝนตกหนัเทลงมาแบบไม่ทันตั้งตัว กว่าจะไปถึงเสื้อซีฟองตัวบางของหล่อนก็เปียกปอนจนลีบแนบเนื้อ แต่เมื่อเข้าไปด้านในกลับไม่เห็นใคร สงสัยว่าคนงานจะกลับกันหมดแล้ว มัลลิกาเดินเข้าไปหยุดที่กองไม้กองหนึ่งและสะบัดน้ำที่มือพลางก้มลงมองตัวเอง
“ว๊าย...อะไรเนี่ย...แป๊บเดียวเปียกหมดละ...รู้งี้วิ่งกลับไปบ้านก่อนก็ดีจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้า...อุ๊ย!...ว๊าย!”
หญิงสาวร้องด้วยความตกใจเมื่อรู้สึกว่ามีมือของใครคนหนึ่งเอื้อมมาคว้าตัวหล่อนหมับเข้าไปแล้วดึงเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขน พอตั้งสติได้หล่อนก็เงยหน้ามองเจ้าของอ้อมกอดนั้นและเบิกตากว้าง
“พี่ปื๊ด!”
“อ้าว! คุณมิ้นท์เองเหรอครับ นึกว่าใคร”
ปื๊ดเองก็อุทานด้วยความประหลาดใจเพราะเมื่อครู่เขากลับไปบ้านแล้วก็กลับมาที่นี่ใหม่เพราะต้องกลับมาตรวจตราดูความเรียบร้อยหลังจากคนงานกลับกันไปหมดแล้ว
“พี่ปื๊ดน่ะเอง มิ้นท์ก็นึกว่าใคร แล้วนี่มาทำอะไรเหรอคะเนี่ย”
“ผมมาตรวจดูความเรียบร้อยอีกทีครับ ว่าจะกลับได้ยินเสียงมีคนเข้ามาเลยรีบมาดูก่อน กลัวว่าจะเป็นขโมย”
“แต่ก็ไม่ใช่...ใช่ไหมคะ?”
มัลลิกาพูดพลางส่งสายตาให้คนงานหนุ่มหน้าดุร่างล่ำที่ยังกอดตัวหล่อนไว้ไม่ยอมปล่อย จะไม่ปล่อยหล่อนก็ไม่ว่าหรอกเพราะเมื่อกี๊ที่รู้สึกหนาวพอได้อยู่ในอ้อมแขนของเขาก็รู้สึกคลายหนาวขึ้นมาได้ทันที และถึงแม้นายปื๊ดจะไม่ยอมปล่อยหล่อนเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวออกห่างเสียด้วย แถมยังหน้าแดงซ่านจนหัวหน้าคนงานที่กำลังกอดหล่อนอยู่เห็นได้อย่างชัดเจน เขากระแอมเสียงในลำคอ
“เอ้อ...แล้วนี่คุณมิ้นท์มาทำอะไรในโรงไม้หรือครับนี่”
“มิ้นท์...เอ้อ...มิ้นท์กะว่าจะออกมาเดินเล่นสักหน่อยเพราะวันนี้พี่พัฒน์กับคุณพ่อต้องไปต่างจังหวัดกลับมาพรุ่งนี้ แต่พอเดินออกมาฟ้าก็ครึ้ม มิ้นท์แค่วิ่งมาหลบฝนในนี้เท่านั้นล่ะค่ะ”
“หลบฝนหรือครับ...อืม...แต่ตอนนี้คุณมิ้นท์ตัวเปียกหมดแล้วนะครับ”
บทที่ 4
“อ๋อ...ค่ะๆๆ...มิ้นท์ตัวเปียกหมดแล้วค่ะ”
ทั้งที่รู้ตัวว่าถูกอีกฝ่ายกอดจนแน่นไม่ยอมปล่อยแต่หล่อนก็ยังไม่ยอมเขยื่อนตัวหนีหรือแสดงท่าทีว่าอยากให้เขาคลายอ้อมแขน ตรงข้ามมัลลิกายิ่งเบียดหน้าอกอูมใหญ่ของหล่อนกับอกของชายหนุ่มจนนายปื๊ดเองก็ยังรู้สึกได้ว่าหล่อนกำลังเปิดทางให้ ดังนั้นเขาจึงยังกอดหล่อนไม่ปล่อยและยิ่งหล่อนเบียดตัวเข้าหามันก็ยิ่งทำให้เขาเกิดความตื่นตัวมากขึ้น แหม...ดูเหมือนบรรยากาศตอนนี้มันกำลังเป็นใจซะเหลือเกิน ฝนตกแถมในโรงไม้ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากหัวหน้าคนงานและสะใภ้คนใหม่ สักครู่นายปื๊ดก็โน้มใบหน้าดุ ๆ ของเขาลงไปใกล้และกระซิบถามเสียงพร่า ๆ ว่า
“คุณมิ้นท์...หนาวเหรอครับ?”
“ค่ะ...มิ้นท์หนาวค่ะ...ก็ดูสิคะตัวมิ้นท์เปียกหมดแล้วอย่างนี้ จะไม่ให้หนาวได้ไงคะ ว่าแต่...นายปื๊ดหนาวหรือเปล่าคะ”
“ผมก็หนาวครับ...อืม...แต่ผมมีตัวช่วย”
“อะไรเหรอคะ”
หล่อนถามและจ้องมองชายหนุ่มที่คลายอ้อมแขนกอดรัดและผละออกห่างกำลังล้วงหยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อออกมาด้วยความสนใจ และเมื่อเขาแบมือออกก็เห็นว่ามันเป็นใบไม้สองสามใบในมือสากหนา มัลลิกาเอียงคอทำหน้าสนเท่ห์
“เอ๊ะ! อะไรเหรอคะพี่ปื๊ด นี่มันใบไม้นี่คะ แล้วมันจะช่วยแก้หนาวได้ยังไง”
“ช่วยได้ซีครับ นี่เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ลองเคี้ยวดูซีครับ มันจะทำให้คุณมิ้นท์สบายตัวมากทีเดียว”
“ขมหรือเปล่าคะ ใบสีเขียวเลย”
เขาส่ายหน้า “ไม่หรอกครับ ลองดุนะครับ คี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืน คุณมิ้นท์จะรู้สึกสบายเนื้อสบายตัว ผมมักจะเคี้ยวใบไม้สมุนไพรนี่เป็นประจำเวลาอากาศหนาว เอ้อ...บางทีเวลาเมียไม่อยู่ผมก็อยากให้ตัวเองอุ่นบ้าง ลองดูนะครับ”
เขาเชิญชวนและมีสีหน้าแววตาเหมือนกำลังขอร้องอละรอคอยให้สะใภ้สาวน้อยตอบรับคำแนะนำนั้น มัลลิกาก้มลงมองใบไม้ในมือและมีทีท่าลังเลสักครู่ก่อนที่หล่อนจะตัดสินใจหยิบจากมือของเขาขึ้นมาหนึ่งใบและใส่ปากเคี้ยวหมุบๆ ตอนแรกก็กลัวว่ามันจะขมแต่รสชาติกลับปะแล่มนิด ๆ ตอนแรกก่อนจะเปลี่ยนเป็นหวานที่ปลายลิ้น หล่อนเคี้ยวมันและกลืนลงคอก่อนช้อนตามองหัวหน้าคนงานโรงไม้ที่จ้องมองหล่อนไม่วางตาเช่นกัน
“เป็นไงครับคุณมิ้นท์ รู้สึกยังไงบ้าง”
มัลลิกาไม่รู้ว่าจะตอบยังไง เพราะหลังจากกลืนเจ้าใบไม้สมุนไพรที่หล่อนก็เพิ่งรู้จักสรรพคุณของมันลงคอก็รู้สึกร้อนวูบวาบในช่องท้อง ปั่นป่วนเล็กน้อยและเกิดความร้อนรุ่มขึ้นมาแปลก ๆ กระทั่งนายปื๊ดดึงร่างของหล่อนกลับในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง นั่นล่ะที่ทำให้หล่อนยิ่งรู้สึกว่าร่างกายเริ่มเกิดความร้อนเร่ามากขึ้นอีกเท่าตัว แต่แทนที่หล่อนจะดิ้นขัดขืนกลับเบียดตัวเปียกปอนเข้าหาอ้อมอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามของคนงานหนุ่ม นายปื๊ดกระซิบข้างหูว่า
“เป็นไงครับ...กินสมุนไพรแล้วรู้สึกยังไงบ้าง”
“ก็...ก็อุ่นดีนะคะพี่ปื๊ด...อืม...”
“ครับ ยิ่งได้กอดกันกอดกันแบบนี้แล้วมันก็อุ่นมากขึ้นอีกเยอะเลยนะครับ”