ตอนที่ 5

1180 คำ
พอเขาพูดอย่างนั้นมัลลิกาก็ยิ่งหน้าแดงด้วยความเขินอาย หล่อนช้อนตามองเขาและเหมือนมีประจุไฟฟ้าสปาร์คระหว่างนายปื๊ดและหญิงสาว เขารู้สึกเสียววาบในช่องท้องไม่ต่างกับมัลลิกายามเมื่อได้สบนัยน์ตาของกันและกัน สะใภ้สาวเลียปากของหล่อนที่แห้งผากและเผยอปากน้อยๆ ยิ่งนายปื๊ดเห็นแบบนั้นก็ยิ่งทำให้แน่ใจว่าวันนี้อาจมีอะไรสนุก ๆ ให้เขาทำ โดยนิสัยส่วนตัวแล้วแม้ว่าเขาจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนแต่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงผู้หญิงคนอื่น และยิ่งได้ใกล้ชิดสะใภ้ของเจ้านายก้ยิ่งเห็นว่าเด็กสาววัยสิบแปดนั้นหล่อนช่างสวยใส หน้าตาของหล่อนสวยหวานจับใจและจับอารมณ์ของเขาตั้งแต่เห็นหล่อนครั้งแรกนั่นเลยทีเดียว ตัวหล่อนเล็กกว่าเขาก็จริงแต่ผิวขาวและความอวบอัดช่างยั่วยวนใจคนงานร่างบึกและล่ำสันอย่างเขา เนื้อตัวหล่อนก็นุ่มนิ่ม ยิ่งหน้าอกของหล่อนที่กำลังเบียดกับอกของเขาอยู่ตอนนี้มันอูมอวบเหมือนผลแตงโมขนาดย่อม และมัลลิกาก็เห็นว่ามันเป็นอย่างที่คำหล้าบอกไว้จริง ๆ ว่าผัวของหล่อนเจ้าชู้ และอีกครั้งที่นายปื๊ดก้มลงกระซิบข้างใบหูหญิงสาว “เอ้อ...คุณมิ้นท์ครับ...ถ้าผมจะกอดคุณมิ้นท์ไว้อย่างนี้” “กอดซีคะ...มิ้นท์ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ เพราะว่า...มิ้นท์ก็หนาว...” เหมือนกัน...คำนั้นสะดุดเพราะปากของหล่อนถูกปากของนายปื๊ดกระกบไว้แน่น มัลลิกาตกใจหน่อย ๆ แต่ก็ไม่มากเพราะหล่อนเองก็รอเวลานี้อยู่เช่นกัน เวลาที่นายปื๊ดหมดความอดทนเพราะหล่อนพยายามยั่วเขาด้วยการเบียดตัวเข้าหาและดูเหมือนว่าทั้งเขาและหล่อนจะรู้ใจ รู้ว่าต่างคนต่างต้องการอะไร ปากแลกปาก ลิ้นแลกลิ้น ต่างจูบกันอย่างดูดดื่ม นายปื๊ดกดจูบและดูดลิ้นของสะใภ้เจ้านายเหมือนตายอดตายอยากทำให้มัลลิกาหายใจแทบไม่ทัน “อูววว...พี่ปื๊ด...อูววว...อาส์” หญิงสาวส่งเสียงครางออกมาและรู้สึกเหมือนร่างกายของหล่อนตอนนี้เบาโหวง สติของหล่อนเหมือนกำลังล่องลอยออกไปไกลแม้ว่าจะอยู่ในอ้อมกอดของนายปื๊ด คนงานร่างใหญ่กล้ามล่ำหน้าดุที่มองใกล้ ๆ กลับเห็นว่าเขาก็เป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเลยทีเดียวเชียว “เป็นไงบ้างครับคุณมิ้นท์...คุณมิ้นท์” นายปื๊ดกระซิบและมัลลิกาก็ได้ยินเสียงของเขาที่มันค่อย ๆ จางลง ๆ เหมือนละอองหมอกควันที่ลอยล่องในอากาศก่อนทุกอย่างจะจมลงสู่ความมืดมนเหมือนหล่อนพลัดตกลงไปในเหวหุบแต่ไม่ตกถึงพื้นข้างล่าง อะไรกันนี่...หล่อนเป็นอะไรไป มัลลิกาเหมือนถูกดูดหายเข้าไปที่ไหนสักแห่ง เบาหวิว รอบตัวมืดไปหมดแต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนรุ่มในร่างกายที่มันแผ่ไปทุกทิศทางก่อนจะค่อย ๆ รู้สึกตัวเมื่อค่อย ๆ เปิดเปลือกตา กระพริบตาถี่ ๆ เมื่อมีแสงสว่างลอดเข้ามา แต่เป็นแสงเย็นตามากกว่า เหมือนแสงจันทร์ยังไงยังงั้น และที่สำคัญหล่อนรู้สึกร้อนวูบวาบในกาย ร้อนเหมือนจะระเบิด และภาพแรกที่เห็นคือใบหน้าของ “พี่ปื๊ด...” หล่อนส่งเสียงแหบแห้งผ่านลำคอเมื่อเห็นใบหน้าดุดันของคนงานหนุ่มที่หล่อนเผลอใจปล่อยให้เขากอดและจูบก่อนจะวูบหลับไปโดยไม่รู้ตัว หล่อนเห็นหน้าเขาชัดเจนและตอนนี้หล่อนเองก็รู้สึกตัวว่ากำลังนอนอยู่ที่ไหนสักแห่งแต่เมื่อลืมตามองเพดานก็จำได้ว่านี่มันโรงไม้นั่นเองแต่แสงไฟเย็นตาและไม่ถึงกับสลัวยังมองเห็นภาพต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน สักครู่หล่อนก็เห็นคนงานหนุ่มขยับปากพูดว่า “เป็นไงครับ...คุณมิ้นท์...รู้สึกตัวแล้วเหรอครับ?” “พี่ปื๊ด...มิ้นท์เป็นอะไรไปคะเนี่ย...อืม...มึนหัวจังเลยค่ะ แล้ว...เอ๊ะ!...ว๊าย!...อะ...อะไรกันคะเนี่ย” หญิงสาววัยใสร้องตกใจเมื่อรู้สึกตัวเต็มที่และพอทำท่าจะลุกขึ้นก็เห็นตัวเองนอนบนโต๊ะสาก ๆ ที่ยังมีรอยขี้เลื่อยและที่สำคัญบนเรือนร่างของหล่อนไม่มีผ้าติดตัวสักชิ้น หล่อนรีบยกแขนทั้งสองปกปิดอกอวบสล้างที่มันเปิดเผยความอูมอิ่มต่อหน้าคนงานหนุ่มหน้าดุ “พี่ปื๊ด...ทำไมมิ้นท์เปลือยแบบนี้ล่ะคะเนี่ย แล้วเสื้อผ้ของมิ้นท์อยู่ที่ไหน แล้วพี่ปื๊ด...” หล่อนถามขณะเห็นนายปื๊ดยืนอยู่ข้างโต๊ะไม้ที่ร่างของหล่อนนอนอยู่บนนั้น เขาไม่สวมเสื้อผ้า เปลือยเปล่าเหมือนกันเขาก้มหน้าลงมาหาแถมยังเอามือลูบไล้เรือนร่างของหล่อนที่เนื้อสาวนุ่มมือจนเขาอยากขยำแรง ๆ แต่ก็ยิ้มให้และพูดเสียงปร่าว่า “คุณมิ้นท์อย่าตกใจไปเลยครับ ผมแค่มีอะไรสนุก ๆ อยากให้คุณมิ้นท์ได้ลอง และคิดว่าคุณมิ้นท์คงชอบแน่ๆ” บทที่ 5     พูดจบหล่อนก็ต้องตกใจอีกหนเมื่อเห็นชายฉกรรจ์อีกหกคนเดินเข้ามาล้อมวงรอบโต๊ะไม้ที่หล่อนนอนเปลือยกายอยู่ ทุกคนคาดผ้าขาวม้าปิดหน้าปิดตาและเปลือยร่างล่อนจ้อนโชว์ท่อนเอ็นความเป็นชายที่พุ่งผงาดเต็มตาสะใภ้สาวที่มองด้วยความตื่นตะลึง และขณะนั้นในกายหล่อนมันกลับยิ่งร้อนมากขึ้นเป็นทวีคูณ “อะ...อะไรกันเนี่ย...” “เรามาสนุกกันแบบสวิงกิ้งดีกว่านะครับคุณมิ้นท์...อาส์...ถ้าได้ลองแล้วรับรองว่าคุณมิ้นท์จะติดใจ” นายปื๊ดกล่าวขณะหญิงสาวเริ่มบิดกายไปมาด้วยความเสียวซ่าน เกิดอะไรขึ้นกับหล่อนก็ไม่รู้ มัลลิกาปะติดปะต่อเรื่องราวต่าง ๆ แทบไม่ถูก รู้แต่ว่าตอนนี้หล่อนกำลังควบคุมตัวเองและอารมณ์บางอย่างที่มันกำลังพลุ่งพล่านขึ้นมาไม่ได้ ทำไมหล่อนถึงไม่กรีดร้องเสียงดัง ๆ แล้ววิ่งหนีไปหรือทำอะไรก็ได้ที่จะเป็นการแสดงออกว่าไม่ยอม นี่อะไรกัน หล่อนไม่กรีดร้องแถมยังส่งเสียงครางออกมาจากลำคอแหบแห้งเมื่อชายอีกหกคนเริ่มเอามือไม้ลูบไล้ไปบนเนื้อตัวหล่อน นายปื๊ดนั้นยืนอยู่ที่ปลายเท้าของหล่อน เขาจับขาเรียวของมัลลิกาแยกออก ส่วนอีกสองยืนอยู่ข้าง ๆ ช่วยกันเอามือของหล่อนที่ปกปิดหน้าอกดึงไปตรึงไว้ข้าง ๆ อีกคนยืนอยู่หัวโต๊ะ หล่อนเห็นอีกสามคนกำลังเอามือรูดกำเจ้าโลกของตัวเอง แม้ว่าทุกคนยกเว้นนายปื๊ดจะเอาผ้าขาวม้าพันหน้าเหลือแต่ลูกตาหล่อนก็รู้ว่าทั้งหกคนเป็นคนงานในโรงไม้นั่นเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม