ความเปลี่ยนแปลง

1303 คำ
เมื่อเจรจากันไม่สำเร็จ จารุณีกับคนสนิทของเธอก็ต้องยอมถอยทัพ และยังต้องคิดหาวิธีกันใหม่ว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง เงินก็เสียไปแล้ว จารุณีไม่มีทางยอมให้ลูกสะใภ้ชูคอเกาะลูกชายเธอไปตลอดหรอก “ฉันคิดไว้ไม่มีผิด แต่ก็เสียรู้มันจนได้ นังงูพิษ” เมื่อกลับขึ้นมาบนรถจารุณีก็สบถอย่างหัวเสีย เนื้อตัวของเธอสั่นไปหมดด้วยความโมโห อยากจะตบลูกสะใภ้จอมเสแสร้งสักฉาดสองฉาด ก็ไม่อยากมีปัญหากับลูกชายตัวเอง เพราะถ้าเธอทำแบบนั้นลักษณ์นาราจะต้องฟ้องเจตนิพัทธ์แน่นอน และตอนนี้ลักษณ์นาราก็กำลังแสดงบทคนป่วยอยู่ ถ้าเธอทำแบบนั้นก็ยิ่งจะถูกลูกชายมองไม่ดี “แต่มันดูแปลกไปจริงๆ นะคะคุณหญิง แววตามันไม่ได้อาฆาตดุดันเหมือนแต่ก่อน” คนใช้คนสนิทของจารุณีออกความเห็น “แกเชื่อมันหรือไง คนแบบนั้นมันก็แสดงได้หมดนั่นแหละ มันจะหลอกใครก็ได้ แต่ไม่ใช่ฉันแน่ๆ” จารุณียังเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง และฝังใจเชื่อว่าทั้งหมดมันก็แค่การแสดงของลักษณ์นารา ทางฝ่ายลักษณ์นารานั้นพอรู้เรื่องจ้างให้หย่า เธอก็รีบไปค้นหาสมุดเงินฝากธนาคาร เพื่อที่จะดูว่ามีเงินจำนวนเท่านั้นอยู่ในบัญชีจริงหรือไม่ เพราะคิดว่าเงินตั้ง 20 ล้านลักษณ์นาราคงไม่เก็บเป็นเงินสดแน่ “บ้าจริง ไม่เคยอัปฯ สมุดบัญชีเลยเหรอเนี่ย” เธอบ่นพึมพำเมื่อเห็นว่าไม่มีการอัปเดตอะไรเลย ทางเดียวที่จะรู้ตอนนี้คือต้องไปที่ธนาคารเท่านั้น เพราะโทรศัพท์ก็พังไปพร้อมกับรถแล้ว พอรู้ว่าคำตอบที่อยากรู้ ไม่สามารถจะหาได้ที่บ้าน ลักษณ์นาราจึงกลับไปทำงานที่ตัวเองค้างอยู่จนเสร็จเรียบร้อย เป็นเวลาพอดีกับที่เจตนิพัทธ์เดินทางมาถึง “ยังไม่เตรียมตัวเหรอ” เขาเอ่ยถาม เมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วพบว่าลักษณ์นารา นอนหมดแรงอยู่บนโซฟา เธอสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงของสามี พร้อมกับดีดตัวยืนขึ้น “ขอโทษนะคะ พอดีเพิ่งจะทำงานบ้านเสร็จ เลยยังไม่ได้เตรียมตัว” เธอลนลานและรีบอธิบาย แต่เจตนิพัทธ์กลับยิ้มแล้วส่ายหน้า “ผมไม่ได้ว่าอะไร แค่คิดว่ารักจะแต่งตัวรอแล้ว ปกติแล้วรัก...ไม่ปล่อยตัวเองโทรมแบบนี้” เขาพูดตามความจริง ตั้งแต่เธอฟื้นขึ้นมา ลักษณ์นาราก็แทบจะไม่แต่งตัวเลย “ใครจะไปแต่งตัวทำงานบ้านกันละคะ ถ้าอย่างนั้นขอเวลาสัก 20 นาที เดี๋ยวจะรีบลงมาค่ะ” “ไม่ต้องรีบหรอก เสร็จเมื่อไหร่ก็ลงมาเรียกผมแล้วกัน ผมจะนั่งรอตรงนี้แหละ” เขาบอกอย่างใจเย็น ยิ่งรู้จักกันเธอก็ยิ่งรู้สึกชื่นชมผู้ชายคนนี้ เขาช่างแสนดี และอบอุ่นเหลือเกิน ตอนที่เธอยังเป็นเธอยังจำได้ดีว่าแทบไม่มีเวลาทำอะไร ขนาดว่าตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เผื่อเวลาแล้วก็ยังไม่มีโอกาสได้แต่งตัว เพราะถ้าทีปกรตื่นแล้ว เขาก็พร้อมจะออกจากบ้านและเร่งเธอทันที “โห...ชุดปกติเจ๊แกไม่มีเลยจริงๆ แฮะ” ลักษณ์นาราคนใหม่เอ่ยขึ้น เมื่อพยายามค้นหาเสื้อผ้าออกมาใส่ ชุดในตู้มีแต่ชุดสวย ราคา แพง หลายตัวเป็นแบรนด์เนม แต่รสนิยมของลักษณ์นารานั้นมันเข้มข้น จัดจ้านไปหน่อย ชุดมันทั้งล่อแหลมและหวาดเสียวเสียจนเธอไม่กล้าเอาออกมาใส่ หลังจากพยายามเลือกอยู่นาน ในที่สุดก็ได้ชุดที่พอจะใส่ได้ออกมา ลักษณ์นาราพยายามแต่งหน้า ทำผมเท่าที่เธอพอจะทำได้ โชคดีที่พื้นฐานหน้าตาของเธอคนนี้มันดีอยู่แล้ว จึงไม่ต้องแต่งอะไรมากนัก “เสร็จแล้วค่ะ” เธอเดินลงมาจากห้อง แล้วบอกกับคนที่นั่งรออยู่ เขาเงยหน้าขึ้นจากแท็บเล็ตในมือ และมองไปที่หญิงสาวซึ่งยืนรอเขาอยู่ วันนี้มีบางอย่างเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แววตาของลักษณ์นาราดูไม่เหมือนเธอคนเดิม การแต่งตัวที่เปลี่ยนไปมากทั้งที่เสื้อผ้าชุดนี้เขาก็เคยเห็นเธอใส่มาก่อน รอยยิ้มที่สดใสมันคือสิ่งที่เขาเฝ้าคิดมาตลอดว่า บนใบหน้าสวยของเธอขาดหายสิ่งใดไป “ถ้างั้นเราก็ไปกันเถอะ จะได้กลับมารับหนูขวัญทัน” ลักษณ์นาราพยักหน้ารับ ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันออกเดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้า ตลอดทางหญิงสาวพยายามหาจังหวะที่จะพูดกับเจตนิพัทธ์ เรื่องที่แม่ของเขามาหาเธอวันนี้ แต่ก็ยังไม่ได้จังหวะเหมาะสักที เขาชวนเธอพูดถึงแต่เรื่องของที่จะซื้อวันนี้ กับธุระจำเป็นที่จะต้องไปทำ "ขอไปทำธุระที่ธนาคารก่อนได้หรือเปล่าคะ?" อยู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมา เพราะเรื่องเงิน 20 ล้านมันคาใจเธอเหลือเกิน “ได้สิครับ แต่จะไม่ไปซื้อโทรศัพท์ก่อนเหรอ จะได้เอาไปทำเรื่องแอพฯ ธนาคารทีเดียว ไม่อย่างนั้นเราก็ต้องย้อนไปย้อนมานะ” เจตนิพัทธ์เสนอขึ้น หญิงสาวคิดอยู่ครู่หนึ่ง และรู้สึกเห็นด้วย แต่สามีของเธอดันเข้าใจว่าเธอกำลังกังวลเรื่องเงินที่จะใช้จ่ายค่าโทรศัพท์มือถือ “เดี๋ยวผมจ่ายให้เอง รักไม่ต้องห่วงหรอกนะ” “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ ฉันลืมคิดไป ว่าต้องเอาโทรศัพท์ไปทำที่ธนาคารอยู่ดี เอาเป็นว่าไปซื้อโทรศัพท์ก่อน แล้วค่อยไปธนาคารก็ได้ค่ะ” เธอเอ่ยขึ้น แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายคงจะเต็มใจพาไปอยู่แล้ว ต่อให้เธอดื้อดึงว่าจะไปธนาคารก่อน เขาดูใจดีออกแบบนั้น แต่เธอก็ไม่ได้อยากเสียเวลาเหมือนกัน เจตนิพัทธ์พาภรรยาของเขาเดินตรงไปที่ช็อปสมาร์ตโฟนแบรนด์ดัง ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เธอใช้อยู่เป็นประจำ แต่เจ้าตัวกลับแสดงท่าทางเหมือนจะไม่ถูกใจ ตั้งแต่ตอนที่มาถึงหน้าร้านเสียแล้ว “เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น” เขาหันไปถามด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าลักษณ์นาราจะเคยสร้างเรื่องอะไรเอาไว้ที่นี่ เธอน่ะศัตรูรอบทิศไปหมด “โทรศัพท์ยี่ห้อนี้มันแพงมากเลยนะคะ” เธอเอ่ยขึ้นด้วยเสียงกระซิบกระซาบ แม้จะฟังไม่ถนัดนัก แต่เขาก็ได้ยินชัดเจนทุกคำ และมันก็ทำให้เจตนิพัทธ์ประหลาดใจมาก “ปกติรักก็ใช้ยี่ห้อนี้นะ เครื่องที่เพิ่งพังไป ก็รุ่นล่าสุดเพิ่งซื้อได้ไม่ถึง 3 เดือนเลย” “โห...เอามาลองซ่อมดูก่อนไม่ดีเหรอคะแบบนั้น อย่าซื้อใหม่เลย” เธอเสนอขึ้น ด้วยความที่เธอใช้ชีวิตแบบที่ต้องประหยัดเงินมาโดยตลอด “ลองถามแล้ว ช่างแนะนำว่าซื้อใหม่ดีกว่า ไม่ต้องคิดมากหรอก ข้อมูลทุกอย่างกู้คืนกลับมาได้ ส่วนเครื่อง...แช่น้ำขนาดนั้นซ่อมแล้วคงยาก” ลักษณ์นาราคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะเกรงใจแต่ก็รอไม่ไหวแน่ กว่าจะซ่อมเสร็จ ถ้าซื้อใหม่แล้วกู้ข้อมูลอย่างที่เขาบอกคงจะดีกว่า จะได้หายข้องใจสักทีไอ้เรื่องเงิน 20 ล้าน เธอเชื่อว่ายังไงลักษณ์นาราก็ต้องเก็บเข้าบัญชี เพราะเธอคงไม่เก็บเงินขนาดนั้นไว้กับตัวเป็นเงินสดแน่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม