ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว
2213 คำ
รักฉันแล้วอย่าเลว
ตอนที่ 2 ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว
ณ ผับโต้รุ่ง
ผับดังแห่งนึงย่านชานเมือง เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าบรรดาหนุ่มสาว ผับหรูที่มีทั้งแสง สี เสียงเด่นชัดเป็นจุดขาย ทำให้ผับแห่งนี้เป็นที่นิยมและขึ้นชื่อของนักเที่ยงท่องราตรี ด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาต่างพากันมาที่นี่ผับแห่งนี้จึงขึ้นชื่อเรื่องของความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน หรือที่ผู้คนมักใช้เรียกกันว่า one night stand
สำหรับชายหนุ่มหน้าตาดี พ่อแม่รวย และยังครองความโสด จึงไม่พลาดกับสถานที่แห่งนี้ ด้วยความชอบและรักสนุก จึงเป็นลูกค้าระดับวีไอพีของผับโต้รุ่งแห่งนี้ นั่นคือ...
‘ กฤษณ์ ’ กฤษณ์ อิสระกุลวิลัย อายุ 30 ปี ลูกชายของคุณลพและคุณหญิงวดี ทายาทเพียงคนเดียวห้างทองชื่อดัง เป็นคนรักสนุก ควงผู้หญิงมากหน้าหลายตาไม่ซ้ำหน้า ในส่วนเรื่องหน้าที่การงานมีส่วนช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว
กฤษณ์เป็นลูกชายที่โดนตามใจจากผู้เป็นแม่ ผู้ใช้เงินถลุงราวกับใบไม้เพื่อหาความสุขให้ตัวเอง แค่เพียงได้ยินชื่อกฤษณ์ย่างกรายเข้ามา ผู้หญิงทุกคนแทบจะพลีกายถวายตัวเข้าหา ทำให้กฤษณ์ภูมิใจในความร่ำรวยเงินทองของตัวเองมาก
“ อื้มมม คุณกฤษณ์ เบาๆหน่อยคะ ”
นี่ก็เป็นอีกคืนที่กฤษณ์ได้ผู้หญิงมาเสพความสุข ผู้หญิงที่ถูกกฤษณ์ควงเข้ามายังคอนโดมิเนียมห้องเชือดแห่งนี้ ล้วนมาจากความเต็มใจและสมัครใจอยากเสพความสุขกับกฤษณ์ทั้งนั้น ห้องเชือดแห่งนี้จึงมีแต่เสียงครางกระเซ่าแทนคำพูดเท่านั้น
“ ตากฤษณ์ ตากฤษณ์แม่บอกให้ตื่น ”
กฤษณ์ถูกรบกวนจากผู้เป็นแม่ปลุกให้ตื่น ที่ข้างๆร่างมีหญิงสาวกอดก่ายพาดตัวอยู่
“ อือ อะไรกันแม่ ”
“ ไล่มันกลับไป แม่มีเรื่องจะคุยด้วย ” คุณหญิงวดีผู้เป็นแม่เอ่ยราวกับไม่ตื่นตระหนกตกใจในสิ่งที่พบเห็น
“ ค่อยคุยเถอะ ผมไม่อยากคุยตอนนี้ ” กฤษณ์เอ่ยพร้อมดึงหญิงสาวข้างกายมากระชับกอด โดยไม่สนใจสายตาของผู้เป็นแม่เลยสักนิด
“ ตากฤษณ์ แม่บอกให้ลูกเดี๋ยวนี้ไง ”
คุณหญิงวดีไม่เพียงปลุกแต่รุกเร้าด้วยการดึงผ้าห่มที่ห่อตัวทั้งสองร่างอยู่ ราวกับรบกวนให้ลูกชายตื่นมาคุยกับตน กฤษณ์ที่หงุดหงิดใจจำต้องยอมลุก พร้อมปลุกให้หญิงสาวที่บำเรอร่างกายให้ตนออกไปจากห้อง ท่ามกลางสายตาของผู้เป็นแม่ที่มองอยู่
“ แม่มีเรื่องอะไรถึงต้องมารบกวนเวลานอนของผมแบบนี้ ”
“ ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญ คิดว่าแม่จะมาหาแกถึงนี่เหรอ ”
“ มีอะไรก็รีบๆพูดมาเถอะ ผมง่วง ”
“ พ่อจะให้แกแต่งงาน ” คำพูดของคุณหญิงวดีผู้เป็นแม่ ทำกฤษณ์ที่งัวเงียง่วงนอนถึงกับตาโตหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
“ อะไรกันแม่ ”
“ แกฟังไม่ผิดหรอก แกต้องแต่งงานกับลูกชายคุณอดุลย์ เพื่อนของพ่อแก ”
“ แม่ไปพูดกับพ่อเถอะ ว่าผมไม่แต่ง ”
“ ไม่ได้ ”
“ นี่แม่ก็เห็นด้วยเหรอ แม่ก็รู้ว่าผมรักชีวิตแบบนี้ ผมไม่อยากมีเมียเป็นต้นเป็นต้น แล้วแม่ยังอยากให้ผมแต่งงานอีกเหรอ ”
“ แกรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้ธุรกิจของเรามันกำลังย่ำแย่ พ่อแกอยากให้แกแต่งงานเพื่อจะช่วยพยุงธุรกิจห้างทองของเรา ”
“ จะทำอะไรก็ทำเถอะ ถึงยังไงผมก็ไม่แต่ง ”
“ ครอบครัวคุณอดุลย์เป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีทั้งโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร มีทรัพย์สมบัติพันล้าน ”
“ พันล้าน!! ”
“ เรามีแต่ได้กับได้นะตากฤษณ์ แม่ถึงอยากให้ลูกแต่งงาน ชีวิตอิสระของลูกจะมีก็มีไป ไม่มีใครทำอะไรลูกได้ทั้งนั้น เมียก็อยู่ส่วนเมีย แม่จะคอยช่วยลูกเอง แล้วอย่างนี้ลูกยังจะไม่ยอมทิ้งขุมทรัพย์ไป ไปยอมแต่งอยู่รึเปล่า? ”
“ แม่ไปบอกพ่อเลย ว่าผมจะแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนพ่อ ”
“ ดีมากลูกรักของแม่ แม่เลือกสิ่งที่ดีให้ลูกเสมอ ”
ด้วยความเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของครอบครัว ผู้เป็นแม่จึงรักและตามใจกฤษณ์มาก แม้จะทำเรื่องที่ผิดแต่ด้วยความรักลูก คุณหญิงวดีจะคอยช่วยและคอยให้ทายยกยอกฤษณ์อยู่เสมอ…
กฤษณ์ยอมตกลงแต่งงานกับลูกชายเพื่อนของผู้เป็นพ่อ โดยไม่สนใจหรือเอ่ยถามถึงหน้าตาของว่าที่เจ้าสาวแต่อย่างใด รับรู้เพียงว่าตัวเองจะสบายก็แค่นั้น…
แต่เมื่อถึงวันต้องพบเจอหน้าว่าที่เจ้าสาวอย่าง ‘ ลิตา ’ ถึงกับทำกฤษณ์หลงไหลในเสน่ห์ของว่าที่เจ้าสาวมาก ด้วยความสวยสะดุดตา บวกกับผิวพรรณที่ขาวจนแยงตา ทำกฤษณ์แทบละสายตาไม่ได้ กฤษณ์ยิ้มให้ผู้เป็นแม่อย่างภูมิใจที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว ไหนจะฐานะที่จะยกตัวเองให้สูงขึ้น ไหนจะได้สาวสวยมาให้เชิญชมแบบนี้อีก แล้วจะมีอะไรดีเท่าชีวิตกฤษณ์คนนี้อีกล่ะ
“ ตากฤษณ์ พาหนูลิตาไปเดินเล่นสิ จะได้ทำความรู้จักกัน ”
“ คับพ่อ ”
กฤษณ์กับลลิตาออกมาด้านนอกของโรงแรม เดินมานั่งยังสถานที่รับลมของรีสอร์ท กฤษณ์แอบมองลลิตาอยู่บ่อยครั้งอย่างพ่อเสืออยากจะขย้ำเหยื่อตรงหน้าอย่างเต็มที่แล้ว
“ ผมอายุ 30 ลิตาอายุเท่าไหร่เหรอคับ? ”
“ 27 ค่ะ ”
“ ผมรู้สึกโชคดีมากเลยนะ ที่จะได้มาเป็นทองแผ่นเดียวกับสาวสวยอย่างลิตาแบบนี้ ”
“ เหรอคะ ลิตารู้สึกไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่ ” คำพูดของลลิตาทำให้กฤษณ์ขำในลำคอออกมา
“ คุณขำอะไร ”
“ ลิตาคงไม่อยากแต่งงานล่ะสิ ผมก็รู้สึกแบบนั้น แต่เมื่อผมเห็นว่าที่เจ้าสาว ผมก็เปลี่ยนใจทันที เพราะเจ้าสาวของผมสวย สวยมาก สวยไปซะทุกส่วน ”
“ แยกกันตรงนี้แล้วกันนะคะ ลิตามีงานต่อ ” ด้วยคำพูดระรานของกฤษณ์ ทำให้ลลิตาทิ้งกฤษณ์ไว้ตรงนี้ ก่อนจะเสียมารยาทลุกจากไป กฤษณ์ลูบคางตัวเองเบาๆ พร้อมมองตามหลังลลิตา
‘ จะเล่นตัวไปทำไม เดี๋ยวก็ได้ร้องครางใต้ร่างกูแล้ว ’
การถูกคลุมถุงชนอย่างไม่เต็มใจของลลิตาและกฤษณ์ ที่ทั้งคู่ยินยอมที่จะฝืนความรู้สึกของตัวเอง ยินดีแต่งงานตามที่ผู้ใหญ่ต้องการ เห็นทีว่าที่เจ้าบ่าวอย่างกฤษณ์จะคลั่งไคล้ในตัวว่าที่เจ้าสาวเอามากๆ ยิ่งผู้ใหญ่เห็นชอบเปิดทางให้ได้คุยกัน ยิ่งทำให้กฤษณ์หาช่องทางเพื่อติดต่อพูดจาหยอดคำหวานหว่านเสน่ห์ให้ว่าที่เจ้าสาวอย่างลลิตาหลงไหล แต่ในทางกลับกัน ลลิตากลับรู้สึกหน่ายกับคารมคำคามและการกระทำส่อแววเจ้าชู้ของกฤษณ์ แต่ทำได้แค่นิ่งเงียบเพราะถึงยังไงก็ไม่สามารถหนีการแต่งงานจากว่าที่เจ้าบ่าวคนนี้ได้…
เมื่อลลิตาได้เห็นหน้าค่าตาว่าที่เจ้าบ่าวอย่างกฤษณ์ ก็ได้เข้ามาคุยกับเพื่อนสาวทั้งสองอย่างไอมี่และดาวินถึงความรู้สึกไม่สบายใจที่ได้พบเจอในตัวว่าที่เจ้าบ่าวมา
“ ทำไมทำหน้าเหมือนตูดอย่างนั่นล่ะ มึงกำลังจะเป็นเจ้าสาวนะเว้ย ” ไอมี่เอ่ยทัก เมื่อลลิตาเดินเข้ามาที่ห้องพักของไอมี่ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
“ ไม่สบายใจว่ะ ”
“ เรื่องอะไรวะ หรือว่าเรื่องว่าที่เจ้าบ่าวของมึง ” ดาวินเอ่ยคาดเดาได้อย่างแม่นยำมาก
“ เค้าไม่หล่อ ไม่ถูกใจเหรอวะ ” ไอมี่รีบเสริม ทั้งที่ยังไม่ได้คำตอบจากลลิตา
“ เปล่า พี่เค้าก็หน้าตาดีแหละ ” ลลิตาเอ่ยพร้อมวางรูปถ่ายของกฤษณ์ให้เพื่อนสาวทั้งสองดู
“ หล่อ เท่ห์ ดูดี น่าม่ำมากนะมึง ” ดาวินเห็นว่าที่เจ้าบ่าวของเพื่อนสาวถึงกับแสดงอาการดี๊ด๊าออกอาการอิจฉาตาร้อน
“ ก็หล่ออยู่ ”
“ อีไอมี่ มึงจะจ้องมองว่าที่เจ้าบ่าวอีลิตาให้ทะลุเลยรึไง ” ดาวินถึงกับเปลี่ยนน้ำเสียงที่เห็นไอมี่ขมวดคิ้วเอาแต่จ้องมองรูปถ่ายของกฤษณ์อย่างมีเล่ห์นัย
“ กูแค่สงสัยว่าเคยเห็นพี่เค้าที่ไหน แต่นึกไม่ออกว่ะ ”
“ แห๊มๆอีดอก เห็นคนหล่อไม่ได้เลยนะมึง คุ้นหูคุ้นตาไปหมด ”
“ กูเคยเห็นจริงๆนะเว้ย แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ”
“ คนหล่อ ไหนจะโสดก็มักเที่ยวไปทั่ว คงผ่านตาบ้างมั้ง ” ดาวินเอ่ย
“ เออ คงงั้น แล้วที่มึงทำหน้าเบื่อโลกมา ถ้าไม่ใช่เรื่องหน้าตาแล้วเรื่องอะไรวะ ”
“ ไม่รู้ว่ะ คำพูด ท่าทาง มันดูกะล่อนยังไงไม่รู้ กูไม่ค่อยโอเคกับคนแบบนี้เลย ” ลลิตาเอ่ยระบายความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในใจเป็นหมื่นล้านคำ
“ ชีวิตชายโสดคงจะลั้นลาจนชินมั้งมึง คงต้องให้เวลาว่าที่เจ้าบ่าวมึงปรับตัวสักหน่อย คนเราร้อยพ่อพันแม่ต้องปรับจูนกันมากนะมึง ”
“ กูเห็นด้วยกันดาวินนะ ต่างคนต่างใช้ชีวิตมาไม่เหมือนกัน จะมาอยู่ด้วยกัน มันต้องปรับตัวแหละ ”
“ แล้วถ้าพี่เค้าปรับไม่ได้ล่ะ ”
“ อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ดุลพินิจของมึงว่าจะจัดการยังไง ” ไอมี่เอ่ย
“ เอาน่า อย่าเครียดไปชะนีลิตาผู้เลอโฉม เพราะยังไงมึงก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว จะได้ผัวหล่อ มันต้องทำตัวซู่ซ่าต้อนรับศึกเข้าหอจะดีกว่า ท่องไว้บุญหอยกู บุญหอยแล้ว ” ความปลอบเพื่อนสาวของดาวิน ทำให้ลลิตาถึงกับยิ้มออกมากับท่าทางจริตจะก้านของเพื่อนสาวในร่างชายคนนี้
“ คุณลิตาคะ มีผู้ชายชื่อกฤษณ์ขอพบคุณลิตาค่ะ ”
พนักงานในบริษัทอาหารเสริมเข้ามาบอกกล่าวรายงานลลิตา ขณะนั่งอยู่ในห้องทำงาน ไม่มีใครรู้ว่ากฤษณ์คือว่าที่เจ้าบ่าวของลลิตาในเวลาอันใกล้นี้ เรื่องนี้ยังคงเก็บข่าวเงียบ จึงไม่มีใครสงสัยว่ากฤษณ์คือใคร
“ หวัดดีคับคนสวย ” เพียงแค่ได้เห็นหน้ากัน กฤษณ์ก็เอ่ยหยอดคำหวานให้ลลิตาในทันที
“ คุณมีอะไรกับลิตารึเปล่า? ”
“ ผมแค่อยากมาหาเพราะความคิดถึงมาก ”
“ ………. ” ลลิตาถึงกับขมวดคิ้วในความมากเยอะของกฤษณ์ จนทำกฤษณ์ยิ้มขำกลบเกลื่อนออกมา
“ คุณลุงอดุลย์ให้ผมมารับลิตาน่ะ ”
“ รับลิตา รับไปไหนคะ? ”
“ ถ้าบอกก็รู้สิ ไปถึงลิตาก็จะรู้เอง ” กฤษณ์เล่นลิ้นพร้อมถือโอกาสจับมือลลิตาให้เดินตามอย่างขัดไม่ได้
ลลิตาจำต้องนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถมากับกฤษณ์อย่างไม่ค่อยเต็มใจมากนัก กฤษณ์พาลลิตามายังบริษัทเครือข่ายใหญ่ของห้างทองที่ครอบครัวกฤษณ์เป็นเจ้าของ
“ อะไรคะ? ” ลลิตาถึงกับงุนงง เมื่อกฤษณ์ผายมือให้ตนเชิงให้ลลิตาส่งมือให้จับเพื่อเดินเข้าบริษัท
“ ผมต้องแสดงความเป็นเจ้าของลิตาสิคับ ”
“ ………… ” แววตาของกฤษณ์ราวกับมีมนต์สะกด ทำให้ลลิตาถึงกับหัวใจหวิวยอมแพ้ต่อมนต์สะกดนี้ ลลิตายื่นมือให้กฤษณ์จับ กฤษณ์จับมือลลิตาเดินเข้าบริษัท สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ทุกคนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
แต่สิ่งที่ทำให้ลลิตารู้สึกแปลกๆกับการมองมา คือสายตาของพนักงาน ที่ส่วนใหญ่เป็นสายตาของผู้หญิงที่มองลลิตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ทำลลิตาแอบสงสัยเอะใจกับสายตารังเกียจเกลียดชังอย่างไม่เคยรู้จักกันมาก่อนนี้ ทั้งที่เป็นครั้งแรกของการมาเยือนบริษัทของกฤษณ์
“ เป็นอะไรรึเปล่า? ”
“ ลิตาไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจรึเปล่า ทำไมสายตาผู้หญิงด้านนอกพวกนั้น ถึงมองลิตาราวกับเกลียดชังกันมาก ” กฤษณ์ชะงักไปพร้อมมองไปยังด้านนอกห้องทำงานส่วนตัว ก่อนจะปรับสีหน้ายิ้มให้ลลิตา
“ ผมมีประชุม ไปนั่งให้กำลังผมหน่อยสิ ”
ลลิตาถูกลากมายังห้องประชุมที่มีพนักงานนั่งอยู่เต็มห้องประชุม กฤษณ์ดึงลลิตาไปยืนข้างๆพร้อมโอบเอวต่อหน้าทุกคน
“ ผมอยากประกาศไว้ตรงนี้ ว่าลิตาคนนี้คือว่าที่เจ้าสาวของผม ให้ทุกคนรับทราบทั่วกันด้วย ”
พนักงานทุกคนต่างมองหน้ากันเอ่ยซุบซิบอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ลลิตาใจสั่นมากเมื่อกฤษณ์เอ่ยแบบนี้
“ ไม่ต้องคิดมากแล้วนะคนสวยของผม ”
“ …………. ”
กฤษณ์เอ่ยพร้อมลูบหัวลลิตาเบาๆ ทำลลิตารู้สึกแปลกๆกับแววตาอ่อนละมุนนี้ของกฤษณ์มาก ราวกับตอนนี้โดนมนต์สะกดของกฤษณ์เข้าเต็มเปาแล้ว…
…………….. ?………………
⭐อ่านจบแล้ว กดเข้าชั้น กดติดตาม ขอคอมเมนต์น่ารักๆ ให้กำลังลิตารับมือกับสามีเลวกับแม่สามีตัวร้ายกันด้วยนะคะ
? นามปากกา วิยดา ?
- ผู้เขียน
