“โธ่! คุณแม่คะ ถึงหนูเล็กจะแต่งตัวแบบนี้ แต่หนูเล็กก็เป็นผู้หญิงนะคะคุณแม่ แล้วก็ไม่ได้เป็นทงเป็นทอมอย่างที่คุณแม่เข้าใจหรอกค่ะ”
แก้วกัลยาเอ่ยกับมารดาอย่างออดอ้อน พร้อมกับขยับกายเข้าไปกอดเอวมารดาเอาไว้อย่างเอาใจ ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่ามารดากำลังกลัวว่าเธอจะหันไปชอบผู้หญิงแทนที่จะเป็นผู้ชาย แม้เธอจะแต่งตัวแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องเป็นทอมเสียหน่อย
“ขอให้มันจริงเถอะหนูเล็ก”
คุณหญิงตอบบุตรสาวคนเล็กอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะหันมามองปิยะดาด้วยสีหน้าอ่อนโยน ท่านก็หวังเอาไว้ลึกๆ ว่าเด็กสาวคนนี้จะทำให้บรรดาลูกๆ ของท่านกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์เลิศอัครเกรียงไกร
หากได้เห็นถึงความน่ารักและอ่อนหวานของปิยะดา เพราะขนาดท่านเองได้เห็นครั้งแรก ท่านก็ยังรู้สึกรักและเอ็นดู แล้วคนอื่นๆ จะไม่คิดแบบท่านอย่างไร
“หนูเล็กไม่คุยกับคุณแม่แล้ว หนูเล็กจะพาแก้วไปเดินเที่ยวรอบๆ บ้านดีกว่าค่ะ ไปกันเถอะแก้ว”
ทันทีที่พูดจบแก้วกัลยาก็หันมาดึงแขนของปิยะดาให้ลุกเดินตามเธอไป ส่วนคนที่ถูกดึงก็ต้องรีบลุกอย่างตกใจ ก่อนจะรีบสาวเท้าให้ทันคนที่กำลังดึงแขนเธอ หากแต่ใบหน้าเรียว น่ารักก็ยังหันกลับมามองคุณหญิงและผู้เป็นป้าอย่างขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
“ไม่เป็นอะไรหรอกเนียน”
คุณหญิงกรองแก้วหันมาเอ่ยกับแม่บ้านใหญ่ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง อย่างน้อยท่านก็เชื่อว่าการที่ปิยะดาเข้ามาอยู่ในเลิศอัครเกรียงไกรคือเรื่องดีที่สุดสำหรับท่าน
เพราะบุตรสาวคนเล็กของท่านอาจจะอยู่ติดบ้านบ้าง หากมีเพื่อน และท่านยังหวังไปมากกว่านั้น ว่าบางทีปิยะดาอาจจะเปลี่ยนแปลงนิสัยห้าวจนเกินหญิงของแก้วกัลยาให้ดูอ่อนหวานเป็นผู้หญิงมากกว่าที่เป็นอยู่
“ไม่รู้ว่าแก้วจะทำให้คุณหนูเล็กเป็นผู้หญิงลงบ้าง หรือว่าคุณหนูเล็กเปลี่ยนให้แก้วเป็นอย่างที่คุณหนูเล็กเป็นกันแน่นะคะคุณหญิง”
นางเนียนคิดอย่างขบขันกับความคิดของคุณหญิง ตอนแรกนางไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของผู้เป็นนายมากนัก แต่ตอนนี้นางเริ่มที่จะเข้าใจแล้ว หากปิยะดาสามารถทำให้คุณหนูเล็กของนางเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงตัวเองขึ้นมาบ้างก็คงจะดีไม่น้อย
และนางเชื่อว่าปิยะดาต้องทำได้ เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น ซึ่งก็ต้องคอยดูกันต่อไป เวลาสามเดือนที่หลานสาวของนางอยู่ที่นี่ บางทีอะไรๆ อาจจะดีขึ้นมาก็ได้
“ก็ต้องรอดูกันต่อไปแหละเนียน”
คุณหญิงบอกแม่บ้านใหญ่อย่างยิ้มๆ ก่อนจะหันมาสนใจหนังสือนิตยสารที่ท่านวางเอาไว้ก่อนหน้าที่เนียนกับหลานสาวจะเดินเข้ามา
“นั่นสิคะคุณหญิง”
เนียนพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อรู้ว่าหลานสาวของนางเป็นที่เอ็นดูของคุณหญิงและคุณหนูเล็ก
////////////
แก้วกัลยาพาปิยะดาเดินมาหยุดอยู่ที่สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งสระว่ายแห่งน้ำจะเป็นสระรวมที่ทุกคนภายในบ้านสามารถมาลงเล่นได้ หากเดินไปอีกไม่ไกลก็จะเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัวของพี่ใหญ่ของเธอนั่นเอง
“เราดีใจนะที่แก้วมาอยู่ที่นี่”
“แก้วก็ดีใจเหมือนกันคุณหนูเล็ก ได้อยู่ใกล้ป้าด้วย”
“ไม่เอาน่าแก้ว อย่าเรียกเล็กว่าคุณหนูได้ไหม ฟังทีไรแล้วรู้สึกหงุดหงิดยังไงชอบกล”
“ก็ได้ค่ะ งั้นแก้วเรียกหนูเล็กก็แล้วกัน”
ปิยะดาบอกก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ สระว่ายน้ำอย่างตื่นเต้น เพราะใจจริงเธออยากลงเล่นในสระเหมือนกัน แต่มันทำไม่ได้อย่างที่คิดเพราะเธอดันว่ายน้ำไม่เป็น เรื่องว่ายน้ำต้องยกให้พินทุอรกับเพียงตะวัน ส่วนเธอก็ได้แต่นั่งมองเพื่อนๆ ลงว่ายน้ำกันเท่านั้น
“อยากว่ายน้ำหรือแก้ว”
แก้วกัลยาเอ่ยถามเมื่อเห็นสายตาของปิยะดามองไปรอบๆ สระว่ายน้ำ ก่อนจะมาหยุดอยู่กลางสระ หญิงสาวก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าสองก้าวก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับปิยะดา ก่อนจะเปิดยิ้มกว้างเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าให้เธอ
“แก้วก็อยากว่ายเหมือนกันค่ะ แต่แก้วว่ายน้ำไม่เป็น” ปิยะดาบอกอย่างอายๆ
แก้วกัลยาถึงกับหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู ก่อนจะเริ่มเดินวนไปรอบๆ พิจารณารูปร่างของปิยะดาอย่างถี่ถ้วน จะว่าไปเธอกับปิยะดาน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ทำไมเธอถึงสูงกว่าปิยะดาตั้งเยอะ หากจะให้เทียบกันแล้ว เธอน่าจะสูงกว่าเกือบสิบเซนติเมตรด้วยซ้ำ
“ทำไมแก้วตัวเล็กจัง ดูหนูเล็กสิสูงชะลูดเลย” พูดแล้วแก้วกัลยาก็ทำท่าประกอบ หญิงสาวเดินไปข้างกายและใช้สายตาวัดกะประมาณความสูงของเธอและปิยะดา ก่อนจะนึกอิจฉาปิยะดาเล็กๆ ว่าทำไมเพื่อนใหม่ของเธอถึงได้ดูตัวเล็กน่ารักแบบนี้
“แก้วสูงเท่าไหร่”
“แก้วสูงร้อยหกสิบ หนูเล็กถามทำไมหรือคะ” ปิยะดาถามกลับอย่างงงๆ
“เปล่าหรอก แค่รู้สึกอิจฉาแก้วนะ หนูเล็กสูงตั้งร้อยเจ็ดสิบสอง สูงแบบนี้จะหาแฟนได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ สงสัยชาตินี้หนูเล็กคงจะหาแฟนไม่ได้แน่ๆ เลย”
“ไม่หรอกค่ะ แก้วว่าหนูเล็กคิดมากไปหรือเปล่า หนูเล็กสวย น่ารักและยังดูแมนจนผู้ชายบางคนยังอายเลยรู้ไหมคะ”
“หนูเล็กไม่ได้เป็นทอมนะแก้ว แต่เพราะดันเกิดมาสูงจะคนหาปกป้องนะยาก ดังนั้นก็ต้องดูแลและปกป้องตัวเองไง”
แก้วกัลยาบอกปิยะดาอย่างกลัดกลุ้ม เมื่อพูดถึงความสูงของตัวเอง เพราะเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นจนมัธยมปลาย
มีเพื่อนผู้ชายที่สูงกว่าเธอแค่ไม่กี่คนเอง นอกนั้นก็ตัวเตี้ยกว่าเธอทั้งนั้น จะมีบางคนที่สูงเท่ากัน แต่ก็ไม่ถูกสเปกเธออีก
ปิยะดามองแก้วกัลยาแล้วก็ต้องยิ้มออกมาด้วยความประหลาดใจ ที่แท้เพราะแบบนี้นี่เองที่ทำให้เพื่อนใหม่คนนี้ของเธอต้องมีบุคลิกเหมือนผู้ชายแบบนี้
“ไม่จริงหรอกค่ะ แก้วคิดว่าหนูเล็กยังไม่เจอเนื้อคู่ต่างหาก แก้วเชื่อนะคะว่าสักวันหนูเล็กจะต้องเจอผู้ชายที่เขาเป็นเนื้อคู่ของหนูเล็กจริงๆ แต่แก้วคิดว่าบางทีหนูเล็กจะต้องปรับปรุงตัวอีกนิดหน่อย เพื่อที่จะทำให้ตัวเองดูเป็นผู้หญิงที่ใครๆ ก็อยากจะแต่งงานด้วย”
“ต้องทำยังไงเหรอแก้ว แต่ถ้าให้หนูเล็กเปลี่ยนแปลงเรื่องการแต่งตัวหนูเล็กไม่เอาด้วยหรอก แต่ถ้าให้หนูเล็กปรับปรุงเรื่องอื่นๆ ก็ว่าไปอย่าง”
แก้วกัลยาบอกอย่างอารมณ์ดี ให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองในเรื่องอื่นๆ เธอสู้ตายทีเดียว แต่ถ้าให้เธอเปลี่ยนแปลงเรื่องการแต่งตัว เห็นทีคงจะไม่ไหว
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่หนูเล็กทำอาหารเป็นบ้างก็พอแล้ว”
“ทำอาหารเหรอ”
แก้วกัลยาถามอย่างสนใจ ถึงเธอจะแต่งตัวเหมือนทอมบอยไปหน่อยก็เถอะ แต่เธอก็ชอบทำอาหาร หรือพวกเย็บปักถักร้อยเหมือนผู้หญิงคนอื่นเหมือนกัน เพียงแต่เธอไม่เคยบอกใครเท่านั้น
“ค่ะ ทำอาหารหรือพวกงานฝีมือบ้าง งานฝีมือมันช่วยทำให้จิตใจเราสงบด้วยนะคะ เพราะงานฝีมือมันต้องใช้สมาธิและความมุ่งมั่น”
ปิยะดาอธิบายด้วยรอยยิ้ม เพราะเธอเองก็ชอบทำอาหารเหมือนกัน ตอนอยู่หอพักเธอก็มักจะทำอาหารทานเองบ่อยๆ จนพินทุอรกับเพียงตะวันยังหิ้วเธอมาทานข้าวกับเธอแทบจะทุกวันเหมือนกัน
“ก็น่าสนใจนะแก้ว งั้นเอาไว้ว่างๆ เรามาทำอาหารทานกันดีไหม?”
แค่คิดก็สนุกแล้ว แก้วกัลยาบอกตัวเองในใจ เพราะเธอเองก็ชอบทำอาหารและชอบทานอาหารอร่อยๆ อยู่แล้ว ใครทำอาหารอร่อยรับรองได้เลยว่าจะมีเธอคนหนึ่งที่จะกลายมาเป็นแขกประจำบ้านของเพื่อนๆ ทันที
เมื่อก่อนเธอมักจะไปทานข้าวที่บ้านเพื่อนบ่อยๆ เพราะมารดาของเพื่อนทำอาหารอร่อย จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เธอน้ำหนักขึ้นมาเกือบห้าสิบ เพราะมักจะขับรถไปทานข้าวบ้านเพื่อนทุกวันหลังเลิกเรียน
“ได้สิ! แก้วยังไงก็ได้”
ปิยะดาเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานเช่นเดิม จนคนที่ยืนมองถึงกับยิ้มตอบกลับมาไม่ทัน
“นี่ถ้าหนูเล็กเป็นผู้ชาย หนูเล็กคงจะต้องตกหลุมรักแก้วแน่ๆ เลย”
แก้วกัลยาบอกอย่างเปิดเผย เพราะเธอรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ทุกครั้งที่ปิยะดายิ้ม เธอรู้สึกเหมือนกับว่าโลกนี้ช่างสดใสเหลือเกิน และเธอก็อยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป คำถามก็ผุดขึ้นมาในใจอย่างช่วยไม่ได้ ว่าใครกันนะที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของหัวใจของปิยะดา
ปิยะดาได้แต่ยิ้มตอบไม่แสดงความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับคำพูดของแก้วกัลยา เพราะสิ่งที่แก้วกัลยาพูด เธอฟังมาจากเพื่อนๆ จนชินแล้ว
บางครั้งมีคนถามเธอว่า ผู้ชายที่เธออยากมอบหัวใจให้จะเป็นผู้ชายแบบไหน จะให้เธอตอบคนอื่นได้อย่างไร เพราะเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ชายที่เธอจะมอบหัวใจให้จะเป็นผู้ชายแบบไหนแล้วมีนิสัยเป็นอย่างไร
แก้วกัลยากับปิยะดายังนั่งคุยกันที่ริมสระอย่างสนุกสนาน โดยที่ทั้งสองไม่รู้เลยว่าตอนนี้ได้มีใครบางคนกำลังยืนมองพวกเธอทั้งสองมาจากชั้นสองของตัวตึก พร้อมกับสายตาที่มองไปยังร่างบอบบางที่นั่งสนทนากันอย่างสนุกสนานกับน้องสาวของเขา
“สาวน้อยคนนั้นเป็นใครกัน?”
//////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...