“แล้วหนูแก้วคิดหรือยังว่าจะเรียนต่ออะไร”
ยังไม่ทันที่ปิยะดาจะได้ตอบ หญิงสาวร่างระหงก็เดินเข้ามาเสียก่อน ทำให้คุณหญิงกรองแก้วต้องละสายตาจากปิยะดาแล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“หายไปไหนมาทั้งวันหนูเล็ก”
“โธ่! คุณแม่คะ หนูเล็กก็ออกไปดูหนัง เที่ยวกับเพื่อนบ้างสิคะ”
‘หนูเล็ก’ หรือ ‘แก้วกัลยา’ ตอบผู้เป็นมารดาเสียงหวาน ก่อนจะหันมามองผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่บนพื้นข้างกายมารดา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหวาน น่ารัก ดวงตากลมโตนั่นอย่างตื่นเต้น ยิ่งเห็นรอยยิ้มอ่อนหวานที่แต้มบนมุมปาก เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าโลกนี้ช่างสดใสเสียเหลือเกิน
“ใครหรือคะคุณแม่”
“หนูแก้ว หลานสาวของแม่เนียนจ้ะ”
คุณหญิงกรองแก้วตอบบุตรสาวคนเล็กด้วยสีหน้าอ่อนโยน ท่านรู้ดีว่าแก้วกัลยาจะต้องชอบปิยะดาแน่นอน ยิ่งเห็นสายตาตื่นเต้นและจ้องมองปิยะดาด้วยสายตาพราวระยับ เห็นทีความหวังของท่านคงจะไม่ไกลเกินเอื้อม หากเด็กสาวสองคนนี้ได้สนิทกัน ท่านเชื่อว่าปิยะดาจะต้องทำให้แก้วกัลยาเรียบร้อยขึ้นได้อย่างแน่นอน
“น่ารักจังเลยค่ะคุณแม่”
แก้วกัลยาเอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปหาปิยะดาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ในที่สุดเธอก็มีเพื่อนเที่ยวเสียที ต่อไปเธอก็ไม่ต้องโทรศัพท์ไปชวนเพื่อนบ่อยนัก ในเมื่อตอนนี้เธอมีหลานสาวของแม่บ้านใหญ่อยู่ทั้งคน จะออกไปไหนก็สบาย
“ต่อไปหนูแก้วจะมาพักอยู่กับเราที่นี่”
คุณหญิงกรองแก้วบอกบุตรสาว ก่อนจะก้มลงมามองบุตรสาวกับหลานสาวแม่บ้านใหญ่กำลังจับมือถือแขน แสดงอาการสนิทสนมกันจนท่านรู้สึกพอใจกับภาพที่เห็น หากท่านจะจ้างอาจารย์พิเศษมาสอนเรื่องกริยามารยาทให้บุตรสาว ปิยะดานี่แหละที่จะเป็นเพื่อนเรียนได้ดีที่สุด
“ยินดีที่ได้รู้จักนะแก้ว เราชื่อแก้วกัลยา เรียกหนูเล็กก็ได้”
แก้วกัลยาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ยิ่งมองเธอก็รู้ว่าหลานสาวของแม่บ้านใหญ่ดูจะเรียบร้อย อ่อนหวาน น่ารักและอ่อนโยนมากกว่าเธอ ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าน่าปกป้อง
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะคุณหนูเล็ก”
ปิยะดาเอ่ยตอบเสียงอ่อนหวาน พร้อมกับส่งยิ้มไปให้แก้วกัลยาอย่างเก้อเขิน อีกทั้งเธอเองก็ไม่ชินกับการที่มีคนมาแสดงอาการสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วแบบนี้ เพิ่งจะมีก็ผู้หญิงคนนี้แหละที่ทำท่าเหมือนกับรู้จักเธอมานานแล้ว
“ไม่ต้องเรียกคุณหนูเล็กหรอกแก้ว เรียกหนูเล็กก็พอ” แก้วกัลยาบอกพร้อมกับยิ้มให้กับความน่ารักของเพื่อนใหม่ จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นไปหาผู้เป็นมารดา “ให้แก้วนอนกับหนูเล็กนะคะคุณแม่” เธอเองก็อยากมีน้องสาวน่ารักแบบนี้เหมือนกัน ในเมื่อเจอคนที่ถูกใจแล้ว เธอก็โมเมรับแก้วมาเป็นน้องสาวเสียเลย
“อย่าเลยค่ะคุณหนูเล็ก แก้วเขาพักอยู่ที่เรือนกลางน้ำค่ะ”
นางเนียนเอ่ยขึ้น ก่อนจะปรายตามองไปยังหลานสาวที่นั่งทำหน้าปูเลี่ยนอยู่ข้างกายเจ้านายทั้งสองของนาง อย่าว่าแต่หลานสาวของนางเลยที่ทำหน้าอย่างนั้น นางเองยังแปลกใจกับพฤติกรรมของคุณหญิงกรองแก้วและคุณหนูเล็กเลย แต่ก็เอาเถอะนางคิดว่ามีคนรักยังดีกว่ามีคนเกลียด
“แก้วได้พักที่เรือนกลางน้ำเลยเหรอ”
แก้วกัลยาถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่แม่บ้านใหญ่บอก เรือนกลางน้ำเป็นสมบัติของพี่ใหญ่ของเธอไปแล้วไม่ใช่หรือ และพี่ใหญ่ของเธอก็ไม่เคยให้ใครเข้าไปพักที่เรือนกลางน้ำแม้แต่คนเดียว ขนาดเธอเคยขอไปนอน พี่ชายคนโตยังไม่ยอมเลย แถมยังบ่นใส่เธออีก
“แม่เป็นคนอนุญาตให้หนูแก้วไปพักเอง หนูเล็ก อีกอย่างตอนนี้ตาใหญ่ก็ไม่ได้กลับมานอนบ้านนัก ยิ่งเรือนกลางน้ำยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขืนปล่อยเอาไว้ เดี๋ยวก็โทรมกันพอดี แม่ให้หนูแก้วไปพักแหละดีแล้ว หนูแก้วจะได้ช่วยดูแล ปัดกวาด เช็ดถูเรือนกลางน้ำด้วยเลย”
ทำไมท่านจะไม่รู้ว่าเรือนกลางน้ำตอนนี้เป็นของใคร ก็ในเมื่อคนที่ท่านยกให้ไม่เคยกลับมานอนพัก ท่านก็ไม่เห็นความจำเป็นเลยที่จะปล่อยให้มันทรุดโทรมลง เพราะเจ้าของไม่มาดูแล อีกอย่างนางก็ไม่อยากให้ปิยะดาไปพักที่เรือนคนใช้ ท่านคิดว่าดีที่สุดแล้วที่จะให้ปิยะดาไปพักที่เรือนกลางน้ำ
“หนูเล็กก็ไม่ได้ว่าอะไร คุณแม่ก็พูดเสียยืดยาว”
แก้วกัลยาทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับเพื่อนใหม่ ในเมื่อตอนนี้แก้วไปนอนที่เรือนกลางน้ำ งั้นคืนนี้เธอน่าจะไปนอนคุยกับแก้วที่เรือนกลางน้ำเพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้น เพราะเธอเองก็ชอบบรรยากาศที่เรือนกลางน้ำเหมือนกัน หากไม่ติดว่าจะถูกพี่ใหญ่บ่น เธอคงจะย้ายข้าวของเข้าไปอยู่ที่นั่นแล้ว
“เอาเป็นว่าต่อไปนี้แก้วจะมาเป็นสมาชิกในบ้านเราอีกคน ยังไงหนูเล็กก็ช่วยดูแลแก้วด้วย อย่าแกล้งหนูแก้วล่ะหนูเล็ก โดยเฉพาะเรื่องแต่งตัวนะหนูเล็กนะ”
“โธ่ คุณแม่ก็ หนูเล็กอุตส่าห์คิดเอาไว้แล้วนะ ว่าจะจับแก้วเขาปรับปรุงเรื่องเสื้อผ้านะ”
“อย่าเชียวนะหนูเล็ก แม่อยากให้หนูเล็กเปลี่ยนมาแต่งตัวเหมือนแก้วมากกว่า”
คุณหญิงกรองแก้วเอ่ยออกมาในที่สุด ท่านอยากให้บุตรสาวคนเล็กปรับเปลี่ยนเรื่องการแต่งกายมากที่สุด เพราะเห็นแต่ละชุดที่บุตรสาวใส่ ท่านแทบจะเป็นลมล้มกลิ้ง เพราะมันดูไม่ได้เรื่องเลย โชคดีที่ว่ารูปร่างระหงสมส่วนยังมีส่วนเว้าส่วนโค้งออกมาให้เห็น ไม่อย่างนั้นใครๆ ก็คงคิดว่าท่านมีบุตรชายสามคนเป็นแน่
“ไม่เอาหรอกค่ะคุณแม่ หนูแก้วของคุณแม่ดูจะอ่อนหวาน นุ่มนิ่มจนเสียหมด จะให้หนูเล็กแต่งตัวแบบแก้ว หนูเล็กไม่เอาหรอกค่ะ”
แก้วกัลยาหันมามองการแต่งตัวของปิยะดาแล้วต้องส่ายหน้า เพราะเธอคงไม่มีวันใส่เสื้อผ้าแบบนี้ได้แน่นอน เพราะสำหรับเธอแล้วแค่กางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตก็ดีที่สุดแล้ว จะให้เธอมาใส่กระโปรงกับเสื้อลายน่ารัก แขนตุ๊กตา เธอคงกลายเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่นแน่
“แก้วแต่งตัวไม่ดีหรือคะ”
ปิยะดาเอ่ยถามขึ้นมาอย่างงุนงง พร้อมกับก้มหน้าลงมามองเสื้อผ้าที่เธอกำลังใส่อยู่อย่างแปลกใจ และเมื่อเห็นสายตาของคุณหญิงกับบุตรสาวคนเล็กของท่าน เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่มั่นใจ
นางเนียนได้แต่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจกับปัญหาของเจ้านายทั้งสอง ทำไมนางจะไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรคุณหญิงถึงได้พูดไปแบบนั้น ก็ในเมื่อบุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านดูเหมือนจะไม่ชอบเป็นผู้หญิงแต่ชอบเป็นผู้ชายมากกว่า เรื่องที่จะให้ใส่กระโปรงยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย
คุณหนูเล็กของนางจะใส่กระโปรงก็เฉพาะไปเรียนหนังสือเท่านั้น หลังจากกลับมาจากโรงเรียน หญิงสาวจะรีบเปลี่ยนเป็นกางเกงทันที แม้จะถูกบ่นถูกตำหนิอย่างไร คุณหนูเล็กของนางก็ไม่เคยสนใจ แถมยังชอบทำตัวเหมือนผู้ชาย เตะต่อย ทะเลาะวิวาทกับเพื่อนชายบ่อยๆ เสียด้วยซ้ำ
“เปล่าหรอก หนูแก้ว ฉันว่าหนูแก้วแต่งตัวเหมือนผู้หญิงแบบนี้แหละน่ารักแล้ว อย่าได้คิดที่จะเปลี่ยนการแต่งตัวไปเหมือนหนูเล็กเชียว เพราะฉันไม่อยากเห็นหนูแก้วแต่งตัวแบบหนูเล็ก ฉันเห็นแล้วยิ่งรู้สึกว่าฉันมีลูกชายมากกว่าลูกสาว”
คุณหญิงกรองแก้วบอกอย่างปลงๆ กับนิสัยห้าวจนเกินงามของบุตรสาว และยิ่งเห็นหลานสาวของแม่บ้านใหญ่นั่งอยู่ข้างกาย ท่านยิ่งรู้สึกอิจฉาแม่บ้านใหญ่เหลือเกิน ที่มีหลานสาวน่ารัก เรียบร้อยอ่อนหวานซะขนาดนี้
///////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...