“ค่ะ แก้วจะได้ทำตัวถูก”
“แก้วก็ไม่ต้องทำอะไรมากหรอก เพราะคุณใหญ่กับคุณกลางนะ ตัดไปได้เลย พวกเธอเป็นคนขรึมและเย็นชาอยู่แล้ว จะมีแต่ก็คุณหนูเล็กนี่แหละ”
“ทำไมจ้ะป้า?”
ปิยะดาหันมาถามผู้เป็นป้าอย่างสงสัย
“คุณหนูเล็กกับแก้วนะอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน ไปจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ให้เรียบร้อย แล้วอาบน้ำแล้วก็ไปรอป้าที่ห้อง”
“ป้าจะให้แก้วทำอะไรจ้ะ”
“เดี๋ยวป้าจะพาแก้วไปหาคุณผู้หญิง”
นางเนียนบอกหลานสาว ก่อนจะเดินไปเปิดผ้าม่านให้ในห้องมันสว่าง จากนั้นก็เดินไปสำรวจประตูหน้าตาอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย แม้เรือนกลางน้ำจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างไรนางก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะในคฤหาสน์ยังมีบรรดาหนุ่มอยู่อีกหลายคน ทั้งคนขับรถ คนสวน ทางที่ดีนางควรป้องกันเอาไว้เป็นดีที่สุด อีกอย่างห้องพักของนางกับเรือนกลางน้ำก็ไกลกันเหลือเกิน
“ห้องนี้ใหญ่จังเลยจ้ะป้า”
“มันก็ต้องใหญ่อยู่แล้วล่ะแก้ว เพราะห้องนี้เคยเป็นห้องของคุณใหญ่เธอนะ เมื่อก่อนคุณใหญ่มักจะมานอนพักที่เรือนกลางน้ำบ่อยๆ แต่ตอนนี้คุณใหญ่ไม่ได้มานอนพักที่นี่นานแล้ว เพราะส่วนใหญ่เธอจะพักที่คอนโดฯ ใกล้บริษัทฯ”
ปิยะดาพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วเก็บเสื้อผ้าของเธอใส่ลงไปในตู้ จากนั้นก็ปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วกวาดสายตามองภายในห้องนอนขนาดใหญ่ที่เธอต้องใช้เป็นสถานที่หลับนอนตั้งแต่วันนี้ไปจนครบสามเดือน
ทุกอย่างในห้องดูจะแปลกตาสำหรับเธอเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นโทนสีของห้อง และเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบและที่เธอรู้สึกชอบมากที่สุดก็คือตู้หนังสือขนาดใหญ่ที่มีหนังสือจนเต็มตู้
“ป้ากลับไปที่ห้องก่อนนะ เดี๋ยวแก้วอาบน้ำเสร็จแล้วจะตามไป”
นางเนียนหันมาสั่งกำชับหลานสาวอีกครั้ง ก่อนที่นางจะเดินออกมาจากห้องนอนของหลานสาว แม้นางจะสงสัยในความคิดของผู้เป็นเจ้านายเหลือเกิน ว่าเหตุใดถึงให้หลานสาวของนางมาพักที่เรือนกลางน้ำ แทนที่จะเป็นห้องนอนของนางหรือห้องของสาวใช้คนอื่นๆ หรือบางทีนางอาจจะคิดมากจนเกินไป บางทีคุณผู้หญิงของนางอาจจะเอ็นดูและสงสารหลานสาวของนาง
//////////
สองชั่วโมงต่อมานางเนียนก็พาปิยะดาไปพบคุณหญิงกรองแก้วภายในห้องนั่งเล่น นางเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้เป็นเจ้านายต้องการให้หลานสาวของนางช่วยงานอะไรกันแน่ เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนตอนที่นางบอกว่าจะให้หลานสาวมาอยู่ด้วยสักสองสามเดือน
“เอาไว้ให้มาอยู่กับเนียนก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้ฉันยังนึกไม่ออกว่าจะให้หนูแก้วทำอะไร”
“ขอบคุณค่ะคุณหญิง”
“ไม่เป็นอะไรหรอกเนียน อีกอย่างเนียนก็มีหลานสาวคนเดียวนี่นา จริงๆ ให้มาอยู่ที่นี่กับเนียนเลยก็ได้ ดีเหมือนกันยัยหนูเล็กจะได้มีเพื่อน”
คุณหญิงกรองแก้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ท่านเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่าหลานสาวของแม่บ้านใหญ่จะสวยน่ารักอย่างที่แม่บ้านใหญ่พูดเอาไว้หรือเปล่า
“จริงๆ เนียนน่าจะพาหนูแก้วมาพบฉันบ้างก็ได้นะ”
“ขอบคุณค่ะคุณหญิงที่เมตตาหลานสาวของอิฉัน”
นางเนียนบอกผู้เป็นเจ้านายอย่างซาบซึ้ง ยิ่งเห็นความเมตตาที่คุณหญิงมีให้หลานสาวของนางแล้ว นางก็อดตื้นตันใจไม่ได้กับความเมตตาของคุณหญิงกรองแก้ว
คุณหญิงกรองแก้ววางหนังสือลงบนตักก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองแม่บ้านใหญ่กับสาวน้อยหน้าตาน่ารัก รูปร่างบอบบางที่เดินตามหลังร่างแม่บ้านของท่านมาด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม เพียงแค่เห็นหน้าและดวงตาคู่หวานซึ้ง ท่านก็รู้สึกเอ็นดูและถูกชะตาในความน่ารักของสาวน้อยคนนี้
“มาแล้วเหรอเนียน”
“ค่ะ คุณหญิง”
นางเนียนตอบพร้อมกับเดินจับแขนของหลานสาวให้เดินตาม เพียงไม่กี่ก้าวนางก็ถึงโซฟาชุดหรูพร้อมกับนั่งลงข้างกายของผู้เป็นเจ้านาย จากนั้นก็ดึงร่างบอบบางให้นั่งลงข้างกายนาง
“นี่เหรอหลานสาวของแม่เนียน”
คุณหญิงกรองแก้วมองดวงหน้าหวานน่ารักของสาวน้อยตรงหน้าอย่างเอ็นดู ยิ่งมองใกล้ๆ ก็ยิ่งเห็นความน่ารัก ท่านรู้สึกอยากได้หลานสาวของแม่บ้านใหญ่มาเป็นคนในครอบครัวของท่านเหลือเกิน ว่าแต่ท่านจะใช้เหตุผลอะไรที่จะขอสาวน้อยคนนี้มาเป็นคนในครอบครัวของท่าน
“ค่ะ คุณหญิง”
นางเนียนตอบพร้อมกับหันไปมองหลานสาวด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“สวัสดีคุณหญิงเสียสิแก้ว”
“สวัสดีค่ะคุณหญิง”
ปิยะดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานพร้อมกับยกมือยกเจ้านายของผู้เป็นป้าอย่างนอบน้อม ก่อนจะเปิดรอยยิ้มให้อีกครั้ง เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นยามได้มองผู้สูงวัยท่านนี้ ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า แต่สายตาคู่นั้นมันชวนให้เธอรู้สึกทั้งอบอุ่นและหนาวๆ ร้อนๆ ไปพร้อมกัน
“ได้เจอตัวจริงเสียที ไหนลองขยับมาเข้านั่งใกล้ฉันหน่อยสิหนูแก้ว”
คุณหญิงกรองแก้วเอ่ยอย่างอ่อนโยน พร้อมกับใช้มือเชยคางเล็กๆ ของหลานสาวแม่บ้านใหญ่ขึ้นมาสำรวจอีกครั้ง พร้อมกับส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ดวงหน้าหวานน่ารักน่าเอ็นดูอีกครั้ง ท่านรู้แล้วว่าจะทำอย่างไรให้ท่านได้หลานสาวของแม่บ้านใหญ่มาเป็นคนในครอบครัวของท่าน
ในเมื่อท่านมีลูกชายถึงสองคน ท่านก็น่าที่จะเลือกให้ใครคนใดคนหนึ่งแต่งงานกับสาวน้อยคนนี้ เพียงแต่ท่านจะเลือกใคร ระหว่างลูกชายคนโตหรือลูกชายคนรอง เห็นทีท่านคงจะต้องให้ลูกชายทั้งสองได้เจอกับสาวน้อยผู้น่ารักคนนี้เสียแล้ว
“ฉันรู้แล้วว่าจะให้หนูแก้วทำอะไรในช่วงที่อยู่ที่นี่”
“คุณหญิงจะให้แก้วทำอะไรหรือคะ”
“นั่นสิคะ คุณหญิง”
นางเนียนเองก็สงสัยเหมือนกันว่าผู้เป็นเจ้านายจะให้หลานสาวของนางทำงานสิ่งใด เพราะนางเองสังเกตเห็นอาการแปลกๆ ของคุณหญิงอยู่ในที
“ฉันจะให้หนูแก้วมาอ่านหนังสือให้ฉันฟัง หลังจากช่วยงานเนียนเสร็จแล้ว”
ท่านหวังว่าการที่ท่านให้แม่หนูแก้วมาคอยอ่านหนังสือให้ท่านฟัง อาจจะทำให้บุตรชายทั้งสองของท่านได้เจอกับเด็กสาวคนนี้ หากมันเป็นไปอย่างที่ท่านคิด ท่านเชื่อว่าคงจะมีเรื่องดีๆ ขึ้นมาก็ได้
“ไม่มีปัญหาใช่ไหมจ๊ะหนูแก้ว”
“ไม่มีค่ะคุณหญิง”
ปิยะดาตอบคุณหญิงกรองแก้วอย่างนอบน้อม จะให้เธอมีปัญหาได้อย่างไรในเมื่อท่านเป็นผู้มีพระคุณของเธอและผู้เป็นป้า อีกทั้งท่านยังเมตตาเอ็นดูเธอ ถึงขนาดยอมให้เธอไปพักอยู่ที่เรือนกลางน้ำแทนที่จะเป็นเรือนคนใช้เหมือนสาวใช้คนอื่นๆ แค่นี้มันก็มากพอแล้วที่เธอจะยอมทำตามคำขอของท่าน
“งั้นก็เอาตามนี้ ก่อนนอนหนูแก้วต้องมาอ่านหนังสือให้ฉันฟัง บางทีช่วงเที่ยงๆ ฉันก็อาจจะให้หนูแก้วมาอ่านหนังสือให้ฉันฟังด้วย”
คุณหญิงกรองแก้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ก่อนจะมองอาการของเด็กสาวตรงหน้าอย่างชอบใจ หากบุตรสาวคนเล็กของท่านเรียบร้อยอ่อนหวานเหมือนหลานสาวแม่บ้านใหญ่ ท่านก็คงจะมีความสุขมากกว่านี้ ยิ่งนึกถึงบุตรสาวคนเล็กแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก
เพราะแก้วกัลยาไม่มีความอ่อนหวาน เรียบร้อยแม้แต่น้อย กริยามารยาทเหมือนม้าดีดกะโหลก หากมีใครสามารถทำให้บุตรสาวคนเล็กของท่านกลายเป็นคนสุภาพอ่อนหวาน ขึ้นมาได้ ท่านคงจะมอบรางวัลตอบแทนให้อย่างงาม แต่ก็ไม่แน่ ในเมื่อตอนนี้ท่านก็มีหลานสาวของแม่บ้านใหญ่ทั้งคน
หากให้เด็กสาวทั้งสองเจอกันและทำความรู้จักกัน บางทีเด็กสาวผู้น่ารักคนนี้อาจจะทำให้นิสัยของบุตรสาวท่านเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมาก็ได้
“อ้อ...ฉันเกือบลืมไป หนูแก้วเรียนจบอะไรมา”
“แก้วจบ ม.ปลายมาจากเชียงใหม่ค่ะคุณหญิง”
ปิยะดาตอบกลับอย่างอ่อนหวาน จนคนที่ฟังและคนที่กำลังเดินเข้ามาภายในห้องนั่งเล่นถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะรีบก้าวเท้าให้เร็วขึ้น เพื่อมาดูว่าเจ้าของเสียงหวานใสนั่นเป็นใคร
/////////////
...โปรดิดตามตอนต่อไป...