“กูขอตัดสินเลยว่า…ผิดทั้งคู่ บู้บี้ไม้ทำมาหากินกูไม่พอ ยังจะพูดถึงคนแบบนั้นอีก พวกมึงเสียบให้กูทั้งหมดเลยนะ กูจะไปซื้อเต้าหู้ชีส” ฉันวางของในมือแล้วลุกขึ้น คว้ากระเป๋าสะพายเดินออกจากห้อง
ฉันชื่อพริกหวาน อายุ 33 ปี อาชีพก็ขายหม่าล่า ขายดีมาก ๆ อยากจ้างคนช่วยแต่ก็เสียดายเงิน ทั้งยังไม่ชอบความวุ่นวายจึงจัดการทุกอย่างเอง เหนื่อยหน่อยแต่รู้สึกโอเคมาก เมื่อก่อนได้เพื่อนทั้งสองที่ทำงานกลางคืนสละเวลามาช่วยเตรียมของในตอนสาย ๆ ลิลลี่กับยลลี่ทำงานที่เดียวกัน รักใคร่กันดีบางทีก็แทบจะกัดกันอะไรทำนองนั้น ตอนนี้ทั้งคู่เลิกรับจ้างคนอื่นแล้วมาร่วมหุ้นลงทุนทำร้านเมารักด้วยกัน กัดกันมากกว่าเดิมหลายเท่าเลยจ้า
หมับ! ข้อมือฉันถูกคว้าไว้ ด้วยความตกใจฉันกระชากกลับทว่าคนที่จับก็ดึงฉันเข้าหาตัวเขา กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ที่คุ้นเคยทำให้ฉันเงยหน้ามองอย่างเต็มตา
“มีอะไรอีก”
“เมื่อคืนเฮียรออยู่หน้าห้องตั้งนาน”
“แล้วยังไง ไม่ได้บอกให้รอ”
“อยากรอ”
“เพื่ออะไร”
“เฮียมีเรื่องจะคุยด้วย”
“ไม่อยากฟังไม่อยากพูดด้วย เลิกบ้าและช่วยหนีไปไกล ๆ ได้ไหม”
“หมวย…”
“…”
“เฮียอยากคุยด้วย คุยกันนะ”
“ในเมื่อเลือกมันแล้วจะมายุ่งกับพริกทำไมวะ อยากได้ครอบครัวสุขสมไม่ใช่เหรอ รักมันมากก็ปรับตัวให้เข้ากับมันสิ จะมาวุ่นวายกับพริกทำไม ตอนนั้นเฮียไม่สงสารพริกตอนนี้เฮียก็ไม่สงสารพริกเหรอ ใจร้ายใจดำกับพริกเกินไปไหม พริกเป็นคน มีหัวใจ เมื่อก่อนพริกรักเฮียจนแทบบ้าแต่เฮียบอกว่าเฮียไม่รักพริก ไม่เลือกพริก ตอนนี้เฮียแต่งงานกับคนที่รักไปแล้ว จะมาอะไรกับพริกอีก เมื่อไหร่จะเลิกเห็นพริกเป็นของตายสักที” ฉันพูดยาวเหยียดก่อนจะเดินหนี
เมื่อก่อนเป็นเขาที่เดินหนี เมื่อก่อนเป็นเขาที่ออกปากไล่ เป็นฉันที่วิ่งตามเป็นคนบ้า ยอมเขาทุกเรื่องเพราะอยากจะให้เขารัก
แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยเลือกฉัน ที่หนึ่งของเขาคือผู้หญิงคนนั้น ไหนว่าให้เป็นพี่น้องตอนนี้มายุ่งกับฉันทำไม หลายปีที่ผ่านมาฉันยังเสียใจเพราะเขาไม่พอหรือไง