อุณหภูมิ ณ เวลานี้ช่างพอเหมาะพอเจาะเสียเหลือเกินกับการนอนให้สบายใจโดยไม่ต้องรีบร้อนลุกไปไหน ช่วงเช้ามืดแบบนี้อาจหนาวเกินไปสำหรับคนอื่น แต่มันพอดีสำหรับศศิธิดา
เมื่อคืนเธอดื่มหนักไปหน่อย ทำอย่างไรได้เล่าก็ในเมื่อต่อไปนี้จะไม่ค่อยได้เจอกับพวกนั้นอีกแล้วนี่นา ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง ใครยังไม่จบอย่างกมลก็กลับไปเรียน ส่วนที่จบแล้วแบบเพื่อนคนอื่นคงได้งานทำเป็นหลักแหล่งบ้างแล้ว
เธอเองไม่คิดจะออกไปสมัครงานที่ไหนเพราะตั้งใจจะช่วยพ่อจ๋าและแม่จ๋าของเธอทำงานในไร่ นี่ต่างหากที่เธอตั้งใจมาตลอด
หญิงสาวอ้าปากหาวเสียกว้างทั้งๆที่ตายังปิดสนิทอยู่ นอนคว่ำอยู่ท่าเดิมอย่างนั้น ใบหน้าเนียนใสแทบเห็นเส้นโลหิตตะแคงหันไปด้านข้างฝั่งที่เป็นหน้าต่างของห้องนอน แล้วค่อยๆดันตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อนึกได้ว่าวันนี้แม่จ๋ามีเรื่องจะใช้ให้เธอไปทำธุระ
เจ้าหล่อนขยี้ตา ตวัดขาลงเตียงเพื่อจะเข้าห้องน้ำ แม้เพิ่งตื่นแต่ไม่ลืมเอื้อมมือกดชักโครกไล่น้ำทิ้งก่อนหนึ่งรอบตามความเคยชิน
นิ่ง สนิท น้ำในชักโครกไม่ทำงานตามหน้าที่ของมัน หญิงสาวลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมองดูรอบๆห้องน้ำ ค่อยระลึกได้ว่าที่นี่คือบ้านของตนเอง เมื่อวันที่ไปมหาวิทยาลัยเธอลืมบอกให้พ่อจ๋าว่าห้องน้ำของเธอมีปัญหาเรื่องน้ำไม่ไหล บ่นงึมๆงำๆปนความง่วงงุน
“ส้วมเป็นอะไรนักหนาวะ โอย...ง่วงก็ง่วง แม่จ๋านะแม่จ๋าทำไมต้องหางานให้อินทำวันนี้ด้วย!”
บ่นห้องน้ำจบ ไม่วายบ่นไปถึงผู้มีศักดิ์เป็นยายแต่เธอเรียกจนติดปากว่า ‘แม่จ๋า’ ค่อยเยื้องย่างตรงไปยังประตูห้อง ไม่ลืมหยิบผ้าขนหนูขึ้นพาดบ่าไปด้วย จุดหมายคือห้องรับแขกข้างๆที่มันว่างมาตลอด นานทีถึงจะเปิดรับแขกตามชื่อเรียกของมัน หากจะมีแขกมาเยือนก็มักเป็นเพื่อนที่มหา’ลัย พวกนั้นชอบมาเที่ยวเล่นที่บ้านสวนแห่งนี้ ดวลเหล้ากับพ่อจ๋าโดยมีเธอสมทบด้วยแล้วถึงพากันเมาหลับอาศัยนอนกันในนั้น
ตาที่ยังไม่ลืมดีทำท่าจะปิดลงอีก จนต้องขืนมันขึ้นใหม่ ถ้าวันนี้แม่จ๋าไม่ใช้ให้เธอไปทำธุระแทนเธอไม่มีทางตื่นในเวลานี้แน่
ลูกบิดประตูห้องรับแขกถูกหมุนบิดเปิดออก หญิงสาวสาวเท้าเดินตรงไปที่ห้องน้ำด้วยความคุ้นเคยเพราะที่ห้องของเธอมีปัญหาเรื่องส้วมบ่อยจนต้องพึ่งพาห้องน้ำห้องข้างๆนี่เป็นประจำ
แต่แล้วภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้ศศิธิดาตาสว่างขึ้นมาในทันที
ชายหนุ่มคนตรงหน้าของเธอ ทำไมถึงได้คล้ายตาแว่นที่เจอในร้านของพี่ปูนเมื่อคืนนี้ เขากำลังยืนหันข้างให้ มือของเขากุมอยู่ที่ระดับกึ่งกลางลำตัว ก็ตรงเป้ากางเกงนั่นแหละ
แล้วก็...แล้วก็ ขยับขึ้นๆลงๆ อุจาดตาที่สุด
อี๋!
เธอไม่ใช่สาวใสไร้เดียงสาที่จะมองไม่ออกว่าตาแว่นนี่กำลังทำอะไรอยู่ โอเคเธอรู้เรื่องสิบแปดบวกมาค่อนข้างเยอะ ทฤษฎีแน่นเชียวล่ะ เพื่อนผู้ชายก็มีมากกว่าครึ่งแต่ไม่เคยมีใครทำอะไรทำทุเรศขนาดนี้ให้เธอเห็นมาก่อน
“ว๊าก!”
เสียงหวานใสโวยลั่นขึ้นทันที ตั้งใจจะเรียกคนทั้งบ้าน จนชายคนที่ยืนทำท่าอุจาดตาชะงักมือ หันมองเธอด้วยความตกใจแล้วรีบหลบไปอีกทาง ไม่นานเสียงฝีเท้าที่พอเดาได้ว่าต้องเป็นของพ่อจ๋าและแม่จ๋าก็พากันกรูมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนี้
“เป็นอะไรลูก” หญิงสูงวัยร้องถามขึ้นทันทีที่มาถึง
“แม่จ๋า โจรจ้ะโจร โจรขึ้นบ้านเรา ไอ้โจร ไอ้ขี้ขโมย มันขึ้นบ้านเราแต่เช้าเลย แล้วมันยังมาทำ...มาทำลามกในบ้านเราอีก อี้...”
ศศิธิดาฟ้องเสร็จ กอดเอวหนาอวบของผู้เป็นยาย ซุกหน้าเข้ากับอกอุ่นๆของหญิงสูงวัยไว้มั่น พอทำใจได้ค่อยเบือนหน้าออกมาส่งสายตาเอาเรื่องไปยังชายแปลกหน้าคนนั้น หัวสมองแล่นฉิวนึกหาวิธีป้องกันตัว เอี้ยวคอหาอุปกรณ์ต่อสู้กับไอ้โจรบ้าที่บังอาจบุกเข้ามาในบ้านใหญ่ของพ่อจ๋าและแม่จ๋าในเวลาเช้าตรู่เช่นนี้
พอจำได้แล้วว่านายนี่คือคนคนเดียวกับตาแว่นที่เธอเจอในร้านของพี่ปูน แล้วทำไมตอนนี้ทำไมเขาถึงมาอยู่ในบ้านของเธอได้เล่า
นึกแล้วว่าต้องเป็นพวกไม่น่าไว้ใจ หน็อยทำมาบ่นเธอเมื่อคืนนี้ ที่แท้ก็เป็นโจรนี่เอง ว่าแต่...แล้วเข้ามาในบ้านนี้ได้อย่างไร
“ใจเย็นลูก นั่น ดร.ปราชญ์ พี่เขาเป็นนักวิชาการ หลานของเพื่อนพ่อจ๋าเอง พี่เขาจะมาอยู่กับเราที่นี่ซักระยะ”
ดร.ปราชญ์ที่แม่จ๋าเพิ่งแนะนำไปนั้น มองสบตาเธอด้วยรอยยิ้มที่เธอเห็นแล้วไม่ชอบใจอย่างที่สุด เขาค่อมศรีษะให้เธอเล็กน้อยคล้ายทักทาย แม้ริมฝีปากจะแย้มอย่างสุภาพ แต่สายตาที่ใช้มองมานั่น มันทำให้เธอหงุดหงิดในหัวใจที่สุด
ลางสังหรณ์บางอย่างผลิพุ่งขึ้นมาในหัวของศศิธิดา
“แล้วมายืนทำ... (บ้า) อะไรในนี้เล่า นี่มันกลางวันแสกๆนะแม่จ๋า” หญิงสาวไม่กล้าออกเสียงคำในวงเล็บ เห็นทีท่าของผู้ใหญ่แล้ว ตาแว่นนี่คงอยู่ในฐานะที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน เธอไม่กล้าก้าวร้าวหรอก ต่อหน้าพ่อจ๋าแม่จ๋าน่ะ แต่ถ้าลับหลังแล้วก็อีกเรื่อง
“อ้อ พอดีว่าผมกำลัง...”
เขาชี้มือไม้บอกเป็นนัยว่ากำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ แล้วบอกถัดมาคล้ายต่อว่าเธอกลายๆ “แต่พอดีว่าซิปมันติดน่ะครับ แล้วนี่ก็ห้องพักของผม ไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาโดยพลการแบบนี้”
“ห้องน้ำอิน น้ำไม่ไหล อินก็เลยมาเข้าห้องนี้แทน ใครจะนึกว่าเป็นแขกล่ะ บ้านนี้ไม่เคยมีใครมาพัก อินก็นึกว่าโจรก่อนเลยสิ” ศศิธิดารีบออกตัวไม่วายเหน็บตาแว่นในตอนท้ายๆกลับไปด้วย
“ไหนว่าดูแลตัวเองได้ กับแค่เห็นคนแปลกหน้าในบ้านยังร้องแร่แห่กระเชอเสียขนาดนี้” แม่จ๋าย้อนยิ้มๆ