27.สร้างโอกาส

1243 คำ
@เช้าวันใหม่ พิทยาพาร์ท--ปารดีตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อไปทำงานตามปกติโดยมีพิทยาไปส่งที่โรงพยาบาลเหมือนเคยแต่แปลกตรงที่ไม่มีปิ่นโตมาด้วยเพราะเขาจะเป็นคนปรุงอาหารให้เธอในทุก ๆ เช้า และเย็นเอง ยกเว้นมื้อกลางวันที่เขาจะสปอยล์คนตัวเล็กให้กินอาหารที่อยากกินได้เพียงหนึ่งมื้อเท่านั้น หลัก ๆ แล้ว สาวเจ้าใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลเสียมากกว่าเพราะหลังจากกลับมาก็ลุยเวรต่อเนื่องกันยาวเลยทีเดียว ส่วนผมน่ะเหรอก็มีหน้าที่ส่งอาหารอีกตามเคยในวันที่เธออยู่เวร วนไปอยู่อย่างนี้ก็มีความสุขดี และวันนี้เป็นวันที่คนตัวเล็กของผมปลอดเวร นี่คือคำพูดของชาวสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ยันลูกจ้างที่ต้องขึ้นเวร เป็นวันที่พวกเขารู้สึกผ่อนคลายบ้างเล็กน้อยเพราะไม่ต้องเครียดเรื่องเวรจะเจออะไร คนไข้แบบไหนบ้าง ผมออกจากบริษัทไปรอเธอที่เดิมที่ที่เคยรอ และส่งข้อความไปหา สักพักก็ปรากฎสถานะว่าอ่านแล้ว และพักใหญ่ก็เห็นคุณหมอตัวเล็กของผมเดินออกมา แต่วันนี้มีคุณหมอหนุ่มเดินเคียงคู่มาด้วยผมต้องทำยังไง คงต้องดูท่าทีของคุณหมอของผมไปก่อน อีกด้าน "พี่พิทสวัสดีค่ะ รอหนูนานมั๊ยคะ/เอิร์ธนี่พี่ชายเรานะ/(ส่วนอีกคนยกมือไหว้ผู้มีอาวุโสกว่าอย่างรู้มารยาท) สวัสดีครับ/พี่พิทคะนี่เพื่อนหนู ชื่อเอิร์ธค่ะ มาทำงานใช้ทุนที่นีเหมือนกันค่ะ…/อ้อ …หวัดดีครับ (พิทยายกมือรับไหว้อย่างรักษามารยาทเช่นกัน) เราไปก่อนนะ/อือ บาย หลังร่ำลาเพื่อนเสร็จจึงหันมายิ้มน่ารักให้คนตัวโต "ไปค่ะพี่พิท หนูอยากกินปลาทอด ไข่ต้ม น้ำพริก แล้วก็ผักต้มจัง พี่พิททำให้หนูกินหน่อยได้มั๊ยคะ ถ้าแม่อยู่ก็คงดี" "ได้ซิ แต่เป็นคุณตากับคุณยายนะ" พิทยาพูดยิ้ม ๆ "หมายความว่าพี่พิทจะพาหนูไปบ้านพี่พิทเหรอคะ ไปค่ะ หนูคิดถึงฝีมือคุณตาคุณยายจะแย่ ไปค่ะรีบเลย กว่าจะกินเสร็จกว่าจะกลับคอนโดอีก หนูต้องนอนแต่หัวค่ำ พรุ่งนี้มีเวรอีกแล้วค่ะ" "อืม ได้ซิแต่ไปนอนที่นู่นนะจะได้ไม่ต้องเทียวมาเทียวไป" "เหรอคะ ต้องโทรถามคุณแม่ก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูของโทรแป๊บ" ว่าแล้วก็ต่อสายหามารดาทันที สายโทรออก สักพักก็ได้ยินเสียงปลายสายรับสายจึงกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ทันที ปารดี: แม่จ๋า หนูจะขออนุญาตไปกินข้าวเย็นบ้านคุณตาคุณยาย แล้วพี่พิทชวนนอนที่นู่นเลยแม่จะอนุญาตมั๊ยคะ ดวงใจ: แล้วหนูว่าไงล่ะลูก ปารดี: หนูคิดถึงฝีมือคุณตาคุณยายค่ะ แต่ถ้าจะให้พี่พิทเทียวไปเทียวมาหนูก็เกรงใจ ก็เลยจะขออนุญาตคุณแม่นอนนั่นเลย ดวงใจ: แม่แล้วแต่หนูเลยลุก หนูโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แล้วพี่เค้าก็โทรมาขออนุญาตแม่กับป้าแล้วค่ะ ปารดี: เหรอคะ ป้าแก้วก็ทราบเหรอคะ งั้นหนูจะไปค่ะ แล้วแม่เมื่อไรกลับคะหนูคิดถึง ดวงใจ: เสร็จเรื่องเสร็จราวแม่ก็คงกลับแล้วลูก เอาเป็นว่าแม่กับป้ารับรู้และอนุญาตแล้ว หนูไปเถอะ ปารดี: ค่ะแม่ รักแม่กับป้าแก้วนะคะ สวัสดีค่ะ กดวางสาย ส่วนคนที่ยืนฟังอยู่ไม่ไกลได้ยินมันชัดเจนและรู้สึกเอ็นดูและสงสารสาวเจ้าในคราวเดียวกัน "ปะ ไปกันเถอะ คุณตาคุณยายรอกินข้าวแล้ว เดี๋ยวแวะไปเอาชุดทำงานที่คอนโดก่อน" พร้อมกับยืนมือไปข้างหน้าลักษณะหงายมือเพื่อรอรับมือเล็ก ส่วนปารดีได้แต่แปลกใจเล็กน้อยเพราะคนพี่มีแววตาที่จริงจังกว่าทุกครั้งแต่ก็ยื่นมือออกไปวางมือบนมือใหญ่ ทันทีที่มือเล็กสัมผัสมือใหญ่ คนตัวโตก็สอดประสานนิ้วมือมืออย่างแนบแน่นกับมือเล็ก และเดินไปด้วยกันอย่างเงียบ ๆ จนถึงรถยนต์ที่จอดไว้ ส่วนคนตัวเล็กนึกแปลกใจอยู่ลึก ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร @บ้านบริรักษ์คุณากร ทันทีทีก้าวเท้าเข้ามาข้างในบ้านปารดียกมือกระพุ่มไหว้ผู้ใหญ่ของบ้านที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว และก็ได้ยินเสียงทักทายจากสองสามีภรรยาอย่างอบอุ่น “หนูปริมมาแล้วเหรอลูก คุณยายทำน้ำพริกหนุ่ม ไข่ต้ม แล้วก็ปลาสลิดทอดไว้รอน่ะ กำลังอุ่น ๆ พอดีเลย ไปล้างไม้ล้างมือมากินกันเร็ว ข้าวของวางไว้นี่ก่อน กินเสร็จค่อยเอาขึ้นไป ตบท้ายด้วยชมพู่กรอบ ๆ ไม่หวานมากลูก” คุณนายพิชญาเชิญชวน “ใช่ลูกฝีมือคุณนายพิชยาอย่างงี้เลยลุก คุณตากินจนลงพุงหมดแล้วนี่” พัฒนาพูดพร้อมกับลูบพุงน้อย ๆ วนไป และได้ยินเสียงหัวเราะของคุณนายพิชญาตามมา "ปะ ไปพี่พาไปล้างมือ จะได้มากินข้าว ไหนคิดถึงฝีมือคุณแม่" พิทยากล่าว "ค่ะ" ปารดีรับคำอย่างว่าง่าย ส่วนสองสามีภรรยาได้แต่สบตากันอย่างมีนัยยะ หลังจากล้างมือเสร็จทั้งสองจึงมานั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย "อันนี้ แกงจืดแตงกวาลุก ลองชิม รับรองไม่มีที่ไหนทำได้อร่อยเท่านี้อีกแล้ว" คุณนายพิชญาพูดพร้อมกับตักแกงจืดใส่ถ้วยเล็ก ๆ ให้สาวเจ้า "ขอบคุณค่ะคุณยาย ..อื้อ อร่อยค่ะไม่คาวค่ะ รสชาติกำลังดีเลยค่ะ หนูไม่เคยกินแกงจืดแตงกวาเลยค่ะ มันเป็นแบบนี้เอง" ปารดีรำพึงรำพรรณ "อยากทำมั๊ยล่ะ เดี๋ยวคุณยายสอนให้" "แฮร่…หนูว่าหนูไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ค่ะ แม่หนูบอกว่าคนเรามันมีความถนัดที่แตกต่างกันออกไปค่ะ เป็นหมอที่ดีก็พอ" "อืม คุณตาเห็นด้วย กินกินกินลูกจะได้เอาของขึ้นไปเก็บ พักผ่อน" คุณพัฒนาตัดบท หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็รับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยจนอิ่มหนำสำราญ ตามด้วยผลไม้ แล้วนั่งคุยกันสักพักจึงเอาของขึ้นไปเก็บ @ห้องพักปารดี "คืนนี้ปริมนอนห้องนี้นะ เป็นห้องรับแขก ส่วนห้องพี่อยู่ด้านโน้น ห้องคุณตาคุณยายอยู่ถัดไปจากห้องพี่ ส่วนห้องถัดไปอีกฝั่งกับห้องพี่เป็นห้องพี่ภัทรา" พิทยาอธิบายยืดยาว "ออค่ะ แค่รู้ว่าปริมนอนห้องนี้ก็พอค่ะ ขอบคุณนะคะ" ปารดีตัดบท "ปริม…" / "คะ" / "กลัวผีมั๊ย" / "อืม ผีไม่มีจริงมั๊งคะ ปริมว่าปริมมาดีท่านคงไม่มาให้เห็นหรอกค่ะ อีกอย่างตอนเรียนปริมก็เจออาจารย์ใหญ่อยู่นะคะ แฮร่.." “เหรอ…งั้นพี่ไปนะ ถ้ามีอะไรโทรเรียกพี่ได้เลยนะ" / "ค่ะ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็หันหลังเดินออกมาแต่มุมปากยกยิ้ม ส่วนอีกคนที่บอกว่าผีไม่มีจริงมั๊งคะ ได้แต่กวาดตามองไปรอบ ๆ ห้อง แล้วรีบหยิบผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าสำหรับนอนเข้าไปในห้องน้ำอย่างไว "หึหึ" เสียงหัวเราะของคนตัวโตที่แอบมองอยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม