ทางด้านเขตแดนที่เดินทางมาในงานฌาปนกิจของนายชัย ในฐานะนายใหญ่ของแก้วตา และหนีบพรมแดนมาด้วยในฐานะคนสนิทและบิดาของภรรยาเจ้านายคนปัจจุบันจึงเป็นการไม่เสียมารยาทเท่าไร
พรมแดนพาร์ท
การมางานศพในครั้งนี้มันมีเรื่องสะกิดใจอยู่หนึ่งอย่างตรงที่นามสกุลผู้ตายคือ เลิศปิติสุข ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกันกับนายเชิด ผู้ต้องขังคดี ฆ่านายพีรพัฒน์ สามีของดวงดาว ผมได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ และที่แปลกคือแก้วตายังใช้นามสกุลเดิมทั้งที่จดทะเบียนสมรสกันแล้ว ซึ่งผู้ชายที่รักภรรยามาก ๆ ส่วนใหญ่จะให้ภรรยามาใช้นามสกุลของตัวเองแต่นี่แปลก??? หรือครั้งนี้มันจะโยงไปถึงคดีของนายปราบเพื่อนรักของเขาก็เป็นได้จึงตัดสินใจเล่าให้พี่ชายที่นับถือฟัง
"เฮียเขตครับผมมีเรื่องสงสัย เรื่องนามสกุลของนายชัย เหมือนนามสกุลของนายเชิดเลยครับ และชื่อของสองคนก็ยังพ้องกันอีก คนนึ่งชื่อเชิด คนนึงชื่อชัย" พรมแดนกล่าว
"แล้วนายคิดว่ายังไงล่ะ" เขตแดนกล่าวราบเรียบ
"เฮียรู้อะไรมาก็บอกผมเถอะครับ ที่นายเชิดบอกผมเรื่องคนที่ฆ่านายพัฒน์เป็นคนของนายปราบ แต่ไม่ได้หมายความว่านายปราบจะรู้เห็นเป็นใจด้วยก็ได้นะครับเฮีย" พรมแดนให้เหตุผล
"อือ นายเดาถูกแต่ใครล่ะที่เป็นคนบงการ แล้วนายเชิดจะยอมเปิดปากบอกเรามั๊ย ถ้าคนบงการไม่ใช่นายปราบก็เท่ากับว่านายเชิดเป็นพยานปากสำคัญ แล้วครอบครัวของนายเชิดล่ะจะเป็นยังไง" เขตแดนขยายความต่อ
"เฮียกำลังพูดให้ผมกลัวนะครับ แสดงว่ามันเป็นคนรู้จัก ใกล้ตัวเราเหรอครับเฮีย"
"เฮ๊อ..ไม่รู้ซิเฮียก็กำลังสืบอยู่ แล้วนายล่ะคิดยังไงบ้าง" เขตแดนถามกลับ
"แต่ที่ผมมั่นใจคือนายปราบไม่เกี่ยวข้อง ถึงมันจะเป็นคนอารมณ์ร้อนวู่วาม แต่มันก็จริงใจ รักใครรักจริง ผมมั่นใจว่ามันไม่ใส่ร้ายผมแน่นอน แล้ววันนั้นที่ผมถูกยิง ผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่ากระสุนนั้นไม่ได้ออกจากปลายกระบอกปืนของมัน แต่มันมาจากทางไหนผมก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่ามันเล็งปลายกระบอกปืนมาทางผมเพื่อเล็งเห็นผลด้านหลังผมต่างหาก ก่อนที่ผมวูบไป" พรมแดนยืนยัน
"นายกำลังจะบอกว่านายปราบต้องการจะปกป้องนายงั้นเหรอ"
"ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น แต่ผมใจเสาะหมดสติไปก่อนก็เลยไม่รู้ว่าปราบตายยังไง ใครยิงปราบ แล้วตำรวจมาได้ยังไง ผมจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยครับเฮีย ผมอยากให้ปาฏิหาริย์มีจริง อยากให้นายปราบยังมีชีวิตอยู่เรื่องมันคงกระจ่างมากกว่านี้"
"เอาเถอะ อย่าเพิ่งคิดมากไป เราต้องกลับไปหานายเชิดอีกครั้งนึง เฮียจะไปกับนายด้วย และอีกที่คือครอบครัวของนายเชิด"
________________________
หลังจากเสร็จจากงานศพของลุงชัย ปารดีตัดสินใจว่าถ้าทำงานใช้ทุนเสร็จแล้วจะทำเรื่องขอย้ายมาประจำอยู่ที่โรงพยาบาลของรัฐในจังหวัดภูเก็ตเพื่อดูแลป้าและมารดาจะได้ไม่เหงาอีกด้วย แต่เธอยังติดเรื่องใช้ทุนอีกหนึ่งปีเต็ม จึงได้ให้มารดาอยู่เป็นเพื่อนป้าแก้วไปสักหนึ่งสัปดาห์ ส่วนตัวเธอกลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ พร้อมกับพิทยา เธอคิดว่าการอยู่กรุงเทพฯ เพียงคนเดียวที่คอนโด เธอคงต้องแข็งแกร่งและควรดูแลตัวเองให้ได้กว่านี้
@คอนโดปารดี
ด้านพิทยา-หลังจากการเดินทางที่แสนเหน็ดเหนื่อยพิทยาก็พาคุณหมอปารดีมาส่งถึงคอนโดโดยสวัสดิภาพในที่สุดและยืนยันว่าจะอยู่เป็นเพื่อนสาวเจ้าจนกว่ามารดาของสาวเจ้าจะเดินทางกลับมาอยู่ด้วย
"พี่พิทยากลับบ้านเถอะค่ะ ปริมอยู่ได้ ไม่มีอะไรน่าห่วง หรือไม่ปริมก็จะนอนที่ห้องพักแพทย์เลย ถ้าเข้าเวรดึก ตกลงมั๊ยคะ ป่านนี้คุณตากับคุณยายคิดถึงแล้ว แล้วนี่โทรหาที่บ้านหรือยังคะว่าถึงกรุงเทพฯ แล้ว" ปารดีบ่นยืดยาว
"โทรแล้วครับ และยังบอกอีกว่าจะนอนที่คอนโดเป็นเพื่อนหนูอีกด้วย" พิทยาสาธยายต่อ
"พี่พิทค๊า ทำไมเป็นคนแบบนี้เนี่ย แล้วคุณตาคุณยายจะคิดยังไงค๊า ไม่คิดว่าหนูยื้อตัวพี่ไว้เหรอ ไม่ดี ไม่เอา พี่กลับบ้านไปเลยไป" ปารดีพูดพร้อมกับผลักหน้าอกคนตัวโตไม่หนักและไม่เบาจนเกินไปแต่คนตัวโตดึงข้อมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กมารวบไว้เพียงมือเดียว แล้วเอื้อมมืออีกข้างไปรวบเอวของคนตัวเล็กมากอดไว้อย่างแนบแน่น
"ไม่ไปครับ พี่จะนอนนี่ ถ้าไล่พี่อีกคำเดียวเราจะนอนด้วยกัน…แบบไม่มีเสื้อผ้าอีกด้วย" ปารดีได้แต่ทำตาโตหน้าตาตื่นตกใจไม่คิดว่าคนที่สุภาพเรียบร้อยจะหายเข้ากลีบเมฆไปเร็วขนาดนี้ รีบเอามือปิดปากตัวเองพร้อมกับพยักหน้าหงึกหงักเป็นอันรับรู้เข้าใจ
"หึหึ ดีมากเด็กน้อย ทีนี้ก็ไปอาบน้ำได้แล้วนะ พี่ก็อยากอาบเหมือนกัน เตรียมผ้าขนหนูให้พี่ด้วย ส่วนชุดนอนก็เอาตัวที่ใหญ่ที่สุดของหนูนั่นแหละ เพราะเสื้อผ้าที่เตรียมไปถูกใช้หมดแล้ว พรุ่งนี้จะไปเอาที่บ้านมาไว้ที่นี่เสียด้วยเลย" พิทยาอธิบายยิ้ม ๆ
"เออ….พี่พิทคะถ้าแม่โทรมาจะว่าไง หนูไม่อยากให้แม่ผิดหวังในตัวหนู หนูกลัวแม่กับป้าคิดว่าหนู…." ปารดีพูดอย่างกระอักกระอ่วน
"หนูกลัวอะไรคะ ไหนลองบอกพี่พิทซิ๊" พิทยาแกล้งหยอก
"พี่พิทคงไม่ทำอะไรไม่ดีกับปริมใช่มั๊ยคะ…..แฮร่" ปารดีใจดีสู้เสือ
"ก็ไม่แน่..หึหึ" พิทยาแกล้งต่อ
"เอ่อ ปริมว่าปริมไปอาบน้ำห้องแม่ดีกว่าค่ะ ส่วนพี่พิทปริมยกห้องของปริมให้พี่พิทไปเลยดีกว่า เดี๋ยวปริมหาชุดนอนให้" ว่าแล้วหญิงสาวก็ค้นหาชุดนอนที่ใหญ่ที่สุดมาวางพาดบนเตียงเตียงพร้อมกับผ้าขนหนูแปรงสีฟันชุดใหม่ และรีบหยิบของใช้ส่วนตัวของตัวเองไปอีกห้องอย่างรวดเร็ว
กึ่บ เสียงปิดประตูห้องของคนตัวเล็ก
"หึหึ ปอดแหกขึ้นมาละซิ ถ้าจะทำจริง ๆ เธอไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้หรอกปารดีเอ๊ย"