"ส่วนนาย นายยังมีน้องปริมกับพี่สาวที่รอนายอยู่นะ ไม่ใช่ตัวคนเดียว อีกอย่างเรื่องเมียนาย ผู้หญิงน่ะถ้าไม่รักไม่ครองตัวเป็นโสดมานานขนาดนี้หรอก แล้วไหนจะชื่อลูกก็ปารดี มีพยัญชนะของแม่สักตัวที่ไหน" เขตแดนเตือนสติเพื่อนของผู้ที่รักเสมือนน้องชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเพราะกังวลในความห่ามของเขาเหลือเกิน
"ครับเฮีย ผมไม่ตายง่าย ๆ หรอกครับ ผมยังไม่ได้อยู่กับเมียกับลูกเลย หึหึ"
"ปากดีไปเถอะมึง มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ" เขตแดนสบถบ่นเพราะสองคนนี้ไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไร
"ครับ ผมรู้ครับ ผมถึงเขียนบทให้ตัวเองตายยังไงครับ" ปราบกล่าวยิ้ม ๆ
"ไหน ๆ ก็มาแล้วคุยกันหน่อยซิ พวกนายมั่นใจใช่มั๊ยว่าไม่ถูกตาม" เขตแดนเอ่ยถามขึ้นเพราะไม่ไว้ใจในความเจ้าเล่ห์ของศัตรู
"ก็ไม่รู้ซิครับ แต่ผมก็มีแผนของผมเหมือนกัน แล้วเฮียจะบอกพวกผมได้หรือยังว่ามันเป็นใคร" พรมแดนเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่จริงจัง
"นั่นนะซิ นี่พวกเราจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศัตรูของเราเลยเหรอ?" ปราบสนับสนุนด้วยอีกคน และเป็นครั้งแรกที่เขาพูดดูการเป็นงานที่สุด
"ไม่รู้ซิ แต่ถ้าจะให้เดาก็น่าจะเป็นไอ้ปริญ มันเป็นลูกพี่ลูกน้องของเฮียเองนี่แหละ" เขตแดนเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย
"แล้วเฮียรู้มั๊ยครับว่าเค้าอยู่ที่ไหน หน้าตาเป็นไง มีใครบ้างที่เป็นแขนเป็นขา" ปราบซักอย่างตรงไปตรงมา
"หน้าตาน่ะคล้าย ๆ เฮียนี่แหละแต่มองดี ๆ จะไม่เหมือน อะนี่เอาไปดู ส่วนเรื่องใครเป็นแขนเป็นขาให้มันบ้าง เฮียไม่รู้เลย" เขตแดนกล่าวอย่างเหนื่อยหน่าย
"เฮียครับ เฮียจำที่นายเชิดพูดได้มั๊ยครับมีคนที่โยนความผิดให้เค้า ผมสงสัยนายภพครับ" พรมแดนเอ่ยขึ้นอย่างนึกอะไรได้
"ทำไมนายถึงคิดอย่างนั้นล่ะ เพื่อนนายอีกคนไม่ใช่เร๊อะ" เขตแดนพูดยิ้ม ๆ พลางนึกในใจว่าน้องชายของเขาฉลาดขึ้นมาบ้างแล้วจริง ๆ
"เฮียรู้อยู่ก่อนแล้วใช่มั๊ยครับ" พรมแดนคาดเดา
"เออ" เขตแดนตอบเรียบ ๆ
"แล้วทำไมเฮียไม่บอกผมล่ะครับ" พรมแดนคาดคั้น
"ก็เพราะเฮียเค้าบอกแล้ว กุจะเป็นคนดีที่น่าสงสารขึ้นมาทันทีไง จริงมั๊ยครับเฮียเขตแดนผู้ยิ่งใหญ่" เป็นปราบที่โพล่งขึ้น
"สัด" เขตแดนสบถคำโต เขตแดนได้แต่สบถบ่นในใจ
"ว่าแต่เฮียจะเล่าได้หรือยังครับว่ามันมีความเป็นมายังไงถึงได้โกรธกันเอาเป็นเอาตายขนาดนี้น่ะครับ"
"อื่อ ถ้าเป็นนายปริญจริงนะ ก็มีอยู่เรื่องนึง แต่มันนานมาแล้วตั้งแต่เฮียยังไม่ได้เป็นเขยของตายายนายแดนนายดามเลย เข้าใจผิดกันน่ะ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝายเข้าใจกัน มีแต่มันที่ยึดมั่นถือมั่นในความคิดของตัวเอง เฮียก็ไม่รู้จะทำไงกับมัน เฮียไม่คิดว่ามันจะแค้นฝังหุ่นขนาดนั้นนะ ถ้าเป็นมันจริง ๆ ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป เฮียถึงไม่อยากให้พวกนายมาเกี่ยวข้องด้วยไง" เขตแดนกล่าวออกมาจากส่วนลึกข้างใน
"มันไม่ทันแล้วมั๊ย หนึ่งคนหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับได้ไม่มีใครเป็นอะไรเลยต่างหาก" ปราบพูดยิ้ม ๆ
"สามคนที่ไหนละครับ ยังมีผมอีกคนนึงไง เฮียไปไหน ผมก็ไปด้วยหมดแหละครับ ลืมผมไปได้ไง" เป็นสรที่เอ่ยขึ้นพร้อมการปรากฎตัว
"สร เฮียบอกแล้วไงว่าเรื่องนี้เฮียไม่ให้นายยุ่ง ถ้านายเป็นอะไรไปใครจะดูแลแสงดาว ไหนจะเจ้าแฝดที่ติดตายังกะอะไรดี"
"ลูกเค้ามีพ่อมีแม่น่าเฮีย ไอ้ผมมันก็แค่ตา เฮียก็เป็นปู่เหมือนกันนิ่" สรเอ่ยยิ้ม ๆ ในขณะที่อีกคนยิ้มไม่ออกเพราะรู้สึกตื้อตันไปหมด
"เอาน่ะเฮียผมเอาด้วย ผมก็เคยถูกเป่าเฉียดหัวใจมาแล้วไม่ตายง่าย ๆ หรอก" พรมแดนกล่าวสนับสนุน
"ขอบใจมาก ขอบใจพวกนายทุกคน" เขตแดนกล่าวอย่างซึ้งใจ
หลังจากได้ข้อสรุปแล้วทั้งสี่จึงได้นั่งปรึกษาหารือเพื่อวางแผนหาทางหนีทีไล่กันต่อ
………………………………………..
ตัดมาที่พิทยาและปารดีที่เตรียมตัวกำลังจะเดินทางกลับเพราะวันรุ่งขึ้นเป็นวันทำงานปกติ เขาเดินทางมาที่สนามบินโดยการอำนวยความสะดวกของลูกน้องของแดนไตรอีกเช่นเคย และระหว่างนั่งรอที่สนามบินปารดีเอาแต่นิ่งเงียบตลอดทำให้คนพี่นึกห่วงกังวลและอึดอัดอยู่ไม่น้อย
@บ้านแก้วตา
"น้องปริมครับ ทำไมเงียบจัง คิดอะไรอยู่เหรอ"
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่พิท ปริมไม่มีอะไรจะพูดเฉย ๆ"
"ก็พูดเรื่องของเราก็ได้ พี่รักปริมนะ เราแต่งงานกันดีมั๊ย"
"พี่พิทคะ ถ้าเรื่องของปริมมันอันตรายก็อย่ามายุ่งกับปริมเลยค่ะ พี่พิทจะพาลเดือดร้อนไปด้วยเปล่า ๆ อีกอย่างถ้าพี่พิทเป็นอะไรไปใครจะดูและคุณตาคุณยายคะ" ปารดีเอ่ยออกมาจากส่วนลึกข้างใน
"ปลาย………" พิทยาเอ่ยชื่อคนตัวเล็กเสียงเบาหวิวอย่างไม่คิดว่าจะได้คำตอบทำนองนี้
"แล้วปลายว่านายตำรวจเก่าอย่างพี่จะปล่อยให้ใครทำอะไรตัวเองหรือครอบครัวได้ง่าย ๆ เหรอปริม"
"คือ ปริมเป็นห่วง ปริมว่าทุกอย่างมันไม่ง่าย มันดูแย่ไปหมด ปริมไม่อยากหวัง"
"พี่ไม่ยอมปล่อยปริมเองต่างหาก อย่าหวังว่าจะไปจากพี่ได้ ถ้าลองพี่เลือกเธอแล้วเธอก็ไปจากพี่ไม่ได้เหมือนกัน" พิทยาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"พี่พิท หนูกลัว กลัวว่าพี่จะเป็นเหมือนพ่อปราบ กลัวว่าหนูจะต้องเสียพี่พิทไปอีกคนเหมือนแม่ ฮึ่ก"
"อย่ากังวลไป พี่ไม่ไปไหน พี่จะอยู่กับปริมไปจนแก่ตายกันไปข้างนึงเลย เราแต่งงานกันนะ" พิทยาพูดยิ้ม ๆ
"แต่ปริมอยากเจอพ่อก่อน แค่เจดีย์บรรจุอัฐิก็ยังดี"
"น้องปริมจะต้องได้เจอพ่อแน่ ๆ พี่สัญญา แต่ตอนนี้หยุดร้องไห้ก่อนนะครับคนดีของพี่พิท" พิทยาเอ่ยอย่างนุ่มนวลพร้อมกับบรรจงเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน