น้องปริมจะต้องได้เจอพ่อแน่ ๆ พี่สัญญา แต่ตอนนี้หยุดร้องไห้ก่อนนะครับคนดีของพี่พิท” พิทยาเอ่ยอย่างนุ่มนวลพร้อมกับบรรจงเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
"ไปลาแม่กับป้าเถอะ เราจะต้องกลับกันแล้ว"
"ค่ะพี่พิท"
อีกด้าน แก้วตาและดวงใจที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาดูรายการทีวีที่ห้องนั่งเล่นอย่างผ่อนคลาย
"ป้าแก้วคะ แม่ดวง ปริมมาลาค่ะ พรุ่งนี้ต้องทำงานเลยจะกลับวันนี้" ปารดีคลานเข่าลงไปนั่งกับพื้นแล้ววางศีรษะลงบนตักของมารดาเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย
"ดีแล้วหละลูก กลับวันนี้ถึงนู่นก็บ่าย ๆ จะได้พักบ้าง/แล้วดวงไม่กลับกับลูกจริง ๆ เหรอ" แก้วตาเห็นดีเห็นงามกับปารดีด้วยแต่แอบหันไปถามน้องสาว
"หนูจะอยู่กับพี่แก้วดีกว่า น้องปริมเค้ามีคนดูแลแล้วหนูก็วางใจ" ดวงใจเอ่ยยิ้ม ๆ พร้อมกับลูบผมลูกสาวอย่างเบามือ ดวงใจได้แต่คิดคำนึง เพราะเธอรู้ว่าพี่สาวของเธอแม้จะเข้มแข็งเพียงใดแต่ก็มีมุมอ่อนไหวอยู่เหมือนกันเธอจึงเลือกที่จะยืนหยัดอยู่ข้างพี่สาวเสมอประกอบกับพิทยาได้ยืนยันหนักแน่นว่าจะรักและดูแลลูกสาวของเธออย่างดีและเธอก็เชื่ออย่างนั้น
"เอ่อป้าแก้ว แม่ดวงครับ ผมขออนุญาตพาน้องปริมไปอยู่ที่บ้านผมไปจนกว่าแม่ดวงจะกลับไปดีกว่านะครับ ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของน้องครับ และผมขอสัญญาว่าผมจะไม่ล่วงเกินน้องเด็ดขาด อีกอย่างคุณพัฒนาและคุณพิชญาคงไม่ยอมให้ผมล่วงเกินน้องได้หรอกครับ เค้ารักของเค้าจะตายไป ผมออกสิทธิออกเสียงอะไรได้ที่ไหน" พิทยาพูดไปยิ้มไป
"เอาเถอะ ป้าเชื่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่แม่และเจ้าตัวเค้านะ ส่วนตัวป้าไม่ขัดข้องอะไร" แก้วตาพูดยิ้ม ๆ แต่แอบชำเรืองไปมองหน้าน้องสาวเล็กน้อย ส่วนดวงใจได้แต่ยิ้มในหน้า
"แม่ฝากยัยปริมด้วยนะคุณพิท/น้องปริมก็เหมือนกันอย่าดื้อกับพี่เค้า อยู่ที่นู่นก็หัดช่วยเหลือตัวเองให้มากจะได้ไม่เป็นภาระเค้าจนเกินไป" ดวงใจฝากฝังลูกสาวกับพิทยาและหันไปสั่งเสียลูกสาวเสียยกใหญ่
"ค่ะแม่งั้นหนูลาเลยนะคะ/ลาละครับ" ทั้งสองก้มที่หน้าตักของผู้ใหญ่ทั้งสองแล้วหันหลังเดินออกมาที่หน้าบ้านก็พบว่าคนของเพื่อนรักเตรียมรถไว้รออยู่ก่อนแล้ว
"ไปสนามบินเลยครับ"
"ได้ครับคุณพิท"
_____________________________
บ่ายคล้อยวันเดียวกันพิทยาและปารดีถึงสนามบินดอนเมือง และเดินทางมาถึงบ้านของคุณตาพัฒนาและคุณยายพิชญาในชั่วโมงถัดมา
@บ้านบริรักษ์คุณากร
"พ่อครับ แม่ครับผมมาแล้วครับ หิวจัง มีอะไรกินบ้างครับ" พิทยาเรียกหาบิดามารเพื่อหาของกินก่อนอันดับแรก
"มาถึงก็ขอของกินเลยนะ" พัฒนกล่าวเสียงเข้ม
"สวัสดีครับท่านผู้พิพากษา คุณอดีตเทพีขันน้ำพานรอง คิดถึงผมมั๊ยครับ ไม่เห็นกันหนึ่งวันกะอีกหนึ่งคืน" พิทยาพูดหน้าทะเล้น
"อือ ทะลึ่งล๊ะ รู้สึกจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะไอ้เจ้าพิทบูล ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่เหรอ"
"งั้นซิครับ"
"ทางโน้นจะกลับเมื่อไรล่ะ"
"ไม่ทราบครับ แต่ดูท่าจะห่วงพี่สาวมากกว่าห่วงลูกสาวแล้วตอนนี้"
"ก็เป็นหน้าที่ของแกต้องดูแลลูกสาวเค้าดี ๆ นะเจ้าพิท"
"ครับพ่อ ผมจะดูแลหัวใจของผมอย่างสุดความสามารถ ความจริงผมอยากขอแต่งงานไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ติดตรงสถานการณ์น่าตึงเครียดตรงนี้แหละ ผมกลัวว่าน้องจะไม่ปลอดภัยถ้ามีการจัดงานใหญ่"
"ถ้าจัดเงียบ ๆ ล่ะ" พัฒนาเอ่ยขึ้นบ้าง
"ทางนั้นจะยอมเหรอครับพ่อ"
"ก็ต้องลองดูซิ อ้างอะไรได้ก็อ้างไปซิไอ้นิ่ ฉั๊นถามจริง ๆ แกรักหลานสาวฉั๊นจริงหรือเปล่า"
"ก็เพราะรักยังไงครับถึงได้เกรงใจ อยากให้เกียรติ ห่วงความรู้สึกทุกอย่าง ทำแบบนี้มันเหมือนรวบหัวรวบหางนะคร้าบ" พิทยาแก้ต่างให้ตัวเอง
"มันแล้วแต่มุมมองเว่ย ตอนนี้น้องเหมือนคนไร้ที่พึ่ง แม่ก็อยู่ทางโน้น พ่อเป็นสัมพเวสี พิษภัยก็รอบด้าน ให้น้องมาอยู่กับเราใกล้ ๆ ไม่ดีหรือไงเจาพิท ถ้าเหตุการณ์มันสงบแกจะแต่งให้ใหญ่โตเลี้ยงฉลองสามวันเจ็ดวันก็ยังได้ รึ๊แกจะเลี้ยงฉลองจนลูกบวชก็แล้วแต่แก เฮ่อ…" ท่านพัฒนาพูดเหมือนรัวปืนกลจนเหนื่อยหอบเพราะมีโรคประจำตัวอยู่
"พ่อรู้หรือครับ"
"บ๊ะไอ้นี่ ทำไมพ่อจะไม่รู้ หูตาฉั๊นก็มีเหมือนกันนะเว่ย"
ด้านพิทยาได้แต่อึ้งในใจ และเก็บคำพูดของบิดาไปคิดหนักอยู่เหมือนกัน
"พ่อครับ ยังไงผมก็ไม่ยอมปล่อยน้องเด็ดขาดครับ ผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ผมอาจต้องรบกวนพ่อช่วยผมด้วยนะครับ" พิทยาพูดมันออกมาจนได้หลังจากนิ่งเงียบไปพักใหญ่
"เออ ก็แค่นั้นแหละ กุก็รอมึงอยู่" พัฒนาเอ่ยเสียงขรม
"คุณพัฒนา คุณพูดไม่เพราะ พูดกับลูกดี ๆ ซิค๊า" คุณนายพิชญาเอ่ยปรามสามีเพราะรู้สึกว่าจะอารมณ์เกินงามต้องกระตุกไว้บ้าง
"……." พัฒนาเงียบ แต่แอบถอนหายใจใส่คนบ่นแล้วหันไปทางลูกชายว่าจะพูดอะไรต่อ
"ก็ผมกลัวว่าพ่อจะว่าผมรวบรัดน้องนิ่ ก็เห็นปกป้องกันเหย็ง ๆ ก็ใครจะไปรู้"
"ไหนบอกมาซิ๊ ว่าแกจะทำไง" พัฒนาเอ่ยถามอย่างเป็นงานเป็นการ
"ผมอยากไปขออนุญาตพ่อปราบก่อนครับ" พิทยาพูดจากส่วนลึก
"แล้วแกคิดว่าเค้าจะยอมแกมั๊ย" พัฒนาหยั่งเชิงทั้งที่เตรียมตัวรอช่วยลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอยู่แล้ว
"มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนละครับ"
"หึหึ ร้ายนะ เหมือนใครว๊ะ"
"ไปส่องกระจกดูซิครับ"
"………" ไม่มีคำพูดใดจากปากท่านพัฒนานอกจากมุมปากที่ยกยิ้มเพียงนิด แล้วกลับมาเป็นปกติอย่างไว ไม่อยากให้ลูกชายได้เห็นมัน เดี๋ยวได้ใจ