ZEN – NAMI 07 เลี้ยงหนูสิ

1525 คำ
“หึ อวดเก่งสินะ” หมับ!! “จะพาหนูไปไหน?” เขาเข้ามาและอุ้มฉันขึ้นจากพื้น “โรงพยาบาล” “ไม่ได้นะ!!” ฉันพยายามดิ้นทันทีเพราะว่าถ้าไปยุ่งแน่หมอ...ถ้าเกิดตรวจเลือดของฉันก็ต้องเจอความผิดปกติแน่นอนเพราะงั้นฉันจะไปไม่ได้เด็ดขาด “ทำไม?” “ไม่ไปหนูไม่ไป ฮือออออ” ฉันร้องไห้ออกมาเลยอย่างหวาดกลัว “ฉันไม่เข้าใจเธอแบบโคตร ๆ เลยวะนามิ...” เขาพูดเสียงเรียบก่อนจะเดินไปห้องนอนของฉัน “หนู...” “ถ้าเธอรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองก็บอกฉัน ฉันจะได้จัดการถูกถ้าเธอไม่พูดฉันก็ไม่มีทางเลือกที่ต้องไล่เธอออกไป...” พรึ่บ!! เขาวางฉันลงที่เตียงนอนส่วนตัวฉันก็กอดเขาเอาไว้ทันทีฉันไม่มีที่ไปแต่ถ้าบอกไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นละ? “กอดทำไม?” “ยะอย่าไล่หนูเลยนะคะ ฮึก!! หนูไม่มีทางเลือกจริง ๆ” “...” เขานิ่งไม่ได้โวยวายหรือผลักไสออกไป “หนู...ไม่ปกติ” ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะบอก “ยังไง?” เขาดันตัวของฉันออกก่อนจะถาม “ถ้าหนูไม่สบายเลือดในตัวจะร้อนเหมือนเวลาร่างกายร้อนนั่นแหละ ถ้าไม่เอาออกจะทำให้ร่างกายของหนูทรมานขึ้นเพราะงั้นเลยต้องทำแบบนั้นเพื่อเอาเลือดออก” “ไม่เข้าใจวะ” “...” ฉันก้มหน้ามองพื้น “ฉันจะทำแผลให้ก่อนและวันพรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่เริ่มใหม่ทั้งหมดที่เธอรู้เกี่ยวกับตัวเอง” เวลาต่อมา.... “นอนซะและพรุ่งนี้ฉันจะมาถามทุกอย่างจากเธอ” “...” จะให้บอกทุกอย่างสินะ “คิดเอาแล้วกันว่าจะโกหกหรือพูดความจริง ถ้าเธอโกหกละก็ทำให้เนียนแล้วกันเพราะถ้าฉันรู้ความจริงเองเมื่อไหร่ตอนนั้นเธอต้องออกไปที่นี่อย่างไม่มีข้อแม้” เขาบอกแค่แค่นั้นก่อนจะเก็บอุปกรณ์ทำแผลและเดินออกไป ปัง! “เฮ้อออ~” ตอนนี้อากาศของฉันดีขึ้นบางแล้วละเพราะเลือดออกไปแล้ว เลือดใหม่ก็สร้างขึ้นมาวันนี้พรุ่งนี้ฉันคงต้องบอกเขาจริง ๆ ฉันเองที่ไม่อยากบอกเพราะว่าตั้งใจจะไปจากที่นี่เมื่อครบสามเดือนจริง ๆ ฉันไม่อยากให้เขามาเดือดร้อนด้วย เอาจริงจนตอนนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณเซนเป็นใครรู้แค่ว่าเขาต้องเป็นคนรวยแค่นั้นเอง เพราะงั้นฉันเลยกลัวว่าถ้าเขาไม่มีอำนาจมากพออาจจะทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายได้ เขาเป็นผู้มีบุญคุณนะฉันไม่อยากให้เขาต้องเป็นอะไรไป หรือถ้าฉันคิดแย่กว่านั้นก็คือฉันกลัวว่าถ้าเขารับรู้แล้วว่าฉันเป็นอะไรเขาอาจจะเอาตัวฉันไปส่งองค์กรก็ได้ เรื่องแบบนี้มันไม่สามารถเชื่อใจใครได้ “ได้ถ้าไม่บอกก็รู้ว่าเขาพร้อมจะเอาจริง...” ถ้าไม่บอกความจริงเขาเองก็อาจจะไล่ฉันไปโดยที่ฉันยังไม่พร้อมก็ได้ “เอาว่ะ!!” บอกก็บอกเพราะฉันเชื่อว่าเขาคงไม่ใช่คนเลวอะไรหรอกเพราะไม่อย่างนั้นเขาก็ทิ้งฉันเอาที่โรงพยาบาลแล้วละ จ่ายเงินรับผิดชอบที่ขับรถชนฉันและจากไปก็ได้แต่เขากลับเอาฉันที่ไม่รู้แม้กระทั่งตัวตนมาอยู่ด้วย นั่นหมายความว่าเขาเองก็คงเป็นคนที่ใช้ได้เหมือนกันสินะ “จะเป็นยังไงก็คงต้องเป็นกันสินะ” เช้าวันต่อมา วันนี้เป็นวันที่ฉันจะต้องบอกความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองเป็นการวัดใจว่าเขาจะให้ฉันอยู่ต่อหรือว่าจะส่งตัวฉันไปให้องค์กร กึก! ฉันเดินออกมาจากห้องนอนก็พบว่าคุณเซนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว “จะยืนอีกนานไหมมานั่ง” เขาไม่ได้หันมองแต่ก็รับรู้ว่าฉันมาแล้ว ฉันไม่ได้ตอบอะไรก้มหน้าและเดินไปนั่งที่โซฟาอีกตัวข้าง ๆ เขา คุณเซนนิ่งมากแต่ปกติก็นิ่งอยู่แล้วนั่นแหละแต่ว่าวันนี้บรรยากาศมันเย็น ๆ กว่าทุกวันเลยน่ะสิ “....” “จะพูดตอนไหน?” เขาเอ่ยขึ้นมันฉันไม่ยอมพูดอะไรสักที “เลือดกรุ๊ป X คุณเซนคือได้ยินไหมคะ?” ฉันเริ่มต้นด้วยการถามชื่อของกรุ๊ปเลือดของฉัน มันเป็นเลือดที่หายากและคนทั่วไปไม่รู้จักต้องอยู่ในแวงวงวิทยาศาสตร์หรือการแพทย์เท่านั้นที่จะเคยได้ยินมาก่อนแต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เจอกันง่าย ๆ “เคยเลือดพิเศษที่หนึ่งพันล้านคนจะเจอหนึ่งคน นั่นหมายความว่าในโลกหนึ่งมี 7 คนเท่านั้น มันเป็นเลือดร้อนสำหรับมนุษย์ทั่วไปน้อยคนที่มีเลือดกรุ๊ปนั้นและจะชีวิตรอด” เขารู้มันอย่างละเอียด “เก่งจังนะคะมันไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะรู้สักหน่อย....” “พ่อฉันเป็นนักวิจัยวิทยาศาสตร์ แม่เป็นแฮกเกอร์ พี่น้องก็เป็นหมอ นักวิทย์ และโปรแกรมเมอร์” นะนี่มันครอบครัวอะไรกันเนี่ยและฉันก็ไม่รู้สึกว่าเขากำลังอวยหรืออะไรด้วย “ละแล้วคุณเซน..” “ฉันเป็นนักบริหารมากกว่า” อ่อ เก่งทั้งบ้านสินะ “เพราะแบบนั้นเลยรู้เรื่องเลือดกรุ๊ป X สินะคะ” ฉันพูดกับเขา “อืมเพราะบริษัทของฉันก็เคยสนใจเรื่องนี้เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำเพราะนั่นหมายความว่าเรื่องจะต้องทดลองกับมนุษย์ยังไงละและแน่นอนว่าฉันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน การเอาชีวิตของใครสักหน่อยมาทดลองมันไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเท่าไหร่” เขาอธิบายรายละเอียดแม้ว่าตอนแรกฉันจะตกใจที่เขาบอกว่าสนใจเรื่องนี้เหมือนกันแต่ก็เปลี่ยนใจนั่นหมายความว่าเขาเองก็เป็นคนดีเหมือนกัน “เฮ้อ!!” โล่งหน่อย “แล้วถามทำไม?” “ถ้ามีคนเลือดกรุ๊ปนั้นอยู่ตรงหน้าคุณเซนละคะ คุณจะยังไม่สนใจอยู่หรือเปล่า?” ฉันทำใจกล้าถามออกไป “แล้วยังไงละฉันไม่ได้สนใจอยู่แล้ว” “จริงเหรอคะ?” ฉันถามไปอย่างดีใจแปลก ๆ “เธอมีเลือดกรุ๊ปนั่นสินะ” “ค่ะ” ฉันพยักหน้า “แต่ยังอยู่มาได้จนโตขนาดนี้” ฉันพยักหน้าตามที่เขาพูดอย่างที่เคยบอกไปคนนเลือดกรุ๊ป X จะมีชีวิตได้สั้น “ค่ะ...เพราะงั้นตอนนี้เลยมีคนจากองค์กรกำลังตามหาหนูอยู่ค่ะ” “องค์กรชื่อ?” “E..N” “อ่อ” เขาพูดออกมาเบา ๆ “คุณเซนรู้จักเหรอคะ?” ฉันถามเพราะว่าเขาทำหน้าเหมือนรู้จัก “เคยได้ยินไม่ใช่องค์ที่ดีเท่าไหร่” อย่างที่พูดนั่นแหละ “ค่ะ พ่อแม่ของหนูทำงานเป็นนักวิจัยในนั้นมาก่อนค่ะ แต่พอมีหนูและรู้ว่ามีเลือดพิเศษที่เกิดจากทดลองในองค์ที่ตอนแรกคิดว่าล้มเหลวไปแล้ว พ่อแม่ก็เลยพาหนีมาที่ไทยค่ะ” “ตอนนี้เธอจำเรื่องทุกอย่างได้แล้วใช่ไหมหรือว่าความจริง...ไม่ลืมกันแน่” เขาจ้องมองฉันด้วยสายตากดดัน “คะคือว่าหนู...” “ต่อให้เธอไม่พูดฉันก็พอเดาได้ว่าเธอน่าจะเป็นอย่างหลัง หึ” “นะหนูขอโทษค่ะแต่หนูไม่มีที่ไปจริง ๆ นะคะ” สุดท้ายแล้วก็ทนความกดดันไม่ไหวแล้วคุณเซนน่ากลัวจริง ๆ “เลยโกหกสินะ ดีนิเก่งดี” “หนูขอโทษ...” ฉันไม่ได้ความจำเสื่อมหรืออะไรทั้งนั้นฉันเพียงแค่ต้องการที่อยู่อาศัยชั่วคราวเท่านั้นและก็ไม่มีใครที่สามารถไปอยู่ด้วยได้นอกจากเขาแล้วในเวลานั้น “อายุเท่าไหร่ ชื่อจริงของเธอและบอกมาว่าจะเอายังไงต่อไปกับชีวิตหลังจากนี้?” เขาถามยาว “อายุ 17 ค่ะอีก 7 วัน 18 ชื่ออาร์ ส่วนชีวิต...หนูตั้งใจจะทำงานและออกไปคุณเซนหลังจากครรบสามเดือนค่ะ” ฉันบอกแผนตัวเองที่คิดเอาไว้ “เด็ก...เด็กฉิบหาย” เสียงของเขาบ่นกับตัวเองแต่ฉันได้ยินด้วยไง “ทะทำไมเหรอคะ?” “คิดว่าพอมีเงินแล้วเธอจะสามารถใช้ชีวิตปกติได้เหรอ?” เขาถามฉัน “ไม่รู้ค่ะ...” ใช่...ฉันมันไม่มีตัวตนหรือประวัติอะไรทั้งนั้นถึงจะทำงานอะไรได้แต่ถ้าต้องทำธุรกรรมต่าง ๆ ก็ต้องใช้หลักฐานยืนยันอยู่ดีแต่ฉันไม่มีของพวกนั้น “เฮ้ออ!!นามิ!” “งั้นคุณเซนก็เลี้ยงหนูสิ!!” ไม่อะไรทำให้ฉันพูดออกไปแบบนั้นก็ถ้าไม่มีที่ให้ไปก็ต้องเกาะเขานี่แหละ “ว่าไงนะ?” “เลี้ยงหนูไง...” “เลี้ยงเธอแล้วฉันจะได้อะไร?” เขาถามกลับ “เอ่อ ได้...ได้” ฉันไม่มีอะไรให้เขาเลยแหะนอกจาก “ได้?” “ตัวหนูไง ^0^” ฉันบอกกลับไป “ไม่เอา-_-” “งะ T^T” งั้นก็ไม่มีอะไรให้แล้วววววว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม