หลายวันต่อมา...
แกร๊ด!!
“จะไปเรียนแล้วเหรอคะ?” ฉันถามคุณเซนเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู
“...” ใช่สินะ
“งั้นเดินทางดี ๆ นะคะ”
ปัง!!
“เฮ้ออ!!เหมือนจะดีขึ้นแต่ก็ไม่แหะ” หลังจากวันนั้นที่ฉันรู้ที่มาที่ไปของฉันก็เหมือนว่าฉันได้กลายเป็นหมาจริง ๆ เพราะว่าเขาจะคุยกับฉันแค่ตอนให้ข่าวเท่านั้นแต่ตอนนี้ก็เริ่มมีตัวตนได้แล้วแต่ไม่พูดมากก็พอหรืออย่าถามอะไรโง่ ๆ ออกไป เช่นวันนี้เขากำลังไปเรียนซึ่งฉันก็รู้อยู่นั่นแหละแต่ดันไปถามดีนะไม่โดนด่ากลับมา
ฉันอยู่ที่นี่มาสักระยะแล้วยังไม่เคยออกไปไหนเลยลองออกไปดีไหมนะตอนเข้ามาวันแรกฉันเห็นมามันมีพวกฟิตเนทหรือสระว่ายน้ำด้วยน่าจะไปเล่นได้นะ แต่ว่าฉันไม่มีชุดสวยใส่ไปเลยน่ะสิตอนนี้ฉันใส่แค่เสื้อผ้าเก่า ๆ ของคุณเซนเท่านั้น เงินก็ไม่มีหรือว่าจะยืมคุณเซนก่อนดีนะ??
“หางานทำด้วยดีกว่า...” แต่ก็ไม่มีวุฒิการศึกษา
“เฮ้อออ~จะเอาแต่พึ่งพาเขาไม่ได้สิ” ออกไปหางานทำดีกว่า
เมื่อคิดได้อย่างนั้นฉันก็ลุกขึ้นและไปเปลี่ยนเสื้อใหม่แม้จะเป็นของเก่าของเขาก็ตามแต่ว่าเขากลับซื้อชั้นในให้ได้งงไหม???
หรือว่าเขาจะขี้งกกันนะแต่ช่างเถอะยังดีกว่าไม่มีใส่ก็แล้วกัน
“ออกไปได้^^” ฉันยิ้มกับตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องของคุณเซนที่นี่เป็นระบบกดรหัสและฉันจำได้ว่ามันคืออะไรเพราะงั้นสบายมากเลย
หลายชั่วโมงต่อมา...
ฉันเดินไปเรื่อย ๆ ตามทางแต่ก็ไม่มีที่ไหนรับเลยเพราะว่าฉันไม่ได้เรียนหนังสือเขาบอกว่าอย่างน้อยก็ควรมีวุฒิม.3 สิ ก็ฉันไม่มีนิงานล้างจานยังไม่เลยชิ! แต่ฉันก็อ่านออกเขียนได้นะทำไมไม่รู้ความสามารถกันก่อนเล่า
เดินไปเดินมาท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงกลับดีกว่า...
แต่ว่า...
“ฉันต้องไปทางไหนอะ?” เอาแต่ก้มหน้าเดินจนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน ฉันมองไปรอบไม่มีจุดสังเกตอะไรเลยแหะ เอาไงดีละทีนี้
ซ่าาา~
“เฮ้ย!!” ฝนตกอีกซวยซ้ำจริง ๆ เลยเว้ย!!
ฉันกระโดนไปที่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งร้านน่ารักมาเลยท่าทางจะแพงน่าดูแหะ
โป๊ก!!
“โอ๊ยยย!!” ขณะที่กำลังยืนส่องไปมาฉันไม่ทันระวังและคนในร้านก็ไม่ทันระวังเปิดประตูตีหน้าของฉันเต็ม ๆ เลย ทำให้ฉันทรุดไปนั่งกับพื้น
“น้องคะเป็นอะไรไหม?” เสียงของผู้หญิงถามฉัน
“มะไม่เป็นไรค่ะหนูไม่ระวังเอ...” กึก!! ฉันเงยหน้ามองก็พบว่าคุณเซนอยู่ที่นี่ด้วย เหมือนโชคช่วยฉันกลับคอนโดได้เย้!!
“คุณเซน ^-^” ฉันยิ้มและเรียกเขาทันที
“....” ไม่ได้พูดอะไรแต่ทำหน้าตาดุมากกก ฮืออ!! ฉันจะตายไหมเนี่ยยย?
“เอ่อ ทั้งสองรู้จักกันเหรอ?” ผู้หญิงที่ถามฉันถามขึ้นเมื่อฉันเรียกชื่อของเขาเสียงดัง
“กลับก่อนนะ”
“อืม บายนะเซน” ผู้หญิงคนสวยโบกมือลาแต่คุณเซนไม่สนใจเดินผ่านออกมาเลยแต่ไม่ลืมคว้าคอเสื้อของฉันให้เดินตามหลังของเขาไปด้วย
หมับ!!!
“อึก!!คะคุณเซน...” ไม่ฟังเลยวุ้ย!!
“ตามมาและเงียบปาก” เขาพูดดเสียงเข้มทำให้ฉันรีบเอามือมาปิดปากตัวเองทันทีและปล่อยให้เขาดึงคอเสื้อไปอย่างนั้นจนมาถึงรถของเขา
ปึก!!!
ฉันสะดุ้งเมื่อเขาขึ้นรถมาแล้วหลังจากที่ยัดฉันใส่รถเสร็จ
“มาได้ยังไง?”
“เดินมาค่ะ” ฉันตอบตามความจริง
“เดิน?”
“...” พยักหน้าก็เดินจริง ๆ ไงเลยไม่รู้จะพูดยังไงอ่ะ
“เธอโง่เหรอ?” เริ่มแล้ว
“เปล่าแต่หนูไม่มีเงิน”
“ไม่มีเงินแล้วจะเสร่อออกมาข้างนอกทำไม?” จะร้องไห้แล้วนะ
“ก็หนูอยากมาหางานทำ”
“แล้วได้ไหมงานหรือจากสร้างความเดือดร้อนเพิ่ม?” แรง...คำพูดของเขามันรุนแรงมากจริง ๆ
“ไม่ได้งานแต่หนูก็ไม่ได้สร้างความเดือดเพิ่มสักหน่อย” ขวับ! ฉันหันไปมองหน้าเขาแต่ก็พบว่าสายตาดุ ๆ ของเขาก็กำลังจ้องมองฉันอยู่
“มองหน้าทำไม?”
“เปล่าค่ะ” หันกลับที่เดิม
“เฮ้อ!!รู้ไหมว่าเธอจะสร้างความเดือดร้อนยังไง?”
“...”
“ใช่ ตอนนี้ไม่ได้เดือดร้อนเพราะเธอเจอฉัน แต่ถ้าเธอไม่เจอนั่นแหละเดือดร้อน!!ตัวคนเดียวไม่มีเงินและเป็นผู้หญิงสภาพนั้นถ้าเจอผู้ชายเลว ๆ คิดว่าจะรอดไหมวะ?!” เขาถามเสียงดัง
“..!!”
“เก่งเนอะเดินมาได้งั้นก็เดินกลับได้ละสิ” ขวับ!! ฉันหันไปมองเขาอย่างตกใจ
“มะไม่ได้นะ!!หนูกลับไม่ได้ ฮึก!” ฉันน้ำตาไหลทันที
“ทำไมทีเดินมายังได้เลยแล้วทำไมจะกลับไม่ได้ลงไปสิ”
“ไม่ได้หนูจำทางไม่ได้ ฮึก! หนูไม่ลง!” หมับ!! ฉันจับเข็มขับนิรภัยแน่นเพราะกลัวว่าคุณเซนจะไล่ลงไป
“ที่จริงไม่เจอเธอก็ดีนะ สบายดีด้วยที่ภาระอย่างเธอไม่อยู่ฉัน...น่าจะปล่อยไว้อย่างนั้น” แต่เขาก็ไม่ปล่อย...
“หนูขอโทษ ฮึก! ขอโทษจริง ๆ หนูไม่อยากอวดเก่ง อวดดีอะไร เพียงแต่หนู ฮึก!! ไม่อยากพึ่งพาคุณเซนอย่างเดียวนิ หนูเองก็อยากมำงานหาเงินเหมือนกันแต่ไม่มีใครรับเพราะหนูไม่มีอะไรเลยทั้งที่อยู่ บัตรประชาชนและการศึกษาอ่ะ” ฉันอธิบายไป
“ไม่มีก็อยู่เฉย ๆ จะเสร่อออกไปทำทำไมวะ?!”
“ก็นะหนูจะอยู่กับคุณแค่สามเดือนนิ!!หนูก็ควรหาเส้นทางของชีวิตตัวเองต่อไปสิ!!”
“เออ!!ถ้าทำนักเดี๋ยวหาให้และถ้ามีเงินแล้วก็รีบไปซะ”
บรื้นนน!! เขาพูดด้วยท่าทางโมโหก่อนจะออกรถด้วยความเร็ว
“ฮัดชิ้ววว!!” ฉันเริ่มจามเพราะว่าตากฝนทั้งที่โดนแค่แปบเดียวแท้ ๆ เฮ้อออ
พรึ่บ!!
“....?” ฉันหันไปมองคุณเซนแบบงงสุดเพราะเขาโยนเสื้อคุมมาให้
“....” แถมไม่พูดอะไรซะด้วย
“ขะขอบคุณค่ะ ฮัดชิ้ววว!!!” ฉันจามออกมาอีกเรื่อย ๆ พร้อมกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นจนรับรู้ได้
“ถ้าไม่สบายเธอตายแน่นามิ!”
“มันห้ามได้ที่ไหน...” ฉันพูดออกมาเบา ๆ
“ไม่ได้ก็ต้องได้” ยังได้ยินอีกเนอะ
(ZEN)
คอนโด PP
“ไปอาบน้ำและกินยาซะ” เมื่อกลับมาคอนโดผมก็ไล่ยัยตัวแสบไปอาบน้ำเพราะเหมือนว่าจะเป็นไข้ซะแล้ว ก็ใครใช้ให้อวดดีไม่เข้าเรื่องถ้าไม่เจอป่านนี้คงแอบฝนสั่นเป็นลูกหมาแล้วมั้ง
“ค่ะ ฮัดชิ้วววว!!” ส่วนผมก็แยกตัวไปที่ห้องนอนตัวเองและโทรศัพท์หาใครบ้างใคร
แกร๊ด!!!
ตรู๊ดดด!!
“เป็นยังไงบ้าง?” ผมถามปลายสายเกี่ยวกับเรื่องที่ให้ไปสืบมา
(ไม่เจออะไรเลยครับเหมือนกันว่าโดนลบออกไปทั้งหมด)
“จะเป็นได้ยังไงหาให้เจอไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม”
(เด็กคนนั้นเป็นใครเหรอครับ?)
“กูจะไปรู้ไหมถ้ารู้จะให้มึงสืบเพื่อ?” ผมถามกลับไปไอ้ซิวมือขวาที่คอยดูแลและทำงานให้ผม พวกแฝดมันก็มีเหมือนกัน
(แล้วจะให้กูสืบอย่างไม่รู้ว่าเจ้าตัวเป็นใครอะนะ?)
“แล้วจะเสือกทำไมกูให้สืบก็สืบและเร่งมือด้วยเพราะกูไม่ได้มีเวลาให้มึงมาก”
(แค่รูปใบเดียวมันจะไปช่วยอะไรได้..)
“มึงได้เงินก็อย่าพูดมาก กูจ้างไม่ได้ใช้งานมึงฟรีไอ้ควายไปสืบ!!” ผมกับมันเป็นเหมือนเพื่อนกันมากกว่าเจ้านายลูกน้องแต่มันก็ไม่เคยข้ามล้ำเส้นมา
(เออ!!ไอ้สัสฉลาดไม่หาเองวะ)
“กูมีเวลาทำเองไปแล้วไม่ใช้ลูกน้องไร้ประสิทธิภาพอย่างมึงหรอก!!” ผมวางสายทันทีเพราะไม่อยากเปิดโอกาสให้มันด่ากลับ
ไม่มีข้อมูลงั้นเหรอ???
คนธรรมดาทั่วไปแค่รูปใบเดียวก็สามารถหาประวัติย้อนกลับไปเป็นชาติได้แล้ว แต่นามิไม่มี ไม่เจอ ทั้งที่มีรูปชัดเจนขนาดนั้น
“เธอเป็นใครกันแน่นามิ...?”
คงไม่ใช่แค่เด็กธรรมดาที่หลงแน่นอน เพราะถ้าเป็นเด็กธรรมดาวันเดียวผมก็สามารถหาข้อมูลเจอแล้วและส่งกลับครอบครัวไปแล้ว แต่นี่เดือนกว่ายังไม่เจออะไรเลย
เฮ้อออ!!แล้วต้องเลี้ยงยัยลูกหมาไปนานแค่ไหนเนี่ย?!!
“วุ่นวายฉิบหายเลยวะ”