ZEN – NAMI 04 ชื่อของหมา

1575 คำ
1 เดือนต่อมา ฉันอยู่ที่มา 1 เดือนแล้วตลอดเวลาที่อยู่ก็พยายามทำตัวให้เหมือนไม่มีตัวตนที่สุดซึ่งมันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นักเขาออกไปเรียนฉันก็ค่อยออกจากห้องนอน เขากลับมาฉันก็กลับห้องตัวเองเป็นแบบนี้มาตลอด 1 เดือน ฉันออกไปหาอะไรกินในตู้เย็นมีแต่ของอร่อย แต่ฉันก็ไม่ได้อยู่ฟรี ๆ นะ เพราะฉันเองก็พยายามช่วยทำความสะอาดนู้นนั่นนี่ยกเว้นห้องนอนของเขาเพราะว่าล็อกเอาไว้ ไม่รู้จะหวงอะไร และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่คุณเซนออกไปเรียนฉันเองก็อยากเรียนเหมือนกันนะเพราะงั้นว่าง ๆ ฉันเลยจะเอาหนังสือของเขามาอ่านเสมออย่างน้อยก็แก้เหงาได้ ทีวีก็ไม่รู้จะดูอะไรน่าเบื่อเพราะงั้นอ่านหนังสือนี่แหละได้ประโยชน์สุดแล้ว แต่อ่านไปอ่านมามันก็เริ่มง่วงเหมือนกัน สุดท้ายก็หลับคาหนังสือไปแค่ตื่นมาก่อนคุณเซนกลับมาก็พอแล้ว... คร่อม... กุกกัก! ก๊องแก๊ง! “ฟุด ๆ กลิ่นอะไรนะ?” ฉันได้กลิ่นบางอย่างก่อนจะหลับตาขึ้นนอกจากกลิ่นหอม ๆ แล้วยังมีเสียงบางอย่างดังอยู่ในครัวด้วย “เสียง?!” พรึ่บ! ฉันเด้งตัวลุกขึ้นมาจากโซฟาทันทีก่อนจะหันไปมองที่ครัวก็พบว่าคุณเซนกำลังยืนทำอาหารอยู่ แย่แล้ว!!เมื่อเห็นอย่างนั้นฉันก็พยายามตัวให้เงียบที่สุดและเงียบหนังสือก่อนจะค่อย ๆ เดินย่องกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง “จะไปไหน?” กึก! ฉันชะงักเท้าเมื่อได้ยินเสียงของเขาที่ไม่ได้ยินมาเดือนนึงแล้ว “เอ่อ คือว่าหนูจะกลับห้องค่ะ >.0.เช้าวันต่อมา... ปัง!! “คุณเซนขา!!หนูขออ่านหนังสือนะ!” เกือบไม่ทันแหนะ!! วันนี้เขาต้องไปเรียนแต่เช้าและฉันเกือบตื่นไม่ทันขออนุญาตอ่านหนังสือของเขาดีที่เขายังไม่ไปเรียน “อืม” ตอบแค่นั้นและก็ไปเลย... คนอุตส่าห์รีบแทบตายตอบแค่เนี๊ย? ก็ยังดีวะ...ฉันกลับเข้ามาในห้องก่อนจะไปอาบน้ำเพื่อไปหาอะไรและจากนั้นก็ไม่อ่านหนังสือแล้วฉันก็เป็นแบบนั้นอยู่หลายวัน วันต่อมา... “คุณเซนนามิขออ่านหนังสืบนะ!” “อืม” วันต่อมา “นามิขออ่านหนังสือเล่มนี้นะคะ” ขอพร้อมโชว์หนังสือให้ดู “อืม” และอีกหลายวันต่อมา... “นะหนูขออ่านหนังสือด้วยสิ” ฉันเดินมาข้างเขาที่กำลังทำงานอยู่น่าจะเกี่ยวกับการเรียนวันนี้เป็นวันหยุดของเขานั่นเอง ส่วนฉันหลายวันที่ผ่านก็เหน็ดเหนื่อยกับการพยายามเข้าไปขออ่านหนังสือมาก เฮ้ออ!!! “...” ไม่พูดงั้นนั่งด้วย พรึ่บ! “แฮะ^^” เขาหันมามองแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรฉันพยายามทำตัวให้เงียบบบที่สุดและเปิดหนังสืออ่าน “เหมือนว่าเธอจะเก่งนะ” อยู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมา “คะ?” “ก็เธออ่านหนังสือของระดับปริญญาเอกทั้งหมดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ” เขาพูดและมองหน้าของฉัน “ก็ไม่ได้ทั้งหมดนะคะ...” “ห้องนี้มันมีกล้องอยู่เพราะงั้นฉันรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเธอ...เธอรู้อะไรบ้างแล้วใช่ไหม?” เขาถามฉัน “มะไม่นิคะ หนูไม่ได้รู้อะไรรู้เพียงแค่ว่าตัวเองสามารถอ่านออกเขียนได้ทั้งภาษาไทยและอักฤกษรวมทั้งญี่ปุ่น ฝรั่งเศษนิดหน่อย” ฉันบอกออกไป “งั้นเธออาจจะเป็นคนเก่งที่ซื่อบื่อสินะ” เหมือนจะชมแต่ก็ไม่ งงวะ? “คุณเซนหนูถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?”มันเป็นเรื่องที่ฉันสงสัยมาตั้งแต่วันแรกแล้ว “อะไร?” “ทำไมคุณเซนถึงตั้งชื่อหนูว่านามิเหรอคะ?” ฉันถามและมองเขาอย่างลุ้นมันจะมีความหมายอะไรเปล่านะ? “อ่อ...” “*0*” ฉันรอฟังอย่างตั้งใจ “มันเป็นชื่อหมาจรจัดที่ฉันเคยเก็บมาเลี้ยงแต่ตอนนี้มันตายไปแล้วแหละ-_-” “มะหมา...” แถมยังจรจัดอีก “ทำไมมีปัญหาอะไร?” “ไม่มี๊!!แค่จะบอกว่าชื่อน่ารักดีนะคะ เหอะ ๆ” ฉันยิ้มแห้งจะว่าไปเขาก็เก่งเรื่องตั้งชื่อเหมือนกันแหะฉันชอบชื่อนี้นะแม้ว่ามันจะเป็นชื่อของหมามาก่อนก็ตามเถอะ =_=
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม