bc

ASHIRA รักเปลี่ยนแปลง

book_age18+
479
ติดตาม
2.1K
อ่าน
รักต้องห้าม
กู๊ดเกิร์ล
เย็นชา
first love
naive
stubborn
like
intro-logo
คำนิยม

เพราะเราสองคนต่างกันด้วยเรื่องฐานะ

ผมปฏิเสธเธอและพยายามผลักไส ทว่าหัวใจกับไม่คิดแบบนั้น

จนวันหนึ่งเราสองคนได้เปิดใจกันและกัน เธอไม่รังเกียจที่คนอย่างผมต่ำต้อยกว่าเธอ

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่มีทางยอมเลยคือ... ใครก็ตามที่คิดมาพรากเธอไปจากผม

ต่อให้คนนั้นจะเป็นใคร ผมก็ไม่คิดจะเอามันไว้ ไม่มันก็ผมคงต้องตายกันไปข้าง!

‘พี่หินหึงเอยเหรอคะ?’

‘ครับ’

‘แล้วต้องทำยังไงคะ’

เธอคงไม่รู้ว่าเล่นอยู่กับอะไร... เจ้าเอย คุณคิดผิดนะ

‘คงระบายความหึงกับคุณ บนเตียงมั้งครับ’

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ASHIRA :: INTRO [30%]
ASHIRA รักเปลี่ยนแปลง ASHIRA : คุณเชื่อเรื่องความรักทำให้คนเปลี่ยนไปได้ไหม? IRACHAYA : คุณเชื่อเรื่องรักครั้งแรกทำให้คนเปลี่ยนไปได้ไหม? ใครไม่เชื่อแต่พวกเขาเชื่อ... เชื่อว่าความรักและรักครั้งแรกทำให้ความคิด ความรู้สึกของพวกเขาเปลี่ยนไปต่อให้มีอุปสรรคมากแค่ไหน ‘ความเชื่อ’ เท่านั้นที่เป็นตัวตัดสินเรื่องทุกอย่าง ท่ามกลางถนนที่เต็มไปด้วยการจราจรที่ติดขัด หญิงสาวที่นั่งอยู่ในรถบีเอ็มสีขาวสุดหรูกำลังมองสัญญาณไฟที่ยังคงไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียวสักทีพลันยกข้อมือซ้ายขึ้นดูเวลาที่นาฬิกาเรือนสวยด้านในฝังเพชรตามตัวเลขที่บ่งบอกว่าขณะนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว ที่เป็นแบบนี้คงเพราะว่าเธอต้องทำกิจกรรมที่มหาลัยจึงได้เลิกช้าแบบนี้ Rrr เสียงเรียกเข้าดังขึ้นหยิบมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่ราคาแพงหูฉีกขึ้นมากดรับสาย “ค่ะแม่” (“ลูกเอย นี่มันจะสามทุ่มแล้วนะคะ ลูกอยู่ไหนคะเนี่ย?”) “ตอนนี้รถติดมากเลยค่ะ ผ่านไฟแดงนี้ไปก็ถึงบ้านแล้ว” เธอกรอกเสียงลงไปแม้จะทำให้ผู้เป็นแม่เป็นห่วง แต่ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้มากนอกซะจากต้องรออยู่แบบนี้ “ไม่ต้องห่วงนะคะ” (“แม่บอกแล้วใช่ไหมคะว่าให้ลุงพลไปส่ง ลูกก็ไม่เชื่อ”) แม่เธอเอ็ดเสียงดุจนเธอยกมือบีบหัวคิ้วตัวเอง “เอยโตแล้วนะคะ แค่ขับไปมหาลัยไม่จำเป็นต้องให้ลุงพลมาส่งก็ได้นี่คะ” ปลายสายเงียบไปทันทีจนเธอถอนหายใจ “เอยแค่อยากทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง ไม่ใช่ทำตัวเป็นคุณหนูที่ต้องมีคนคอยรับคอยส่งเหมือนตัวเองพิการทั้งที่ไม่ได้เป็น” (“เจ้าเอย”) ชื่อเต็มถูกเรียกขึ้นซึ่งแน่นอนว่าเธอรู้ดีว่าผู้เป็นแม่คงไม่พอใจกับคำพูดคำจาที่เถียงคำไม่ตกฟาก “เอยขอโทษค่ะ” (“ขับรถระวังด้วยแล้วกัน”) เจ้าเอยวางสายลงก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา เมื่อรอเวลาสัญญาณไฟเปลี่ยนสีเธอจึงหยิบยางรัดผมขึ้นมาก้าวผมสีดำยาวเป็นมวยไว้กลางศีรษะ ดึงชายเสื้อนักศึกษาออกจากกระโปรงพีชยาวเลยเข่าและโน้มตัวไปยังเบาะข้างคนขับหยิบเอาลูกอมมากินแก้หงุดหงิดจากการที่รถติดยาวเป็นหางว่าวแบบนี้ รอเวลาเกือบสามทุ่มในที่สุดรถของเธอก็ออกมาจากตรงนั้นได้สักที เจ้าเอยยิ้มร่าตลอดทางเมื่อขับรถแค่นิดเดียวก็จะเลี้ยวเข้าซอยบ้านแล้ว ทว่าเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ๆ รถของเธอก็เกิดอาการแปลกประหลาดเครื่องยนต์ส่งเสียงดังมากขึ้นเธอจึงเปิดไฟเลี้ยวและยังไม่ทันได้จอดรถดีเลยด้วยซ้ำ “เป็นอะไรเนี่ย” เจ้าเอยรู้สึกใจไม่ดีเลยเมื่อสตาร์ทรถเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นสักนิด โชคดีที่ตรงนี้เป็นร้านอาหารตามสั่งและร้านชำที่ค่อนข้างมีคนอยู่ เธอจึงไม่ตกใจถึงภัยอันตรายเพราะถ้าหากดับในซอยคงกลัวมากกว่านี้ เจ้าเอยลงจากรถและตรงไปเปิดกระโปรงรถของตัวเองก็พบว่าควันลอยคลุ้งเต็มไปหมด เธอจึงปัดมือไปตามใบหน้าของตัวเองและหรี่สายตามองเครื่องยนต์ด้วยความมึนงง จะเริ่มจากตรงไหน? นี่คือความคิดในหัวของเธอตอนนี้ แต่จะเริ่มได้ยังไงกันล่ะเธอไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์เลยนี่นา เมื่อหมดหนทางเจ้าเอยจึงเดินตรงไปยังร้านค้าเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีใครสามารถช่วยได้เนื่องจากไม่มีใครมีความรู้เรื่องนี้ ที่พึ่งสุดท้ายของเธอคือโทรกลับไปหาที่บ้าน ทว่ามันกลับเป็นวันที่ซวยที่สุดสำหรับเธอก็ว่าได้เมื่อแบตมือถือหมดไปตั้งแต่ตอนไหนเธอก็ไม่ได้สังเกต เจ้าเอยทิ้งตัวฟุบนั่งบนฟุตบาทก่อนจะยกมือยีศีรษะตัวเอง ขณะที่กำลังตัดพ้อกับวันซวยๆ ของตัวเองเสียงรถมอเตอร์ไซค์ก็เลี้ยวมาจอดตรงหน้ารถของเธอ เรียกสายตาให้จับจ้องชายร่างใหญ่สองคน แต่คนซ้อนท้ายจะตัวเล็กกว่าและดูเด็กกว่าด้วยพวกเขาสวมชุดหมีสีเทาคล้ายกับชุดของช่างไฟฟ้าหรือช่างซ่อมอะไรสักอย่างเธอเองก็ไม่แน่ใจ “รถเสียเหรอครับพี่?” คนที่ซ้อนท้ายถามเจ้าเอยด้วยน้ำเสียงสงสัย แน่นอนว่าเขาคงเด็กกว่าเธอไม่กี่ปีแต่ดูโตกว่าเธอมากเลยด้วยซ้ำ “ว่าไงครับพี่” “ค่ะๆ” เมื่อโดนเรียกสติกลับคืนมาจึงลุกขึ้นและชี้นิ้วไปยังรถของตัวเอง “เมื่อเช้าก็ขับมาปกติค่ะ แต่มาดับเอาตอนที่จะถึงบ้านแล้ว” “อาการก่อนเริ่มดับมันเป็นยังไงบ้างครับ?” และเสียงนุ่มลึกของผู้ชายที่ขับมอเตอร์ไซค์ก็เอ่ยถาม มันเป็นจังหวะที่เขาถือกล่องใส่อุปกรณ์อะไรมาสักอย่างไว้ในมือ เจ้าเอยถึงอึ้งไปอีกครั้งเมื่อผู้ชายตรงหน้าเขาดูเหมือนไม่น่ามาเป็นช่างเลยด้วยซ้ำ ไหนจะหุ่นที่ดูล่ำ ใบหน้าหล่อเหลา สูงยาวซึ่งลักษณะของเขาเหมือนนายแบบในนิตยสารหรือไอดอลเกาหลีที่เธอปลาบปลื้มมากกว่า “คุณครับ” สติของเจ้าเอยกลับมาอีกครั้ง เธออยากจะกัดลิ้นตัวเองตายด้วยซ้ำที่เผลอจับจ้องเขานานขนาดนั้น “คืออาการก่อนรถจะดับมันกระตุกสองสามครั้งค่ะ แล้วก็ดับเลยตอนที่ฉันมาจอดข้างทาง” “เก่งมากนะครับที่คุมสติยามที่รถมีปัญหาได้” เขาชมเธอก่อนจะเดินไปยังกระโปรงรถและวางกล่องอุปกรณ์ลงบนพื้น เขาค้นหาเครื่องมือสักพักก็ได้ตามที่ต้องการก่อนจะโน้มตัวลงไปเพื่อดูเครื่องยนต์ “น่าจะเป็นที่หัวฉีดมีคราบสกปรกไปอุดตันแน่ๆ” เจ้าเอยมองเขาที่ดูเครื่องยนต์อย่างชำนาญและคล่องแคล่วมากๆ “เก่ง ลองไปสตาร์ทรถที” “ครับพี่หิน” ชื่อของคนที่มาช่วยเธอไว้ถูกเรียกขึ้น “ผมว่ารถคุณต้องเข้าอู่แล้วล่ะครับ” หินหันไปสบตากับคนตัวเล็กที่ยืนลุ้นอย่างข้างๆ ดีที่เขาผ่านมาทางนี้เพราะโดนโทรตามให้ไปซ่อมรถที่เสียอยู่ตรงหัวสะพานก่อนจะกลับถึงอู่ซ่อมรถของตัวเองก็มาเจอเธออยู่ ด้วยความที่เป็นช่างจึงไม่รอช้าที่จะสอบถามเรื่องนี้และเข้าช่วยเหลือทันที “ขับไม่ได้เลยเหรอคะ?” เจ้าเอยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย “แบบนี้ฉันต้องแย่แน่เลยค่ะ” “บ้านคุณอยู่ตรงไหนครับ” หินถามก่อนจะยืนเต็มความสูงและมองเจ้าเอยที่สูงเพียงแค่หน้าอกเขากำลังชี้นิ้วไปยังซอยตรงหน้า “เข้าซอยนั้นไปน่ะค่ะ” เขาพยักหน้ารับก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดต่อสายไปที่อู่เพื่อโทรให้คนมาลากรถไป จากนั้นเขาก็หยิบนามบัตรที่พกติดตัวมาเสมอส่งให้เธอและใช้ปากกาขีดเส้นใต้ไปยังเบอร์ของเขา “นี่นามบัตรอู่ซ่อมรถชัยกิจครับ และนี่เบอร์ของผม” เจ้าเอยรับนามบัตรสีฟ้าขึ้นมาอ่านชื่อของอู่ซ่อมรถและเงยหน้าสบตากับเขาพลางฉีกยิ้มกว้าง “คือ... ฉันขอยืมมือถือหน่อยได้ไหมคะ” หินที่หันไปปิดกระโปรงรถยนต์ของเธอทำหน้ามึนงง แต่ก็ยื่นมือถือให้โดยไม่ได้ถามอะไรออกไป “มือถือฉันแบตหมดน่ะค่ะ จะโทรให้ที่บ้านมารับ” “ครับ” เจ้าเอยรับมือถือยี่ห้อหนึ่งซึ่งมันมีรอยแตกและดูจะพังตอนไหนก็ไม่รู้ขึ้นมา พลางมองไปยังร่างสูงที่ก้มลงเก็บอุปกรณ์ที่ตัวเองถือมาและมองมือถือของตัวเองซึ่งมันแตกต่างกันมากเลย คนทำงานควรได้ใช้มือถือที่ดีและติดต่อได้สะดวกสิ ทำไมเขาถึงได้ใช้เครื่องที่ใกล้จะพังอยู่แล้วก็ไม่รู้ แต่มันอาจจะเป็นความพอใจส่วนตัวซึ่งเธอเองไม่ควรยุ่ง จึงต่อสายหาที่บ้านแม่ที่รับสายก็เป็นห่วงบอกจะให้พี่ชายของเธอออกมารับ เมื่อคุยแล้วเรียบร้อยก็เป็นจังหวะที่รถลากมาพอดี เธอยืนมองรถของตัวเองที่ถูกลากไปยังอู่ซ่อมรถชัยกิจซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านเธอสักเท่าไหร่เพราะมีบอกเส้นทางการไปอยู่ด้านหลังนามบัตร “ขอบคุณสำหรับมือถือนะคะ” เจ้าเอยคืนมือถือให้กับเขา หินรับมาเก็บลงกระเป๋าก่อนจะยืนอยู่กับเธอจนเจ้าเอยมึนงงว่าเขาไม่ไปไหนทั้งที่คนที่มากับเขากลับไปกับรถลากแล้ว “ไม่กลับเหรอคะ?” ด้วยความสงสัยเธอจึงถามออกไป หินจึงเท้าเอวและมองไปยังซอยบ้านเธอ “คนที่บ้านคุณจะมาหรือยังครับ” “คะ? ประมาณสามนาทีมั้งคะ” เธอเองก็เดาไม่ถูกเพราะพี่ชายของเธออาจจะนั่งเล่นเกมอยู่หรือทำงานอยู่อันนี้เธอไม่รู้ได้เลย “ผมรอเป็นเพื่อน” คำตอบของหินทำให้เจ้าเอยหายสงสัยสักทีว่าทำไมเขาถึงไม่ไป “นั่งรอตรงนั้นเถอะครับ ยืนริมถนนมันไม่ดีเท่าไหร่” หินชี้นิ้วไปยังเก้าอี้ไม้ตัวยาวแต่ทั้งหินและเจ้าเอยต่างพากันนั่งห่างจนเหลือที่ว่างตรงกลางเก้าอี้ไม้ มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เจ้าเอยแปลกๆ เพราะคนที่ไม่รู้จักแต่กลับมาช่วยเหลือกันไหนจะมานั่งรอเป็นเพื่อน เธอจึงลอบมองใบหน้าหล่อเหลาซึ่งสายตาคมมองตรงไปยังท้องถนน “ต้องซ่อมนานไหมคะ รถของฉันน่ะ” คำถามของเจ้าเอยทำให้หินหันมาสบตากับเธอและใช้ความคิดสักพัก “ต้องตรวจดูก่อนครับ ผมบอกไม่ได้ว่านานแค่ไหน” “รถใหม่ด้วย ไม่น่ามีปัญหาได้เลยนะคะ” เพราะรถคันนี้แม่ของเธอเพิ่งจะซื้อให้หลังจากที่เธออ้อนวอนอยากขับรถไปเรียนเองโดยไม่พึ่งพาลุงพลที่อายุมากแล้วสายตาก็ไม่ค่อยจะดี “ไม่ว่าจะรถใหม่หรือรถเก่าก็ควรไปตรวจเครื่องยนต์รถบ่อยๆ ครับ” “จริงเหรอคะ?” เจ้าเอยทำหน้าบูดก่อนจะยกมือเกาศีรษะตัวเอง “ฉันไม่เคยพารถไปตรวจเครื่องยนต์เลยค่ะ เพราะคิดว่ารถใหม่ไม่น่าจะเป็นอะไร” นี่เป็นครั้งแรกเลยด้วยซ้ำที่เจ้าเอยคุยกับผู้ชายคนอื่นนอกจากพ่อ พี่ชายหรือคนที่รู้จัก ส่วนใหญ่เธอมักจะเจอผู้ชายที่ชอบอวดตัวเองและอีโก้สูงมากๆ จนเธอรู้สึกอึดอัดเวลาคุยด้วยเพราะเขาจะคุยอวดความรวยจนเธอรู้สึกอยากจะอ้วก รู้ว่าที่พวกเขาทำแบบนั้นเพราะอยากจะมีฐานะเทียบเท่ากับเธอ แต่ผู้ชายคนนี้ต่างกันมากเหลือเกิน... ไม่คิดด้วยซ้ำว่าโลกใบนี้จะมีผู้ชายที่ถ่อมตัวอยู่ตรงนี้และเขาอยู่ข้างๆ เธอ “ผมซ่อมรถมาเยอะครับ เจ้าของที่มีความคิดแบบคุณจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน” “ถ้างั้นก็ต้องรบกวนด้วยนะคะ” เจ้าเอยโค้งศีรษะให้กับเขาซึ่งแน่นอนว่าหินรู้สึกแปลกใจกับผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงคนนี้ที่ทั้งรวยและมีฐานะจะเป็นคนที่น้อมนอบขนาดนี้ ปกติเขามักจะเจอคนรวยที่เอาตัวเองเป็นใหญ่และพูดจาดูถูกเขาสารพัด แต่ผู้หญิงคนนี้ต่างกันมากเหลือเกิน... ไม่คิดด้วยซ้ำว่าโลกใบนี้จะเจอผู้หญิงคนนี้ที่รวยจะจิตใจดี อ่อนน้อมอยู่ตรงนี้และเธออยู่ข้างๆ เขา ต่างคนต่างพากันจับจ้องมองกันไม่มีใครหลบสายตาใคร แต่กลับเป็นหินเองต่างหากที่หลบสายตาเธอ ก่อนจะยกมือลูบใบหน้าตัวเองสองสามครั้งพร้อมกับบอกตัวเองว่า ‘คิดบ้าอะไรกัน ไม่เข้าท่าเลยหิน’ “โอ๊ะ! พี่ชายฉันมาพอดีเลยค่ะ”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.8K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.7K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.9K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.8K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.2K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook