“พี่ชาติไม่อยู่เหรอครับ ผมติดต่อไม่ได้เลย โทรมาที่นี่ก็ไม่มีคนรับสาย”
น้ำเสียงของเขายังคงนุ่มนวลไม่เปลี่ยนแปลง ใบหน้านั้นก็ยิ้มน้อยๆ และนั่นช่างส่งให้เขาดูหล่อเหลา ราวกับพระเอกเกาหลี ที่สาวๆ ทั้งเมืองปลาบปลื้มไปตามๆ กัน จนเกือบลืมคำถามที่เขายังยืนรอคำตอบอยู่แล้ว
“เอ่อ! พี่ชาติไปดูคุณแม่ค่ะ บอกว่าหกล้มในห้องน้ำค่ะ”
“อ้าว! เหรอครับ แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” มัทรีเห็นคนถามเลิกคิ้วขึ้น บ่งบอกว่าสนใจกับข่าวใหม่นี้อย่างเห็นได้ชัด
“ยังไม่ทราบอาการค่ะ เพราะพี่ชาติเลยไม่ได้โทรมาบอกอะไรค่ะ คุณเกียร์จะให้มัทโทรไปถามมั้ยคะ”
แม้จะไม่เคยพูดคุยกับเขาเลย นับตั้งแต่ได้เข้ามาทำงาน แต่ทุกคนในบริษัท ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหน สูงหรือต่ำเพียงใด ก็มักจะเรียกเขาว่า ‘คุณเกียร์’ ติดปากกันทั้งนั้น มัทรีเลยไม่รู้จะเรียกอะไร นอกจากตามคนอื่นไป
“ไม่เป็นไรครับ! เดี๋ยวหายยุ่งแกคงจะโทรหาผมเอง ปล่อยให้จัดการเรื่องทางบ้านไปก่อนดีกว่าครับ ว่าแต่ไปไหนกันหมดครับ หรือว่าไปกินข้าว แต่นี่บ่ายโมงจะครึ่งแล้วนะครับ”
มัทรีมองตามผู้บริหารหนุ่ม ที่หันซ้ายทีขวาทีหาพนักงานในออฟฟิศ แต่ก็ไม่มีสักคน แถมยังยกมือขึ้นดูนาฬิกาด้วย เพื่อตรวจสอบว่าตัวเองไม่ได้มาเวลาเที่ยง ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่จะไปกินข้าว
“เอ่อ! พอดีพี่ๆ งานยุ่งค่ะ เลยไปตอนเที่ยงครึ่ง อีกหน่อยก็คงจะกลับมาค่ะ”
ถ้าจะบอกว่า รุ่นพี่ไปตั้งแต่สิบเอ็ดโมงครึ่งจนป่านนี้ยังไม่กลับมา ตัวเองคงเป็นนางมารร้ายแน่ และเรื่องนี้ก็ไม่อยู่ในความคิดด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนคิดดี ทำดี แม้จะไม่มีใครเห็นก็ตาม
“อ๋อ! แล้วคุณกินหรือยังครับ”
หัวใจดวงน้อยๆ เต้นแรงขึ้นด้วยความปลาบปลื้มใจ ที่ผู้บริหารระดับสูงอย่างเขา ห่วงใยพนักงานตัวเล็กๆ ตำแหน่งเล็กๆ ด้วยคำถามนี้ แม้เขาจะถามไปอย่างนั้น หรือถามตามมารยาท แต่แค่นี้ก็ดีใจแทบแย่แล้ว
“ยังค่ะ ต้องรอให้พี่ๆ กลับมาก่อนถึงจะไปได้ค่ะ เดี๋ยวไม่มีคนรับโทรศัพท์ค่ะ...” ยังไม่ทันได้พูดจบด้วยซ้ำ เสียงโทรศัพท์จากโต๊ะชูชาติก็ดังขึ้น มัทรีไม่กล้ารับเพราะเจ้านายใหญ่ยังไม่ไปไหน และยังไม่รู้ว่ามาถึงนี่ต้องการอะไร
“ตามสบายครับ”
มือก็คว้าโทรศัพท์มาดึงสาย ส่วนตานั้นก็มองตามเจ้าของร่างสูงไม่แพ้นายแบบ เดินออกจากออฟฟิศไป หัวใจก็ยังคงเต้นระทึกไม่ยอมหยุดสักที จากนั้นมันก็เหมือนจะลอยตามติดไปกับเขาด้วย จนแทบจะคุยกับคนปลายสายไม่รู้เรื่อง ถ้าไม่ตั้งสติให้ดี และจากก่อนหน้าที่เริ่มหิวข้าวตะหงิดๆ นั้น บัดนี้กลับกลายเป็นอิ่มตื้นจนไม่ได้สนใจจะรอ ว่าสี่สาวจะกลับเข้าออฟฟิศตอนไหนด้วยซ้ำ
“พี่ซื้อข้าวคลุกกะปิมาฝากมัทด้วย จะได้ไม่ต้องไปกินแคนทีนไง อร่อยนะเจ้านี้ มีขนมกับผลไม้ด้วย”
เกือบบ่ายสอง ทุกคนถึงได้กลับมา และต่างหิ้วถุงของกินมาวางให้บนโต๊ะกลาง ซึ่งเป็นโต๊ะสารพัดประโยชน์ ทั้งกินข้าว ประชุม คนสมัครงานนั่งกรอกเอกสาร
“พี่มียำขนมจีนมาให้มัทด้วย”
หวานใจเองก็วางถุงไว้บนโต๊ะ แล้วมองมาหา คล้ายๆ จะเป็นการขอโทษที่มาช้า มัทรีไม่ได้ว่าอะไร นอกจากยกมือไหว้ขอบคุณทุกคน จากนั้นก็หิ้วถุงสารพัดออกไปแคนทีนอยู่ดี
เพราะไม่อยากเสียสิทธิ์หนึ่งชั่วโมงในการพักไป อีกทั้งอยากจะคิดทบทวนถึงภาพของชายในฝัน ที่มายืนอยู่ในออฟฟิศ แบบไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนด้วย
“โหแก! มาตอนพวกฉันจะอิ่มแล้วนี่นะ แม่พวกนั้นใช้ไม่ได้เลยอะ ไม่เห็นใจคนหิวเลย”
สองเพื่อนกินของหวานเรียบร้อยแล้วเมื่อไปถึง แต่ก็ไม่วายคว้าถุงสารพัด จากมือมัทรีไปเปิดสำรวจอยู่ดี เกาเหลาถูกสั่งมากินกับข้าวข้าวคลุกกะปิและต้องรีบกินด้วย ก่อนเพื่อนจะกลับออฟฟิศ
เพราะกลัวไม่มีคนคุยด้วย ส่วนเพื่อนก็กินยำขนมจีนกับขนมรอไป พออิ่มก็ต่างแยกย้ายกัน สองเพื่อนไปทำงาน ส่วนมัทรีลงไปช้อปตลาดติดแอร์ ที่มีแค่เดือนละครั้งเนื่องจากเวลาพักเหลือเกินครึ่งชั่วโมง
จากนั้นก็รีบกลับให้ทันเวลาพักหนึ่งชั่วโมงของตัวเอง แบบไม่ต้องรอให้ใครมาบอก เพราะไม่อยากเอาเปรียบองค์กร หรือเอาเปรียบคนอื่น ถือเป็นนิสัยอันดี ที่มีติดตัวมานับตั้งแต่จำความได้แล้ว
เมื่อตื่นมาแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายเหมือนจะเป็นไข้ จักรภัทรจึงโทรไปหาแม่ก่อน วันเสาร์ออฟฟิศจะทำงานแค่ครึ่งวัน บวกกับบ่ายแก่ๆ ต้องต้อนรับแขกจากยุโรปยืนยาวไปจนถึงมื้อเย็น เลยรีบโทรไปสั่งงานเนติต่อ จากนั้นไม่นาน แม่กับเต้ยก็ขึ้นมาหาบนห้อง พร้อมสมุนไพรป้องกันไข้หวัดหลายขนาน
ถ้าป่วยเล็กๆ น้อยๆ แม่จะใช้วิธีรักษาคนในบ้านด้วยสมุนไพรก่อน ถ้าไม่จำเป็น ก็จะไม่ให้กินยาปฏิชีวนะ ซึ่งเป็นอะไรที่ดีไม่น้อย พอได้ยาแล้วเขาก็ตัดสินใจนอนต่อแทนการลุกไปทำงาน เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรสำคัญมากรออยู่ ราวสิบโมงก็สะดุ้งตื่น เพราะมือถือดังขึ้น พอยกมาดูก็เห็นว่าเป็นชูชาติเลยรีบกดรับ
“ครับพี่ชาติ คุณแม่เป็นยังไงบ้างครับ”
“ก็ไม่เป็นอะไรมากครับ ขาหักต้องเข้าเฝือกสักสองสามเดือนครับ คุณเกียร์โทรหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ เมื่อวานมัวแต่ยุ่งๆ แบตก็หมดด้วย ผมเพิ่งจะเห็นครับ วันนี้ผมลางานอีกวันครับ แต่ถ้ามีเรื่องด่วน ผมไปหาที่ออฟฟิศได้ไม่มีปัญหาครับ”
“อืม! มาที่บ้านแทนดีกว่าครับ พอดีผมอยากคุยเรื่องรับสต๊าฟ[1] เปิดใหม่ที่ย่างกุ้งครับ ว่าแต่พี่ชาติสะดวกแน่นะครับ”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะให้เด็กเอาเอกสารไปสมทบ ที่บ้านคุณเกียร์เลยก็แล้วกันครับ คงจะถึงราวๆ สิบเอ็ดโมงครึ่งนะครับ เผื่อรถติด”
“โอเคครับ”
[1] Staff = พนักงาน