EP 6

1122 คำ
คือไข่ต้มเหยาะซอสแม็กกี้เล็กน้อย กับผัดผักรวมที่ยังเป็นสีเขียวสดน่ากินอยู่ แม้หุ่นจะผอมเพรียว แต่มัทรีก็ยังดื่มกาแฟไม่ใส่อะไรมาตั้งแต่อายุยี่สิบปี กระทั่งตอนนี้ยี่สิบหกแล้ว และมักจะเลือกกินอาหารมีประโยชน์ต่อร่างกายเข้าไว้ การออกกำลังกายนั้นไม่ต้อง เพราะเดินมาทำงานทุกวันก็เพียงพอแล้ว ไหนจะกลับไปทำงานบ้าน ทำอาหาร เลี้ยงเจ้าหลงกับเจ้าลอยอีก และในวันหยุดก็จะต้องซักผ้า รีดผ้า กับทำความสะอาดบ้านชุดใหญ่ ในบางวันที่ตรงกับวันพระ ก็ต้องไปวัดกับยาย นั่นก็ช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากพอแล้ว “มาแต่เช้าตามเคยนะมัท” “สวัสดีค่ะพี่” ไม่รู้ว่าหัวหน้างานเข้าประตูมาตอนไหน อาจจะตอนไปชงกาแฟก็ได้ มัทรีเลยวางแก้วแล้วยกมือไหว้ ใจนั้นอยากชงกาแฟให้ไม่น้อย แต่กลัวพี่หวานใจ ผู้เป็นเลขาของชูชาติจะตำหนิเลยไม่กล้าเสนอ “พี่ขอกาแฟแก้วนะมัท” “ค่ะ” แต่ถ้าถูกร้องขอแบบนี้ ก็ต้องรีบจัดการให้ แล้วรีบกลับมานั่งกินมื้อเช้าต่อ เพราะรู้ว่าชูชาติจะใช้สมาธิในการทำงานด้วยเช่นกัน เจ็ดโมงครึ่งล้างแก้วกาแฟกับล้างกล่องอาหารเสร็จ และพร้อมทำงานแล้ว ในขณะที่คนอื่นๆ เพิ่งจะมาถึง เพิ่งชงกาแฟไปนั่งจิบแทนมื้อเช้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลย ทุกคนควรจะกินมื้อเช้าหนักๆ ไว้ก่อน แต่ป่วยการจะบอก หรือบอกได้ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะตัวเองเป็นพนักงานอายุน้อยสุดในแผนก ตำแหน่งก็เล็กสุด แม้จะทำงานมาสี่ปีแล้ว แต่ก็ถือว่าอายุงานน้อยกว่าใครเพื่อนอยู่ดี เลยไม่มีใครสนใจหรือเกรงใจ ส่วนคนอื่นทำมาแปดถึงสิบปีขึ้นกันทั้งนั้น ก็เพราะได้งานดีๆ เจ้านายดีๆ เงินเดือนดีๆ จึงไม่มีใครคิดจะหนีหน้าไปไหน แถมยังมีผู้บริหารหนุ่มหล่อเหลาราวพระเอกเกาหลี ให้คอยมองได้ชื่นใจอีก “เมื่อกี้นะ ฉันได้ขึ้นลิฟต์มาพร้อมสุดหล่อด้วยล่ะพวกแก คนอะไรไม่รู้ ยิ่งดูใกล้ๆ ก็ยิ่งหล่อ และน่าพาไปล่ออะ” หวานใจผู้เป็นเลขาของชูชาติในวัยสามสิบสาม นั่งทำตาลอย ท่าทีเคลิ้มฝัน ทำเอาสาวคนอื่นๆ ในออฟฟิศต่างตาโตเท่าไข่ห่านด้วยความตื่นเต้นไม่แพ้กัน “จริงเหรอแก! ตาร้อนอะ ว่าแต่ลิฟต์ตัวไหนล่ะ พรุ่งนี้จะไปรอบ้าง” ปภาวดีในวัยสามสิบสี่ ผู้จัดการด้านฝึกอบรม ซึ่งเป็นเจ้านายโดยตรงของมัทรีถามด้วยท่าทีตื่นต้น ขณะรับกาแฟจากมือมัทรีไปดื่ม เพราะตั้งแต่ฝึกงานกระทั่งทุกวันนี้ กาแฟทุกแก้วของสาวเปรี้ยว เธอจะเป็นคงจัดการให้เสมอ บางครั้งหวานใจก็จะขอสักแก้วบ้าง บางทีก็ขอกันทั้งออฟฟิศ แม้จะไม่ชอบใจเวลามีงานยุ่งๆ แต่มัทรีก็จะเก็บงำไว้ ไม่เอ่ยหรือแสดงความไม่พอใจใดๆ ออกมา ด้วยถือคติว่า ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ทำไป จะได้ไม่มีปัญหากับรุ่นพี่ จากจุดนี้ ตัวเองเลยกลายเป็นต้องยอมไปหมดแทบทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องคิวไปกินมื้อเที่ยง ก็ได้บ่ายโมงแทน เพราะต้องนั่งเฝ้าออฟฟิศก่อน เวลามีงานพิเศษในวันหยุด ก็ต้องเป็นคนถูกยัดเยียดให้มาก่อนเสมอ วันพักร้อนก็ต้องรอถามรุ่นพี่ก่อน ถึงจะลาได้ เวลามีคนเอาของมาฝาก ก็มักจะได้น้อยกว่าใคร หรือบางทีก็ไม่ได้เลย เพื่อนใหม่ในออฟฟิศเลยไม่มี ที่คบกันอยู่ก็จะเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย ที่อยู่แผนกบัญชีกับแผนกประชาสัมพันธ์เท่านั้น และสองก็ถูกกีดกันจากรุ่นพี่ด้วยวิธีเดียวกัน เลยได้มาคุยกันตอนกินข้าวเที่ยงในเวลาบ่ายโมง ใครมีเรื่องอะไร ก็จะเอามาระบายในกลุ่มแบบเบาๆ ระวังไม่ให้ถึงหูใคร เพราะรู้ดีว่าจะไว้ใจใครไม่ได้ ในเมื่อทั้งสามเคยเจอมาแล้วตอนฝึกงาน จึงรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง เพื่อไม่ให้ภัยมาถึงตัว จนต้องอยู่ในสังคมเล็กๆ นี้ยากขึ้นไปอีก “หวานๆ แม่พี่หกล้มในห้องน้ำ เดี๋ยวพี่จะไปดูก่อนนะ” มัทรีรวมทั้งสาวๆ ในออฟฟิศต่างตกใจ เมื่อชูชาติออกจากห้องมาบอกข่าวไม่ค่อยดี จากนั้นก็เดินออกจากออฟฟิศไป “วันนี้มีตลาดนัดใช่ปะหวาน เสร็จงานแล้ว เราไปหาอะไรมาไว้กินเที่ยงกันดีมั้ย” พิรดาในวัยสามสิบห้า ผู้ช่วยของชูชาติชะโงกหน้าออกมา จากคอกแล้วยิ้ม เพราะลูกพี่ไม่อยู่ เลยเป็นวันปล่อยผีไปในความคิดของมัทรี และรู้ดีว่าสักสิบหรือสิบเอ็ดโมง ตัวเองก็จะได้เฝ้าออฟฟิศคนเดียวแน่ๆ ส่วนทุกคนก็จะออกไปเดินเลือกซื้อข้าวของ ต่อด้วยกินมื้อเที่ยง จะกลับเข้าออฟฟิศอีกก็บ่ายโมงโน่นเลย   และมันก็เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ไม่มีผิดเพี้ยน จะเหนือคาดหน่อยก็ตรงที่ วันนี้โทรศัพท์โต๊ะนั้นดังที โต๊ะนี้ดังทีมากกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นมา เรียกได้ว่าไม่ต้องทำการทำงานอะไร นอกจากดึงสายมารับ แล้วก็จดโน้ตไว้เท่านั้น มีคนเดียวและมือเดียว เลยดึงสายไม่ทัน ได้แต่ปล่อยให้ดังอยู่อย่างนั้น เพราะยังคุยกับอีกสายไม่จบสักที ‘ก๊อกๆ ๆ’ เพราะมัวแต่รับเรื่องแทนคนอื่นอย่างชุลมุนวุ่นวายอยู่ เลยไม่เห็นว่าใครเดินเข้ามาในออฟฟิศ ใช้มือเคาะประตูกระจกห้องทำงานของชูชาติอยู่ ดวงตาคู่คมภายใต้แว่นใสแจ๋วนั้น ก็มองมาหาแล้วยิ้มบางๆ ให้ หัวใจของมัทรีแทบจะตกไปอยู่ตรงตาตุ่ม กายแข็งทื่อจนทำอะไรไม่ถูก ปากที่คุยกับคนปลายสายเมื่อครู่ ก็พาลเปล่งเสียงไม่ค่อยออกไปด้วย “ได้ค่ะพี่ เดี๋ยวมัทบอกพี่หวานให้ค่ะ สวัสดีค่ะ” จากนั้นก็รีบวางสาย แล้วลุกขึ้นยกมือไหว้ผู้บริหารหนุ่ม ที่ร้อยวันพันปี ไม่เคยเหยียบย่างเข้ามาฝ่ายทรัพยากรบุคคลเลยด้วยซ้ำ ยังผลให้คนเฝ้าออฟฟิศทำอะไรไม่ถูก นอกจากยืนยิ้มแหยๆ ให้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม