บทที่ 18 ลาก่อน…บ้านตระกูลอัล
“หนูรินจ้ะ” คุณหญิงวาสนาเอ่ยเรียกหญิงสาว เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่ก้มหน้าไม่พูดอะไรออกมา ตั้งแต่ลูกชายคนโตของเขาเดินออกไป
เสียงเรียกของคุณหญิง มิชรินทร์ได้ยินไม่ชัดนักเพราะใจของเธอว้าวุ่นอยู่กับทายาทตระกูลดัง ถึงจะได้ยินไม่ชัดเท่าใดนัก แต่นั่นทำให้คนตัวเล็กได้สติ พร้อมกับขานรับอย่างนอบน้อมทันที
“คะ? คุณหญิง”
“ฉันจะมาคุยเรื่องตาเฟรดจ้ะ”
“ค่ะ” ปากเล็กตอบรับอย่างแผ่วเบา เพราะรู้สึกผิด เรื่องคำทำนายที่หญิงสาวได้บอกกับคุณหญิง ตอนนี้มันไม่เป็นความจริง คุณหญิงจะต่อว่าเธอไหม เจ้าของใบหน้าสวยครุ่นคิดอยู่ในใจ
สีหน้าของมิชรินทร์แสดงออกถึงความเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคุณหญิงเองก็ดูออกว่าตอนนี้คนตัวเล็กตรงหน้ารู้สึกไม่สบายใจ ผู้เป็นแม่ของทายาทตระกูลดังจึงได้คลี่ยิ้มออกมาบาง ๆ ขยับตัวไปนั่งข้าง ๆ ร่างบางระหงอย่างเอ็นดู พร้อมกับเอ่ยปากว่า
“ไหน หนูรินเงยหน้าขึ้นมาซิ ค่อย ๆ เล่าให้ฉันฟังหน่อยว่าหนูกับตาเฟรดเนี่ย ไปถึงขั้นไหนกันแล้ว” คุณหญิงพูดเสียงนิ่มนวล และเอื้อมมือนิ่มมากุมมือของมิชรินทร์เอาไว้ ทำให้ใบหน้าเล็กเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคุณหญิง แม่ของอัลเฟรดไม่มีท่าทีที่จะโกรธเธอเลย หญิงสาวจึงผ่อนคลายมากขึ้น
“….” มิชรินทร์เงียบ ยังคงประมวลผลอยู่ว่าจะตอบไปตามความจริง หรือจะโกหกดี หากเธอตอบตามความจริง ดูจากใบหน้าของคุณหญิงแล้ว ต้องบีบบังคับอัลเฟรดมารับผิดชอบหญิงสาวแน่นอน ซึ่งนั่นจะไม่ทำให้เขาเกลียดเธอมากขึ้นกว่าเดิมหรอกหรือ
“รินกับคุณอัลเฟรดไม่ได้มีอะไรเกินเลยค่ะ อีกอย่างคุณอัลเฟรดบอกรินแล้วค่ะว่าไม่ได้ชอบริน”
ริมฝีปากสวยเอ่ยคำโกหกออกมา จงใจเรียกชื่อเขาให้ดูห่างเหินมากที่สุด นั่นคงดีที่สุดสำหรับเธอและอัลเฟรดแล้ว ส่วนเรื่องที่เธอเสียความบริสุทธิ์ไป คิดเสียว่าเป็นค่าจ้างการทำงานครั้งนี้ คงจะไม่รู้สึกแย่เท่าไหร่…..ถึงแม้มันจะเหมือนกับการขายตัวก็เถอะ….สุดท้ายแล้วเรื่องนี้มิชรินทร์ก็เป็นฝ่ายยินยอมเอง จะเรียกร้องอะไรได้
“งั้นหรือจ้ะ…” ผู้เป็นแม่ของอัลเฟรดพูด พร้อมกับถอดถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ในใจก็รู้สึกเสียดายมิชรินทร์ไม่น้อย เพราะว่าคุณหญิงดูออกว่าคนตัวเล็กตรงหน้าไม่สนใจเรื่องเงินทองทรัพย์สมบัติในตระกูลของเขา อีกอย่างนิสัยน่ารัก ถูกชะตากับคุณหญิงวาสนานัก และเหตุผลที่ชอบคนตัวเล็กมากขึ้นไปอีกคือ การที่หญิงสาวเป็นหมอดูน้อย เคยดูเนื้อคู่ให้ลูกชายคนเล็กกับคนกลาง จนได้มีชีวิตที่ดี
“คุณหญิงคะ รินต้องขอโทษด้วยนะคะ เรื่องการดูเนื้อคู่ให้คุณอัลเฟรดผิดค่ะ รินไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม…..”
“ไม่เป็นอะไรจ้ะ ความรู้สึกของคนเราเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้นี่เนอะ วันนี้อาจจะไม่รัก วันหน้าก็ไม่แน่นะจ้ะหนูริน…” ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะพูดจบ คุณหญิงวาสนาก็เอ่ยขึ้นมาแทรกเธอเสียก่อน
วันนี้อาจจะไม่รัก….วันหน้าไม่แน่….งั้นเหรอ มิชรินทร์ยิ้มขื่น พยายามเก็บอารมณ์ภายในใจอย่างมิชิด
“คงไม่มีวันนั้นหรอกค่ะ” ปากเล็กเอ่ยออกมาเบา ๆ ใบหน้ายังคงประดับด้วยรอยยิ้มอันสดใส ทว่าดวงตากลับดูหม่นหมอง มีหรือคุณหญิงวาสนาจะมองไม่เห็น จะดูไม่ออก….
“หนูรินจ้ะ…”
“คะ?”
“มีอะไรให้ฉันช่วยบอกนะ ยินดีช่วยเสมอจ้ะ”
“รินขอบคุณมากนะคะ ที่คุณหญิงยินดีจะยื่นมือช่วยเหลือ แต่รินเกรงใจค่ะ รินไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือด หรือเป็นญาติกับคุณหญิงเลย รินรู้สึกลำบากใจไม่น้อยเลยค่ะที่จะขอความช่วยเหลือ และในการจ้างงานครั้งนี้ รินคิดว่าคุณหญิงเสียเงินไปเปล่า ๆ ด้วยซ้ำ งั้นรินขอปฏิเสธรับค่าจ้างได้ไหมคะ….”
“ไม่ได้จ้ะ หนูต้องรับ ฉันเป็นคนจ้างงานหนู งานสำเร็จ ไม่สำเร็จฉันก็จ้างมาแล้ว ฉันไม่ได้บอกนี่จ้ะว่า ตาเฟรดต้องรักหนู ถึงจะได้ค่าจ้าง”
“ริน….”
“ไม่ต้องคิดอะไรมากจ้ะ รับเอาไว้เถอะ ส่วนเรื่องทำงานหนูพร้อมเมื่อไหร่จ้ะ ฉันให้เลขาทำเรื่องเข้าบริษัทไว้ให้แล้ว หนูรินอยากทำงานตำแหน่งไหนจ้ะ”
“รินเรียนจบคณะบริหารธุรกิจมา ตำแหน่งไหนก็ได้ค่ะ แต่รินขอเริ่มที่ตำแหน่งเล็ก ๆ ก่อนนะคะ รินจะพัฒนาฝีมือตั้งใจทำงานเลื่อนขั้นด้วยฝีมือของรินเองค่ะ แค่คุณหญิงรับรินเข้าทำงานที่บริษัท นั่นเป็นบุญคุณมากแล้ว”
คุณหญิงวาสนา ยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ถือว่าการจ้างตัวเล็กมาในครั้งนี้ไม่ขาดทุน เพราะได้รู้ว่าเธอมีนิสัยอย่างไร เหมาะที่จะเป็นสะใภ้ในอนาคตหรือไม่
“หนูพร้อมเริ่มงานพรุ่งนี้เลยไหมจ้ะ”
“พร้อมค่ะ”
“ไปบริษัทถูกไหมจ้ะ”
“ถูกค่ะ ถึงแม้ว่ารินจะไม่เคยออกไปไหน แต่บริษัทของคุณหญิงชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้ คงไม่มีใครไปไม่ถูกค่ะ”
“ฮ่า ๆ ๆ งั้นวันนี้หนูกลับบ้านได้เลยนะ พักผ่อน สำหรับการทำงานในวันพรุ่งนี้จ้ะ”
“วันนี้ไม่ต้องอยู่ที่นี่จนครบวันหรือคะ…”
“หนูจะอยู่ตลอดเลยก็ได้จ้ะ หรือจะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ตามใจหนูรินเลยจ้ะ”
“งั้นรินขอกลับบ้านนะคะ” ปากเล็กพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ดวงตาหุบต่ำลงเล็กน้อย ที่เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อ เพราะคนใจร้ายนั่น เขาไม่อธิบายอะไรสักคำ แถมยังจงใจหลอกหญิงสาวอีก
“จ้ะ แวะมาหาฉันบ่อย ๆ ได้นะจ้ะหนูริน”
“หากมีโอกาสรินจะแวะมาหานะคะ รินกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” เจ้าของใบหน้าสวยคลี่ยิ้ม พร้อมกับยกมือไหว้คุณหญิงอย่างนอบน้อม
สองเท้าเล็กเดินออกมาจากประตูรั้วบ้านตระกูลอัล พลันน้ำตาค่อย ๆ เอ่อล้นไหลทะลักออกมา อย่างเสียใจ เป็นเพราะเธอไม่ฉลาดทันเล่ห์เหลี่ยมของคนอื่นเหรอ ถึงได้ถูกหลอกแบบนี้….แถมท่าทีของอัลเฟรดกับผู้หญิงที่ชื่อน้ำผึ้งนั้น ดูสนิทสนมกัน อีกทั้งสายตาของชายหนุ่มยังจับจ้องหญิงสาวที่มีสถานะเป็นแฟนเก่าอย่างไม่วางตาอีก….วินาทีนั้น มิชรินทร์กลายเป็นเพียงฝุ่นที่คนตัวสูงมองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ…..ใจร้ายจัง
“คิดว่าจะไม่เจ็บเสียอีก….คิดว่าจะเจ็บน้อยกว่านี้…ฮึกกก…” มิชรินทร์ร้องไห้โฮ หัวใจดวงน้อยชาหนึบ สะอื้นจนตัวโยน จนต้องเอามือมาทาบที่หัวใจเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจชำระล้างตะกอนความเจ็บปวดให้ทุเลาลงได้ ร่างเล็ก ๆ ทำได้เพียง ค่อย ๆ ทรุดนั่งลง เอามือปิดใบหน้าสวย ร้องไห้อย่างไร้เรี่ยวแรง
รักครั้งแรก ทำไมเจ็บปวดแบบนี้….. ถึงจะเป็นเวลาแค่เพียงสามวัน แต่หญิงสาวได้เผลอรักอัลเฟรดถอนตัวไม่ได้แล้ว….
ผ่านไปครู่หนึ่ง
มิชรินทร์ยังคงนั่งร้องไห้ไม่ยอมไปไหน แผลในใจยังคงสดใหม่ คนอ่อนด้อยอย่างหญิงสาวยังไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรัก จนเมื่อมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้า มันยากสำหรับเธอเหมือนกัน ที่จะรับมือไหว
ติ้ง! เสียงข้อความแจ้งเตือนในโทรศัพท์ ดังออกมา ทำให้คนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าอยู่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมา มือเล็กเช็ดน้ำตาออกจนหมด แต่ยังคงเหลือดวงตาที่บวมเปล่งจากการร้องไห้อย่างหนัก
มิชรินทร์ควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าผ้าสีอ่อน พร้อมกับหยิบออกมาดู ดวงตากลมโต ชะงักหยุดนิ่งอ่านข้อความในหน้าจอ
แม่ : ริน ทำอะไรอยู่ลูก กินข้าวหรือยัง…อย่าลืมกินข้าวด้วยนะลูก…แม่กลัวว่ารินจะปวดท้องเอา….
แม่ : คิดถึงลูกจังเลยคนดีของแม่ อย่าโหมงานหนักนะจ้ะ แม่เป็นห่วง สู้ๆ
ข้อความของแม่ลดาที่ส่งมา ทำให้ปากเล็กเผยรอยยิ้มออกมาจาง ๆ โลกทั้งใบของหญิงสาวคงล่มสลายไปแล้ว หากไม่มีแม่ของเธอ
สุดท้ายคนที่จะไม่ทิ้งเราไปไหน….คือพ่อกับแม่….
แม้จะเสียใจแค่ไหน…เธอต้องทำใจให้ไหว…..
คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนอีกครั้ง พร้อมกับฮึดสู้อีกครั้ง และนิ้วเรียวเล็กก็กดโทรศัพท์ตอบกลับผู้เป็นมารดา
มิชรินทร์ : รับทราบค่ะ…รินรักแม่นะคะ
ใบหน้าเล็กหันกลับไปมองบ้านตระกูลอัลอีกครั้ง พร้อมกลับเอ่ยออกมาเบา ๆ ว่า
“รินลาก่อนนะคะ พี่เฟรด….มีความสุขกันดี ๆ นะคะ….”