“กลัวฉันมากเหรอ…ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็ดูเธอสุขสมดีนี่เวลาที่ถูกฉันกระแทกใส่!” มัสยาส่ายหน้าแทนคำตอบ รู้ดีว่าไม่ควรทำให้คนตรงหน้าไม่พอใจเป็นดีที่สุดเพราะนั่นมันจะทำให้เธอแย่หนักกว่าเดิม
“มะ…มัทขอโทษที่ตื่นสายค่ะคุณราม” เธอร้องบอกก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง แต่คงเพราะอาการเวียนหัวยังคงอยู่มันเลยทำให้ร่างของเธอโงนเงนและคงจะล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นแล้วหากไม่ได้วงแขนแข็งแกร่งของอัศวินที่ลุกพรวดมาช้อนกันเอาไว้ได้ทันท่วงทีไว้ซะก่อน
“จัดการตัวเองให้เรียบร้อยภายในสิบนาที! สิบนาทีเมื่อไหร่หวังว่าฉันจะได้เห็นเธอออกไปทำงานเหมือนคนใช้คนอื่นๆ” อัศวินตวาดสั่งก่อนจะผละตัวถอยห่างและรีบพาตัวเองเดินออกมาจากห้อง ก่อนที่เขาจะเผลอใจอ่อนกับผู้หญิงที่เข้าใกล้ทีไรก็อันตรายทุกที
เขาจะใจอ่อนกับหล่อนไม่ได้ มัสยามาที่นี่เพื่อชดใช้ให้กับเขา เพราะฉะนั้นเธอต้องชดใช้ไม่ว่าร่างกายเธอจะพร้อมรับหรือไม่ก็ตาม!
ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำคนที่รออยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมอาหารเช้าที่ถูกสั่งเอาไว้ว่าตนเองจะต้องเป็นคนนำออกมาเสริฟให้เจ้านายหนุ่มด้วยตัวเอง มือน้อยที่สั่นจนเห็นได้ชัดทำเอานางสาวต้องเอ่ยขึ้น
“ป้าว่าให้มัสยาพักสักวันเถอะค่ะคุณราม” แม้ใจจะยังมีอคติต่อหญิงสาวตรงหน้าอยู่มาก แต่คนป่วยขืนปล่อยให้ทำงานมีหวังจะแย่ลงมากกว่าดีขึ้น นางเองก็ไม่ใช่คนใจร้ายถึงขนาดจะปล่อยให้สาวใช้ในปกครองต้องทำงานทั้งๆ ที่สภาพร่างกายไม่พร้อมเช่นตอนนี้
“ถามเขาเอาเองสิครับว่าอยากทำงานหรืออยากพัก…” อัศวินตอบก่อนจะพับหนังสือพิมพ์ในมือลง สายตาที่จ้องมองกันทำให้มัสยารู้ดีว่าเธอไม่มีสิทธิ์เลือกถึงแม้ว่าเขาจะพูดแบบนั้นก็ไม่มีสิทธิ์
“มัททำไหวคะป้าสาว ขอบคุณป้าสาวมากนะคะที่เป็นห่วง” นางสาวได้แต่พยักหน้ารับเมื่อเจ้าตัวว่าอย่างนี้นางก็จนใจจะขัดอะไรต่อ แม้จะรู้ดีว่าที่เด็กคนนี้ไม่กล้าขัดคงเป็นเพราะสายตาดุๆ ของอัศวินที่กำลังจ้องมองมาที่เธอ อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกันไม่มีผิด
“วันนี้คุณนารีจะมารับชาด้วยตัวเองนะคะ โทรมาบอกป้าเมื่อวาน เห็นบอกอยากเจอหน้าคุณรามด้วย เธอน่ารักนะคะป้าชอบ” คำบอกเล่าของป้าสาวที่ดังขึ้นทำให้อัศวินนั้นขมวดคิ้วในทันที
“ป้าก็รู้ว่าคุณนาไม่ใช่สเปคผม อย่าพยายามจับคู่ให้ผมเลยครับ มันจะเสียเวลาป้าเปล่าๆ” เขายังคงยืนยันคำเดิมว่ายังอยากเปิดรับใครเข้ามาในชีวิตตอนนี้ แม้ว่านารีนั้นจะเพียบพร้อมทุกอย่าง แต่ก็เหมือนว่าฝ่ายนั้นจะเรียบร้อยเกินไปคงไม่เหมาะกับคนอย่างเขา
“แหมคุณรามก็ ลองให้โอกาสเธอดูหน่อยสิคะ คุณนาน่ะทั้งน่ารักอ่อนหวาน ชาติตระกูลรึก็ดี เหมาะสมกับคุณแทบทุกอย่าง ป้าล่ะอยากเห็นคุณเป็นฝั่งเป็นฝาเร็วๆ กลัวว่าจะไปพลาดท่าเสียทีพวกไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้าสักวัน!” คำพูดที่เหมือนจงใจจะว่ากระแทกใครบางคนนั้นทำให้อัศวินต้องหันกลับมามองแม่นมของตัวเองตาแข็ง เมื่อได้เห็นอีกฝ่ายมองกลับอย่างไม่คิดจะหลบสายตายิ่งสงสัย
ไม่รู้ว่าแกไปรู้หรือได้ไม่เห็นอะไรมารึเปล่า
“ป้าไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ผมไม่ได้โง่ถึงขนาดจะเอาผู้หญิงไร้ค่าพวกนั้นมาทำเมียแน่! ก็แค่เรียกมาใช้บริการแก้ขัดชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น อีกไม่นานผมก็เบื่อ ผมเข้าไร่ก่อนนะครับ ฝากที่เหลือด้วย” คำตอบที่มาพร้อมร่างสูงที่ลุกขึ้นเดินออกไปจากบ้านทันทีที่พูดจบทำเอานางสาวถึงยิ้มรับด้วยความยินดี ต่างจากอีกคนที่ได้ยืนนิ่งจ้องมองแผ่นหลังของคนใจร้าย ท่ามกลางความปวดร้าวระทมหนัก
“เดี๋ยวก่อนมัสยา!” มัสยาที่กำลังจะเดินนำข้าวเช้าที่ไม่ได้ถูกแตะจากเจ้าของบ้านแม้แต่คำเดียวไปเก็บหยุดชะงักเมื่อถูกเรียกไว้
“ป้าสาวมีอะไรจะใช้มัทเหรอคะ”
“ไม่มีหรอก ฉันก็แค่อยากเตือนอะไรบางอย่างกับเธอด้วยความหวังดี ว่าคนอย่างคุณรามน่ะ ไม่คิดจริงจังกับใครง่ายๆ หรอกนะ ถ้าเธอคิดว่ารับได้ถ้าวันหนึ่งจะต้องถูกเฉดหัวออกไปจากที่นี่ ก็เชิญทำหน้าที่ยามค่ำคืนของเธอตัวเองต่อไปเถอะ เธอยังสาวยังสวย ไม่แปลกหรอกที่คุณรามเขาจะเรียกใช้ตอนที่รู้สึกเหงา…” คำพูดที่ยาวเหยียดทำเอามัสยาตัวชาราวกับถูกตบ ทุกคำที่ได้ยินยืนยันจนเธอไม่ต้องถามอะไรต่อก็พอเดาได้ไม่ยากเลยว่าป้าสาคงจะเห็นอะไรเข้า หรืออาจจะเมื่อคืนตอนที่เธอเดินออกมาจากห้องนอนอัศวินก็ได้
“ป้าสาวคะ คือว่ามัท…”
“ไม่ต้องอธิบายหรอก ฉันเข้าใจดี ก็แค่อยากเตือนเธอเอาไว้เท่านั้น คนเราแค่เกิดมาเป็นคนใช้เขาก็น่าอายพอแล้ว อย่าต้องให้คนอื่นเขามาตราหน้าว่าเป็นพวกมักใหญ่ใฝ่สูง อีกอย่างคุณรามเขายังรักภรรยาของเขาอยู่มาก คงไม่มีใครมาแทนที่คุณอรเธอง่ายๆแน่ เรื่องที่ฉันอยากพูด ก็มีเท่านี้แหละ” นางสาวพูดจบก็พาตัวเองเดินจากไป ทิ้งไว้แต่มัสยาที่เอาแต่ยืนนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาอีกรอบ
เธอไม่ได้เจ็บปวดกับคำพูดของหัวหน้าแม่บ้าน แต่เจ็บที่ตนเองไม่อาจปกป้องตัวเองจากใครได้เลย และมันยิ่งเจ็บเมื่อต้องพยายามสำนึกไว้ให้มากๆ ว่าเธอกับอิศวินช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
เธอและเขาคงเป็นได้แค่คู่ขนาน…
ต่อให้เธอจะรักเขามากแค่ไหนสุดท้ายก็ไม่มีวันได้ใจเขาอยู่ดี