"เป็นอะไรรึเปล่าคะ?" พยาบาลก้มลงถามอย่างสุภาพ เมื่อเห็นฉันเอาแต่นั่งนิ่งไม่ลุกขึ้นสักที
ก็ตอนนี้ฉันขาแข็งตูดชาไปหมดแล้ว ฉันยังไม่พร้อมเลย เพราะใจจริงฉันตั้งใจมาดูหน้าเขาเฉยๆ เรื่องคุยไม่คุย หรือรักษาไม่รักษาค่อยว่ากัน
"คุณพยาบาลคะ ถะ...ถ้าอยู่ๆใจสั่น เอ่อ..." ฉันเว้นช่วงเพราะนึกคำไม่ออก จนพยาบาลคนสวยยิ้ม...แล้วก้มลงมาถามอีกรอบ
"ว่าไงคะ?"
"คือฉันถามว่า มันเป็นไปได้มั้ยคะ...ที่เราจะใจสั่นกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน" พยาบาลอมยิ้ม แล้วผายมือเชิญฉันไปในห้องจิตเวชทันที
สรุปฉันบ้าเหรอ?!
"ไหนๆก็ต้องเข้าไปพบคุณหมอธันวา ถามได้เลยนะคะ คำถามนี้คุณหมอให้คำตอบได้อยู่แล้ว"
ไม่!
ฉันส่ายหน้าปฏิเสธ แต่คงปฏิเสธที่จะเข้าไปไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเบี่ยงหน้าหลบไปทางไหน ก็เจอพี่พยาบาลแสนสวยส่งยิ้มหวานๆกดดัน
จนฉันต้องจำใจลุกขึ้นยืน มองหน้าพยาบาลที่ผายมือเชิญอีกครั้ง เพื่อให้เธอพาฉันเข้าไปข้างใน...
เมื่อเข้ามาในห้องบรรยากาศไม่ได้น่ากลัว หรืออึดอัดอย่างที่คิด ทางเดินถูกแบ่งเป็นสามทาง ซ้ายจะมีเตียงนอนเรียงกับเป็นตับ กลางเป็นลานโล่งคล้ายลานกิจกรรม ขวาเป็นห้องตรวจเล็กๆ และฉันก็ถูกนำไปที่ฝั่งนั้น
ซึ่งฉันไม่เจอใบไม้หรอก และตอนนี้ยิ่งก้าวไปถึงจุดหมายปลายทางที่พยาบาลเดินนำเท่าไหร่ ใจฉันมันก็ยิ่งจะขาดตายรอมร่อ เพราะฉันเริ่มเห็นป้ายชื่อหน้าห้องของหมอธันวาแล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"คุณหมอธันวาคะ เพื่อนคุณใบไม้มาแล้วค่ะ"
'ครับ ให้เข้ามาเลย'
กรี๊ดดด...แค่สะ เสียง แค่เสียงก็หล่อแล้วค่ะ
ฉันยกมือทาบอก ยิ่งหัวใจเต้นโครมครามก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองบ้าไปแล้วจริงๆ ฉันไม่ควรอาการหนักขนาดนี้ ควรมีสติ มีอย่างที่ไหนได้อ่านคอลัมน์ของหมอแค่คอลัมน์เดียว ก็ตื่นเต้นใจเต้นแรงราวกับมีรักครั้งแรก
"คุณคะ"
"...."
"คุณคะ เชิญค่ะ"
"ค่ะๆ" ฉันหลุดจากภวังค์สีชมพูหันไปมองตามมือที่ผายไปข้างหน้า แล้วรู้มั้ยคะว่าฉันเห็นอะไร...
ฉันเห็นเป้ากางเกงผู้ชาย!
และเมื่อเงยขึ้นมองเรื่อยๆมองไปทางซ้าย ก็เห็นว่าเขาคนนั้นใส่เสื้อกาวน์สีขาว และมีชื่อปักที่หน้าอกว่า นพ.ธันวา ธนศาสตร์เวชกุล
เฮือก!
หมอธันวานี่น่า!
ฉันตกใจมาก ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวอัตโนมัติ แล้วเงยขึ้นมองหน้าผู้ชายคนนั้นตาเบิกกว้าง บอกเลยตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ วันนี้เป็นวันที่ฉันใจเต้นแรงที่สุด
เพราะเขาหล่อเกินคาด และกลิ่นตัวก็หอมเกินต้าน ความสูงร้อยแปดสิบเซนติเมตรได้มั้ง แถมรอยยิ้มที่เขาส่งให้ฉัน
โอ๊ย...มันดีย์ เพอร์เฟค ฉันอยากกรอกใบสมัครเป็นคนรู้ใจตั้งแต่ตอนนี้เลย
ฉันคือทิชา ตั้งแต่เล็กจนโตทุกอย่างมีพร้อม จึงไม่เคยแสวงหาอะไร แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนี้กลับทำให้ฉันรู้สึกอีกอย่าง เหมือนเขาเป็นของแรร์ไอเท็มที่ฉันตามหามาแสนนาน และอยากได้มาครอบครองคนเดียว
"ฉัน เอ่อ ฉัน..." ฉันอ้ำอึ้งพูดไม่ออก
"เป็นอะไรรึเปล่าครับ? รู้สึกไม่สบายรึเปล่า?^^" อย่ายิ้มให้ฉันแบบนั้นสิ มันยิ่งทำให้ฉันไม่มีสติตอบนะ
"คือ ทิ...ทิชา เคยอ่านวรสารของคุณหมอค่ะ"
"จริงเหรอ? ดีใจจัง เชิญเข้ามาข้างในก่อนสิครับ ผมมีเรื่องอยากถามคุณเยอะแยะเลย"
แล้วคุณหมอธันวาก็ผายมือเชิญฉันเข้าไปข้างใน แต่ตอนเดินผ่านเขาฉันกลั้นหายใจเลยค่ะ ก็ฉันไม่อยากได้กลิ่นหอมๆของเขามากกว่านี้ เพราะแค่นี้ก็แทบคลั่งอยู่แล้ว
และเมื่อฉันไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะคุณหมอ เขาก็สั่งให้พยาบาลออกไป
จนเหลือเราสองคน
"เอาล่ะจะได้ไม่อึดอัดเนอะ...งั้นผมขอแนะนำตัวอย่างไม่เป็นทางการนะครับ ผมชื่อธันวา เรียกว่าพี่ธันวาก็ได้^^"
ฉันเงยขึ้นมองหมอธันวาทันที จนเห็นว่าตอนนี้เขากำลังส่งยิ้มให้ฉันอยู่ ให้เรียกพี่เลยเหรอ? บ้า...ดูสนิทสนมจัง
"ค่ะ ฉัน..."
"คุณชื่อทิชาใช่มั้ย?"
"คุณหมอรู้จักฉันเหรอคะ?" ฉันถามตกใจ
"ก็คุณทิชาบอกผมเมื่อกี้นี่ครับ ยินดีที่รู้จักนะครับทิชา^^" ฉันก้มมองมือที่ยื่นมาทันที ก่อนที่จะค่อยๆยกมือตัวเองขึ้นไปจับมือเขา
วะ...ว้าว
นี่ไม่ใช่สัมผัสแรกจากชายหรอกนะ ฉันเคยจับมือทักทายกับลูกค้าผู้ชายตั้งหลายคน แต่ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มือหมอธันวามันพิเศษกว่ามาก มันอุ่น มันนุ่ม โอ๊ยบ้าจริง!...จากที่พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ใจสั่น ความรู้สึกฉันมันกลับเพิ่มพูลขึ้นไปอีก
ฉันเป็นผู้หญิงคลั่งรัก อ่อนไหว หลงชอบใครง่ายๆขนาดนี้เลยเหรอ ฉันเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้หญิงเรียบร้อยมาตลอด แต่ทำไมภูมิต้านทานเรื่องผู้ชายชื่อธันวามันต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนี้
"ผมทำให้อึดอัดรึเปล่าครับ?^^"
"ไม่ค่ะ ไม่ๆ ไม่อัดอึดเลย^^"
"หมายถึงไม่อึดอัดใช่มั้ยครับ?" ฉันพยักหน้าทันที ก่อนที่จะชักมือกลับมาวางบนตัก แล้วก้มหน้าอมยิ้ม
"ค่ะ ขอโทษที่ทิชาพูดไม่รู้เรื่องนะคะ เวลาตื่นเต้นทิชาค่อนข้างประหม่า"
"ผมเข้าใจ แต่คุณทิชาตื่นเต้นที่ผมจะถามรายละเอียดของคุณใบไม้เหรอครับ?"
ตื่นเต้นที่ได้เจอคุณหมอต่างหาก
"ปะ...ประมาณนั้นค่ะ" ฉันตอบอย่างเอียงอาย พยายามไม่ให้เขาจับได้ว่าฉันหวั่นไหวกับรอยยิ้มของเขามาก จนคุณหมอเปิดแฟ้มประวัติ แล้วพูดขึ้นมาเบาๆโดยไม่สบตาฉัน
"ผ่อนคลายนะครับ ผมน่ารัก ไม่กัด^^" ใช่ค่ะ คุณหมอน่ารัก และคุณหมอก็ตกทิชาไปแล้ว...
"ค่ะ"
"เอาล่ะ ผมมีคำถามจะถามคุณทิชาเรื่องคุณใบไม้ ไม่ทราบว่าคุณเป็นเพื่อนกับเธอนานรึยังครับ"
"นะ...นานแล้วค่ะ ตั้งแต่ประถม"
"ช่วงนั้นเธอมีปัญหาเรื่องการแสดงออกทางสีหน้ารึยังครับ?"
"มีแล้วค่ะ"
"ช่วยเล่าให้ผมฟังได้มั้ย? ว่าคุณใบไม้เคยมาระบาย อะไรกับคุณบ้าง"
แล้วฉันก็เล่าเรื่องใบไม้ให้คุณหมอฟัง ซึ่งคุณหมอธันวาก็ตั้งอกตั้งใจฟังมากเพราะฉันเล่าไม่รู้เรื่องเลย สลับคำบ้าง นึกคำไม่ออกบ้าง หนำซ้ำยังพูดติดๆขัดๆ เขาจึงต้องใช้สมาธิฟังขั้นสุด
ก็เขาเล่นจ้องแล้วยิ้มให้กันแบบนี้ ฉันก็ยิ่งเขินหน่ะสิ
แต่คุณหมอเขาก็ไม่ได้หัวเราะเยาะฉันเลยนะ เขาแก้คำให้ฉัน ยิ้มให้ฉัน แถมยังบอกให้ฉันผ่อนคลายและค่อยๆเล่าด้วย
"สรุปว่าคุณใบไม้เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็ก และมากขึ้นตอนมัธยม เพราะเธอถูกแยกไปเรียนโรงเรียนประจำใช่มั้ยครับ?"
"ใช่ค่ะ"
ฉันตอบแล้วก้มหน้าลง ถึงอาการประหม่าจะลดไปบ้าง...แต่หัวใจมันไม่เลย เพราะมันสั่นตลอดเวลาที่คุณหมอเขามองหน้าฉัน น้ำเสียงทุ้ม รอยยิ้มที่ยิ้มออกมาเต็มปาก มันเป็นเสน่ห์ที่ส่งผลกับหัวใจฉันโดยสิ้นเชิง
"เอาเป็นว่าเรื่องคุณใบไม้จบแล้ว...แล้วเรื่องคุณทิชาล่ะครับ?"
"คะ? ทิชาเหรอคะ?" ฉันชี้ที่ตัวเองหน้าร้อนวูบ ฉันยังไม่ได้ลงชื่อนัดหมายเขาเลย เขาถามฉันทำไม?!
"ครับ พยาบาลส่งเรื่องมาว่าคุณทิชามีคำถาม ถ้าจำไม่ผิด...คุณใจสั่นกับคนที่ยังไม่เคยเห็นหน้าใช่มั้ยครับ^^?"
"O///O?!!" ฉันยังไม่ตอบ ยังเบิกตากว้างและมองคุณหมออึ้งๆ จนเขายิ้ม...แล้วพูดอีกว่า
"ผมว่าคุณกำลังตกหลุมรักคนคนนั้นนะ^^"
ตก หลุม รัก...
______________________________
คอมเมนท์ = กำลังใจ