6.ทิชาสาวน้อยผู้ตกหลุมรัก

1916 คำ
"มะ ไม่หรอกมั้งคะ ไม่เคยคุยกันเลย แล้วอีกอย่างเวลามันก็เร็วมากๆด้วย" ฉันพยายามอธิบาย เพราะจริงๆแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองได้ตกหลุมรักผู้ชายคนนึงในคอลัมน์วรสารแจกฟรี จนคุณหมอเขายิ้มจนตาหยี พาหัวใจฉันตกอยู่ในห้วงภวังค์อีกครั้ง โถ่...ไม่รู้ว่ามันเป็นหลักจิตวิทยาของเขา หรือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวกัน ทำไมฉันหยุดใจสั่นไม่ได้เลย "จริงๆแล้วมันแบ่งได้หลายกรณีนะครับ คนคนนั้นอาจจะถูกตาต้องใจมีเรื่องทำให้คุณทิชารู้สึกดี หรือชื่นชมในตัวเขาก็ได้ ผมเคยเจอแบบนี้มาหลายเคสแล้วครับ^^" มีคนตกหลุมรักเขาเยอะเลยงั้นเหรอ? ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ ฉันหวงนะ หรือฉันจะขอเข้าไปเป็นสปอนเซอร์ในวรสารของเขา แล้วสั่งให้เขาพิมพ์ให้ฉันแค่คนเดียวดี "แล้วใช่ ใช่คนที่เคยอ่านวรสารคุณหมอรึเปล่าคะ?" คุณหมอขมวดคิ้วนิดๆแล้วเอียงคอมองฉัน จังหวะกะพริบตาของเขามันเชื่องช้าราวกับภาพสโลว์โมชั่น และน่าจับจ้องชะมัดเลย "หืม...คุณหมายถึง ผมทำให้คุณใจสั่นรึเปล่า?^^" เขารู้ได้ไงเนี่ย! ฉันออกหน้าออกตาขนาดนั้นเลยเหรอ?! "มะ ไม่ใช่นะคะ คือว่า...คือ คือ ทิชาเป็นคนแบบนี้ค่ะ เวลาตื่นเต้นมากจะประหม่า พูดผิดๆถูกๆ ส่วนเรื่องวรสารทิชาหมายถึง มีคนอ่านคอลัมน์คุณหมอและมาพบคุณหมอเยอะใช่มั้ยคะ เหมือนทิชาค่ะ ที่เห็นคอลัมน์นั้นแล้วชวนเพื่อนมาปรึกษา" คุณหมอธันวาเงียบไปเลยค่ะ เขาคงประมวลผลคำพูดของฉันอยู่ ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป รู้แต่ว่าฉันต้องห้ามทำให้คุณหมอจับได้ ว่าคนคนนั้นคือเขา แต่การโกหกจิตแพทย์เป็นอะไรที่ยากเหมือนกั เพราะนานมากที่คุณหมอธันวานั่งมองหน้าฉันอย่างพินิจพิเคราะห์ "งั้นผมให้นามบัตรไปนะครับ..." เขาพูดจบก็เปิดลิ้นชัก แล้วดึงกระดาษแผ่นเล็กออกมาวางบนโต๊ะ จากนั้นหยิบปากกาในกระเป๋าเสื้อแล้วก้มลงเขียนอะไรบางอย่างอีกด้วย "วันนี้ถือว่าผมได้ consute คุณทิชาเบื้องต้นแล้ว แต่ออกไป คุณทิชาต้องวางบัตรประชาชนหน้าแผนก เพื่อให้พยาบาลจัดการเรื่องบัตรนัดหมายครั้งต่อไปนะครับ^^" ฉันพยักหน้าแล้วหยิบนามบัตรหมอธันวามาดู ข้างหน้าเป็นชื่อเขาเป็นเบอร์ติดต่อปกติ แต่ข้างหลังกลับมีไลน์ไอดีที่วงเล็บว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง "คือ...อะไรคะ?" พอฉันถามแบบนั้น เขาก็ยิ้มให้ฉันจนตาหยี "ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกประหม่า หรือใจสั่น ไลน์ปรึกษาผมได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงครับ จริงๆแล้วคนที่เป็นแบบนี้มักอยากได้คนที่รับฟังและทำให้ผ่อนคลาย ผมคิดว่าผมช่วยคุณได้นะ" ฉันพลิกนามบัตรไปมา ความหวังที่ลิบหรี่ตอนนี้เปล่งแสงจ้า เหมือนกับฉันโดนให้ท่ายังไงอย่างงั้น ไลน์หน้านามบัตรเขาก็มีนะ แต่เขาเขียนอีกไลน์ให้ฉันทำไม ฉันไม่อยากเข้าข้างตัวเองเลย แต่ทำไมต้องเขียนไลน์แยกด้วย ทำไม ทำมายยยย?! "ใบไม้แกได้นามบัตรจิตแพทย์รึเปล่า?" ทันทีที่จ่ายเงินเสร็จและกลับขึ้นรถ ฉันก็รีบถามใบไม้ทันที จนเธอหยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋าปราด้าและโยนลงบนตักฉัน "ได้ นี่ไงแกเอาไปสิ" ได้?! หรือว่าหมอธันวาจะทำแบบนี้กับทุกคน? "อ้าวทำไมแกไม่เก็บไว้ล่ะ?" ฉันถามแล้วหยิบนามบัตรนั้นขึ้นมาดู แต่เมื่อพลิกดูแผ่นหลังก็ถึงกับชะงัก แก...มันว่างเปล่า ไม่เห็นหมอธันวาเขาจะเขียนไลน์เพิ่มมาเลย "ฉันจะเก็บไว้ทำไม ก็ฉันแอดไลน์ไปแล้ว" "ไลน์ที่ไหน?" พอใบไม้ตอบมาแบบนั้นฉันก็รีบยิงคำถามกลับไปทันที จนตอนนี้เธอมองฉันและขมวดคิ้วสงสัย "อะไรของแก ก็ไลน์ในนามบัตรนั่งไง ออกรถได้แล้วฉันนัดเพื่อนไว้ที่ร้านกาแฟแถวเอกมัย แล้วแกก็ควรไปด้วย เพราะฉันจะแนะนำให้รู้จัก-_-^" ใบไม้บอกฉันด้วยสีหน้ารำคาญ ก่อนจะกอดอกแล้วหันไปทางอื่น แต่ไม่เป็นไรจะเมินเฉยหรือรำคาญก็ตามสบายเลยเพื่อน เพราะแค่รู้ว่าหมอธันวาเขาเขียนไลน์ส่วนตัวให้ฉันคนเดียว ฉันก็ปลื้มปริ่มสุดๆแล้ว ฉันขับรถไปยิ้มไปเหมือนคนบ้า ฮัมเพลงอย่างมีความสุขโดยที่ไม่สนใจเพื่อนรักที่นั่งส่ายหน้าเอือมระอาเกือบตลอดทาง จนเรามาถึงร้านกาแฟชื่อดังที่เอกมัย...ใบไม้ก็แนะนำเพื่อใหม่ให้ฉันได้รู้จัก เขาหล่อมาก ขาวมาก ใบหน้ารับรูปกับจมูกโด่งๆ ตาก็สวยเฉี่ยวมีเอกลักษณ์ แต่...เขาไม่ชอบผู้หญิงค่ะ -_-^ "นั่นหล่อนพาใครมาใบไม้ เพื่อนหล่อนเหรอ?" ทันทีที่ฉันกับใบไม้เลื่อนเก้าอี้นั่ง เขาก็จีบปากจีบคอถามทันที "ใช่ นี่เพื่อนฉันชื่อทิชา ส่วนทิชานี่อีก้านเพื่อนข้างห้องฉันเอง มันเป็นหมอที่โรงพยาบาลที่เราไปเมื่อกี้" หมอ?!O_O แถมเป็นที่โรงพยาบาลเดียวกับหมอธันวา?! ทำไมโรงพยาบาลนี้มีแต่หมอหน้าตาดีนะ คัดหน้าตารึไง?! หรือนอกจากการบำบัดฉันต้องตีสนิทกับหมอก้านไว้ เผื่อว่าจะได้เจอหมอธันวาบ่อยๆด้วย อุ๊ย...เดี๋ยว? ฉันคิดอะไร นี่มันถึงเวลาที่ฉันจะแรดแล้วจริงๆเหรอ? ทำไมในหัวมีแต่เรื่องผู้ชาย และหัวใจมีแต่หมอธันวาล่ะคะ ทิชาไม่เข้าใจ และทิชารับไม่ได้ที่ตัวเองแรดแบบนี้ "เรียกว่าก้านแก้วนะย๊ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะทิชา ว่าแต่เป็นอะไรทำไมดูเหม่อๆ" "ทิชาก็เป็นแบบนี้ล่ะ ว่าแต่เรื่องอิไคล์แกจะให้ฉันบุกต่อใช่มั้ย-_-^" "บุกสิย๊ะ ชอบก็บุกจะรอให้คนอื่นเอาไปก่อนรึไง? แกต้องพุ่งเข้าใส่ใบไม้ ทุกวันนี้นะผู้หญิงจีบผู้ชายกันทั้งนั้น แถมรอบๆข้างกัปตันไคล์ ก็มีแต่สาวสวยแอร์โฮสเตสมากมายให้เลือกสรร ระวังโดนคาบเอาไปแดก!" พนักงานนำเมนูมาวางให้ก็จริง แต่ฉันไม่ได้สนใจรายการเครื่องดื่มเลย ฉันเอาแต่มองก้านแก้วแล้วฟังที่หล่อนพูดอย่างตั้งใจ จนทำให้นึกถึงหมอธันวาที่หน้าตาดีสุดๆ และรอบข้างเขาก็มีพยาบาลสวยๆมากมาย ไม่ได้สิ...มันไม่ต่างกับกัปตันไคล์ของใบไม้เลย ถ้าฉันยังช้าไม่ทำอะไรสักอย่าง มันก็มีโอกาสมากเหมือนกันนะที่เขาจะโดนแย่งไป "แล้ว...การที่เราจะเข้าหาผู้ชายก่อน ต้องทำยังไงเหรอ?" สองคนนั้นหันขวับมามองฉันทันที จนฉันต้องส่งยิ้มเจื่อนๆกลับไปให้ "แกถามทำไม? แกจะเข้าหาใคร?" "ก็มีคนที่ชอบๆและมองๆอยู่ เลยอยากรู้ไว้น่ะ^^" "แกชอบใครได้ด้วยเหรอ พ่อกับพี่แกไม่ปาดคอเอารึไง?" ใบไม้ถามฉันด้วยสีหน้าไม่สบายใจ เอาน่า.. ยังไงคุณพ่อกับพี่ไทม์ก็ทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะฉันจะไม่บอกให้พวกเขารู้ "ก็ไม่บอกไง เอ่อก้านแก้ว...แล้วถ้าจะจีบหมอต้องทำยังไงเหรอ?^^" คราวนี้ใบไม้เบิกตากว้าง แต่เธอยังไม่ทันยิงคำถามใส่ฉัน ก้านแก้วก็กรี๊ดกร๊าดแทรกขึ้นมาก่อน "กรี๊ด ชอบใครหมอที่ไหนย๊ะ บอกโรงพยาบาลมาเลย>[]หมอไม่ชอบ - ผู้หญิงงี่เง่า จุกจิก - หยาบคาย - ไม่มีสัมมาคารวะ - ขี้หึง หมอชอบ - ผู้หญิงเข้าใจ - ขับรถได้ - อยู่ด้วยแล้วสบายใจ มีเหตุผล - สดใสร่าเริง ปล.ไม่เกี่ยวที่ใครจะจีบใครก่อน จีบหมอก็ได้หมอไม่ติด เพราะปกติหมอไม่มีเวลาตามจีบใครอยู่แล้ว *อยากเป็นแฟนหมอต้องเข้าใจอาชีพหมอ "แค่นี้ก็พอแล้ว เอ้ออีกข้อ! หน้าตาดีหมอก็ชอบนะย๊ะ^^" ฉันรีบพับกระดาษแผ่นนั้นใส่กระเป๋าทันที เรื่องหน้าตาฉันเองก็ไม่ติดนะ ฉันสวยใช้ได้และคิดว่าที่คุณหมอธันวาให้ไลน์ส่วนตัวมา เขาต้องทอดสะพานให้ฉันแน่นอน ก่อนแยกย้ายฉันขอไลน์ก้านแก้วไว้ด้วย เอาไว้ปรึกษาหารือเรื่องหมอธันวา แต่ฉันยังไม่บอกใครหรอกนะว่าหมอคนนั้นคือหมอธันวา เพราะฉันตั้งใจรอสักพัก...รอให้ตัวเองแน่ใจ ว่าฉันน่ะตกหลุมรักและพร้อมพุ่งชนหมอธันวาจริงๆใช่มั้ย? ไม่ใช่รู้สึกลุ่มหลงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว หนึ่งอาทิตย์ต่อมา... ใช่ค่ะฉันยังถูกพักงานอยู่ แล้วคุณพ่อก็ไม่มีแนวโน้มที่จะคืนตำแหน่งให้ฉันด้วย ฉันจึงเป็นคนว่างงานคอยไปสิงสถิตแถวร้านกาแฟบ้าง และไปช็อปปิ้งบ้าง แล้วที่หนักสุดคืออะไรรู้มั้ยคะ? ฉันว่างจนไปซื้อคอนโดเอาไว้นอนกลางวันเล่นค่ะ เพราะทุกครั้งที่เห็นพี่ไทม์ปรึกษาคุณพ่อเรื่องบริษัท และพ่อฉันไม่ถามความเห็นอะไรฉันเลย ฉันยิ่งรู้สึกเป็นบุคคลไม่มีคุณภาพ ล่องลอยเหมือนผีไม่มีศาล ส่วนหมอธันวา หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้นัดหมายอะไรเขา เพราะฉันไม่ได้ทำงานอาการก็ไม่กำเริบ ได้แต่แอดไลน์ทิ้งไว้เฉยๆ จะทักไปก็ไม่กล้า ไม่รู้จะชวนเขาคุยเรื่องอะไรดี จนวันนี้ฉันมาที่ร้านกาแฟร้านเดิมได้อ่านวรสารฉบับใหม่ของเขา ซึ่งวรสารสัปดาห์นี้เปลี่ยนสีหน้าปกเป็นสีชมพูสดใส ทั้งที่ผู้เขียนก็คือ นพ.ธันวา ธนศาสตร์เวชสกุลคนเดิม... พบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย สวัสดีครับ...สัปดาห์นี้อาจจะหวานไปหน่อย เพราะผมมีเคสความรู้สึก นั่นก็คือความรักหรือการตกหลุมรักใครสักคน อาทิตย์ก่อนผมได้พูดคุยกับคนไข้รายนึง มาด้วยเรื่องอาการใจสั่นกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน... ฉันเงยขึ้นจากวรสาร เพราะอยู่ๆหน้าก็ร้อนวูบขึ้นมา... เมื่ออาทิตย์ก่อนคนไข้รายนั้นคือฉันใช่มั้ย? มีใครถามคำถามนี้กับหมอธันวาอีกรึเปล่า?! เขาบอกว่าฉันไม่ใช่เคสแปลกเขาเจอมาเยอะ แต่ทำไมต้องหยิบเอามาเขียน ตอนที่ฉันไปเจอเขาด้วย ยิ่งคิดยิ่งสงสัย จนคราวนี้ฉันวางหนังสือกางไว้บนโต๊ะ แล้วตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปคอลัมน์นั้นไว้ แต่ลังเลอยู่นานว่าจะส่งมันให้คุณหมอธันวาดีหรือไม่ จนสุดท้าย คำพูดก้านแก้วเด้งขึ้นมาในหัว.... 'อยากได้ต้องบุก เดี๋ยวคนอื่นก็งาบไปกิน จีบก่อนได้หมอไม่ติด เพราะหมออาจไม่มีเวลาตามจีบใคร' แต่ฉันไม่เคยจีบใครเลยนะ ไม่เค๊ยไม่เคย ถ้าฉันส่งรูปคอลัมน์นี้ไปชวนคุย เขาคงไม่รำคาญใช่มั้ย? __________________________ ❤️ คอมเมนท์ = กำลังใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม