ตฤณตื่นนอนในตอนเช้าตรู่กำลังคิดว่าจะไปเคลียร์กันดาหวันยังไงดีเพราะตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าเธอโกรธเขาเรื่องอะไรทำไมถึงเงียบไปเลย และเมื่อเขาเดินลงมาชั้นล่างก็เจอกับน้านาดาวและคุณแม่กำลังเดินวนไปมาด้วยท่าทีร้อนรน
"มีอะไรกันรึเปล่าครับดูร้อนใจกันจัง"
น้านาดาวหันไปมองคุณตฤณด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี ลูกสาวหายไปทั้งคนจะให้ใจเย็นก็ยังไงๆอยู่ อีกอย่างตอนนี้ติดต่อไม่ได้เลยไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง
"ดาหวันหนีออกจากบ้านค่ะคุณตฤณ เอากระเป๋าเสื้อผ้าออกไปหมดเลยติดต่อก็ไม่ได้ค่ะ"
"อะไรนะครับน้องหายไปเหรอ เมื่อวานยังอยู่ที่ห้องไม่ใช่เหรอครับไปตอนไหน"
เขาตกใจจนแทบเสียสติที่รู้ว่าหญิงสาวหายออกไปจากบ้าน ความรู้สึกแรกคือเป็นห่วงแต่อีกใจก็โกรธที่เธอทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่
"ไม่รู้ค่ะเช้ามาไม่เจอแล้ว ทำยังไงดีคะ"
เขานิ่งเงียบไปอย่างใช้ความคิด หายไปแบบนี้คงมีที่ไปไม่กี่ที่หรอก ที่แรกที่นึกถึงได้เลยคือคาเฟ่ของเบบี๋ น้องเคยโทรศัพท์มาถามครั้งหนึ่งว่าดาหวันไปสมัครงานที่นั่นและเธอยังสอบชิงทุนได้มหาวิทยาลัยดังด้วย ภูมิใจในตัวเธอรึเปล่าก็แน่นอนว่าใช่แต่เขาไม่ต้องการสิ่งนั้นจึงไม่ดีใจเท่าที่ควร
"ผมจัดการเองครับไม่ต้องห่วง คงไปไหนได้ไม่ไกลหรอก"
"แกจะไปตามน้องที่ไหนตฤณ"
เขามองหน้าคุณแม่ไม่ตอบอะไรก่อนจะเดินออกไปทันที ตอนนี้จะต้องโทรศัพท์ไปถามน้องสาวก่อนว่าดาหวันไปหาที่นั่นรึเปล่า เพราะถ้าไปเขาจะได้ตามถูกแต่ถ้าไม่อาจจะต้องหาแถวนี้ก่อน
ดาหวันเดินลงจากรถของจากัวร์ยกมือไหว้ขอบคุณเขาอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปในคาเฟ่ของพี่สาวคนสวย เธอกับเบบี๋รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เราสองคนโตมาด้วยกันถึงแม้ว่าจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองแต่เราสองคนยังติดต่อกันเสมอ
"พี่เบบี๋"
หญิงสาวตะโกนเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงดีใจที่เธออยู่ที่ร้านพอดี เบบี๋เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจดาหวันสาวน้อยข้างบ้านวิ่งเข้ามาสวมกอดเธอด้วยความดีใจ
"ดาหวันมาได้ยังไง"
"พี่เบบี๋คิดถึงจังเลยค่ะ"
ดาหวันวิ่งมาสวมกอดพี่สาวด้วยความดีใจ เธอตามหาร้านแทบตายกว่าจะหาเจอดีนะที่มีผู้ใหญ่ใจดีพามาส่ง ไม่อย่างนั้นคงได้ไปนอนข้างทางเพราะไม่รู้จะไปที่ไหน
"คิดถึงเหมือนกันแต่ว่ามาได้ยังไงเนี่ย แล้วคุณป้ารู้มั้ยว่ามากรุงเทพแล้วพี่ตฤณล่ะรู้มั้ยว่าเรามาหาพี่ที่นี่"
เธอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ดาหวันเพิ่งจะอายุ19ปีสอบเข้ามหาวิทยาลัยกำลังจะเรียนปีหนึ่ง เด็กขนาดนี้จะเดินทางมาไกลบ้านมันอันตรายมาก นี่ถ้ามาไม่เจอเธอคงแย่แน่
ดาหวันส่ายหน้าเล็กน้อยเธอไม่ได้บอกใครเลยแม้กระทั่งคุณแม่ของตัวเองเพราะเกรงว่าเฮียตฤณจะรู้ว่าเธอแอบมาที่นี่
"ไม่รู้ค่ะหนูไม่ได้บอกใคร"
"ต้องบอกนะไม่งั้นคนอื่นจะเป็นห่วงตามหาหนูไปทั่วเลยนะดาหวัน ทำแบบนี้คนอื่นไม่สนุกนะรู้มั้ย"
"ก็หนูไม่อยากอยู่กับเฮียตฤณนี่คะ เฮียใจร้ายแล้วก็ชอบเอาเปรียบหนูด้วย"
ดาหวันบ่นออกมาอย่างระบาย เธอโดนเขาเอาเปรียบสารพัดและโดนมานานแล้วด้วย เขาทั้งข่มขู่และบังคับเธอทุกอย่าง ออกคำสั่งชี้นิ้วให้เธอทำตามทั้งที่เธอมีสิทธิ์ที่จะคิดอะไรด้วยตัวเองได้ เขาเป็นเจ้านายไม่ใช่เจ้าชีวิตเธออยากหลุดพ้นออกมาจากที่ตรงนั้นก็เลยแอบหนีออกมาโดยไม่บอกใครรวมถึงคุณแม่ด้วย และที่ทำให้เธอตัดสินใจออกมาเพราะผู้หญิงที่ชื่อน้ำชา
"เอาเปรียบยังไงให้พี่บอกคุณป้าให้มั้ย"
"ไม่ได้นะคะบอกไม่ได้"
ดาหวันรีบร้องห้ามทันที เธอจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเขารังแกเธอยังไงบ้างมันเป็นเรื่องน่าละอายและเธออยากจะให้มันเป็นแค่เรื่องฝันไป การมาที่นี่มันจะทำให้เธอได้เริ่มต้นใหม่ทำงานตั้งใจเรียนจนจบจะได้พาแม่มาอยู่ด้วย
"ทำไมล่ะเกิดอะไรขึ้น..."
ดาหวันนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร เบบี๋ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยไม่อยากเซ้าซี้อะไรมากเพราะไม่งั้นเด็กจะเตลิดไปไกลซึ่งมันไม่เป็นผลดี เธอหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดูเพราะว่ามีเสียงเรียกเข้าจากปลายสาย
"พี่ตฤณโทรมา"
"หนูไม่อยู่ที่นี่นะคะอย่าบอกเฮียนะ"
ดาหวันรีบเอ่ยออกมาเสียงตกใจ เธอกลัวเขามากและกลัวว่าเขาจะมาตามเธอกลับไปเป็นของเล่นอีก เบบี๋กดรับโทรศัพท์ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงสดใส
"ว่าไงคะพี่ชาย"
(ดาหวันไปหาเบบี๋รึเปล่า)
เธอเหลือบสายตามองดาหวันที่ตอนนี้กำลังยกมือไหว้เธอขอร้องไม่ให้บอกเขา แต่เธอไม่อยากให้เด็กสาวทำแบบนี้การหนีมาแบบนี้มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
"เอ่อ... คือว่า"
ตฤณที่ฟังน้ำเสียงของน้องสาวก็พอจะเดาออกว่าเธอไม่อยากโกหกและดาหวันคงจะขอร้องไม่ให้บอกว่าเธอกำลังอยู่ด้วยในตอนนี้
(อยู่แต่ไม่ให้บอกใช่มั้ย)
เขาถามย้ำอีกครั้ง เบบี๋อึกอักไม่รู้ตอบยังไงก่อนจะตัดสินใจว่าจะช่วยเด็กสาวโกหกสักครั้งอย่างน้อยเธอจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดมาก
"ไม่อยู่ค่ะแค่นี้ก่อนนะคะเบบี๋กำลังอบขนมอยู่"
เธอรีบกดวางสายทันทีเพราะกลัวว่าพี่ชายจะจับผิด ดาหวันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกยกมือขอบคุณพี่สาวด้วยความดีใจที่เธอช่วยเอาไว้ ตฤณกดวางโทรศัพท์พยายามระงับอารมณ์โกรธเอาไว้และไม่มีทางเชื่อว่าดาหวันจะไม่อยู่ที่นั่น เขาจับสังเกตน้องสาวได้ว่าเธอกำลังโกหก
"หนีไปให้รอดแล้วกัน หึ!"
ตฤณเตรียมตัวเดินทางไปกรุงเทพในช่วงค่ำเพื่อตามตัวดาหวันกลับมาที่บ้านของเขา เด็กดื้อที่ไม่ยอมฟังเขาก็ต้องถูกลงโทษอย่างหนัก
ชายหนุ่มถือกุญแจรถหรูพร้อมกับโทรศัพท์เดินออกมาจากห้องนอนลงมาชั้นล่างก็ต้องชะงักไปเมื่อคนเป็นแม่เดินมาทางเขาพอดี
"จะไปไหนพ่อตัวดี"
"ผมจะไปกรุงเทพครับแม่"
"ไปทำไมกรุงเทพหรือว่าจะไปตามหาใครกันแน่"
คุณแม่มองหน้าลูกชายอย่างจับผิด เธอรู้ทุกอย่างแต่ที่ไม่พูดเพราะอยากจะรู้ว่าลูกชายจะคิดได้ตอนไหนแต่ดูท่าทางคงยาก ที่ดาหวันหนีไปคงเพราะเรื่องเมื่อวานแน่นอน น้ำชามาเปิดตัวขนาดนั้นเป็นใครจะทนไหว
"ตามใครผมจะต้องไปตามหาใครล่ะ ใครจะหายไปไหนทำไมผมจะต้องสนใจด้วย แม่ก็รู้ว่าผมต้องเดินทางบ่อยอีกอย่างผมเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่โรงแรมต้องเดินทางไปคุยงานบ่อยอยู่แล้ว"
"แต่น้องบอกว่าแกคุยงานเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ"
"แม่โทรศัพท์หาเบบี๋เหรอ"
เขานิ่วหน้าอย่างจับผิดคุณแม่ ท่านอึกอักเพราะไม่อยากจะบอกว่าที่โทรศัพท์ไปหาหลานสาวเพราะว่าตามหาหนูดาหวันที่อยู่ๆก็หนีออกจากบ้านไปไม่บอกไม่กล่าวใคร มีเรื่องอึดอัดใจก็ไม่ยอมเล่าให้ใครฟังแต่เธอพอเดาออกว่าทำไมถึงหนีออกไปแบบนั้น
"ก็แม่คิดถึงหลานไงก็เลยโทร"
"งั้นเหรอครับคงไม่ได้ตามหาใครหรอกใช่มั้ยครับ"
เขายิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยมองคุณแม่อย่างจับผิด ท่านมองหน้าลูกชายก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเย็น
"อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้นะว่าแกทำอะไรไว้บ้าง ที่แม่ไม่พูดเพราะคิดว่าแกจะคิดได้และหยุดการกระทำทุกอย่าง แกทำน้องเกินไปแม่รับไม่ได้จริงๆ"
"ผมไม่หยุดและไม่ต้องห่วงผมจะลากกลับมาที่บ้านในเร็วๆนี้แหละ แม่ไม่ต้องโทรศัพท์ไปตามหาเพราะเดี๋ยวผมจะพากลับมาเอง ดาหวันต้องรับใช้เป็นทาสผมไปตลอดชีวิตแม่เข้าใจมั้ยครับ ผมสั่งอะไรเธอต้องยอมทุกอย่าง"
เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที คุณแม่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจรอความหวังว่าสักวันหนูดาหวันจะลุกขึ้นสู้บ้าง เธอไม่ได้รังเกียจเลยที่เธอเป็นแค่ลูกแม่บ้านแต่ที่รับไม่ได้คือลูกชายของเธอรังแกผู้หญิงแบบนั้น
"แล้วแกจะเสียใจที่ทำแบบนี้ตฤณ"