8

1469 คำ
มีข้าทาสบริวารมากมาย ที่สำคัญงานที่เราทำอยู่ แม่ก็เบื่อเต็มกลืนแล้ว” ปานดาวขยิบตาให้บุตรสาว งานที่สองแม่ลูกทำอยู่ไม่มีใครรู้ กวินก็ไม่เคยรู้มาก่อน พอบุตรสาวเจริญวัยขึ้นมา ปานดาวก็ให้บุตรสาวเข้ามาช่วยงานคอยรับช่วงต่อจากนาง แต่แท้ที่จริงแล้วทั้งสองก็เบื่องานนี้เต็มกลืน พยายามหาทางออกให้กับตัวเองอยู่ หาญคือแสงสว่างที่เข้ามาในชีวิตของคนทั้งสอง “จริงด้วยค่ะ ส่วนไอ้พี่หนึ่งหน้าโง่ ก็ให้มันทำงานงกๆ ไปเถอะค่ะ       ขนาดมันเรียนหนังสือจนจบก็ยังไม่มีปัญญาได้ผู้ชายดีๆ มาเป็นสามี” สุทธิดาหัวเราะเยาะพี่สาว เหยียดปากไปมาอย่างสะใจไม่น้อย “ลูกสาวของแม่เกิดมาโชคดี วาสนาดีนี่จ๊ะ ไม่ต้องเรียนให้ปวดหัวก็ได้ดิบได้ดี ไม่เหมือนนังหน้าโง่นั่น” “เราไปเอาจดหมายพวกนั้นจากนังพี่หนึ่งกันดีกว่าค่ะ” สองแม่ลูกเดินไปยังห้องพักของหนึ่งธิดา ก่อนจะรื้อข้าวของจนกระจุยกระจาย เจ้าของห้องกลับมาเห็นเข้าพอดี ตกใจเมื่อเห็นว่ามารร้ายประจำบ้านได้เอาจดหมายของเธอไปถือเอาไว้ “เอามานี่นะ” “แกขัดคำสั่งของฉัน เขียนจดหมายติดต่อกับพ่อหาญ ฉันจะริบจดหมายพวกนี้เอาไว้” ปานดาวตวาดลั่น ผลักลูกเลี้ยงจนหน้าหงาย “อย่าเอาไปนะคะ” “ทำไมถึงจะเอาไปไม่ได้ นังส้มมาจับตัวมันเอาไว้” ปานดาวสั่งสาวใช้คนสนิทให้ล็อกตัวลูกเลี้ยงเอาไว้ ก่อนจะยืนมองอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง “จดหมายพวกนั้นของหนึ่ง” “แกสวมรอยเป็นลูกสาวฉัน คุยกับคู่หมั้นของเขา จดหมายพวกนี้ก็ต้องเป็นของลูกฉันสิ” ปานดาวตวาดกลับ  “หนึ่งไม่ให้” เพี้ยะ!!! เสียงฝ่ามือตบเข้าที่ใบหน้าของหนึ่งธิดาเต็มแรง ใบหน้าของเธอหันไปตามแรงตบ เธอดิ้นรนแต่สู้แรงของส้มไม่ไหว เพราะส้มเป็นสาวใช้ร่างใหญ่ “แกกล้าดียังไงห้ะ! นังหนึ่ง จดหมายพวกนี้ของลูกสาวฉัน ถ้าแกอยากได้ก็ไปผูกคอตายเอาสิ เกิดมาชาติหน้าจะได้มีคู่หมั้นรวยๆ หล่อๆ แบบพ่อหาญ” “คุณน้าหมายความว่ายังไง” หนึ่งธิดาร้องถามอย่างตกใจ “นังหน้าโง่เอ๊ย พ่อหาญเขามาพูดเรื่องหมั้นหมายครั้งเก่าก่อนกับฉันแล้ว และจะพาผู้ใหญ่มาทาบทามสู่ขอยายสองเร็วๆ นี้ แกจำใส่กะลาหัวเอาไว้นะว่าแกไม่มีสิทธิ์แย่งคู่หมั้นน้อง” ปานดาวจิ้มหน้าผากลูกเลี้ยงจนหน้าหงาย       หนึ่งธิดาแทบเข่าทรุดเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ ปากคอสั่นไปหมด “หนึ่งจะบอกความจริงกับพี่หาญทั้งหมด” “แกจะบอกอะไรเขาเหรอ ฉันบอกพ่อหาญไปแล้วว่าแกยังเหมือนเดิม       ขี้อิจฉารังแกน้อง จดหมายอยู่ในมือของยายสอง พ่อหาญจะเชื่อใครระหว่างแกกับลูกสาวฉัน” ปานดาวเหยียดปากใส่อีกฝ่าย การทำลายแก้วตาดวงตาของคนในครอบครัวนี้คือเป้าหมายสูงสุดของเธอ เบียดเบียนทำให้มันย่อยยับทั้งพ่อทั้งลูก แม่มันก็ตายห่าไปแล้ว แต่ยังเหลืออีกสองชีวิตให้เธอได้ทำลาย ให้สาสมกับที่มันทำกับครอบครัวของเธอเอาไว้ “คุณน้าทำแบบนี้ทำไม คุณน้ากับสองบอกว่าไม่อยากหมั้นหมายกับพี่หาญแล้ว เพราะเขาลำบาก พอเขารวยก็จะจับเขาอีกรึไง” ความชั่วช้าสารเลวของสองแม่ลูกเกินเยียวยาจริงๆ “เอ๊ะ! นังนี่ กล้าว่าฉันกับลูกเหรอ” ปานดาวจิ้มหน้าผากลูกเลี้ยงอย่างหงุดหงิดที่อีกฝ่ายเถียงและด่าทอตน “หนึ่งพูดเรื่องจริง” “เรื่องจริงคือยายสองเป็นคู่หมั้นของพ่อหาญ หรือแกจะเถียง แกแอบอ้างไม่บอกความจริงกับเขา นังหน้าโง่เอ๊ย เขาคงเชื่อแกหรอกนะ” “หนึ่งจะให้คุณลุงไปรษณีย์ที่ส่งจดหมายมายืนยัน” พอหนึ่งธิดาพูดแบบนั้นปานดาวก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “แกคงต้องไปตามไอ้แก่นั่นที่นรกแล้วล่ะ เพราะเมื่อเช้ามันเพิ่งโดนรถชนตายหน้าไปรษณีย์ ข่าวดังออกป่านนั้น แกไปมุดหัวอยู่ที่ไหน นังหน้าโง่เอ๊ย” “ไม่จริง!” หนึ่งธิดาเข่าทรุด พึมพำเสียงสั่นระริก หรือเธอจะเสียทุกสิ่งทุกอย่างให้สองแม่ลูกไปจริงๆ “ไปกันเถอะลูกรัก ทิ้งนังหน้าโง่เอาไว้นี่แหละ” “อย่าเอาไปนะ” เธอตามไปแย่งจดหมายจากมือของสุทธิดา แต่อีกฝ่ายหลบเก่ง ปานดาวกับส้มมาขวางเอาไว้ ก่อนที่จะโดนส้มกดใบหน้าแนบไปกับพื้น “นังต่ำตม ขี้เหร่อย่างแก เสนอหน้าไปหาเขา พ่อหาญก็ไม่เอาหรอก       อยู่ก้นครัวไปเถอะ ถึงแกจะเรียนหนังสือหนังหาจบก็ไม่ได้ทำให้แกสวยขึ้นมาได้ อัปลักษณ์ยังไง ก็อัปลักษณ์อย่างนั้นแหละ จำใส่กะลาหัวเน่าๆ ของแกเอาไว้” ปานดาวจับใบหน้าของลูกเลี้ยงกระแทกไปกับพื้นดิน จนดินทรายเข้าปากแทบสำลัก ก่อนที่จะหัวเราะเยาะ เดินตามบุตรสาวเข้าไปในบ้าน แท้ที่จริงแล้วหนึ่งธิดาเป็นคนสวย ปานดาวรู้ข้อนี้ดี แต่เธออยากกดให้อีกฝ่ายต้อยต่ำจึงคอยหาคำพูดทำร้ายจิตใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน สองแม่ลูกทิ้งให้ร่างน้อยอ่อนแรงนอนร้องไห้น้ำตานองหน้าอยู่กับพื้นดินด้วยความอดสูใจ หนึ่งธิดาได้เจอหาญอีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันมาหลายปี เมื่อเขามาหาสุทธิดาในวันรุ่งขึ้น เขามาพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่มอบให้น้องสาวของเธอ     และมารับอีกฝ่ายออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน สายตาที่เขามองน้องสาวนั้นมันเต็มไปด้วยความรักใคร่ในขณะที่เธอก้มมองตัวเองด้วยความทุกข์ระทม ใจอยากจะวิ่งออกไปบอกเขาถึงความจริงทุกอย่าง “แกจะไปไหนนังหนึ่ง” เสียงดุดันที่เอ่ยขึ้น พร้อมกับมือของปานดาวที่กระชากคอเสื้อเอาไว้ทำให้หนึ่งธิดาแทบหงายหลัง “น้าดาว” “อย่าสะเออะออกไปเชียวนะ ไม่งั้นฉันฆ่าแกแน่นังหนึ่ง” เสียงของปานดาวเหี้ยมเกรียม บ่งบอกว่าพร้อมจะทำทุกอย่างหากอีกฝ่ายหืออืออะไรขึ้นมา “แกดูสารรูปแกสิ ขี้เหร่ก็ปานนี้ ถึงพ่อหาญรู้ความจริงก็ไม่เอาแกไปเป็นเมียหรอก อย่าฝันหวานไปหน่อยเลย ยายสองน่ะทั้งสวยทั้งน่ารัก ใครๆ ก็หลงรัก แกนี่ทั้งเชยทั้งซอมซ่อ วันๆ เอาแต่หน้าดำคร่ำเคร่งเรียนหนังสือ ทำงานก้นครัว ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายในตำนานน่ะ มันไม่มีอยู่จริงหรอก ชีวิตแกก็ไม่พ้นคนงานจนๆ ไม่มีเจ้าชายขี่ม้าขาวที่ไหนมาเอาแกไปทำพันธุ์หรอกย่ะ ถ้าจะมีก็คนงานก่อสร้างแถวนี้ล่ะ เหมาะกับแกที่สุด” ปานดาวข่มลูกเลี้ยงมาตลอด     ครั้งนี้ก็เช่นกัน นางจิ้มหน้าผากหนึ่งธิดาอย่างเกลียดชัง หนึ่งธิดาก้มหน้างุด มองสารรูปตัวเองแล้วคอตก เธอก็เป็นแบบนั้นจริงๆ คนมีเพื่อนน้อย ไม่ค่อยมีปากเสียง จะแข็งขืนขึ้นมาบ้างก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ   เดินคอตกกลับเข้าห้องครัวไปทันที “ไปทำกับข้าวด้วย เดี๋ยวพ่อแกก็กลับมาแล้ว อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำอีกนะ คนอย่างแก น้ำหน้าอย่างแก ออกไปทำงานก็โดนผู้ชายหลอก แกจะไปอยู่ที่ไหนได้ โอ๊ย! ถ้าฉันกับพ่อแกไม่เลี้ยงเอาไว้ ป่านนี้ก็คงท้องโย้หาพ่อของลูกไม่ได้แล้ว สารรูปอย่างแกไม่มีผู้ชายดีๆ ที่ไหนเอาไปเป็นเมียหรอก จำใส่กะลาหัวกลวงๆ เน่าๆ ของแกเอาไว้” หนึ่งธิดากำหมัดแน่นด้วยความอัดอั้นตันใจ เธออยากจะกรีดร้อง แต่สิ่งที่ทำคือเดินไปทำกับข้าวและนับหนึ่งถึงร้อย การทำอาหารทำให้เธอผ่อนคลายไปได้มาก อาหารมื้อเย็นเสร็จลงด้วยความเหนื่อยล้า เธอปาดเหงื่อบนใบหน้าที่มันเยิ้มเพราะขลุกอยู่ก้นครัวนานนับชั่วโมง เสียงรถที่แล่นเข้ามาจอด ทำให้ต้องเดินออกไปชะโงกดู เห็นหาญกลับมาพร้อมกับน้องสาวของเธอ หัวใจเจ้ากรรมเจ็บแปลบเหมือนเข็มทิ่มจนพรุนเป็นแผลเหวอะหวะ หนึ่งธิดาทิ้งตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง เธอรู้สึกว่าหายใจไม่ออก ร่างกายเหนื่อยล้าไร้เรี่ยวแรงแม้จะเดินก็ยังไม่มีแรงขยับเสียด้วยซ้ำ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม